สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 131 พบกันอีกครั้งหลังแยกจาก(2)



ตอนที่ 131 พบกันอีกครั้งหลังแยกจาก(2)

ในแต่ละช่อง ล้วนมีแต่ข่าวของเขากับซึ่งเหวย จนสุดท้ายเซีย ซิงเฉินจึงไม่ดูทีวีต่อ

ชุดราตรีและเครื่องประดับนั้น มูลค่าสูงเกินจะเก็บไว้ที่เธอ สรุปก็กลายเป็นภาระ หลังจากนั้นเธอจึงวานคนอื่นให้ช่วย ติดต่อไปยังศูนย์นิทรรศการของมีชื่อแห่งหนึ่ง ฝากชุดราตรีและ เครื่องประดับไว้ที่นั่นชั่วคราว

หลายวันนี้เซี่ยต้าไปจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอทุกวัน เหมือน เด็กน้อยจะรู้ว่าเธออารมณ์ไม่ดีนัก จึงไม่เคยเอ่ยถึง “พ่อ” หรือ เสี่ยวไป ต่อหน้าเธอเลยสักครั้ง เพียงแต่ตอนที่นอนช่วงกลาง คืน เขาจะกอดเธอแน่นแล้วเอ่ยปลอบเธอเสียงเบา “หม่ามี้ อย่า เสียใจเลยนะ ต่อไปผมจะดูแลแม่เอง….

เซี่ยซิงเฉินทนฟังคำพูดเอาใจเช่นนี้ของเด็กน้อยไม่ได้ พอได้ยินจมูกก็แสบไปหมด แต่ว่าจะร้องไห้ต่อหน้าลูกได้ อย่างไร เธอทำได้เพียงยิ้มเหมือนไม่สนใจอะไร นิ้วแตะเข้าจมูก เล็กของเขา “นี่ลูกพูดเองนะ ถ้าโตขึ้นแล้วแต่งงานมีภรรยา ก็ ห้ามลืมแม่ล่ะ”

เซี่ยต้าไปสายศีรษะเล็กๆ นั่นรัว ซุกหน้าเข้ากับอกเธอ พูด เสียงอู้อี้ “หม่ามี้ ผมไม่อยากโตเลย ผมไม่อยากแต่งงาน ผมอยากอยู่กับแม่…อยากอยู่กับแม่ตลอดชีวิต ไม่อยากไปไหนทั้ง นั้น”

เซี่ยซิงเฉินฟัง รู้สึกปริ่มอยู่เต็มอก ความเศร้าในใจถูก กวาดไปหมดทุกซอกทุกมุม เธอสวมกอดเด็กน้อยแน่น จรด ปากลงบนกลุ่มผมของเขา “โอเค งั้นแม่จะเลี้ยงลูกทั้งชีวิตเอง

“หม่ามี้ เราไปดูตัวกันเถอะ ดีไหม

“ลูกก็ลูกผู้ชายขนาดนี้ ไม่แต่งงานทั้งชีวิตแล้ว ถ้าแม่ไป ดูตัวก็จะรู้สึกผิดกับลูกนะ”

“แต่ผมไม่ถือนี่นา!”

“นอนเถอะ อย่ากังวลมากเลย แม่ของลูกน่ะ ยังไม่ถึงวัย ทองสักหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก โอเค”

เซี่ยต้าไปทำปากจู๋ ในใจก็เริ่มคิดแผนเรื่องพ่อเลี้ยงของ

ตนแล้ว

เดิมทีคิดว่าคงยากที่จะได้เจอเขาอีก ในเมื่อคนธรรมดา คนหนึ่งอยากเจอประธานาธิบดีจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น โดยเฉพาะในเวลาที่คนคนนั้นก็ไม่อยากเจอตนด้วย ทว่าเธอ คิดไม่ถึงว่าอีกห้าวันหลังจากนี้ พวกเขาจะต้องกลับมาเจอกัน อีกครั้ง…

เช้าตรู่ของวันเสาร์ เซี่ยซิงเฉินยังไม่ตื่นดี ก็ได้รับสายหนึ่ง เป็นสายของคุณย่า
“ชิงเฉิน วันนี้โรงพยาบาลติดต่อมาว่าคุณพ่อของหนูหาย ดี ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว วันนี้ถ้าหนูไม่ติดอะไรก็มารับ เขาพร้อมย่าเถอะ”

เซียซิงเฉินย่อมเอ่ยตกลง แล้วให้เซียต้าไปโทรหาคนขับ รถ เพื่อมารับตัวเขากลับทำเนียบประธานาธิบดีก่อน เธอถึงได้ แต่งตัวง่ายๆ แล้วรีบออกมาทันที เมื่อมาถึงเธอก็เห็นคนขับรถ ของคุณย่าและคุณพ่อมาถึงก่อนแล้ว

“พวกเขาไม่มาเหรอคะ” เซียซิงเฉินเอ่ยถาม พวกเขาที่ว่า ย่อมหมายถึงเซี่ยงคงและหลี่หลิง เพราะพวกเธอไม่มาจึง ทำให้เธอรู้สึกสงบ

“พวกเธอเตรียมอาหารอยู่ที่บ้านนะ คืนนี้เป็นวันครอบครัว ไม่ว่ายังไงหนูก็ต้องกลับไปสักครั้ง ถึงเวลาสวี่เหยียนก็จะมา ด้วย” คนสูงวัยเอ่ยไปด้วย พร้อมกับเดินเข้าโรงพยาบาลไปกับ เซี่ยซิงเฉิน “ได้ยินซิงคงบอกว่าก่อนหน้านี้สวี่เหยียนเกิด อุบัติเหตุ เด็กนั่นปกติก็ดูรอบคอบออกนะ ไม่รู้รอบนี้ทำไมถึงไม่ ระวัง ยังดีที่ตอนนี้หายดีแล้ว โชคดีจริงๆ”

เซี่ยซิงเฉินไม่ได้เอ่ยตอบทันที ครุ่นคิดในใจสักพัก ถึงได้ เอ่ยขึ้น “พวกเขาก็หมั้นกันตั้งนานแล้ว ยังไม่เคยพูดถึงเรื่อง แต่งงานกันเลยเหรอคะ”

ไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็คงดี พอพูดถึงคนสูงวัยก็ดูมีสีหน้าไม่ พอใจสักเท่าไร “ตามปกติก็น่าจะต้องพูดเรื่องแต่งงานแล้ว แต่ ว่าฝั่งตระกูลสวี่จู่ๆ ก็หายเงียบไปเลย แต่วันนี้สวี่เหยียนมา ย่าจะต้องถามเขาเรื่องนี้สักหน่อย

เซี่ยซิงเฉินไม่ถามต่อ เมื่อเดินเข้าโรงพยาบาล ก็ถูกขวาง

ไว้ตรงหน้าประตู หญิงสูงวัยแสดงบัตรญาติผู้ป่วยก่อนถึงได้รับ อนุญาตให้เข้าไป เซี่ยซิงเฉินเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ทั้งโรง พยาบาลถูกคุมอย่างเข้มงวด

ขณะที่กำลังสงสัย ข้างนอกนั้น จู่ๆ เส้นกั้นก็ถูกดึงขึ้น ผู้คน รอบข้างรุมเข้าฝั่งนี้กันพร้อมหน้า แต่ก็ถูกเส้นกั้นนั้นแยกออก

ไป

ภาพนี้ค่อนข้างคุ้นตา

เซี่ยซิงเฉินยืนเหม่อมองอยู่ตรงบันไดยาวๆ ของโรง พยาบาล สายตาทอดมองไปไกล เป็นอย่างที่คิด ขบวนรถที่ยิ่ง กว่าชินตานนทยอยเคลื่อนสู่สายตาของเธอ เมื่อได้สติคืนมาอีก ครั้ง ชายหนุ่มที่ผู้คนเคารพรัก ก็ก้าวเดินลงจากรถอย่างสง่า ผ่าเผยแล้ว

เสียงดังเซ็งแซ่ ความรักอันร้อนแรงของเหล่าประชาชน

เดิมทีเขาก็เป็นคนที่คอยระมัดระวังอยู่แล้ว พอรู้สึกถึง สายตาที่จ้องมองก็เงยหน้าขึ้นมา ทำให้สายตาทั้งสองประสาน กัน เซี่ยซิงเฉินเบนสายตาหนีจากเขาไม่ทัน

ไม่เจอกันห้าวัน ถึงทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนไปจริงๆ แต่ว่าก็ เหมือนทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว

สายตาลึกซึ้งของเขา ยังคงยากที่จะคาดเดา
เซียซิงเฉิน กระเป๋าถือในมือแน่น ส่งยิ้มมุมปากเล็กน้อย ให้เขา ผงกหัวเป็นการทักทาย เป็นแค่คนรู้จักดีกว่าเป็นคน แปลกหน้า อย่างน้อย ก็ไม่ดูเหมือนจงใจขนาดนั้น

ไม่รอดูสีหน้าของเขา เธอก็หันหลังแล้วเอ่ยกับหญิงสูงวัย ว่า “คุณย่า เราเข้าไปกันเถอะค่ะ”

เธอพยายามไม่สนใจสายตาด้านหลัง ทว่ายังคงรู้สึกถึง สายตาที่ทิ่มแทงตามมา ทำไมวันนี้เขาถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ

หญิงสูงวัยเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง แล้วหันมองท่าน ประธานาธิบดีที่อยู่ห่างไกลออกไปอีกแวบหนึ่ง พยักหน้าหันตัว แล้วเดินต่อ ระหว่างที่เดินก็เอ่ย “ประธานาธิบดีจะหมั้นแล้ว หนู รู้อยู่แล้วใช่ไหม”

เซี่ยซิงเฉินไม่ตอบ แพขนตาหลุบ มองปลายเท้า

หญิงสูงวัยมองเธอแวบหนึ่ง “ตลอดหลายปีนี้ ย่าไม่ชอบ แม่เลี้ยงของหนู หนูรู้เหตุผลดี มือที่สามมันน่าเกลียดแค่ไหน หนูรู้ดีกว่าใคร ถ้าไม่ใช่เพราะแม่เลี้ยงของหนูเข้ามาแทรกตอน นั้น ครอบครัวเราก็คงไม่แตกแยกหรอก”

เธอผงกศีรษะ เอ่ยตอบเสียงเบา “ใจหนูรู้ดีค่ะ…

ไปเฉิงปรากฏตัวที่นี่ เป็นเพราะโรคระบาดถูกกำจัดไป จนหมดสิ้นแล้ว เขามาเพื่อแสดงความยินดีกับผู้ป่วยที่สามารถ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว โดยเฉพาะ สำนักข่าวต่างๆ ล้วนรอคอยอยู่ข้างนอก

มีเพียงนักข่าวของสำนักข่าวระดับประเทศเท่านั้นที่ ติดตามเขาเข้าไปด้านใน

เซียซิงเฉินอยู่รอด้านนอกห้องพักผู้ป่วยกับหญิงสูงวัย เธอ สามารถเห็นเขาจับมือกับผู้ป่วยแต่ละคนที่กำลังจะออกจากโรง พยาบาลผ่านบานกระจก ด้วยความสง่าผ่าเผยใต้แสงไฟสาด ส่อง เซียซิงเฉินก็รู้ว่าตนก็เป็นเหมือนกับพยาบาลสาวและคุณ หมอสาวเหล่านั้น สายตาจ้องมองเขาอย่างไม่อาจห้ามใจ เขา ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับเปล่งแสงออกมาจากตัว ทำให้ยากจะละ สายตา

หลังจากรอจนเขาออกจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว เซียซิงเฉินก็ พยุงหญิงสูงวัยขึ้น ทั้งสองเดินผ่านไหล่เฉียดกัน เขาไม่ปราย ตามองเธอสักนิด สายตาที่จ้องมองผู้คนนั้น สูงส่ง ทระนงตัว แล้วก้าวเท้ายาวเดินออกไป มีเพียงเหลิงเฟยที่ผงกหัวให้เธอ เล็กน้อย ถือเป็นการทักทาย

สายตามองแผ่นหลังคนเด็ดขาดนั่น เซี่ยซิงเฉินแค่นยิ้ม แต่ก็รู้สึกว่าอย่างนี้ดีแล้ว ในเมื่อจะตัดขาด ก็ควรตัดให้ขาด สะบั้น

แม้เซี่ยกั่วเผิงจะหายดีแล้ว แต่หากเทียบกับแต่ก่อน เห็น ได้ชัดว่าผอมลงไปเยอะมาก เซียซิงเฉินหิ้วสัมภาระ แล้วทั้งสาม คนก็เดินออกไป เมื่อพ้นประตูโรงพยาบาล ก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ