สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 294 ความรู้สึกรัก (2)



ตอนที่ 294 ความรู้สึกรัก (2)

หยิบโทรศัพท์มือถือดูเวลา เพิ่งเจ็ดโมงเช้า

เธอเข้าไปในห้องครัวแอบเตรียมอาหารเช้าไว้ แล้วโทร หาอดีตเพื่อนร่วมงานเพื่อวานพวกเขาให้ลางาน ให้เว้ยยัง เมื่อ คืนเธอเมาขนาดนั้นคงไปทำงานไม่ไหว

เมื่อตนทานอาหารเช้าเสร็จออกมาเพิ่งแปดโมง เธอปิด

ประตูเบาๆ แล้วกลับไปยังตึกตรงข้าม

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ขณะที่ยืนทำผมอยู่หน้ากระจก พานย้อนนึกถึงความฝันเมื่อคืน…

ทั้งที่รู้ว่าเป็นความฝัน แต่พอนึกถึงคำพูดของเขาในฝันก็

ทำให้รู้สึกปวดใจอยู่ลึกๆ ถอนหายใจแล้วยิ้มขมขื่น

ความรู้สึกกลัวจะเสียเขาไปแบบนี้ไม่ดีเลย การรักใครสัก คนมันมีความรู้สึกเช่นนี้เองเหรอ?

ขณะที่เซี่ยซิงเฉินกำลังคิดเหลวไหลโทรศัพท์มือถือก็ดังขน

เธอวางหลงแล้ววิ่งออกไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นดู เห็นว่าเป็นสายจากรุ่ยกัง
ตั้งแต่เช้าเลย?

“ฮัลโหล คุณเซีย คุณตื่นแล้วใช่ไหม?” ทันทีที่เธอกครับ เสียงของรุ่ยกังก็ดังแทรกขึ้นมา

“อืม ตื่นแล้วค่ะ คุณมีธุระกับฉันเหรอ?”

“ถ้าคุณพร้อมจะไปทำงานแล้วก็ลงมาเถอะ

ไปเย่นิ่งให้รุ่ยกังมารับตนเหรอ? เซียซิงเฉินรู้สึกว่ามันไม่ จำเป็นเลยสักนิด หากเพื่อนร่วมงานจับได้คงยากจะอธิบายให้ เข้าใจ เหลือบดูเวลา ใกล้จะได้เวลาแล้ว เธอรีบเก็บของลวกๆ แล้วถือกระเป๋าวิ่งลงไปอย่างเร่งรีบ

ออกจากลิฟต์พร้อมพันผ้าพันคอ เห็นรุ่ยยังยืนอยู่ข้างๆ รถยนต์สีฟ้าที่เป็นรถคันใหม่ ไม่ใช่รถยนต์หรูหราแต่ราคาก็ไม่ ต่ำกว่าสี่แสนหยวน แถมยังเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด

“ทำไมเปลี่ยนรถใหม่อีกแล้วล่ะคะ?” เซี่ยซิงเฉินซุกมือเข้า ในกระเป๋า วิ่งไปแล้วยิ้มถาม

รุ่ยยังยื่นกุญแจให้เธออย่างนอบน้อม แล้วเดินไปเปิด ประตูฝั่งคนขับ “คุณเซีย เชิญ

เซียซิงเฉินยืนงง ดูประตูที่ถูกเปิดออกแล้วก้มมองกุญแจ ในมืออีกครั้ง “อะไรคะเนี่ย?

“นี่เป็นของขวัญที่ท่านประธานาธิบดีมอบให้คุณ คุณเชีย เชิญ นรถครับ”
ของขวัญที่เขาให้เธอ

เซี่ยชิงเฉินมองรถยนต์คันสีฟ้านั่นไปครู่หนึ่งก็กระจ่าง มิน่าล่ะเมื่อวานเขาถึงถามตัวเองว่าชอบสีอะไร แล้วถามว่าเธอ มีใบขับขี่หรือเปล่า ที่แท้ก็มีแผนอย่างนี้นี่เอง

แต่ทำไมจู่ๆ ถึงซื้อรถให้ตนล่ะ?

เซียซิงเฉินกลัวหนาวจึงรีบแทรกตัวเข้าไปในรถฝั่งคนขับ แล้วโทรหาไปเฉิง เขาที่อยู่ทางนั้นก็อยู่ในระหว่างทางไป สํานักงาน

“ได้รถแล้วเหรอ?”

“ทำไมล่ะคะ?” เซียซิงเฉินกล่าว “ความจริงฉันโบกรถไป ทำงานก็ดีอยู่แล้ว ของนี่มันราคาแพงเกินไป

“ไม่ชอบเหรอ?”

“…ก็ชอบค่ะ ใครจะไม่ชอบรถยนต์กันล่ะ? อีกอย่าง…เขา ให้ เธอก็ต้องชอบอยู่แล้ว เพียงแต่มันราคาสูงเกินไปจนทำให้ เธอรู้สึกกดดัน

“ให้รุ่ยยังเป็นครูสอนอยู่ข้างๆ คุณ ขับช้าๆ เวลายังเช้าอยู่”

ความหมายของเขาก็คือไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธ จากนั้นก็พูดเสริม “ยื่นโทรศัพท์ให้รุ่ยกัง

“ค่ะ”
เซี่ยซิงเฉินยื่นโทรศัพท์ไป คล้ายว่าเขากำลังพูดสั่งบาง อย่างอยู่ รุ่ยยังได้แต่หยักหน้ารับคำเท่านั้น จากนั้นก็วางสาย แล้วส่งโทรศัพท์คืนให้เธอ พลางพูดว่า “คุณเซีย รัดเข็มขัด นิรภัยด้วย ตอนนี้เราก็ไปกันเถอะ

รุ่ยกังพูดไปพลางรัดเข็มขัดไปพลาง

“เขาพูดว่าอะไรเหรอคะ? ให้ฉันขับ?” เซียซิงเฉินกำพวง มาลัยไว้ ความจริงก็ตื่นเต้นอยู่บ้างเพราะไม่ได้แตะต้องมานาน พอสมควร

“ท่านประธานาธิบดีให้ผมใจเย็นและสอนคุณให้ละเอียด หน่อย”

เซี่ยซิงเฉินได้ยินก็รู้สึกอบอุ่นในใจ เดิมทีเพราะฝันเมื่อคืน ทำให้หัวใจบีบรัดและไม่สงบ แต่ตอนนี้ได้มลายหายไปหมด แล้ว

“พูดอะไรอีกคะ?” เธอเอ่ยปากถาม พลางรัดเข็มขัดนิรภัย

ไปด้วย

“พูดว่า….” รุ่ยกังอึ้ง มองเธอแวบหนึ่งไม่เปล่งเสียง เซี่ย ซิงเฉินสตาร์ทรถยนต์แล้วหันหน้าไปมองเขา “ทำไมทำหน้า แบบนี้คะ? เขาพูดว่าอะไร?

“พูดว่า….ให้ผมรัดเข็มขัดให้ดี บอกว่า…คุณอาจจะโง่ไป

หน่อย”

“…” เซี่ยซิงเฉินเงียบ “รุ่ยกัง คุณคอยติดตามท่านประธานาธิบดี เคยมีคนบอกว่าคุณเป็นคนพูดตรงๆ บ้าง ไหม?”

รุ่ยยังยิ้มแหย “ท่านประธานาธิบดีบอกว่าชอบความตรง ไปตรงมาของผมนี่แหละครับ

ตลอดทางเซียซิงเฉินคอยขับรถไปที่สำนักงานอย่าง ระมัดระวัง เพราะข้างกายมีรุ่ยยังคอยคุมอยู่จึงโชคดีที่ไม่เกิด อุบัติเหตุใดๆ เมื่อขับไปได้สักระยะเธอก็เริ่มผ่อนคลาย

ขับมาถึงที่โรงจอดรถได้โดยสวัสดิภาพ จอดรถเสร็จรุ่ยกัง ก็กล่าวขึ้น “หลังเลิกงานผมรอคุณอยู่ตรงนี้นะครับ เจอกันตอน เย็น!”

เธอพยักหน้ารับ รบกวนคุณด้วยนะคะ เจอกันตอนเย็น

เธอเก็บกุญแจรถเข้ากระเป๋าแล้วขึ้นลิฟต์ เมื่อมาถึงโต๊ะ ทำงานก็ตรงเวลาเข้างานพอดิบพอดี ช้าเพียงนิดก็คงสายเสีย แล้ว

สแกนลายนิ้วมือเสร็จพลางถอนหายใจ สบู่เหยียนที่เพิ่งเท น้ำชาจากห้องชงชาออกมา เห็นท่าทางรีบร้อนของเธอก็เดิน เข้าใกล้ ถามอย่างเป็นห่วง “ตื่นสายเหรอ?”

“รถติดนะค่ะ เลยช้าไปหน่อย” เซี่ยซิงเฉินตอบกลับเขา ความจริงเป็นเพราะตนขับรถช้าเกินไปต่างหาก
“ยังไงเราก็มาทำงานทางเดียวกัน ถ้ายังไง…พรุ่งนี้ให้ผม ขับไปรับคุณที่หน้าบ้านคุณไหม?” สวี่เหยียนยังคงตั้งความหวัง อยู่เล็กน้อย

เซี่ยซิงเฉินยิ้มแล้วส่ายศีรษะ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันมีรถ แล้ว หลังจากนี้ฉันจะขับรถมาทำงานเอง”

สวี่เหยียนนิ่งอึ้ง

เมื่อวานยังไม่มีรถเลยไม่ใช่เหรอ?

เซี่ยซิงเฉินไม่ได้พูดอะไรกับเขาต่อ เพียงเดินกลับไปยัง โต๊ะทำงานของตัวเอง จากนั้นถึงรู้ตัวว่าหลังมีรถยนต์ก็ถือเป็น ข้ออ้างในการปฏิเสธสวี่เหยียนซึ่งๆ หน้าได้ (จุดมุ่งหมายที่ ท่านประธานาธิบดีให้ของขวัญเป็นรถยนต์ ก็เพื่อให้เธอปฏิเสธ คนบางคนไม่ใช่หรือไง?)

ช่วงเช้าเพิ่งทำงานถึงสิบโมงกว่า ก็โทรหาเว่ยยัง ปลุก เธอตื่นขึ้นมาแล้วสั่งให้เธอไปทานอาหารเช้า จากนั้นก็กำชับ ให้เธออย่าลืมทานอาหารเที่ยงถึงยอมวางสาย

ตอนเที่ยงเธอทานที่โรงอาหาร หลังมื้ออาหารที่เป็นเวลา พักผ่อน เธอยืนอยู่ตรงระเบียงชั้นหกทอดมองทิวทัศน์ของทั้ง เมือง ขณะนั้นเองขบวนรถที่แสนคุ้นตาก็ขับออกจากสำนักงาน ผ่านสนามไปยวแล้วค่อยๆ หายไปจากการครรลองสายตาเธอ

พรุ่งนี้เขาจะไปเข้าพบประธานาธิบดีของประเทศสัมพันธมิตรที่ประเทศ M แล้ว วันนี้เลยยังคงต้องยุ่งเช่นเคย

เซียซิงเฉินเหม่อมองอยู่พักใหญ่จนกระทั่งได้ยินเสียงแว่ว จากเพื่อนร่วมงานข้างๆ

“เธอดูแม่นไหมเนี่ย?” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่ออวนตัวน ดังมา เธอนั่งอยู่ข้างโต๊ะกลมข้างๆ พลางชี้นิ้วไปที่ไฟลายดอก เป็นกองตรงหน้าหลี่หมิงที่เซี่ยซิงเฉินดูไม่เข้าใจ

หลี่หมิงเชิดปลายคาง “ไม่เชื่อก็แล้วแต่ ยังไงเดือนก่อน ซานก็เคยมาดูแล้วบอกว่าจะมีดวงเรื่องความรัก สุดท้ายสอง วันก่อนก็เจอเนื้อคู่ของเธอเข้าแล้วไม่ใช่หรือไง?

“มหัศจรรย์ขนาดนั้นเลย?

“อีกอย่างนะ ยูมิก็ถามเรื่องตั้งท้อง เห็นบอกว่าเดือนนี้ ไม่ นานเกินรอ เมื่อวานบอกกับฉันว่าที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด

“เธอเทพมาก! เร็ว ดูให้ฉันหน่อยว่าเมื่อไรจะเจอคนที่ใช่ สำหรับฉัน!” อวิ๋นตวนดึงไพ่ใบหนึ่งขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ทั้งสอง คนพูดสลับไปมาจนดูน่าตื่นตาตื่นใจ

เซี่ยซิงเฉินแอบสงสัยจึงเดินไปดูอย่างอดไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ