สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 81 พลอดรักกันดีๆ นะ (1)



ตอนที่ 81 พลอดรักกันดีๆ นะ (1)

ยามค่ำคืนบนรถเมล์เงียบมาก รถโคลงเคลงไปไม่กี่ที เธอก็ รู้สึกแค่ว่าหนังตาเริ่มหนัก จากนั้นจึงเคลิ้มหลับไปอย่างไม่ทันรู้ เนื้อรู้ตัว

รถเมล์เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ ผู้โดยสารขึ้นๆ ลงๆ ไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า

เซี่ยซิงเฉินหลับลึกมากจนไม่รู้เลยว่าผู้โดยสารที่นั่งข้าง เธอได้เปลี่ยนคนไปแล้ว ชายหนุ่มใส่เสื้อคลุมสีดำและสวม หน้ากากอยู่นั่งข้างเธอด้วยใบหน้าเย็นชา ด้านนอกมีรถหรู ขบวนหนึ่งขับตามรถเมล์มาเรื่อยๆ โดยไม่กล้าแซง ได้แต่คุ้ม กันอยู่ด้านข้างอย่างระมัดระวัง

เธอหลับอยู่ร่างก็โงนเงินไปมาจนศีรษะซบลงบนไหล่ของ ชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว

พอไหล่เริ่มหนักเข้า หว่างคิ้วของชายหนุ่มผู้สวมหน้ากาก ก็ยิ่งขมวดแน่น ลมหายใจร้อนผ่าวของหญิงสาวรินรดอยู่ตรง ซอกคอเขา ช่างร้อนผ่าวและเย้ายวน

เขาหลุบตามองด้วยความรู้สึกอัดอั้นในอก ท่าทางเธอ หลับแบบนี้ดูดีเหลือเกินจริงๆ สงบนิ่ง ไร้สิ่งแปดเปื้อน ท่าทาง แบบนี้ผู้ชายคนนั้นคงได้เห็นบ่อยสินะ!

พอคิดถึงตรงนี้ก็ผลักศีรษะเธอออกอย่างไม่สบอารมณ์แรงเขาไม่น้อย ร่างเธอเลยเอนไปอีกฝั่งทันที

พอเห็นกับตาว่าศีรษะเธอกำลังจะชนเข้ากับกระจก หน้าต่างอย่างแรง ใจไปเฉิงก็ร้อนรน รีบเอื้อมมือไปโอบศีรษะ เธอไว้ ศีรษะเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ เพียงแค่ชนเข้ากับฝ่ามืออัน อบอุ่นของเขาเท่านั้น

โล่งอกไปที่ ชายหนุ่มดูจะไม่พอใจกับท่าทีที่กลับไปกลับ มาของตัวเองแบบนี้อย่างยิ่ง แววตาที่จ้องมองเธออยู่ยิ่งฉาย แววโทสะโดยไม่สามารถอธิบายได้ แต่เธอกลับนอนหลับอย่าง สบาย!

เซี่ยซิงเฉินหลับสบายเสียที่ไหน? โดนผลักรอบนี้ก็เริ่ม งัวเงียตื่นขึ้น ดวงตาลืมขึ้นเพียงเล็กน้อย สมองยังคงเบลออยู่ ยิ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน คลับคล้ายคลับคลาว่ามี ผู้ชายคนหนึ่งอยู่ข้างเธอจึงคิดว่าเป็นสวี่เหยียนโดยอัตโนมัติ เธอเอ่ยขึ้นเพียงสองคำอย่างกังขาว่า “สวี่เหยียน…?”

เธอจำได้ว่าตัวเองได้ลาเขาไปแล้ว ทำไมยังอยู่ที่นี่? เธอกำลังฝันอยู่สินะ…

เธอคิดอย่างมึนงง ปิดตาแล้วหลับไปอีกครั้ง หมู่นี้เหนื่อย เหลือเกิน อาทิตย์นี้แทบจะไม่ได้หลับสนิทเลย

ทว่าเพียงสองคำที่เธอเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบานั้น ยามนี้ชาย หนุ่มข้างกายกลับได้ยินเข้าอย่างชัดเจน ไฟในอกพลันยิ่งลุก โชน แววตาเขาเข้มขึ้น มือหนึ่งถึงหน้ากากบนใบหน้าลง อีกมือ หนึ่งบีบหน้าเธอไว้แล้วดึงเข้ามาหา พอเธอลืมตาได้เพียงครึ่งเดียว ริมฝีปากของชายหนุ่มที่แฝงบทลงโทษและความป่าเถื่อน บดเบียดริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ลมหายใจแบบนี้…

จูบแสนเผด็จการแบบนี้

เซียซิงเฉินคุ้นเคยดี คุ้นเคยจนเธอรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ยังอยู่ ในความฝันของตัวเอง เธอรู้ว่าตอนนี้เขายังอยู่ที่อิสตันบูล ใน ข่าวถ่ายทอดภารกิจของเขาทุกวัน ถึงเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาก็ ไม่มีทางที่จะมาอยู่ข้างตัวเธอ มาปรากฏตัวอยู่บนรถเมล์เด็ด ขาด…

สวี่เหยียนก็เคยจูบเธอแบบนี้หรือเปล่า? ตอนที่พวกเขาจูบกัน เธอจูบตอบด้วยหรือเปล่า?

ปัญหาทุกข้อที่เกี่ยวกับสวี่เหยียนผุดขึ้นในสมองของไป เย่นิ่งไม่หยุด ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองจะอิจฉาได้ขนาดนี้ แต่ยัง ไม่ทันรอให้ได้คำตอบ ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเซี่ยซิงเฉินก็ ขมุบขมิบอย่างควบคุมไม่อยู่ ร่างบางครางเสียงแผ่วเล็กน้อย ตอบสนองจูบของเขาด้วยความมึนงงและห้ามใจไม่ไหว

ในความฝัน เธอควบคุมตัวเองไม่ได้…และไม่อยาก ควบคุมตัวเองด้วย…

ชั่วพริบตานั้น…

เขาพลันรู้สึกชาวาบไปทั่วหนังศีรษะ อ่อนเปลี้ยไปหมดทั้งตัวราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ส่งผลให้เขาหายใจหนักๆ ขึ้นมา ทันที

ทว่า…

ให้ตายสิ! ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขาเป็นสวี่เหยียนไม่ใช่เหรอ? ดังนั้น ดูท่าตอนเธอจูบกับสวี่เหยียนก็เร่าร้อนแบบนี้ ตอบ สนองเขาแบบนี้งั้นเหรอ?

พอคิดถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกคับแค้นใจขึ้นมา จึงจูบเธออย่าง ไร้ความปรานีราวกับอยากจะกลืนกินเธอลงท้องเสียตอนนี้ และ ราวกับอยากจะแทนที่และลบล้างร่องรอยทั้งหมดของผู้ชายอีก คนที่เหลือไว้บนริมฝีปากเธอด้วยตัวเขาเอง

ยังดีที่ในตอนนี้รถเมล์ใกล้จะถึงป้ายสุดท้ายแล้ว นอกจาก พวกเขาก็ไม่มีคนอื่นอยู่ที่ด้านหลังรถอีก อีกอย่างในรถมืดมาก มีเพียงแสงไฟนีออนที่สาดเข้ามาจากนอกหน้าต่างเป็นระยะ ทำให้ฉากน่าคลุมเครือนี้ปรากฏชัดบ้างหายบ้างสลับกัน

ที่นี่จึงกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของคู่รักที่จะพลอดรักกัน ไปโดยปริยาย คู่รักหนุ่มสาวมากมายมักจะชอบสถานที่แบบนี้

ในตอนนี้เซี่ยซิงเฉินยังคงถึงฝันกึ่งตื่น หรือไม่จริงๆ เธอก็ ตื่นแล้วแต่ไม่กล้าลืมตา คล้ายกับว่ากำลังฝันอยู่ เธอไม่กล้า แม้แต่จะเชื่อว่าเขาจะปรากฏตัวออกมาจริงๆ

แต่ลมหายใจตรงริมฝีปากเป็นของเขาชัดๆ เป็นของเขาเท่านั้น

ขนตาเซียซิงเฉินสั่นไหวอย่างรุนแรง ปลายจมูกเริ่มแสบ ขึ้นเล็กน้อย

ในความเลือนราง ความรู้สึกทั้งมวลล้วนเป็นเหมือนแป้ง เปียก จนกระทั่งถูกอุ้มไว้บนตักของเขา เธอก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นใน อก พลันได้สติขึ้นมาเกือบทั้งหมด

“อย่า… เธอหายใจหอบพลางครางเสียงแผ่วเบา ทั้งร่าง ขยับถอยไปข้างหลัง ทว่าแผ่นหลังกลับชนกับพนักเก้าอี้ตัวหน้า ไม่เหลือที่ว่างให้ขยับอีกแล้ว

ผู้ชายคนนี้! นี่มันบนรถเมล์นะ

“ตอนนี้มาบอกว่าอย่า เซียซิงเฉิน คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่ เหรอ?” เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่

เมื่อครู่เธอแค่ครึ่งฝันครึ่งตื่น ทว่าตอนนี้เซี่ยซิงเฉินตื่น เต็มตาแล้วจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อเหยียบเบรก รถเมล์ก็หยุดกึก ลงทันที ตอนที่ร่างเธอเซไปมาจนถูกเขารั้งกลับไปอีกครั้ง เธอก็ รับรู้ด้วยสติสมบูรณ์ว่าเมื่อครู่ทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน

ผู้ชายคนนี้กลับมาแล้วจริงๆ

ที่สำคัญคือ จู่ๆ ก็มาโผล่บนรถเมล์ที่เธอนั่งอีกด้วย!

“ไปเย่นิ่ง…คุณบ้าไปแล้ว ?” ทั้งๆ ที่กำลังจะเข้าหน้าหนาว ทว่าตัวเธอกลับเต็มไปด้วยเหงื่อ มือเธอมั่น พยายามดึงมือ ซุกซนของเขาไว้ด้วยลมหายใจติดขัด ก่อนจะรีบเอ่ยว่า “นี่อยู่บนรถเมล์นะ…”

“ผมบ้าหรือว่าคุณบ้า?” ไปเยถึงจับปลายคางของเธอเชย ขึ้นสบตากับดวงตาลึกลับคู่นี้ของเขา “เซียซิงเฉิน เมื่อครู่คุณ เองก็ชอบรสจูบของผมมาก

ทั้งสองคนพูดด้วยเสียงที่เบามาก ทำให้บรรยากาศยิ่ง คลุมเครือมากขึ้น ในใจเซียซิงเฉินเต้นรัวเหมือนกลอง คำพูด เขาที่หลุดออกมาทำให้เธอหน้าแดงซ่านไปหมด

ความจริงเธอก็ไม่กล้าหันกลับไปมองผู้โดยสารกับคนขับ ที่อยู่ข้างหน้าว่าจะเห็นพวกเขาที่อยู่แถวหลังหรือไม่ ถ้าเห็นขึ้น มาจริงๆ เธอคงยอมตายให้รู้แล้วรู้รอด

เธอไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วรถมาถึงป้ายสุดท้ายและจอดใน มุมที่มืดที่สุดตั้งนานแล้ว อีกทั้งคนขับก็ยังถูกเหลิงเฟยเชิญลง จากรถด้วยความเกรงอกเกรงใจตั้งนานแล้วด้วย ตอนนี้ทั้งคัน รถเหลือเพียงพวกเขาสองคน โดยมีคนคอยคุ้มกันอยู่ด้านล่าง

“ฉันไม่ได้ชั่วคุณเสียหน่อย!” เซี่ยซิงเฉินกัดริมฝีปาก “ฉัน…ฉันแค่นึกว่าฉันกำลังฝัน…

“ฝัน ฝันว่าอะไร? ฝันว่ากำลังเกิดอารมณ์รักกับสวี่เห ยียน?” ไปเย่งกันฟันกรอด เหมือนจะถูกกระตุ้นด้วยความคิด แบบนี้ของตนเอง สายตามืดครึ้มลงทันที จู่ๆ ก็จับตัวเธอหัน กลับไป…

ความรู้สึกอันตรายโจมตีเข้ามาอย่างฉับพลัน เซียซิงเฉิน สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง มีแต่ความรู้สึกอับอายถึงขีดสุด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ