สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 103 ไม่ใช่ลุ่มหลงแต่หลงรัก (2)



ตอนที่ 103 ไม่ใช่ลุ่มหลงแต่หลงรัก (2)

เธอตกใจ เมื่อบนจอปรากฏชื่อ “ว่าที่สามี ทันใดนั้นหัวใจก็สั่น ไหวอย่างรุนแรง

ผ่านไปสักพัก เธอถึงได้ยกมือถือขึ้นรับ วางชิดข้างหู

“กว่าจะรับสายนะ นอนแล้วเหรอ”

เสียงของไปเฉิงส่งผ่านมาจากอีกด้านหนึ่ง เชียซิงเฉิน สึกว่าทั้งห่างไกลทั้งใกล้ชิด ตั้งแต่ที่พวกเขาสองคนรู้จักกันมา เขาก็เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่ ต่างประเทศ แล้วยังโทรข้ามมหาสมุทรมาหาเธอ

อาจเป็นเพราะเป็นห่วงลูกที่บ้านล่ะมั้ง

เธอส่ายหัว เหลือบมองไปที่จอทีวี พลางเอ่ยปากพูด “เปล่าค่ะ กำลังดูข่าวต่างประเทศอยู่

“ข่าวเหรอ” ไปเย่นิ่งเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม น้ำเสียง เหมือนจะทดสอบไปพลาง “ผมจำได้ว่าคุณไม่ชอบดูข่าวต่าง ประเทศนี่”

เซียซิงเฉินเงียบไปชั่วขณะ กลัวว่าจะหลุดเรื่องที่ ซ่อนอยู่ในใจออกไป จึงรีบพูดโต้ “ฉันไม่ชอบดู แต่ต้าไปอยาก ดู ฉันเลยอยู่เป็นเพื่อนค่ะ

“งั้นเหรอ” เขาฉีกหน้าเธออย่างไม่ปรานี แต่เมื่อพ่อบ้านบอกผมว่าต้าไปไปนอนตั้งนานแล้ว

ยิ่งเธอต่อปากต่อคำกับเขาก็มีแต่จะยิ่งเปิดเผยความจริง

เข้าไปใหญ่ เซี่ยซิงเฉินคิดไม่ตก จึงกำมือถือไว้แล้วไม่ได้พูด อะไรต่ออีก ยังไงผู้ชายคนนี้ก็ควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในกำมือ เขาได้ตลอดอยู่แล้ว เธอปิดบังอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

“รีบพักผ่อนเถอะ” ยังดี เขาไม่ได้ไล่ต้อนเพื่อล้อเลียนเธอ เซียซิงเฉินยานเสียงรับ “อืม เดิมทีกะจะถามเขาสักหน่อยว่า ทางนั้นกี่โมงแล้ว แต่คำถามนั้นกลับติดอยู่ที่ปาก เรื่องราว ต่างๆ พยายามทำให้มันพอดีจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจะกลาย เป็นการเสพติดไปได้

“ถ้าอย่างนั้น…ฉันวางนะคะ” เธอพูดเสียงเบา

“อืม”

เซี่ยชิงเฉินเม้มปากไปมา คอยฟังเสียงหายใจของเขา อย่างอาลัยอาวรณ์ ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกปวดแปลบๆ ในใจขึ้น มา

“เป็นอะไรไป” ไปเย่นิ่งเหมือนจะรู้สึกได้ว่าอาการเธอ แปลกไป เธอเป็นสายตาหนีจากหน้าจอทีวี แล้วมองไปยังมุม หนึ่งอย่างไม่คิดอะไร พูดเสียงเบา “คุณวางสายก่อนเถอะ

น้ำเสียงแผ่วเบาอ่อนโยนในยามค่ำคืน เหมือนผืนผ้า โปร่งบางที่สะบัดพลิ้วไหวไปมา เป็นทั้งความรู้สึกคลุมเครือ มืดมัว ทั้งความรู้สึกทุกข์ที่รุมเร้าไม่ห่าง
เหมือนไปเยถึงจะอารมณ์ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม หัวเราะเสียงต่ำ น้ำเสียงคลุมเครือยิ่งขึ้น เรื่องเมื่อคืน รอผมกลับไปก่อน ค่อย มาต่อก็แล้วกัน”

เซี่ยซิงเฉินที่อยู่ทางนี้ใบหน้าแดงก่ำ

“เรื่องเมื่อคืนฉันลืมไปหมดแล้ว ไม่มีโอกาสครั้งหน้าอีก หรอกค่ะ” เธอพูดจบ ไม่รอให้ทางฝั่งเขาพูดอะไรต่อ ก็รีบกด วางสายอย่างร้อนรนทันที ผ่านไปสักพัก หัวใจก็ยังคงเต้นรัว อย่างบ้าคลั่งเช่นเดิม

เธอโยนมือถือทิ้งไป พลางเอนตัวจึงเข้ากับโซฟา สายตา ทอดมองไปยังหน้าจอที่ขึ้นตัวอักษร ว่าที่สามี ในใจก็พลัน ปรากฏความรู้สึกที่ยากจะอธิบายขึ้นมา

เหมือนจะขมขื่นแต่ยังหวานหยด…

วันรุ่งขึ้นเซี่ยซิงเฉินไปทำงานเหมือนปกติ ไปเฉิงยังไม่ กลับมา เธอจึงอยู่เป็นเพื่อนเชี่ยต้าไปที่ทำเนียบประธานาธิบดี ได้อย่างสบายใจ ตลอดหลายวันที่ไม่เจอเขา เซียต้าไปคอยแต่ บ่นอุบอิบถึงเขาว่าคิดถึงมาก เซี่ยซิงเฉินรู้สึกว่าตัวเองคงติด จากลูกมา ถึงได้ว่างทีไรก็ดูข่าวต่างประเทศตลอด

ระหว่างวัน เซี่ยต้าไปโทรหาเขาครั้งหนึ่ง เขาที่อยู่ทางนั้น

มัวแต่ยุ่งจนได้นอนแค่วันละสองชั่วโมงเท่านั้น ตอนที่เซียต้าไป โทรไปเหลิงเฟยก็เป็นคนรับสายแทน เขาที่ยุ่งมาตลอด 36 ชั่วโมง กำลังนอนพักเอาแรงอยู่
เพราะเหตุนี้ เซี่ยซิงเฉินเลยห้ามเซี่ยต้าไปไม่ให้โทรไป กวนเขาอีก

เพราะเวลาที่ต่างกัน เมื่อเขาโทรกลับมา พวกเธอก็พัก ผ่อนอยู่ ส่วนใหญ่จึงเป็นคนรับใช้ที่รับสาย

วันนี้คือวันที่เจ็ดที่เขาไม่อยู่

เซี่ยซิงเฉินคิดไว้แล้วว่าถ้าหากเขากลับมาก็จะจบความ สัมพันธ์อันตรายแบบนี้กับเขาเสียที เรื่องในคืนนั้น ข้อแลก เปลี่ยนที่เขาเคยเอ่ยขอ ก็จะทำเป็นว่าไม่เคยเกิดขึ้น ถ้าเขา อยากได้ลูก เธอก็จะให้เขา

ระหว่างที่กำลังคิดแบบนี้ เมื่อเธอเดินออกจากตึก กระทรวงการต่างประเทศก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา

ฉือเว่ยยังเหลือบมองมาที่เธอ “ทำไมสีหน้าเธอแย่อย่างนี้

“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยน่ะ” เซียซึ่ง เฉินถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางลูบเข้าที่หน้าอก เป็นเพราะ ตัดสินใจยกลูกให้กับเขา เลยรู้สึกแย่ขนาดนี้สินะ เธอรู้สึกแน่น หน้าอกราวกับจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น

“เป็นเพราะเรื่องต้าไปครั้งก่อนทำให้เธอตกใจแน่ๆ พวก เธอนี่ก็ประมาทกันจริงนะ ทั้งบ้านคนเยอะขนาดนั้น ยังดูแลเขา ไม่ได้เลย”

“ฉันไม่ได้สังเกตเอง” เมื่อเซี่ยซิงเฉินพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัว

ขณะนั้นเองก็มีรถมาพอดี

ไปก่อน

เซียซิงเฉินจึงให้ชื่อเว่ยยังกลับ

เธอยืนรอรถอยู่ตรงนั้น ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอีก นานเข้ารถก็ยังไม่มา เธอเลยลองเดินไปข้างหน้า ทันใดนั้นก็มีรถแท็กซี่จอดเทียบข้างเธอพอดี

“คุณไปไหมครับ”

“ไปค่ะ” เธอพยักหน้า ไม่ได้คิดอะไรมากแล้วก้าวขึ้นรถ

เธอไม่ทันสังเกต ว่าเลขทะเบียนรถถูกบังไปหลาย ตำแหน่ง

เมื่อนั่งลงที่นั่งข้างคนขับ เธอถึงได้สังเกตว่าคนขับรถกลับ บดบังใบหน้า เห็นเพียงแค่ลูกตาเท่านั้น ยิ่งทั้งตอนที่เหลือบ มองมาที่เธอ แววตาคู่นั้นดูดุดันจนน่ากลัว ใจเธอวูบไปที พลัน รู้สึกถึงอันตราย โดยสัญชาตญาณ จะเปิดประตูลงไปโดย จิตใต้สำนึก แต่ว่าออกแรงไปหลายครั้ง ประตูรถก็เปิดไม่ได้

“ปล่อยฉันลงนะ!” เธอลนลานขึ้นมา พยายามทุบหน้าต่าง รถ “ได้ยินไหม เปิดประตูสิ!”

“อย่าเสียแรงเปล่าเลย!” อีกฝ่ายแสยะยิ้ม ยื่นมือไปถึงผม เธอไว้อย่างรุนแรง จนกระชากตัวเธอมาได้ในครั้งเดียว เธอ หอบหายใจด้วยความตื่นกลัว สองมือตะเกียกตะกายกลาง อากาศ แล้วขูดเข้าตรงคอของชายคนนั้นจนมีเลือดซิบทันที
แต่ว่ายังไม่ทันจะได้ตะโกน จมูกก็ถูกผ้าเปียกโปะเข้าทันที กลิ่นน้ำยาอีเทอร์แสบขึ้นโพรงจมูกจนทำให้เธอรู้สึกขาไปทั้งตัว ตอนแรกเธอยังมีแรงดิ้นได้เล็กน้อย แต่สักพักก็หัวพับ หมดสติ ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป

คนคนนี้…เป็นใครกันแน่?!

กลางดึก

ไปเยถึงเพิ่งลงจากเครื่องบิน เซียต้าไปก็โทรเข้ามาทันที

“พ่อ หม่าไม่ต้องการเราแล้วใช่ไหม…” น้ำเสียงเซียต้า ไป๋สะอึกสะอื้น

ไปเยฉิงขมวดคิ้วไปที่ “มีอะไร พูดดีๆ

“แม่บอกว่าวันนี้จะกลับมาแน่นอน แต่ว่าดึกขนาดนี้แล้ว ยังไม่กลับมาเลย มือถือก็ไม่รับสาย แต่เมื่อผมเพิ่งดูตำแหน่ง จากมือถือของแม่ ลุงคนขับรถบอกว่าที่นั่นอยู่ไกลมาก

ตอนที่เด็กชายกำลังป่วนมือถือของเธออยู่นั้นเขาก็ได้แอบ ติดตั้งเครื่องติดตามเธอ เพื่อยามว่างจะได้ดูว่าเธออยู่ที่ไหน

แต่ว่า ไม่คิดว่าครั้งนี้เธอกลับไปที่ที่ห่างไกลโดยไม่พูด อะไรสักคำ ไม่ต้องการพวกเขาแล้วใช่ไหมหรืออย่างไร

เมื่อไปเย่นิ่งได้ยิน ใบหน้าที่เรียบตึง บอกให้เซียต้าไปส่ง แผนที่มาให้เขา พอดูแล้วก็พบว่านั่นไม่ใช่แค่ที่ที่ไกล แต่เป็นป่า เปลี่ยวรกร้างต่างหาก!
ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เขารู้สึกไม่ดีขึ้นมา ไปเยถึงสีหน้าเรียบ ถึงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก้าวขึ้นรถพร้อมเอ่ยสั่งให้ไปยัง ตำแหน่งนั้นทันที ขณะเดียวกันก็พูด “ตอนนี้ให้คนไปตรวจสอบ กล้องวงจรปิดของตึกกระทรวงการต่างประเทศ ฉันจะต้องรู้ให้ ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยซิงเฉิน!

เหลิงเฟยเป็นห่วงสุขภาพของเขาเล็กน้อย “ท่านไม่ได้พัก ผ่อนเต็มที่มาสามวันแล้วนะครับ ที่ที่ไกลขนาดนั้น ให้พวกเรา ไปหาคุณเซียกันเองก็พอไหมครับ ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนดี กว่า”

“ไม่ต้อง!” เขาเอ่ยตัดอย่างเด็ดขาด หลังจากนั้นก็เสริมอีก ประโยคหนึ่งด้วยเสียงเย็น “เร่งความเร็วให้สุด! ถ้าเธอเกิดเป็น อะไรขึ้นมา พวกนายไม่ได้กินดีแน่!

โดยปกติแล้ว เธอไม่มีทางทิ้งลูกแล้วไปที่ที่ไกลขนาดนี้แน่นอน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ