สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 339 ไขว้แขนดื่มเหล้าสักแก้ว



ตอนที่ 339 ไขว้แขนดื่มเหล้าสักแก้ว

“ซิงเฉิน ลูกเป็นเด็กดี ใจลูกก็รู้ดีว่า….ลูกกับเขา เป็นไปไม่ได้หรอก”

เซี่ยซิงเฉินกัดปากไม่พูดอะไร ทิ้งสายตาเซื่องซึมไปนอก หน้าต่าง หิมะด้านนอกเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ สีขาวปกคลุมไปทั้ง

เมือง จากเดิมที่เป็นค่ำคืนเงียบเหงาก็พลันสว่างขึ้นทันใด

แสงสว่างนั่นเจิดจ้าจนทำให้เธอปวดตาเล็กน้อย

ในหัวเธอเต็มไปด้วยคำพูดของหลี่หมิงดังกึกก้องไปมา เหมือนเส้นโลหะที่คอยจึงเส้นประสาทเธอให้ถึง

สักพักก็ได้ยินเงินหมิ่นกล่าวต่อ “ตอนแรกลูกท้องก่อน แต่ง เคยโดนคำครหาและสายตาดูถูก หลายปีมานี้ลูกน่าจะ เข้าใจความรู้สึกดี อนาคตถ้าลูกยืนยันจะคบกับเฉิง เกรง ว่า…ความรู้สึกแบบนี้จะหนักกว่าเดิมร้อยเท่าพันเท่า

มือที่กำโทรศัพท์มือถือของเซี่ยซิงเฉินสั่นระริก จากนั้น โทรศัพท์ก็ถูกกระชากออกจากมือตัวเอง

เธอหันกลับไปพลางเห็นไปเย่นิ่งที่เป็นฝ่ายถึงโทรศัพท์ไป แล้วแนบชิดหู
“น้าเงิน นี่ก็ดึกแล้ว คุณรีบพักผ่อนเถอะ วันหลังผมกับซิง เฉินจะไปเยี่ยมคุณเอง

สิ้นประโยคก็ไม่ได้สนใจว่าเงินหมิ่นมีอะไรต้องการพูดต่อ เขาก็วางสายทันที

เซี่ยชิงเฉินแทบจะมุดเข้าที่อกของเขาในทันที สองมือโอบ กอดเอวสอบของเขาไว้ มือหนึ่งของเขากอดเธออีกมือก็โยน โทรศัพท์ไปให้รุ่ยทั้งที่ยืนอยู่ข้างๆ โบกมือเป็นเชิงให้เขาออก

ไป

“คุณนายไป วันหลังเวลาจะติดต่อคนนอกต้องบอกผม

ก่อนนะ”

เสียงเรียก “คุณนายไป นั่นคล้ายว่าเขาจะเรียกจนชินปาก เสียแล้ว เซี่ยซิงเฉินได้ยินเข้าในยามนี้กลับรู้สึกขมขื่นมากขึ้น กว่าเดิม

“ทำไมคุณไม่ไปนอน ยังเจ็บแผลอยู่ไหมคะ?

“คืนนี้เป็นคืนที่สำคัญมาก ไปนอนเร็วขนาดนี้ก็เสียดายนะ

สำคัญ?

เซี่ยชิงเฉินยิ้มฝัน

ก็สำคัญอยู่นะ เพียงแต่ตลอดทั้งวันนี้สำหรับเธอแล้ว เหมือนเป็นฝันร้าย เธอยอมเข้านอนเร็วดีกว่า พอตื่นขึ้นก็ทำ เหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นได้
ไปเยถึงกุมมือเธอไว้แล้วเดินไปยังห้องนอน เขาเดินตรง ไปอยู่ข้างตู้เก็บเหล้า หยิบขวดไวน์แดงมาหนึ่งขวดพร้อมเปิด ฝาออกอย่างชำนาญมือ จากนั้นก็เทใส่แก้วสองแก้วด้วยท่าที สง่างาม หยิบยื่นหนึ่งในนั้นมาตรงหน้าเธอ

เซียซิงเฉินมองเขาอย่างฉงนใจ

“คืนนี้เราควรฉลองหน่อย” เขายัดแก้วไวน์ใส่มือเธอ

“ฉลองที่เราไม่ได้แต่งงานน่ะเหรอ?” เซียซิงเฉินทั้งทำตัว ไม่ถูกและหมดเรี่ยวแรง สุขในทุกข์จริงๆ

“คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของเรา ไม่ควรฉลองเหรอ?” ไปเย

งก้มหน้ามองเธอ ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้าใกล้เล็กน้อยเพื่อ สอดประสานสายตาที่ร้อนแรงกับเธอ “โดนคุณพ่อไปแล้วก็จะ ให้มันสูญเปล่าไม่ได้ คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ คุณต้องตอบแทนผม

เซียซิงเฉินกะพริบตาปริบ หยาดน้ำเอ่อคลอกรอบดวงตา แล้วแต่กลับทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ ผลักเขาที่ด้วยความ คุกรุ่นน้อยๆ “คุณรู้จักอายบ้างไหม? นี่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ คุณยังคิดแต่เรื่องแบบนี้ อีกอย่าง….ตอนนี้คุณบาดเจ็บขนาดนี้ ยังเข้าหอได้เหรอคะ?”

“สงสัยความสามารถในด้านนี้ของผู้ชาย คุณอาจหาญ ไม่เบาจริงๆ ในเมื่อคุณไม่อยากฉลองถ้าอย่างนั้นเราก็เข้าหอ กันเลยดีกว่า” ไปเฉิงยักคิ้วสูงอย่างเจ้าเล่ห์ด้วยท่าทางดูดี แทบตาย พูดจบก็ดึงแก้วไวน์ออกจากมือเธอ
เซียซึ่งเป็นรู้สึกว่าตนถูกเขาเล่นงานเข้าให้จริงๆ แล้ว แต่ ก็ไม่กล้าเข้าหอกับเขาอย่างว่าจริงๆ

คืนนี้ไม่ได้มีอารมณ์นั้นแถมเป็นห่วงแผลด้านหลังของเขา แผลที่ปริออกมานั่นไม่ตลกเลยนะ ถ้าเข้าหอจริงๆ กลัวว่าท้าย ที่สุดจะกลายเป็นสนามรบเปื้อนเลือดของทั้งคู่

“ฉันเชื่อคุณค่ะ ยังไม่พอใจอีกเหรอ?” เซี่ยซิงเฉินที่ถือแก้ว ไวน์อยู่ เดินหนีมือที่ไม่หวังดีของเขา “เราฉลองกัน คุณอย่าทำ อะไรบ้าๆ นะ…”

ไปเยถึงคว้าตัวเธอกลับมาแล้วออกแรงเพิ่มมากขึ้นจนส่ง ผลต่อบาดแผลด้านหลัง คิ้วขมวดแน่น

เซี่ยซิงเฉินไม่กล้าหนีอีกต่อไปเพียงแต่ยกแก้วไวน์ขึ้น “หยุดล้อเล่นได้แล้วค่ะ คุณเจ็บหนักอยู่นะ

ไปเย่นิ่งไม่ได้หยอกเล่นกับเธออีก สายตาลึกซึ้งจ้องมอง มายังเธอ สีหน้าอ่อนโยนขึ้นมากกว่าเดิม ยื่นแขนที่ในมือมี แก้วไวน์ไปไขว้กับเธอ

เธอชะงักค้าง นี่คือ… จะไขว้แขนดื่มเหล้าเหรอ?

มีไปเย่งเป็นผู้นำจนทั้งสองไขว้แขนพร้อมดื่มเหล้าใน แก้วจนหมด เซี่ยซิงเฉินทั้งรู้สึกขัดเขินปนหวานอยู่ในใจ เธอ หลับตาลงไม่อยากคิดอะไร เวลานี้ในหัวตัวเองจะมีเพียงเขา เท่านั้น…
“คุณดื่มหมดไม่ได้นะ แค่ทำท่าทีก็พอ” เธอไม่ได้ลืมแผล บนหลังเขา พลางเก็บอารมณ์สีหน้าไว้แล้วดึงแก้วไวน์จากมือ เขาอย่างว่องไว “เจ็บหนักขนาดนี้แล้วห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาด

ท่าทางที่เธอบังคับเขาเหมือนคนเป็นภรรยาจริงๆ และมี สิทธิ์ที่จะทําเช่นนั้น

ไปเฉิงรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ ยอมให้เธอดึงแก้วไวน์ไป

ยื่นมือไปตรงหน้าเธอ

เธอดื่มมากไม่ได้ ไวน์แดงทั้งแก้วถูกเธอดื่มไปจนหมด ไม่ ได้เมาแต่ใบหน้ากลับแดงเลือก ท่าทางขัดเขินแลดูน่ารักเป็น พิเศษ เธอไม่เข้าใจแต่ก็ยอมวางมือใส่มือเขาอย่างเชื่อฟัง

เขาออกแรงกระชากจนร่างอรชรล้มเข้าอ้อมอกเขา เธอ หัวเราะออกมา แววตาน่าดึงดูดและน่าหลงใหลอย่างถึงที่สุด

“คุณนายไป ให้เกียรติร่วมเต้นรำสักเพลงได้ไหม?

เซี่ยซิงเฉินหรี่ตาเล็กน้อยพร้อมวางท่าทีสง่างาม “แน่นอน อยู่แล้วค่ะ”

มือผอมเล็กวางบนลาดไหล่แกร่งของเขา มือใหญ่ของเขา คว้าหมับที่เอวเธอ

ค่ำคืนนี้ที่นอกหน้าต่างหิมะปกคลุมไปทั่ว

ภายในห้องไม่มีงานเลี้ยงงานฉลอง หรือแม้แต่…คำ อวยพรของคนใดคนหนึ่ง พวกเขาโอบกอดกันและกันแล้วดำ ดิ่งไปในกอดของกันและกัน
“คุณไป ยังจำที่ฉันดูคุณเต้นรำครั้งแรกได้ไหมว่าเมื่อไร? ร่างสง่าบิดพลิ้วเบาๆ กายของเธอแนบชิดเขาราวกับว่าขอแค่ อยู่ในอ้อมแขนของเขาเธอก็สามารถทิ้งทุกอย่างไม่ให้คิดถึง มันได้

มีแค่เขาก็เพียงพอแล้ว

เขาหัวเราะ สูดดมกลิ่นหอมของกลุ่มผมเธอเล็กน้อย “พูด มาตรงๆ เลย

“คืนนั้นคุณเต้นอยู่กับคุณซึ่ง ผู้คนเต็มห้องต่างก็บอกว่า พวกคุณเหมาะสมกัน ความจริงแม้แต่ฉันเองก็รู้สึกว่าพวกคุณ เหมาะ…

“ตอนนี้คุณนายไปก็เลยจะมาคิดบัญชีเก่ากับผมงั้นเหรอ?”

เซียซิงเฉินเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาระยิบระยับและรอย ยิ้มบางเบา “ถ้าจะคิด คุณมีหลายคดีให้คิดเชียวล่ะ

เธอในตอนนั้นยังรู้สึกห่างไกลจากเขาเป็นพันเป็นหมื่น ก้าว จนตอนนี้ก้าวผ่านความห่างนั้นไปเสียแล้ว

เพียงแต่…

หลังพันหมื่นก้าวนั้น ระหว่างพวกเขาก็มีสะพานที่ขาดช่วง

กั้นอยู่

ไปเย่นิ่งไม่กลัวเธอคิดบัญชีเหล่านั้น กล่าวเพียง “ตั้งแต่ วันนี้ไปคู่เต้นรําของผมนอกจากคุณก็จะไม่มีผู้หญิงอื่นอีก
นี่ถือเป็นคำสัญญาสินะ?

เซียซิงเฉินรู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ

ไปเฉิงกอดเธอไว้ “ตอนนี้ลองคิดถึงงานแต่งงานหลังปี ใหม่ของพวกเราดีกว่า อยากจัดในที่ร่มหรือว่ากลางแจ้ง

เธอกลับเต็มไปด้วยความกังวล หลังปีใหม่พวกเขายังจะมีงานแต่งงานอีกเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ