สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 162 พบเจอ (1)



ตอนที่ 162 พบเจอ (1)

ชั้นบนสุด

ห้องชุดสำหรับแขกวีไอพีของโรงแรม King ล้วนอยู่ชั้นนี้ ทั้งหมด และตอนนี้เธอกำลังยืนอยู่นอกห้องชุดสำหรับแขกวีไอ พีที่หรูหราที่สุดใน โรงแรม King ห้อง 8088 นี้เธอพอรู้จักอยู่ เพราะเคยอ่านในนิตยสารแฟชั่น บทความนั้นกล่าวว่าห้องนี้มี พื้นที่แปดร้อยกว่าตารางเมตร ด้านในมีห้องมากมายนับไม่ ถ้วน ปกติคนที่เข้าพักที่นี่ได้ก็เป็นแขกวีไอพีในแขกวีไอพีทั้งนั้น

เขา…จะอยู่ข้างในไหมนะ

เซี่ยซิงเฉินรูดคีย์การ์ดแล้วก้าวเข้าไปยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น รู้สึกเพียงรอบข้างนั้นเงียบสงัด ไม่มีคน

ห้องกว้างใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้เปิดไฟ ยิ่งทำให้รู้สึกว้าวุ่นใจ เธอเอื้อมมือเปิด โคมไฟสีสลัวข้างกำแพง ให้แสงบางเบาสาด ส่องไปทั่วบริเวณห้อง

เธอถอดรองเท้าส้นสูงพลางย่ำเท้าเปล่าลงเดินบนพื้นพรม อุณหภูมิภายในห้องอบอุ่นไม่ได้หนาวแต่อย่างใด เธอถอดเสื้อ กันหนาวออกแล้วแขวนไว้ที่ราวแขวนด้านข้าง เทน้ำหนึ่งแก้ว เดินไปหน้าระเบียง ข้างนอกนั้นมีลมพัดชวนให้รู้สึกหนาว

แม้ตัวเขาจะไม่อยู่ แต่เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าต้องเป็นเขาแน่ที่ให้รุ่ยกังพาตนมาที่นี่
คืนนี้…

เขาจะมาไหม

เซี่ยซิงเฉินไม่เคยรอคอยที่จะได้เจอเขาขนาดนี้มาก่อน เธอยืนอยู่หน้าระเบียง ทอดสายตามองดูแสงไฟใต้ตึกสูงขนาด 80 ชั้นนี้ นี่เป็นประเทศของเขา ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดมิดเต็มไป ด้วยแสงไฟเป็นประกายดุจมหาสมุทรอันกว้างใหญ่

ทั้งหมดล้วนเป็นของผู้ชายคนนั้น…

เพียงแค่มองแสงไฟเช่นนี้ก็ทำให้อดเคลิบเคลิ้มไม่ได้ ดวงตาหรี่ลงเรื่อยๆ

มิน่าล่ะ ผู้ชายพวกนั้นถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจ นั้นมา เพื่อขึ้นมาสู่ตำแหน่งสูงสุดนั่น ก้มมองผู้คนจากตรงนี้ แม้แต่เธอเองยังรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก แล้วยิ่งเป็นพวกเขาที่โลก ขนาดนั้นล่ะ

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร หลังเสียง ติดๆ ดังขึ้น ประตูห้อง ค่อยๆ ถูกเปิดออกอีกครั้ง

มีแสงอ่อนๆ แย้มเข้ามาจากห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มมีสีหน้า ตกใจ แต่พอเห็นแผ่นหลังบอบบางตรงระเบียง ใบหน้าหล่อ เหลาก็ผ่อนคลายลง

“ดูเหมือนคุณเซียจะมาถึงแล้วนะครับ” เหลิงเฟยที่ติดตาม มาติดๆ เอ่ยปาก เห็นได้ชัดว่าเขาก็เห็นเธอแล้ว
ไปเยฉิงโบกมือเป็นเชิงให้เหลิงเฟยออกจากห้องไป

เพียงครู่เดียว ทุกคนก็ออกไปกันหมด พอปิดประตู ภายในห้องกว้างใหญ่นี้ก็เหลือเพียงพวกเขาสองคน

น้ำในแก้วดื่มหมดแล้ว เซี่ยซิงเฉินก้มมองนาฬิกาข้อมือ ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว เธอเหม่อลอยไปเกือบสองชั่วโมงเต็มๆ ใน เวลาสองชั่วโมงนี้ในสมองกลับเต็มไปด้วยภาพของเขา

เขายังไม่มาอีกเหรอ

เซียซิงเฉินถอนหายใจ มือถือแก้วน้ำพลางหันหลังเตรียม จะกลับเข้าไปในห้อง แต่ว่าพอหันหลังไปร่างของชายหนุ่มก็ สะท้อนเข้ามาในตาทันที เธอตกใจจนแก้วร่วงหล่นจากมือ ชาย หนุ่มรีบยื่นมือออกไปรับแก้วไว้ได้อย่างง่ายดาย

“เจอหน้ากันทั้งที่คุณตกใจขนาดนี้เชียว?” ไปเย่นิ่งมอง เธอด้วยสายตาล้ำลึก แววตาฉายแววหยอกล้อหากแต่ปนด้วย ความรู้สึกสับสนที่ยากจะคาดเดา เขาวางแก้วไว้ข้างๆ

เซี่ยซิงเฉินเพิ่งรู้สึกตัว คนตรงหน้าไม่ใช่เธอจินตนาการไป เอง เป็นเขาตัวจริง เขาแอบเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลังตนตั้งแต่ เมื่อไรไม่รู้

มองเขาแล้วก็รู้สึกแสบตรงปลายจมูก ทันใดนั้นความเป็น ห่วง ความร้อนใจและความกังวลทั้งหมดในตอนนี้ล้วนพรั่งพรู ออกมาเหมือนน้ำหลาก
“มาหลอกกันแบบนี้ ฉันจะหัวใจวายตายได้นะ! ทำไมคุณ ถึงทำแบบนี้ล่ะคะ?” เธอจ้องเขาตาเขม็งราวกับโกรธมาก ก้าว เท้าเดินเข้าไปในห้อง แต่ว่าเขาฟังออกหมด เสียงเธอเอื้อนเอ่ย ออกมานั้นสั่นเครือ

ไปเยฉิงปวดหนึบที่ใจ ยื่นมือออกแรงดึง ไม่ต้องใช้แรง มากเท่าไรก็ทำให้เธอหันตัวเข้าสู่อ้อมกอดของเขาได้ เธอไม่ ขัดขืนแม้แต่นิด ใบหน้าเล็กซุกเข้าตรงคอของเขา เขารู้สึกได้ว่า แพขนตาสั่นระริกของเธอ เต็มไปด้วยหยาดน้ำบางๆ

ดูเหมือนจำใจ แต่ก็เหมือนพึงพอใจ ไปเยถึงลอบถอน หายใจไปที่ กอดเธอเงียบๆ นิ้วยาวลูบอยู่ตรงปลายเส้นผมของ เธอ

“ตกใจจริงเหรอ” คนที่เอ่ยปากก่อนยังคงเป็นเขา ครั้งนี้ เขาไม่ได้ถามถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้

เซี่ยซิงเฉินผละออกจากบริเวณคอของเขาช้าๆ ส่ายหัว

“ฉันไม่กลัวค่ะ”

ไปเยถึงก้มมองเธอ ดวงตาเธอยังรื้นไปด้วยน้ำใส ทำให้ ดวงตาคู่นั้นแวววับมากขึ้นอีก

“ไม่กลัวแล้วยังร้องไห้อีกเหรอ?” เขาถามเสียงเบา

เซี่ยซิงเฉินกัดปาก เบือนหน้าหนีแล้วแอบเช็ดน้ำตาลวกๆ น้ำตาพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความกลัวเลยสักนิด แค่เป็นห่วง…
ห่วงเขามากเกินไป ก็เลยยากจะควบคุมอารมณ์เมื่อได้เจอ เขากะทันหัน

สายตาไปเยฉิงจดจ้องใบหน้าของเธอ แววตาร้อนแรง มองจนเธอหน้าแดง ใจเต้น เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่าเมื่อครูอารมณ์ ของตัวเองออกจะอยู่นอกเหนือการควบคุมไปหน่อย ไม่รู้จะทำ อย่างไรต่อจึงรีบผละออกห่างจากเขาช่วงหนึ่ง รีบหาหัวข้อที่จะ คุย “คุณทานข้าวเย็นหรือยังคะ

ระบายอารมณ์เสร็จ เซียซิงเฉินก็รู้สึกดีขึ้นมา จึงถามเขา เสียงอ่อน เพียงแค่ได้เจอเขา ความกังวลในใจเธอหลายวันมา นี้ก็พลันมลายหายไปทันที เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีวิธีจัดการทุก อย่างได้ เขาเป็นท้องฟ้า ท้องฟ้าที่ไม่มีวันถล่มลงมา

“กินไปนิดเดียวตอนหกโมงกว่า ตอนนี้ก็เริ่มหิวนิดๆ แล้ว ไป๋เย่นิ่งเอ่ยพลางถอดเสื้อกันหนาวออก เซี่ยซิงเฉินเขย่งปลาย เท้าเพื่อแขวนเสื้อเขาไว้ราวบนสุด หันกลับมาพูดกับเขา “งั้น คุณก็ไปอาบน้ำก่อน ฉันจะไปดูที่ห้องครัวสักหน่อยว่ามีอะไร ทำได้บ้างไหม ถ้าไม่มีเราก็เรียกเซอร์วิส โรงแรม ดีไหม

ไปเยฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ของในโรงแรมก็แค่นั้นแหละ

“ถ้าไม่มีของก็ต้องทำอย่างนั้นไปก่อนล่ะค่ะ” เซียซิงเฉิน เถียง “ลำบากท่านประธานาธิบดีแล้วค่ะ คืนนี้อย่าเลือกทานนะ คะ”

เธอพูดพลางหันหลังเดินไปทางห้องครัว มองแผ่นหลังนั่น แล้วนึกถึงท่าทางหยอกเล่นของเธอกับตนเมื่อครู่ ความเหนื่อยล้าที่ปรากฏตรงหัวคิ้วก็สลายไปอย่างไม่รู้ตัว

พบเจอกับเธอในเวลาแบบนี้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องอันตราย แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าการได้เจอเธอเป็นอันตรายที่คุ้มค่า

เซียซิงเฉินเดินไปทั่วห้องครัวหนึ่งรอบ ไม่มีอะไรน่าทาน เลย เป็นอาหารแช่แข็งทั้งหมด ฤดูแบบนี้อย่าว่าแต่จะรองท้อง เลย กลับจะยิ่งทำให้ท้องเสียมากกว่าน่ะสิ

เธอจึงทำเพียงเดินออกจากห้องครัวแล้วโทรเรียกบริการ เซอร์วิสของห้อง จากนั้นก็นั่งรอเงียบๆ

ไปเย่นิ่งอยู่ในห้องนอนห้องหนึ่ง คงกำลังอาบน้ำอยู่ ไม่ นานก็ได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์ หลักๆ คุยอะไรนั่นได้ยินไม่ ชัดเท่าไร แต่ว่ากระทั่งรูมเซอร์วิสมาถึงก็ยังไม่วางสายเสียที

เซี่ยซิงเฉินสั่งอาหารรสอ่อนให้เขา และสั่งมาเหมือนกัน สองชุด ความจริงหลายวันมานี้เป็นเพราะเธอเป็นห่วงเขามาก เกินไปเลยทานอาหารไม่ค่อยลง

เกรงว่าอาหารจะเย็นไปเสียก่อน เธอจึงเคาะประตูห้อง นอนห้องใหญ่ ไม่นานเขาก็วางสาย ไปเฉิงสวมชุดนอนยาว พลางเปิดประตูออกมาจากข้างใน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ