สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 47 เขาไม่มีวันแต่งงานกับคุณ



ตอนที่ 47 เขาไม่มีวันแต่งงานกับคุณ

เธอพูดพลางเข้าไปอย่างเงียบๆ ไม่ได้เปิดไฟ เพียงแค่อาศัย แสงจันทร์นอกหน้าต่างคลไปที่ขอบเตียง

เธอนั่งลงบนขอบเตียง ได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบา สม่ำเสมอของลูก ก็รู้สึกพอใจมาก ในที่สุดความคิดถึงตลอด ห้าวันมานี้ก็ได้รับการปลดปล่อย

อันที่จริงเธอเองก็ทนได้แค่ไม่กี่วัน หากไม่ได้เจอต้าไปของ เธอนานกว่านี้ เธอคงเป็นบ้าแน่

เธอลูบหน้าผากลูกอย่างระมัดระวัง ตรวจดูว่าอุณหภูมิ ปกติก็ถอนใจยาวด้วยความโล่งอก หมอมีความเชี่ยวชาญใน การรักษา แค่โรคหวัดเล็กน้อยคงไม่มีปัญหาอะไร

เซี่ยซิงเฉินกอดต้าไปอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เดินออกจากห้อง และกลับไปอาบน้ำที่ห้องนอนตัวเอง

ไม่ได้กลับมาหลายวัน คนรับใช้ในห้องก็ยังเก็บกวาดได้ สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ขณะที่แช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ เธอก็นึกถึงอาการบาดเจ็บของไป๋เฉิง

เมื่อครู่ตอนที่เขาแบกเธอขึ้นมา เธอโมโหจนหน้ามืด กลัว ว่าจะลงมือไปโดยไม่ออมแรง บาดแผลเขากำลังค่อยๆ สมาน กัน ถูกเธอทั้งเตะทั้งทุบอย่างนุ่มบ่ามเช่นนั้น กลัวว่ามันจะปร แตกอีก
ทางด้านนี้

ไปเฉิงยืนอยู่หน้ากระจกตั้งพื้น ขณะที่ถอดเสื้อเชิ้ตออก คิ้วขมวดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

เป็นไปตามคาด บนเสื้อเชิ้ตมีรอยเลือดเปรอะเป็นจุดๆ

เขาเอียงตัวมองไปด้านหลังแวบหนึ่ง พอจะมองเห็นว่า บาดแผลที่เพิ่งเริ่มสมานเล็กน้อยถูกทิ้งจนบาดเจ็บ มีเลือดซึม ออกมา ผู้หญิงคนนี้มือหนักจริงๆ

ดึกดื่นป่านนี้ ทําแผลที่หลังค่อนข้างลำบากเหลือเกิน

ไปเยฉิงเองก็ไม่มีทางเลือกอื่น จำต้องลงมือทำเอง เขาซื้อ ผ้าพันแผลและกรรไกรออกมาจากลิ้นชัก ขณะที่กำลังจะเริ่มทำ แผลก็ได้ยินเสียงเคาะประตูพอดี

“ใคร?”

“ฉันเองค่ะ” เสียงเซียซิงเฉินดังขึ้นหน้าประตู เมื่อเทียบ กับแต่ก่อนที่ส่งเสียงเอะอะกับเธอที่บ้านฉือเว่ยยังแล้ว ตอนนี้ เสียงเธอนุ่มนวลจนแทบไม่น่าเชื่อ

ต่อหน้าเธอ เขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องบาดแผล

เซี่ยซิงเฉินรออยู่หน้าประตู ชั่วพริบตาที่ประตูถูกเปิดออก ร่างกายท่อนบนบึกบึนที่ตระหง่านของชายหนุ่มก็ปะทะเข้ากับ สายตาเธอโดยไม่ทันตั้งตัว ลมหายใจเธอเริ่มหนักหน่วง ไม่รู้จะ วางสายตาไว้ตรงไหนดี
แม้ว่าแต่ก่อนเคยดูแลเขา เช็ดตัวให้เขา สิ่งที่ควรเห็นและ ไม่ควรเห็นก็เห็นมาหมดแล้ว เพียงแต่…

หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ถูกเขาล่วงเกินครั้งก่อน จนถึง

ตอนนี้ไม่ว่าส่วนไหนเธอจะยังกล้ามองตรงๆ อีกเหรอ? “ดึกดื่นป่านนี้ยังกล้ามาหา ไม่กลัวผมกินคุณหรือไง?” ไป เฉิงหรี่ตา จ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่อาจมองข้ามความ

อึดอัดบนใบหน้าเธอได้

เซี่ยซิงเฉินยิ่งรู้สึกกระดากอาย

“คุณอย่าพูดเพ้อเจ้อ…ฉัน…ฉันมาเอาเงินจากคุณ

ทันใดนั้นเธอก็อาศัยไหวพริบคิดหาเหตุผลที่ดูเข้าท่าขึ้น มาได้ พอเอ่ยถึงตรงนี้ก็พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ บั้นเอวยืด ตรง ยื่นมือไปหาเขา “เอาเงินให้ฉัน

“เงินอะไร” เขาหลุบตามองฝ่ามืออมชมพูของเธอแวบหนึ่ง

“คุณลืมแล้วล่ะสิ วันนั้นที่ฉันดูแลคุณเป็นวันสุดท้าย คุณ พูดว่ายังไง? คุณบอกว่าจะให้เหลิงเฟยคิดเงินเดือนให้ฉัน สอง สามวันมานี้คุณยุ่งฉันเองก็ยุ่งเลยล่าช้า ในเมื่อตอนนี้นึกขึ้นมา ได้ก็ให้เสียก่อนเถอะ เกิดช้าไปอีกอาจจะลืมก็ได้”

คำพูดเพราะโทสะของเขาในวันนั้น นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคน นี้จะเก็บเอามาใส่ใจจริงๆ

ไป๋เย่ฉิงถลึงตา ใส่เธอ “ตามผมเข้ามา!”

เขาหมุนตัวเดินเข้าไป
ตอนนี้เองที่เซี่ยซิงเฉินเห็นบาดแผลบนแผ่นหลังเขา

รูปร่างเขาเรียกได้ว่าสัดส่วนสมบูรณ์แบบ ทั้งท่อนบนและ ท่อนล่างไม่มีส่วนเกินเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นเจ้าของรูปร่างดูดี ในอุดมคติที่เมื่อสวมเสื้อผ้าก็ดูผอม ถอดเสื้อผ้าก็ดูมีเนื้อมีหนัง ยามนี้ท่อนบนเปลือยเปล่า กล้ามเนื้อหน้าท้องรูปตัววีเดี๋ยวผลุบ เดี๋ยวโผล่ เซ็กซี่ชวนใจสั่น

เพียงแต่ว่า…

ยามนี้แผ่นหลังเขาเต็มไปด้วยบาดแผล

ยังดีที่จุดนี้ไม่มีผลกระทบอะไร กลับยิ่งทำให้เขาดูสมชาย ชาตรีมากขึ้น

“เอาเท่าไหร่?” ไปเย่นิ่งหยิบสมุดเช็คออกมา ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนแรกจริงๆ ที่กล้ามาขอเงินจากเขาตามอำเภอใจขนาดนี้

เซียซิงเฉินยังคงจ้องมองแผ่นหลังเขาไม่หยุดจนไม่ได้ยินที่ เขาพูด เขาชำเลืองมองอย่างแปลกใจ ก็เลยเห็นเธอกำลัง ใจลอยมองตัวเองอยู่ นัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อย “น่ามองขนาดนั้น เซียว?”

“หา?” พอได้สติ นึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร เธอก็เสหลบ สายตาพลางกล่าวอธิบาย “คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันมองบาดแผล ที่ตัวคุณอยู่

“ที่คุณทำไว้”

เซี่ยซิงเฉินต่อว่า ในใจ ใครใช้ให้เขาตะคอกเธอ แถมยังแบกเธอไว้อย่างนั้นล่ะ?

“คุณนั่งลงเถอะ ฉันจะช่วยคุณทำแผล

“กำลังนึกเสียใจอยู่ว่าตอนแรกไม่น่าดูแลผมเลยไม่ใช่เห

รอ?”

เซียซิงเฉินรู้สึกกลุ้มใจ เขาจะเลิกเอาคำพูดเธอมา ขัดคอเธอตลอดไม่ได้เลยเชียวหรือ?

ถึงแม้จะทุ่มสุดกำลังเพื่อขัดคอเธอ แต่ไปเย่นิ่งกลับนั่งลง จริงๆ ปลายคางพยักเพยิดไปที่ผ้าพันแผลกับยา กังวลอยู่พอดี ว่าทำแผลที่แผ่นหลังเองไม่สะดวกนัก

เธอเองก็ไม่พูดอะไรอีก ได้แต่ทำแผลให้เขาอย่าง ระมัดระวัง ท่าทางคล่องแคล่ว

“คุณกับหยูเจอหนันรู้จักกันได้ยังไง?” จู่ๆ ไปเย่นิ่งก็เอ่ย

“หม?”

“อยู่ห่างๆ เขาไว้!” นี่ไม่ใช่การขอความเห็น แต่ใช้น้ำเสียง

บ่งบอกว่าห้ามขัด

“ทําไมล่ะ?”

“ไม่ทำไม คนตระกูลหยูเป็นพวกเจ้าเล่ห์เพทุบายทั้งนั้น

เซี่ยซิงเฉินเบะปากเล็กน้อย “ฉันว่าเขาดีออกนะ ถึงจะเจ้า เล่ห์เพทุบายยังไง ก็ยังน่าเชื่อถือว่าคุณ…
ประโยคสุดท้ายนั้นเธอเอ่ยเสียงแผ่ว ไปเย่นิ่งได้ยินไม่ ถนัดนัก เลี้ยวหน้ากลับมามองเธอด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง “คำพูดผม ทางที่ดีคุณอย่าทำเป็นหูทวนลม! ดูตัว ก็ต้องดูคู่นัด ดูตัวให้ดี หยูเจ๋อหนันจะแต่งงานกับคุณงั้นเหรอ?”

พอคําพูดเขาหลุดออกมา เธอก็หยุดชะงัก ศักดิ์ศรีโดนเหยียบย่ำอย่างหนัก

ราวกับว่าเธอช่างต่ำต้อยนัก ไม่ว่าจะเป็นไปเย่นิ่งหรือหย เจ๋อหนันเธอก็ปีนป่ายไม่ถึง เพียงแค่อยู่ใกล้ชิดกันหน่อย คนอื่น อาจจะคิดว่าเป็นการไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงก็ได้

ในสายตาคนอื่นเป็นแบบนั้น ในสายตาเขาก็เช่นเดียวกัน หากเป็นแค่คนอื่นเช่นสวี่เหยียนเอ่ยเช่นนี้ เธอคงไม่รู้สึกเสียใจ ถึงเพียงนี้….

“ใช่ เขาไม่มีทางแต่งงานกับฉัน คนที่ใช้ชีวิตอยู่อีกโลก หนึ่ง สูงส่งตลอดกาลแบบพวกคุณจะมาชอบคนระดับล่างแบบ ฉันได้ยังไงกันล่ะ?”

น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความเหยียดหยามตนเองและ อารมณ์ขุ่นเคืองอย่างชัดเจน ไปเย่นิ่งอดขมวดคิ้วไม่ได้ เขา เอียงกายหันไปมองเธอ

เธอพันแผลเสร็จแล้วจึงวางผ้าพันแผลและยาลง เอ่ยด้วย น้ำเสียงติดจะเย็นชา “ไม่มีอะไรแล้วฉันกลับไปนอนนะคะ”

พูดจบก็ไม่รั้งรอ หมุนตัวจากไป
มองตามแผ่นหลังเธอที่จากไป ไปเยถึงรู้สึกกระวนกระวาย ใจ หันกลับไปคว้ามือเธอและรั้งตัวเธอไว้โดยไม่ทันนึก

เชียซิงเฉินนึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ ลมหายใจชายหนุ่มแผ่ ปกคลุมจากเหนือศีรษะลงมา ทำให้ลมหายใจเธอปั่นป่วนชั่ว ขณะ เธอเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนก ปะทะเข้ากับสายตาที่ แฝงเร้นความนัยของเขา ใจเต้นสะดุดราวกับกวางน้อยแบมบี้

เธอรู้สึกถึงอันตรายที่บอกไม่ถูก อยากผละออกทว่าไป เย่ฉิงรัดเอวคอดไว้ด้วยมือเดียวอย่างเผด็จการ ออกแรงนิด หน่อยเธอก็ขยับตัวไม่ได้ ฝ่ามือเขาใหญ่มาก ช่วงเอวเธอถูก โอบรัดจนเกือบรอบภายใต้ฝ่ามือเขา

ระยะห่างเช่นนี้ ความคลุมเครือเช่นนี้ ชวนให้เซียซิงเฉิน สับสนอยู่บ้าง อยากจะเอ่ยอะไรก็รู้สึกว่าลำคอแห้งผากจนพูด ไม่ออก ใช้มือดึงมือเขาออกตามสัญชาตญาณ แต่กลับถูกเขา ล็อกมือไว้แล้วจับไขว้ไว้ที่หลังแทน

ทั้งสองคนประสานมือกันแน่น

“ไป…ไปเฉิง” ทั้งๆ ที่อยากต่อว่าเขา ผลักไสเขา ทว่า น้ำเสียงไม่เพียงแต่ไม่หนักแน่น กลับอ่อนระทวยไปหมด

ท่าทางเธอเช่นนี้ชวนให้ความคิดถึงของเขาสั่นไหวรุนแรงไปชั่วขณะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ