สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 222 พบปะคุณหญิงไป๋ (1)



ตอนที่ 222 พบปะคุณหญิงไป๋ (1)

ในวันนี้

เซี่ยกั่วเผิงเพิ่งหยิบกระติกเก็บความร้อนออกจากบ้าน ห หลังอีกยื่นหน้าออกนอกหน้าต่างชั้นสองดูพร้อมขมวดคิ้วแน่น

“แม่ ดูอะไรเหรอ?” เซี่ยงคงมองตามสายตาของเธอที่ มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเพียงแค่หลังรถ รถของบิดา เธอ กล่าว “พ่อไปส่งข้าวให้เพื่อนร่วมงานของเขาอีกแล้วเหรอ?”

“อืม”

“เพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?” เซี่ยซิงคงกล่าว “ลูกรู้สึกว่าครั้งนี้พ่อขยันมาก ถึงขั้นลงครัวทำกับข้าวเอง แม่ก็ เคยทานฝีมือพ่อไม่กี่ครั้งเองใช่ไหม?”

คำพูดของเซี่ยซิงคง แทงใจดำหลี่หลิง สีหน้าเธอเปลี่ยน ไป ซึ่งคง ลูกว่าพ่อของลูก…แอบมีคนอื่นอยู่ข้างนอกหรือ เปล่า?”

“หืม?” เซี่ยซิงคงนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ครุ่นคิดสักพักก็ส่ายศีรษะ “เป็นไปไม่ได้หรอก! ดูแล้วพ่อไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย

“ทำไมจะไม่ใช่คนแบบนั้นล่ะ? ไม่ใช่คนแบบนั้นแล้ว ลูกคิดว่าแม่กับลูกจะเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ยังไง?” หลี่หลิง แย้ง กล่าวอีกว่า “อีกอย่าง…ต่อให้เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้หญิงมาใช้มารยายั่วยวนเขา

เซี่ยซิงคงรู้สึกว่าคำพูดของหลี่หลิง ก็มีเหตุผล จึงไม่ได้ เอ่ยแย้งแต่อย่างใด

หลี่หลิงอีปิดหน้าต่างด้วยสีหน้าหนักใจ ไม่รู้ว่าเพราะผู้ หญิงอ่อนไหวเกินไปจริงๆ หรือเปล่า หลายวันนี้เธอไม่ค่อย สบายใจเลย แถมยังมักรู้สึกว่าเซียกั่วเผิงเย็นชาต่อตนนัก คุย กับเขาสิบประโยคเขาก็อาจตอบแค่ประโยคเดียวด้วยท่าทาง ไม่สบอารมณ์ ส่วนเรื่องส่วนตัวของสามีภรรยา….อย่าพูดถึงเลย เถอะ!

หลี่หลิงอียิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ หยิบโทรศัพท์มือถือ โทร หาคนขับรถของเซียกั่วเผิงทันที คนขับรถย่อมไม่รู้ว่าใครคือคนที่เซียกั่วเผิงไปพบ และไม่รู้

ว่าหลี่หลิงอถามเรื่องนี้เพื่ออะไร จึงบอกเพียงที่อยู่และเลขห้อง

พักของโรงพยาบาลที่เคยไปไว้

หลี่หลิงที่มีนิสัยใจร้อนอยู่แล้ว คิดว่าวันนี้ต้องไปสืบเสาะที่ โรงพยาบาลนั่นให้ได้ เธอล่ะอยากจะไปพบหน้าเพื่อนร่วมงาน ที่ทำให้สามีของเธอใส่ใจได้เพียงนี้เหลือเกิน!

ตอนเที่ยงหลังมื้ออาหาร ก็โทรหาเซียกั่วเผิงอีกครั้งเพื่อ มั่นใจว่าเขาไปทำงานแล้ว เธอถึงแต่งตัวอย่างดีแล้วออกจากบ้าน
โรงพยาบาล รพ

ช่วงบ่ายเป็นเพราะจะมีแขกคนสำคัญมา ทั้งโรงพยาบาล

จึงเข้าสู่สภาวะปิดกั้น

หลี่หลิงอีจอดรถของตนไว้ที่ข้างถนน คว้ากระเป๋าเดิน เข้าไปด้านใน เมื่อถึงบริเวณ VVIP ก็ถูกคนขวางทางไว้ “ขออภัยคุณผู้หญิง ตอนนี้บริเวณ VIP ถูกปิดกั้นชั่วคราว หาก จะเยี่ยมไข้รบกวนคุณค่อยมาในอีกสองชั่วโมงข้างหน้านะครับ หรือไม่ก็เดินเข้าทางประตูฝั่งซ้ายมือ

“ทำไมที่นี่ถึงปิดล่ะ?” หลี่หลิง ไม่พอใจ

“ขออภัยครับ วันนี้มีผู้ป่วยคนสำคัญจะมา พวกเราทำเพื่อ ความปลอดภัยของผู้ป่วย” อีกฝ่ายตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ต่อให้เขาจะมาก็ไม่ควรมาขวางฉันไม่ให้เดินเข้าผ่าน

ประตูบานนี้หรอก!” หลี่หลิงอีท่าทีหยิ่งผยองจนเคยตัว ตีหน้า

นิ่ง “พวกคุณหลีกไป!”

อีกฝ่ายไม่ขยับตัว

ขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น กลุ่มคนที่ประจันหน้ากับหล หลังเมื่อครูมองไปตามเสียง ใบหน้าพลันจริงจังขึ้น ยืนตัว ตรง กล่าวทักทายอย่างนอบน้อม “คุณหญิง!”

หลี่หลิงอีฉงนใจจึงหันหน้าไปดู เห็นเพียงคุณหญิงคนหนึ่ง สวมแว่นตากรอบทองเดินมาช้าๆ แม้จะอายุใกล้หกสิบปี แต่ ท่าที่ยังคงสง่าและดูมีอำนาจ ด้านหลังตามด้วยคนขับรถและคนรับใช้

นี่ก็คือแขกคนสําคัญที่พวกเขาพูดถึงเหรอ?

“คุณหญิงเชิญครับ” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลติดตามอยู่ ข้างๆ อย่างกระตือรือร้นพร้อมกล่าว “รายการตรวจเช็คสภาพ ร่างกายทั้งหมดได้จัดการไว้ให้ท่านแล้ว จะใช้เวลาทำการ ตรวจเช็คให้ท่านเร็วที่สุดแน่นอนครับ

คุณหญิงตระกูลไปยิ้มรับ รบกวนคุณด้วย ผู้อำนวยการ เฉิน”

กลุ่มคนเดินเข้าไปยังบริเวณเขต VIP เดิมทีหลี่หลิง อยากตามไป แต่ก็ถูกคนขวางไว้อีกครั้ง คราวนี้เธอปรี๊ดแตก แล้ว “พวกคุณกล้าขวางฉันเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?

เธอตวาดเสียงแหลมพลันดึงดูดสายตาผู้คนทั้งหมดไว้

คุณหญิงตระกูลไปไม่ได้หันไปมอง มีเพียงผู้อำนวยการ เฉินหันมามองแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจพลางถลึงตามอง รปภ.ที่ขวางหลี่หลิงอีไว้แวบหนึ่งคล้ายกำลังโทษว่าพวกเขา ทํางานผิดพลาด

กลุ่มคนนั้นเมื่อได้รับสายตาเช่นนี้ย่อมไม่กล้าชักช้าแต่ อย่างใด ฉุดหลี่หลิงไปข้างนอก “คุณผู้หญิง รบกวนอย่า ทำให้พวกเราลำบากใจ คุณเดินไปทางประตูอีกบานเถอะ ครับ!”

“ปล่อยมือ! ฉันจะบอกพวกคุณให้ พวกคุณกล้าทำอย่างนี้กับฉันจะต้องเสียใจแน่ๆ! ฉันเป็นภรรยานายกเทศมนตรีนะ!” “…” ไม่มีใครสนใจเธอ

หลี่หลิงอีโกรธยิ่งกว่าเดิม ไม่คิดให้รอบคอบมากกว่านี้ก็ ตวาดเสียงดังอีกครั้ง “อนาคตฉันอาจเป็นแม่ยายของ ประธานาธิบดีของพวกคุณก็ได้

ประโยคนี้ออกจากปาก เป็นไปอย่างที่คิด คนที่ฉุดเธออยู่ พลันซะงักงัน ดูท่าจะทำให้พวกเขาตกใจได้หลี่หลิงอียิ่งได้ใจ กว่าเดิม ผลักมือพวกเขาออกพลางจัดเสื้อผ้าบนกายตน เชิด หน้าขึ้นสูงใช้ปลายจมูกไปยังคนอื่น “คุณหญิงที่เข้าไปเมื่อ ต่อให้สูงส่ง สำคัญมากแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่าประธานาธิบดี หรอกมั้ง? ฉันจะบอกให้พวกคุณรู้ ตอนนี้ลูกสาวฉันกำลังคบ กับท่านประธานาธิบดีอยู่ จากนี้ท่านประธานาธิบดีก็ต้องเรียก ฉันว่าแม่ พวกคุณคือใคร กล้าขวางฉันเหรอ?”

เสียงของหลี่หลิงอีไม่ได้ลดเบาลงเลยสักนิด

คุณหญิงไปข้างหน้าย่อมได้ยินเต็มหู ชะงักเท้าทันที

ผู้อำนวยการเฉินได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็รู้สึกใจหายวาบ หันไปมองสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรของคุณหญิง หันหน้าไปกล่าว ทันที “พวกคุณชักช้าอะไรอยู่? รีบไล่ผู้หญิงบ้าคนนี้ออกไป อยู่ ที่นี่มีแต่จะทำให้คุณหญิงอารมณ์ไม่ดี!

น้าหลินคนรับใช้ประจำบ้านที่ติดตามคุณหญิงอยู่ข้างหลัง ตลอดได้ยินคำพูดนี้ จึงก้าวเข้ามาหนึ่งก้าวแล้วเอ่ยเสียงเบากับคุณหญิง “ท่านคิดมากเลยค่ะ พูดเหลวไหลมีเยอะ เหลือเกิน ผู้หญิงทั่วไม่

คุณหญิงหันไปจ้องหลี่หลิง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ หลี่หลิง เสียงมองอะไรไม่

คนนี้ขาดการอบรมสั่งสอน หยาบคายเหลือเกิน

คุณหญิงรู้สึกไม่พอใจ ขมวดคิ้วแน่น กวาดมองเธอแบบ หนึ่ง สุดท้ายเอ่ยปาก ลูกสาวคุณนามสกุลอะไร?”

“ลูกสาวฉันนามสกุลเซียอยู่แล้วว่าแต่เกี่ยวอะไรกับ คุณ?

นามสกุลเซียจริงด้วย

คุณหญิงโมโหยิ่งกว่าเดิม หน้าทิ้งตึงไม่อะไรหมุนตัวไป

เชี่ยชิงเฉิน

มีแม่แบบนี้ ลูกสาวจะสักเท่าไรเชียวเลือกลูกสะใภ้ สําคัญการเลี้ยงดู แต่ผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าคนดู เหมือนจะได้การอบรมสักเท่าไร

คุณหญิงคิดว่าต้องโอกาสพูดคุยกับเซี่ยซิงเฉินเรื่อง หลานชายที่รักของเธอแล้วจะใช้นามสกุลเซียตามเซียซึ่ง
เธอถอนหายใจ ยังคงรู้สึกอัดอั้นที่อกจะแย่ แม่ยาย

ประธานาธิบดีในอนาคต? นั่นก็ต้องได้รับการยอมรับจากแม่ แท้ๆ อย่างเธอเสียก่อนถึงจะเป็นไปได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ