สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 21 แค่เหตุสุดวิสัย



ตอนที่ 21 แค่เหตุสุดวิสัย

นอกจากชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เซียซิงเฉินก็ไม่เคยถูกใคร จูบมาก่อน เมื่อก่อนตอนที่คบกับสเหยียน แค่จูงมือกันก็ทำให้ เขินจนหน้าแดงหูแดงไปหมดแล้ว

อีกอย่าง…

ประสบการณ์การจูบ สำหรับเธอก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปห้าปี

แล้ว

ดังนั้น…ตอนนี้การจูบเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเธอเลย เธอหลับตาสองข้างแน่น แม้แต่หายใจยังทำไม่ได้ ปลาย จมูกเล็กๆ มีเหงื่อซึมออกมาบางๆ

ชายหนุ่มจูบเธออย่างดูดดื่มทันที

เซี่ยซิงเฉินถูกความร้อนดุจไฟนี้ทำให้ผวาอย่างหนัก พอได้สติกลับมาก็มองตาค้างอย่างตื่นตะลึง แต่เขาไม่ได้รุกต่อ แค่หรี่ตาลง “ยังกล้าวุ่นวายอีกไหม?

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ในสมองของเชียซิงเฉินวิงเวียนไป หมดเหมือนขาดอากาศอย่างรุนแรง

ชายหนุ่มข้างกายลุกออกไปแล้ว แต่ว่าเธอยังรู้สึกถึง ความร้อนดุจไฟที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบกายเธอ และกำลังแผดเผาเธออยู่

บ้าไปแล้ว! บ้าไปแล้วจริงๆ

ทำไมเธอถึงได้สติเลอะเลือนดันไปจูบเขาได้? แถมยังไม่ ได้จบแค่ครั้งเดียว! ผู้ชายคนนี้ต้องเข้าใจผิดคิดว่าเธอตั้งใจ

แน่ๆ!

เซ็งชะมัด

เธอส่งเสียง “เฮ้อ” แล้วซุกใบหน้าเห่อร้อนเข้าไปในผ้าห่ม เวลาหายใจยังได้กลิ่นของเขาที่หลงเหลืออยู่ในผ้าห่ม เซียซิงเฉินเอามือกุมหน้าอก อัตราการเต้นของหัวใจ…หลุดจาก การควบคุมอีกครั้ง…

ความรู้สึกแบบนี้ ช่างแย่จริงๆเลย

วันต่อมา

เซี่ยซิงเฉินแต่งตัวให้คุณชายน้อยอยู่บนเตียง เซียต้าไป ยังคงง่วงจัด อ้าปากหาวแล้วถามว่า “หม่าม เสี่ยวไปล่ะ? ทำไม เขาไม่อยู่แล้ว?”

“ตื่นตั้งนานแล้ว ลูกคิดว่าเขาจะนอนตื่นสายเหมือนลูกเหรอจะ”

พอพูดถึงเขา เธอก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ นึกขึ้นมาได้ตอนนี้ก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วน
อีกเดี่ยว เธอควรที่จะไปอธิบายเรื่องนี้กับเขาให้ชัดเจน

“เมื่อคืนพ่อแม่นอนกันจนมีน้องออกมารึยัง?” เซียต้าไป นึกเรื่องธุระสำคัญนี้ขึ้นมาได้

“ยังจะกล้าพูด! ถ้าไม่ใช่ลูกมีความคิดพิเรนแบบนี้ พวก เราก็คงจะไม่…” เธอบ่น แต่ว่าพอพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปทันที

เด็กน้อยรู้สึกเอะใจ เอียงศีรษะ ดวงตาโตกะพริบมองดู เธอ “ งั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

“ไม่มีอะไร ลูกรีบตื่นได้แล้ว”

เซี่ยซิงเฉินตบกันเจ้าเด็กน้อยเป็นการเร่ง

เซี่ยต้าไปแต่งตัวเสร็จ เดินลงไปทานอาหารเช้า เธอกลับ ไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องของตัวเอง คิดไปคิดมา สุดท้ายก็ ตัดสินใจพูดกับเขาให้ชัดเจนดีกว่า

หลังจากนี้ตัวเธอเองยังต้องอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนต้าไปอีกระยะ หนึ่ง อย่างน้อยทั้งสองคนก็ต้องเจอหน้ากันบ่อยๆ ไม่พูดให้ ชัดเจน ก็จะยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

ขณะที่เธอเดินลงมา ไปเย่นิ่งก้าวเท้าหนักๆ ออกไปรับ แดดพอดี เซียซิงเฉินเดินตามหลัง “ท่านประธานาธิบดี

ไปเย่นิ่งหยุดเดิน หันกลับมามองเธอลงมาจากข้างบน

เอิ่ม

ด้านหลังของเขามีพวกเหลิงเฟยสองสามคนติดตามมาขณะนี้หันกลับมากันหมด จะให้เธอกล้าเอ่ยปากได้อย่างไร?

เซี่ยซิงเฉินเดินเข้ามาใกล้เขา พูดเสียงต่ำอย่าง กระอักกระอ่วน “เมื่อคืน….หวังว่าคุณคงไม่เข้าใจผิด

ไปเยถึงเม้มปาก “เข้าใจผิด?”

“ฉัน…ฉันนึกว่าเป็นเซียต้าไป ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นคุณ ดังนั้น เมื่อคืนเป็นแค่เหตุสุดวิสัย คุณลืมไปเถอะ จะได้ไม่เกิดการ เข้าใจผิดให้ตะขิดตะขวงใจ…

มาก!

จูบแล้วมาขอร้องให้เขาลืม คงมีแต่ผู้หญิงคนนี้เท่านั้น แหละ! ข้างนอกมีผู้หญิงตั้งเท่าไหร่ที่ฝันอยากจะจูบกับเขา สายตาเขาเย็นเยียบลงเล็กน้อย มองเธอแวบหนึ่งอย่าง

เย็นชา เอ่ยด้วยใบหน้าได้ความรู้สึก “เรื่องเล็กแค่นี้ ฉันจำไม่ได้

หรอก”

พูดจบ ก็ไม่สนใจเธออีก ชายหนุ่มขึ้นรถจากไปโดยไม่ทัน กลับมามอง

มองขบวนรถค่อยๆ ลับหายไปจากสายตาตัวเอง เชียง เฉันยืนอยู่ตรงนั้น ทำปากยื่นด้วยความรู้สึกเสียหน้า

เรื่องเล็ก…

จริงสินะ

ท่านประธานาธิบดีผู้มีภารกิจหนักอึ้งเช่นเขา จะมาใส่ใจกับเหตุสุดวิสัยประเภทนี้ได้อย่างไร?

ฉะนั้น ทำไมเธอต้องมาย้ำเตือนและอธิบายโดยไม่

จําเป็น?

ช่างน่าขันเหลือเกิน!

เซี่ยซิงเฉินหัวเสียไม่หยุด

ขณะที่หันหลังกลับ ในสมองกลับคิดถึงแต่ท่าทางเย็นชา ของเขาเมื่อครู่ตอนเอ่ยว่า จำไม่ได้หรอก อารมณ์หม่นหมองลง ทันทีโดยไม่สามารถอธิบายได้

แต่ว่า ตัวเธอเองก็ไม่ใช่ว่าหวังให้เขาจำไม่ได้หรอกเหรอ?

เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ เซี่ยซิงเฉินก็หมกมุ่นกับการเตรี ยมเอกสารสอบต่อ

เซี่ยต้าไปกำลังขยับปืนจำลองที่เหลิงเฟยนมาให้เล่น

อย่างสนุกสนานอยู่ข้างๆ

ผู้ชายดูจะรู้สึกถูกใจของพวกนี้เป็นพิเศษ แม้แต่เด็ก เหมือนกัน

เซี่ยซิงเฉินเลิกโน้มน้าวให้ลูกเลิกเล่นของพวกนี้แล้ว

เพราะว่ามันไม่ได้ผล

ทันใดนั้น มือถือของเธอก็ดังขึ้น มองเบอร์ที่กะพริบ โชว์ บนหน้าจอแล้ว เธอก็วางปากกาลงรับสาย
“ชิงเฉิน ย่านัดคนไว้ให้หลานแล้ว” คนที่โทรมาก็คือ

คุณย่า

“อะไรนะคะ?”

“เรื่องดูตัวที่คุยกับหลานครั้งก่อน หลานจำไม่ได้เหรอ?”

“” เซียซิงเฉินลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ

“ย่าจะส่งที่อยู่เข้ามือถือหลาน หลานรีบไป ต้องถึงก่อน 11 โมงนะ อย่าให้คนอื่นรอนาน รู้ไหม?”

คุณย่าไม่ปล่อยโอกาสให้เธอปฏิเสธ รีบวางสายไปเลย หลังจากนั้นสิบวินาทีที่อยู่ที่ส่งเข้ามือถือของเธอ

เธอขมวดคิ้วจ้องไปที่มือถือ เซียต้าไปล้มตัวลงมามอง มี อะไรเหรอ?”

“ดูตัว”

“ดูตัว?”

“ถ้าลูกไม่ชอบแม่ก็ไม่ไปจ้ะ” เซียซิงเฉินมองหน้าลูกชาย แวบหนึ่ง เตรียมลบที่อยู่ออก

“ไป ต้องไปสิ” เซี่ยต้าไปแย่งมือถือเอาไปถือไว้ก่อน เขา ปีนขึ้นไปนั่งบนตักเซียซิงเฉิน มือเล็กๆ ทั้งสองข้างประคอง ใบหน้าเธอเอาไว้ “หม่าม น้าเขยกำลังจะแต่งงานกับน้าสาว พ่อก็อาจจะแต่งงานกับคนอื่น ดังนั้นแม่ก็หาผู้ชายสักคนมา แต่งงานกับแม่เถอะ ถึงต้าไปจะรู้สึกว่าแม่แต่งงานกับลูกก็ได้ แต่ว่า…ลูกยังเด็ก คุณครูบอกว่าเด็กยังแต่งงานไม่ได้
เซียซิงเฉินมองลูกชาย อยู่ๆ ขอบตาก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย

ใช่แล้ว

อีกไม่นาน ไปเฉิงก็จะแต่งงานกับซึ่งเหวย ถึงตอนนั้น เธอก็จําต้องย้ายออกจากที่นี่ แยกจากต้าไปของเธอ…

ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกทรมานใจยิ่งนัก

แต่ว่า ก็ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้าลูกแม้แต่น้อย

ได้แต่หัวเราะ แล้วหยิกแก้มที่เหมือนกับหมั่นโถวขาวลูก จิ๋วของเด็กน้อย “รู้แล้ว แล้วแต่ลูกเลย ถ้าแม่แต่งงานจริงๆ ลูก ต้องไปเป็นเด็ก โปรยดอกไม้ให้แม่นะจ๊ะ

“ได้สิครับ” เด็กน้อยรับปากทันทีด้วยใจเป็นกลาง คิดดู แล้ว ปากเล็กๆ กระตุกขึ้น แต่ว่า คนๆนั้นต้องหล่อกว่าพ่อ ต้องรวยกว่าพ่อแล้วยังต้องดีกับแม่ด้วย

” เซียซิงเฉินกลอกตามองบน “พอได้แล้ว อย่าฝัน เฟื่อง”

เซี่ยซิงเฉินเรียกแท็กซี่ไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้

ยังไม่ถึงเวลานัด ฝ่ายนั้นคงยังไม่มา เธอเลือกนั่งตำแหน่ง ที่ติดหน้าต่าง เรื่องดูตัวทำให้ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เธอ พลิกหนังสือที่ถือติดมาเล่มหนึ่งดูเล่นๆ

นอกร้านกาแฟ รถขบวนหนึ่งขับเข้ามาอย่างช้าๆ รถคันที่อยู่ตรงกลางค่อยๆ เปิดกระจกลง

หนุ่มโผล่ออกมา

“นี่เหรอเซียซิงเฉิน?”

ใบหน้าหล่อเหลาของชาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ