สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 227 การกลับมาของ ประธานาธิบดี (1)



ตอนที่ 227 การกลับมาของ ประธานาธิบดี (1)

สองวันหลังจากนั้นเซียกั่วเผิงก็ไม่เคยปรากฏตัวในห้องพักผู้ ป่วยอีก อาการของเงินหมิ่นค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ เธอนอน พักไปจนได้ออกจากโรงพยาบาลอย่างราบรื่นและกลับไปพัก พื้นที่บ้าน

เซียซิงเฉินยังไม่วางใจจะให้เธอกลับไปบ้านเกิด ร่างกาย ตอนนี้ยิ่งไม่ควรลำบากกลับเมืองเหลียง เพราะฉะนั้นจึงขอลา อีกหลายวันเพื่อพาเธอไปยังห้องเช่าหลังเล็ก ตนนอนที่เตียง เล็ก ส่วนเตียงของไปเฉิงก็ให้มารดานอน

ตอนนี้เธอกลับรู้สึกที่ห้องนี้ถูกเขาทำให้ทะลุผ่านกันได้

ตกกลางคืน

เซี่ยซิงเฉินนั่งดูโทรทัศน์บนโซฟา ข่าวฉาวเรื่องดักฟังยิ่ง โหมกระหน่ำรุนแรงขึ้น ผลการตัดสินสุดท้าย หยูเจ๋อเหยาให้ แพะรับบาปออกตัวแทนจนตัวเองหลุดพ้น แต่ทางซึ่งถั่วเหยา กลับไม่ง่ายเช่นนั้น

เดิมทีเขาก็หาแพะรับบาปไว้แล้ว แต่แพะรับบาปคนนั้นไม่ ยอมถูกขังในคุกตลอดไป สุดท้ายในศาลก็ได้เปิดเผยเรื่องที่ช่ งถั่วเหยาได้สั่งให้ติดตั้งเครื่องดักฟังออกมาอย่างละเอียด และเพื่อให้ได้ลดโทษก็เลยส่งข้อมูลอย่างอื่นอีกมากมายไป เช่นนี้ แล้วภาพลักษณ์ของซ่งถั่วเหยาในสายตาผู้คนก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ คำกล่าวที่ว่าบริสุทธิ์ก่อนหน้าได้กลายเป็นคำโป้ปด ในเวลานี้ และกำลังกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนอยู่ ประชาชนที่เคยเชื่อมั่น เขาล้วนรู้สึกว่าถูกปั่นหัว ชั่วพริบตาก็มีนักศึกษาที่โกรธเกรี้ยว เดินประท้วงตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีห ยูออกจากตำแหน่ง ด้านสภาต้านทานแรงกดดันไม่ไหวจึงจำ ต้องสั่งให้ถอดถอนตำแหน่ง แต่ก่อนจะเริ่มทำการสั่งซงกั๋ว เหยากลับชิงออกจากตำแหน่งด้วยตัวเองเสียก่อน เรื่องวุ่นวาย ครั้งนี้ถึงได้ปิดม่านลง พรรคของซึ่งถั่วเหยาก็ได้ลงจากเวที การเมืองตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

เห็นเรื่องราวนี้แล้วเซี่ยซิงเฉินก็เบาใจแทนเขาไปที ใน เวลานี้คู่อริของเขาก็เหลือเพียงหยูเจ๋อเหยาเพียงคนเดียวแล้ว หยูเจ๋อเหยาเจ้าเล่ห์นัก เผชิญหน้ากับเขาย่อมไม่ง่ายดายแน่ แต่ก็ดีกว่าต้องต่อสู้กับสองคน

“หม่า วันนี้เสียวไปกลับมาแล้วใช่ไหม?” เซียต้าไปสวม ชุดนอนและใช้ผ้าห่มห่อตัวไว้ วางศีรษะไว้บนหน้าตักเธอแล้ว เอ่ยถาม

พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ไม่ต้องไปเรียน เขาเลยเล่นจนดึกดื่น

ได้

“อืม” เซี่ยซิงเฉินดูเวลาแวบหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม เขา น่าจะลงจากเครื่องบินแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมาที่นี่หรือเปล่า เขายัง ขนาดนั้นนี่นา
ทั้งที่ไม่ได้เจอแค่ห้าวันแท้ๆ

แต่กลับเหมือนว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้วอย่างนั้น

“หม่า ผมง่วงแล้ว” เซียต้าไปเอ่ยพึมพำ สองมือโอบ รอบคอเธอไว้แล้วคลานขึ้นบนตัวเธอ

“แม่พาลูกไปนอนนะ” เซียซิงเฉินปิดโทรทัศน์ อุ้มเซียต้า ไปไปยังห้องนอน เมื่อจัดวางเขาเสร็จเรียบร้อยก็หมุนตัวไป ห้องนอนอีกห้องเพื่อดูมารดา

เงินหมิ่นร่างกายไม่แข็งแรงนักจึงเข้านอนแต่หัวค่ำแล้ว เซียซิงเฉินเทน้ำให้เธอแก้วหนึ่งวางไว้หัวเตียง ปรับอุณหภูมิ ห้องให้พอดีแล้วค่อยๆ ปิดประตูออกไป

นอนเป็นเพื่อนเด็กน้อยได้สักพักจนขณะที่กำลังจะเข้าสู่ ห้วงนิทรา โทรศัพท์มือถือก็สั่น คล้ายจะเดาได้ว่าใครหรือใน ใจมันคิดถึง ฉะนั้นถึงแม้โทรศัพท์มือถือจะเพิ่งสั่นแต่เธอก็ตื่น ทันที หยิบโทรศัพท์มาดูแวบหนึ่ง บนหน้าจอปรากฏตัวอักษร ว่า เสี่ยวไป’ จริงๆ ด้วย เธออดเผยยิ้มบางเบาไม่ได้

แอบลุกจากเตียง ปิดประตูแล้วเดินไปห้องนั่งเล่นถึงได้รับ

“ทำไมเพิ่งรับสาย นอนแล้วเหรอ?” ไป๋เฉิงถาม

“…กลัวเสียงดังปลุกลูกเลยเดินมารับที่ห้องนั่งเล่นน่ะค่ะ เซี่ยซิงเฉินพูดเสียงเบา ได้ยินเสียงของชายหนุ่มพานรู้สึก อบอุ่นที่หัวใจเล็กน้อย เธอถามกลับ “คุณกลับมาแล้วเหรอ?
“เพิ่งถึงไม่นาน กำลังประชุมที่ห้องประชุม

“ตอนนี้ยังต้องประชุมอีกเหรอคะ?” เซียซิงเฉินได้ยินก็รู้สึก ปวดใจ คนเหล่านี้ไม่ต้องนอนกันแล้วหรือไง?

“ช่วยไม่ได้ เรื่องดักฟังมันต้องมีข้อสรุป คืนนี้ผมไม่ไปหา คุณแล้วนะ”

“อืม” เซียซิงเฉินหยกศีรษะ “ความจริงคุณมาที่นี่ก็ไม่มีที่ ให้คุณนอนแล้ว คุณแม่ฉันนอนที่ห้องคุณ คุณคงไม่ขัดข้อง อะไรนะ?”

เขารักสะอาดย่อมไม่ชอบให้ใครแตะต้องของของเขา แต่ ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว

ไปเย่นิ่งกลับรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่เขาเป็นกังวล คือ หมายความว่าคุณจะนอนกับผมไม่ได้อีกนานเลยเหรอ?”

คนคนนี้!

เรื่องที่คิดได้มีแค่นี้จริงๆ สินะ เธอหน้าแดง “แบบนั้น แหละ!”

เห็นได้ชัดว่าไปเย่นิ่งไม่สบอารมณ์ โทรศัพท์มือถือไว้ ไม่พูดจาไปพักใหญ่ เซี่ยซิงเฉินเดาใจเขาไม่ออกจึงไม่เอ่ยปาก อีกเช่นกัน สุดท้ายได้ยินเพียงเขากล่าว “ตอนนี้ผมอยากกิน บะหมี่ที่คุณทํามากเลย

“ตอนนี้เหรอคะ?” เซี่ยซิงเฉินถาม “แต่ต่อให้ตอนนี้ฉันต้ม บะหมี่แล้วไปส่งให้คุณ เส้นบะหมี่คงอืดจนกินไม่ได้แล้วล่ะค่ะเอาอย่างนี้ไหมคุณให้พ่อครัวในห้องครัวทำให้คุณแล้วคุณก็กิน ไปก่อน?”

“ไม่อยากกินไปก่อน” ไปเฉิงตอบกลับเธอทันควันไป ประโยคหนึ่ง “คุณรออยู่ที่บ้านนะ ผมจะให้รุ่ยยังไปรับคุณ เซี่ยซิงเฉินขึ้นไปชั่วขณะ ไม่เข้าใจคำพูดของเขา แต่

ตลอดมาเขาไม่ใช่คนที่ชอบอธิบาย รวมไปถึงทางนั้นกำลังยุ่ง

อยู่ เพราะฉะนั้นยังไม่ทันพูดอะไรก็วางสายไปเสียแล้ว

เธอมึนงงและกลัวจะไปรบกวนงานสำคัญของเขาจึงไม่ได้ โทรกลับไป แต่ตอนนี้กลับไม่มีความง่วงเหลืออยู่อีก

เขาให้ยยังมารับตน ไม่ใช่ว่า…จะพาเธอไปที่ห้องประชุม

หรอกนะ? คิดถึงจุดนี้เซี่ยซิงเฉินก็รู้สึกว่าตนต้องคิดมากไปแน่ๆ ใน เมื่อที่นั่นเป็นที่ทำงานของเขา ใช่ว่าให้ผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปได้

ง่ายๆ เสียที่ไหนกัน?

ขณะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนโซฟา ในเมื่อไม่ง่วง แล้วจึงเปิดโทรทัศน์ขึ้นอีกครั้ง สายตาก็เหลือบมองโทรศัพท์ มือถือเป็นระยะๆ กำลังรอสายจากรุ่ยยังอยู่

เป็นไปตามที่คิด 30 นาทีหลังจากนั้นสายของรุ่ยกังก็โทร

เข้ามา

“คุณเซีย ตอนนี้ผมอยู่ใต้ตึกคุณ คุณลงมาเถอะ

เซี่ยซิงเฉินถาม “เราจะไปไหนคะ? เขาได้บอกไว้ไหม?”
“ท่านประธานาธิบดีให้ผมพาคุณไปหาเขาที่พระราชวังไป

ย”

เขาให้ตนไปห้องประชุมของเขาจริงๆเหรอ! แม้เขี่ยซิงเฉิน จะรู้สึกแปลกใจแต่ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ สามารถดูเขาทำงานใน ระยะใกล้ๆ ได้ก็เป็นการทําความเข้าใจเขามากขึ้นไปอีก

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเงียบๆ เดินลงไปด้านล่างอย่างเบาเสียง ตลอดทางก็คิดอยู่เสมอว่าชุดที่ตนสวมอยู่นั้นเหมาะสมหรือไม่ ให้เกียรติหรือเปล่า ในเมื่อพระราชวังไปยวไม่ใช่สถานที่ทั่วไป

ขับไปสักพักรถของรุ่ยกังก็จอดอยู่นอกพระราชวังเสร็จ สรรพ

จากนั้นเขาลงรถและทำความเคารพกับทหารตรงหน้า ประตู สแกนลายนิ้วมือจนถึงใบหน้า บานประตูสีทองอร่าม ใหญ่โตโอ่อ่านั่นถึงค่อยๆ เปิดออกจากด้านใน

พระราชวังไปยวนี้เป็นสถานที่ที่ทุกคนให้ความสนใจ อย่า ว่าแต่ประเทศ S เลย แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทุกครั้ง ที่มาถึงเมืองหลวงก็ต้องมาดูแวบหนึ่ง ถ่ายรูปกับเหล่าทหาร เพราะฉะนั้นพระราชวังนี้ ประตูบานนี้ ความจริงเซี่ยซิงเฉินคุ้น เคยเสียยิ่งกว่าคุ้นเคย

แต่ว่า…

กลับเป็นครั้งแรกที่ประตูบานนี้ถูกเปิดออกต่อหน้าคน รถยนต์จอดนิ่งสนิทอยู่บนสนามหญ้าเขียวขจี เธอเปิดประตูลงมาเงยหน้ามองพระราชวังนั่น พานนึกถึงคนคนนั้นที่ เวลานี้กำลังก้มมองเธอจากชั้นบนสุด ก้มมองเหล่าประชาชน ประเทศ S หัวใจก็รู้สึกปลื้มปริ่มและตื่นเต้น ความภูมิใจนั่น ช่างยากจะเอ่ยออกมาเป็นคําพูด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ