สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 60 แฟนที่น่ารำคาญ



ตอนที่ 60 แฟนที่น่ารำคาญ

แก้มที่บวมแดงและรอยนิ้วทั้งห้าปรากฏขึ้นมาให้เขาเห็นอย่าง ชัดเจน แม้แต่เหลิ่งเฟยที่อยู่ข้างๆ ก็ต้องตกใจ

นี่เหมือนโดน ใครบางคนตบมาชัดๆ

“มาจากไหน?” เขาถาม น้ำเสียงกดดันจนทำให้หายใจไม่

เซี่ยซิงเฉินเอียงหน้าหลบโดยไม่พูดอะไร

เขาแค่ออกแรงจับไปที่คางของเธอเบาๆ ใบหน้าของเธอก็ พลิกหันกลับไปอีกทาง ยิ่งทำให้มองเห็นร่องรอยบนใบหน้า ชัดเจนยิ่งขึ้น

เธอเจ็บจนคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน เขาจ้องมองเธอแวบหนึ่ง แล้วจึงหันไปมองสวี่เหยียน และถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “ฝีมือ ใคร?”

ถึงตอนนี้คนนอกอย่างสวี่เหยียนก็เข้าใจอารมณ์ของท่าน ประธานาธิบดีอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

เพื่อเซี่ยซิงเฉินแล้วตัวเขาเองก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่ใน ฐานะผู้กุมอำนาจสูงสุดของประเทศอย่างผู้ชายคนนี้ เมื่อเธอ เจ็บป่วยอยู่ตรงหน้า เขาเองก็ไม่เคยถอยหนีแม้แต่ก้าวเดียว หรือลังเลแม้แต่วินาทีเดียว
“คุณสวี ท่านถามคุณอยู่นะครับ” เหลิงเฟยเร่งเร้าเมื่อเห็น สวี่เหยียนไม่พูดอะไร

สวี่เหยียนตอบ “ที่จริงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับ ซึ่งคงมี นิสัยใจร้อนกว่าซิงเฉิน เธอก็เลยทำอะไรบุ่มบ่ามไปหน่อยครับ

“เซียซิงคง?” ไปเนิ่งมองไปที่เซี่ยซิงเฉิน “คู่หมั้นของ

เขา?”

เขาตั้งใจเน้นคำว่า “คู่หมั้น

เซียซิงเฉินพยักหน้าพลางส่งเสียง “อืม”

เขาสบถ “สมควร! ทำอะไรไม่คิด!”

” เหลิงเฟยและสวีเหยียนงงงัน

นึกว่าท่านประธานาธิบดีจะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอ หรืออย่างน้อยก็ออกโรงปกป้องเธอ แต่ทว่า…

เซี่ยซิงเฉิน โกรธจนตาแดงก่ำ

เธอดิ้นขัดขืน ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปเอาแรงมาจากไหน เธอผลักมือเขาออกไป

“ฉันมันทำอะไรไม่คิด ฉันมันน่ารำคาญ ฉันมันสมควรโดน

แล้ว งั้นคุณก็ไม่ต้องมายุ่ง…” เซี่ยซิงเฉินสะบัดตัวหลบและเดิน

ไปจากเขาด้วยความฉุนจัด

ใบหน้าของไปเย่งเย็นชา เขาก้าวเดินก้าวเดียวก็ถึงตัวเธอ
วินาทีต่อมา…

ตัวของเธอถูกยกลอยขึ้น จากนั้นชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นมา

เสียดื้อๆ

“ปล่อยฉันนะ!”

“เงียบ!”

“สมควรแล้ว โดนตบก็สมควรแล้ว ไม่สบายก็สมควรแล้ว คุณไม่ต้องมายุ่ง!” เธอน้อยใจ ปลายจมูกย่นเล็กน้อย ร่างกาย ยิ่งรู้สึกแย่เท่าไร จิตใจก็ยิ่งอ่อนแอเท่านั้น

เขาไม่คิดจะปลอบเธอเลยสักนิด ได้แต่พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้คุณถูกสงสัยว่าเป็นโรค WIS ถ้าขืนยังเที่ยวไปแพร่เชื้อ ใส่คนอื่นอีก ผมจะจัดการล่ามโซ่คุณเอาไว้!

ถ้าอย่างนั้น…..

ที่ชายคนนี้มาหาตัวเธอถึงที่นี่ ทั้งหมดก็เป็นเพราะกลัวว่า เชื้อจะแพร่ระบาดออกไปเหรอ?

เซี่ยซิงเฉินไม่มีแรงจะโต้เถียงกับเขาต่อ สุดท้ายเธอก็ยอม ถูกจับยัดเข้าไปในรถ

สวี่เหยียนตามลงมาพร้อมกัน หลังจากไปเย่นิ่งจัดการเธอ เรียบร้อยแล้ว เขาก็ลงจากรถอีกครั้ง

“ให้เวลาหนึ่งวัน บอกเซียซิงคงให้มาขอโทษเธอ ไม่งั้นก็ เตรียมตัวเตรียมใจได้เลย”
คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ แต่เสียงเน้นหนัก มีเพียงพวกเขาที่อยู่ นอกรถเท่านั้นที่ได้ยินอย่างชัดเจน

หลังจากนั้นไม่ถึงวินาที เขาก็กลับขึ้นรถไปอีกครั้ง เหลิ่งเฟยรีบรั้งเอาไว้ “ท่านครับ ท่านลองเปลี่ยนรถ… เขาพยายามพูดอ้อมๆ

“รู้มาก!”

หลังจากไปเฉิงตำหนิไป เขาก็เปิดประตูรถและเข้าไปนั่ง

ในรถอีกครั้ง

เขานั่งทางขวา ส่วนเซียซิงเฉินนั่งทางซ้าย

ตลอดทาง ทั้งสองคนนั่งตรงข้ามกัน เขาหน้านิ่ว ส่วนเธอก็ ยังคงโมโหกับคำว่า “สมควร ของเขา เธอจึงหันหน้ามองออก ไปนอกหน้าต่าง

ดูเหมือนไปเย่นิ่งเองก็ไม่ได้อยากพูดอะไรกับเธอ เขา เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจัดการอีเมลของตัวเอง

“แค่โดนตบครั้งเดียวก็น้อยใจแล้ว?” ขณะนึกว่าเขาคงจะ ไม่พูดอะไรอีก เขากลับเอ่ยปากพูดออกมาเบาๆ

เชียซิงเฉินตอบ “ใครจะไปกล้าน้อยใจ ท่านบอกว่า สมควรก็สมควร”

น้ำเสียงเหน็บแนมชวนให้รู้สึกแย่เอามากๆ

ไป๋เย่นิ่งไม่ได้โกรธ เขาลืมตาและมองปราดไปที่เธอ “รู้ไหมแฟนเก่าแบบไหนที่น่ารำคาญที่สุด?

เธอขี้เกียจจะสนใจเขา

“ก็แบบคุณนี่ไง” ดวงตาเขาคมกริบและเย็นชา “เลิกกันไป ตั้งหลายปีแล้ว ยังจะเซ้าซี้อีกทำไม?

คนคนนี้ยังมีหน้ามาสั่งสอนเธออีก! แถมยังพูดได้อย่าง เต็มปากเต็มค่า!

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกรำคาญและไม่สบอารมณ์เอามากๆ “ถ้า ไม่ใช่เพราะท่าน พวกเราจะเลิกกันได้ยังไง?

“ตอนนี้ก็เลยเสียใจอยากให้เขากลับมา?” เสียงของเขา เย็นชาลงไปอีกเล็กน้อย

“แน่นอนค่ะ” เซียซิงเฉินมองเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ท่าน บอกว่ามีวิธีให้เขามาแต่งงานกับฉันไม่ใช่เหรอคะ ตอนนี้ฉัน เสียใจและอยากให้เขามาแต่งงานด้วยแล้วค่ะ ท่านลองหาวิธี ให้หน่อยได้ไหมคะ?”

ไปเฉิงตวัดสายตาที่เย็นเยือกและคมกริบราวกับดาบหัน ไป “สงสัยจะตบเบาไป ดูเหมือนคุณยังไม่ตื่น

ดูเหมือนเขาจะพออกพอใจกับการที่เธอโดนตบมากเป็น

พิเศษ

ความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในใจของเธอยิ่งทวีความรุนแรง “ปล่อยฉันลงข้างหน้านี้ด้วยค่ะ ฉันไม่อยากกลับทำเนียบไปกับ คุณ!”
ถึงจะไม่ได้ป่วยตายแต่ก็ต้องถูกเขายั่วโมโหจนตายแน่ๆ

ไปเย่นิ่งไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย ขาที่เรียวยาวทั้ง สองข้างไขว้ซ้อนทับกัน พลางชำเลืองมองเธอด้วยสายตาบึ้งตึง

ท่าทางนั้นดูไม่ใยดีและเอือมระอาเป็นอย่างมาก

ช่วงเวลานั้นเซี่ยซิงเฉินรู้สึกน้อยใจเป็นที่สุด

เธออยากไปเช้า สวี่เหยียนตรงไหน? ถ้าเธอร่างกายแข็ง แรงดีและไม่ได้เป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้เธอมึนงง ในตอนนั้น เธอไม่ไปซะตั้งนานแล้วเหรอ? จำเป็นต้องให้เซี่ยซิงคงตบด้วย เหรอ?

ลำพังแค่โดนตบมันก็ไม่เท่าไร แต่ตัวเธอต้องมารองรับ อารมณ์โกรธต่อหน้าเขาด้วยเรื่องอะไรกัน?

เอาจริงๆ ตัวเธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรเขาสักหน่อย

ไม่คิดคงจะดีกว่า ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ เธอยื่นมือไปถึง

ประตูรถ

ไปเยฉิงขมวดคิ้ว “ทำอะไร?”

“บอกให้เหลิ่งเฟยหยุดรถ!”

“ไม่เคยมีใครกล้าสั่งผม!” เขาหน้าตาถมึงทึง เซี่ยชิงเฉินผลักประตูรถเปิดออกไป

เธอขยับตัวไปที่หน้าประตูเพื่อเตรียมกระโจนตัวลงไป
ถึงจะไม่ได้ป่วยตายแต่ก็ต้องถูกเขายั่วโมโหจนตายแน่ๆ

ไปเย่นิ่งไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย ขาที่เรียวยาวทั้ง สองข้างไขว้ซ้อนทับกัน พลางชำเลืองมองเธอด้วยสายตาบึ้งตึง

ท่าทางนั้นดูไม่ใยดีและเอือมระอาเป็นอย่างมาก

ช่วงเวลานั้นเซี่ยซิงเฉินรู้สึกน้อยใจเป็นที่สุด

เธออยากไปเช้า สวี่เหยียนตรงไหน? ถ้าเธอร่างกายแข็ง แรงดีและไม่ได้เป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้เธอมึนงง ในตอนนั้น เธอไม่ไปซะตั้งนานแล้วเหรอ? จำเป็นต้องให้เซี่ยซิงคงตบด้วย เหรอ?

ลำพังแค่โดนตบมันก็ไม่เท่าไร แต่ตัวเธอต้องมารองรับ อารมณ์โกรธต่อหน้าเขาด้วยเรื่องอะไรกัน?

เอาจริงๆ ตัวเธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรเขาสักหน่อย

ไม่คิดคงจะดีกว่า ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ เธอยื่นมือไปถึง

ประตูรถ

ไปเยฉิงขมวดคิ้ว “ทำอะไร?”

“บอกให้เหลิ่งเฟยหยุดรถ!”

“ไม่เคยมีใครกล้าสั่งผม!” เขาหน้าตาถมึงทึง เซี่ยชิงเฉินผลักประตูรถเปิดออกไป

เธอขยับตัวไปที่หน้าประตูเพื่อเตรียมกระโจนตัวลงไป
ในตอนนี้ทั้งสองคนก็ไม่พูดอะไรต่ออีก

ที่จริงเธอก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น และก็ไม่ได้กล้าขนาดนั้น เมื่อ

ครู่เธอก็แค่อยากให้เขาตกใจ เธอจะไปกล้ากระโดดลงจากรถ

ได้อย่างไร? ถนนด้านนอกออกจะมืด แถมยังมีรถเยอะแยะอีก นอกเสียจากว่าเธอจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

อีกอย่าง ถึงแม้ปากจะบอกว่าไม่กลับทำเนียบไปพร้อมเขา แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าที่พูดไปนั้นก็เพียงเพราะน้อยใจเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ