สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 363 ศัตรูหัวใจ (1)



ตอนที่ 363 ศัตรูหัวใจ (1)

ผ่านไปพักใหญ่ทั้งสองก็ออกจากห้องน้ำทีละคน

คุณหญิงไปยังนั่งอยู่ข้างเตียงของเด็กน้อย หยิบเล่ม หนังสือนิทานที่เมื่อครู่เซียต้าไปบ่นว่า เด็กน้อยเกินไป มาอ่าน ให้ฟัง แต่เซียต้าไปเป็นเด็กฉลาดไม่มีทางแสดงท่าทีว่าไม่ชอบ ต่อหน้าคุณหญิงแน่นอน แค่นอนฟังด้วยท่าทางสนุกสนาน

เซียซิงเฉินเดินก้มหน้าตามไปเยถึงออกมาตลอดทาง คุณ หญิงไปตวัดสายตามองมาแวบหนึ่งจนเธอรู้สึกว่าหูแดงจน เลือดอาจจะออกมาได้แล้ว

“ออกมาแล้วเหรอ” คุณหญิงไปเอ่ยปากพลางกวาด สายตาผ่านตัวทั้งสองคน

เซียซิงเฉินละอายใจจนไม่กล้าตอบอะไร เพียงแค่กำมือที่

ทิ้งอยู่ข้างตัวแน่น

ไป๋เย่นิ่งรู้ถึงความลำบากใจของเธอจึงใช้ตัวบังสายตา คุณหญิงไปที่จ้องมองเธอไว้แล้วกล่าว “ช่วงนี้ผมจะไปหลัน อีกหลายวันถึงจะกลับ ฝากลูกผมด้วย

คุณหญิงไปพยักหน้า “เรื่องของเด็กลูกไม่ต้องกังวล นั่นสินะ
ทุกวันนี้เซียต้าไปกลายเป็นที่รักของตระกูลไปย่อมไม่มี ทางเกิดอะไรขึ้นอยู่แล้ว แต่หากเขาไปล่ะก็…

สายตาเขาจรดที่ตัวเซียซิงเฉินก่อนจะย้ายไปที่คุณหญิงไป คุณหญิงเข้าใจความหมายของเขา “ตอนนี้เธอเป็นคนของ ตระกูลไป จะมีใครกล้ามารังแกเธอหรือไง?

มีเด็กอยู่ คุณหญิงไปจึงไม่อยากพูดถึงความสัมพันธ์ที่จะ ทำให้เด็กน้อยลำบากใจเพียงตอบกลับ “ลูกสบายใจเถอะ ต่อ ให้อารมณ์ของพ่อลูกแย่แค่ไหน เขาก็ตะคอกลูกไปแค่นั้น แต่ ต่อหน้าชิงเฉิน เขารู้จักเก็บอารมณ์อยู่หรอก

ไปเย่นิ่งไม่กลัวว่าคุณท่านจะทำอะไรซิงเฉินหรอก ในเมื่อ ถือว่าเธอเป็นคนของตระกูลไป ทั้งยังมีคุณอาอยู่ ไม่มีใครทำ อะไรเธอได้จริงๆ

“ได้เวลาแล้ว ผมไปก่อนล่ะ” ไปเยถึงหันกลับไปบอกเบี้ย

ซิงเฉิน

เพราะจะห่างกันหรือเพราะอารมณ์ที่ค้างเติ่งจากในห้องน้ำ เมื่อครู่ ทำให้น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนกว่าปกติ

เซี่ยซิงเฉินยังคงก้มหน้า ขณะที่เขาคุยกับตนเองเธอก็แอบ ชำเลืองมองคุณหญิงไปแวบหนึ่ง คุณหญิงก็มองพวกเขาเช่นกัน ด้วยสายตาที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกหนามที่มองไม่เห็นปัก หลัง รีบเบนสายตาหนีก่อนจะก้มหน้าหลักศีรษะ “อืม ไปเถอะ ค่ะ”
ไปเฉิงขมวดคิ้ว แค่นี้เหรอ?”

“แล้วทำอย่างไรล่ะ?

คุณหญิงไปกำลังจ้องอยู่เธอจะมอบจูบลาให้เขาอย่างหน้า

ด้านๆ ก็คงไม่ได้ ไปเยถึงรู้ว่าเธออายจึงไม่คาดหวังอะไรอีก เพียงหันกลับ

ไปลูบศีรษะเซียต้าไป “ช่วงที่พ่อไม่อยู่ใช่ไหมว่าต้องทำตัวยัง ไง?”

“รู้แล้วน่าเสี่ยวไป วางใจได้เลย ผมจะปกป้องหมานี้เอง

คุณหญิงไปถลึงตามองลูกชายแวบหนึ่งอย่างเรื่องๆ “ลูก พูดอะไรเหลวไหลกับเด็กนะ มีปกป้องอีก เราไม่ได้จะกินเธอสัก หน่อย”

คุณหญิงไปโกรธที่ลูกชายทำให้ภาพลักษณ์ของเธอเสีย

หายยามอยู่ต่อหน้าหลานชายสุดที่รัก หากภายหลังหลานชาย

หวาดกลัวตนจะทำอย่างไร?

ไปเย่นิ่งไม่พูดอะไรอีกเพราะเวลาไม่รีรอใคร เขาคว้าเสื้อ กันหนาวเดินจากไปทันที เซี่ยซิงเฉินไม่กล้าเดินตามแต่คุณ หญิงไปกลับเดินตามออกไป “ฝั่งนั้นก็หนาว ต้องใส่หนาๆ นะรู้ ไหม? อย่าเป็นหวัดล่ะ! จะยุ่งก็ยุ่งเถอะแต่ก็ต้องกินอิ่ม นอน หลับ ดูลูกสีขอบตาดำหมดแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องที่บ้าน ยังมี แม่อยู่นะ!”

ไปเย่นิ่งหยักหน้ารับรัวๆ เซียซิงเฉินนั่งอยู่ข้างในก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่จากไปของเขา คุณหญิงไปเองก็เดินลงชั้นล่างไป ตามกัน

เธอถึงได้ลอบมองไปทางประตูอย่างอาลัยแวบหนึ่งก่อนจะ

เปลี่ยนไปยืนมองที่ขอบหน้าต่าง

จนกระทั่งร่างนั้นปรากฏขึ้นในสายตา ขึ้นรถเสร็จขบวนรถ ก็เคลื่อนตัวออกไป เธอถึงได้ถอนสายตากลับอย่างเชื่องช้า

เซียต้าไปนอนอยู่บนเตียงมองเธออย่างขบขัน “หม่าม ไม่ อยากให้เสียวไปไปใช่ไหม?

* เซี่ยซิงเฉินเปิดหนังสือนิทานของเขาไม่ตอบอะไร

ก่อนที่ไปเยถึงจะขึ้นเครื่องบินก็ได้โทรหาฟู่เฉิน

รอพักใหญ่ที่อีกฝั่งกดรับสาย เฉินกำลังดื่มจนเมามาย อยู่ทางนั้น เมื่อกดรับสายไม่ดูเสียก่อนว่าฝ่ายที่โทรมาคือใครก็ พิมพ์ออกมาว่า เว่ยยัง

เขาขมวดคิ้ว “นายดื่มเหล้าแต่เช้าเลยเหรอ?”

ฟูอี้เฉินได้ยินเสียงนี้ก็ได้สติขึ้นเล็กน้อย ไม่ตอบอะไรไปครู่ หนึ่ง มีเพียงเสียงน้ำที่เล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน ดูท่ากำลังดื่มน้ำ เรียกสติตัวเองอยู่

“ทรมานตัวเองขนาดนี้ อย่ามารู้ตัวอีกที่ไม่รู้ว่าตายได้ยังไงก็แล้วกัน”
“ท่านประธานาธิบดี ท่านพูดจาใจร้ายกับคนอกหักเกินไป

แล้ว”

“อกหัก?” เขาเอ่ยตอบอย่างไม่สนใจ “ฉันได้ยินจากซิงเฉิ นว่าพวกนายไม่ใช่แฟนกันด้วยซ้ำ

* เฉินรู้สึกว่าตนถูกมีดแทงเข้าอีกครั้ง

“ผลตรวจยังไม่ออกมาเหรอ?” ไปเยถึงผู้ที่ไม่เคยใจเย็น เพียงแต่รู้ว่าท่าทางอื่นๆ ของเขาก็เข้าใจว่าช่วงนี้คงอยู่ไม่สุข เท่าใดนัก เรื่องของตนยังจัดการไม่ได้อย่าว่าแต่ไปยุ่งเรื่องของ เขาเลย

“ดื่มเยอะไปหน่อย ลืมแล้ว” เฉินดื่มมาสองวันแล้ว ดี แค่ไหนแล้วที่ยังประคองสติได้

“คุณหมอฟู ตั้งสติซะ! รีบให้ผลตรวจฉันด้วย!

เอ่ยไปประโยคหนึ่งก่อนจะวางสาย

เขาปลอบผู้หญิงไม่เป็น ปลอบผู้ชายยิ่งไม่เป็น อย่าว่าแต่ เป็นผู้ชายที่อกหักเลย!

สุดท้ายคือเว่ยยังก็จากไป

เธอไม่ได้ให้ซิงเฉินไปส่งเธอที่สนามบิน ท่ามกลางวันที่ หนาวเหน็บแบบนี้การลาจากจะยิ่งทำให้เจ็บปวดมากขึ้นไปอีก เซี่ยซิงเฉินนึกถึงช่วงเวลาที่ตนท้องต้าไปคลอดต้าไปตลอดจนดูแลต้าไป ยากมากที่จะจินตนาการถึงเธอที่ไปอยู่ต่าง ถิ่นว่าจะเจอความลำบากอะไรบ้าง เพียงแต่เว่ยยังเป็นคนหัว ดื้อ เธอรู้ว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วเธอไม่มีทางเลือกที่สองอีก ต่อไป

อยู่ในเมืองที่สร้างความเจ็บปวดนี้ต่อไปอาจจะไม่ใช่ทางที่ ดีไปกว่าการเริ่มต้นใหม่ที่เมืองใหม่

ช่วงนี้ไปเยฉิงก็ไม่กลับมา เซียซิงเฉินพักอาศัยอยู่จงซัน ตลอด ดีที่อาการทั้งสองคนดีขึ้นมาก ทุกคนจึงพอเบาใจลง เธอถึงเริ่มไปทำงานที่สำนักงานอีกครั้ง

ตกกลางคืน

บนโต๊ะอาหารของตึกเล็ก ไปชิงรั่งนั่งอยู่บนวีลแชร์ที่ถูก เข็นให้เข้ามาใกล้โต๊ะอาหาร หลันถึงและเซี่ยซิงเฉินนั่งประกบ ข้างเขา

เป็นครั้งแรกที่ทั้งสามคนนั่งทานอาหารพร้อมหน้าพร้อม ตา และต่างก็รู้สึกแตกต่างกันไป

“ท่านลองทานอันนี้ดู” เซี่ยซิงเฉินคืบผักให้ไปชิงรั่ง “ท่าน ต้องทานอาหารรสจืด ห้องครัวเลยทำอาหารรสจืดให้เป็น พิเศษ

“ได้ ฉันจะลองชิมดู” ไปชิงสั่งมองลูกสาวด้วยความรู้สึก ตื้นตัน “ต้าไปเป็นยังไงบ้าง?

“ท่านสบายใจได้ มีคุณท่านกับคุณหญิงคอยดูแล เขาน่ะดีกว่า ใครเลย”

ไปชิงรั่งพยักหน้ารับอย่างเบาใจ เดิมทีอยากแก้คำเรียก ของเธอแต่พอขยับปากแล้วก็ไม่พูดอะไร

หลันถึงมองสองพ่อลูกด้วยใบหน้าอมยิ้มเบาบาง

พอนึกอะไรได้ก็ปริปากเอ่ย “ใช่แล้วซิงเฉิน พรุ่งนี้ตอนค่ำ

ว่างไหม?”

เซียซิงเฉินพยักหน้า “ปกติหลังเลิกงานก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”

“งั้น….พรุ่งนี้กลับตระกูลหลั่นกับแม่ที ได้ไหม?” หลันถึงม องเธออย่างเว้าวอน

เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าวันนี้จะมาถึงในสักวัน ไปเร็วไปช้าก็ไม่ได้ ต่างกันมากนัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ