สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 14 คืนนั้นยิ่งจดจําได้



ตอนที่ 14 คืนนั้นยิ่งจดจําได้

เขาถอยไปที่เก้าอี้อีกฝั่งด้วยมาดผู้ดี เพราะแรงดึงจากเขา เธอ จึงโถมเข้าไปหาเขาเกือบทั้งตัว

เซี่ยซิงเฉินล้มลงบนร่างเขา ริมฝีปากสีแดงอ่อนนุ่มคล้าย กับว่าจะเฉียดผ่านแก้มเขา เขานิ่งตะลึง ความรู้สึกชาติกได้ เรี่ยวแรงแล่นไปทั่วร่าง แววตาเข้มขึ้นเล็กน้อย เซียซิงเฉินก็ ตกใจเช่นกัน เธอได้สติ ใบหน้าแดงจัดร้อนผ่าวผละไปข้างหลัง อย่างลุกลี้ลุกลน ต้องการจะหลบออก

ทว่าเธอเสียการทรงตัว ทั้งร่างล้มคว่ำไปด้านหลัง เธอส่ง เสียงร้องอย่างตกใจ คว้าแขนเสื้อชายหนุ่มโดยสัญชาตญาณ ไปเฉิงหว่างคิ้วขมวดมุ่น ก้มตัวลงคว้าเอวเธอไว้ด้วยแขนข้าง เดียว ก่อนจะดึงกลับมาด้วยแรงเพียงเล็กน้อย

ณ ตอนนี้ เซียซิงเฉินถูกเขากอดเอาไว้ นั่งตะแคงข้างบน ตักเขา

ฝ่ามือใหญ่หนายังคงนาบอยู่บนเอวเธอ

ฝ่ามือชายหนุ่มร้อนจัด ทะลุผ่านเนื้อผ้าบางเบา นาบลงบน ผิวเนื้อจนเธอตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันเหลือเกิน บรรยากาศคลุมเครือ ปกคลุมไปทั่วภายในรถ
แววตาเข้มลึกเช่นนั้นของเขาราวกับมหาสมุทรอันกว้าง

ใหญ่ เพียงแค่มอง เธอก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเคลิบเคลิ้ม มือที่พาดไว้บนไหล่เขา ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาประสานไว้

ด้วยกัน

หัวใจ เต้นรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ ราวกับจะทะลุออกมานอก อก ผู้ชายคนนี้อันตรายเหลือเกิน! เพียงแค่เข้าใกล้กันแบบนี้ ยังไม่ทันได้ทำอะไร เธอก็อกสั่นขวัญหาย ไปแทบไม่เป็น

“ท่านครับ” ทันใดนั้นเอง อยู่ๆ แผ่นกั้นก็ถูกเปิดออก เสียง เหลิงเฟยดังขึ้น “ท่านไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? ผมได้ยินเสียงจาก ข้างใน ก็เลย…”

เหลิงเฟยพูดถึงตรงนี้ พลันมองเห็นฉากที่เกิดขึ้นข้างใน จึงชะงักไปทันที

เอ่อ?

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านประธานาธิบดีกับคุณเชี่ยชิง เฉิน…สองคนนี่…

ถ้างั้นเขาโผล่หน้าเข้ามาเช่นนี้ ก็เท่ากับสมควรตายจริงๆ สายตาปะทะเข้ากับเหลิงเฟย เซียซิงเฉินหน้าแดง สติกลับ

คืนมาทันที ดิ้นรนจะลงจากตักไปเย่นิ่ง ไปเย่นิ่งไม่ปล่อยมือ เธอ กระซิบเสียงแผ่ว “ปล่อยฉันลงไป

“ทำตัวให้เรียบร้อยหน่อย อย่าขยับ!” ไปเย่งใช้น้ำเสียง ออกคำสั่ง สีหน้าเริ่มบึ้งตึงเล็กน้อย
ไปเย่งปรายตามองเหลิงเฟย “ไม่ได้เรียก ก็ไม่ต้องโผล่ หน้าออกมาตามใจชอบ

“ครับ ท่าน” เหลิ่งเฟยรีบเก็บหน้ากลับไปอย่างว่าง่าย คิด ไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณเซียคนนี้ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับท่าน ประธานาธิบดีมาก เพียงแต่ แม้จะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่อาจ ลงเอยกันได้จริงๆ

สถานะต่างกัน

ภายในรถ

ถึงแม้แผ่นกั้นจะปิดลงมาอีกครั้ง ทว่าในยามนี้เซียซิงเฉิ นกลับสร่างเมาไปมากทีเดียว

“ขอโทษ ฉัน…เสียมารยาทไปหน่อย” เซี่ยซิงเฉินขอโทษ เสียงเบา มองรอยกัดที่คอเขาแวบหนึ่ง เห็นเพียงว่าตอนนี้เลือด ยังไหลอยู่ เมื่อครู่เธอคงเมาขาดสติจริงๆ

“คุณชอบเขามาก?” ไปเยถึงถาม ดวงตาเข้มลึกมองเธอ แวบหนึ่งแล้วเอ่ยสำทับ “ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ผมหาวิธีให้เขา แต่งงานกับคุณได้ ถือว่าเป็นการชดเชยให้คุณ

“คุณหมายถึงสวี่เหยียน?” เซี่ยซิงเฉินโต้ตอบกลับมา

“อย่า ฉันไม่อยากให้เขาแต่งงานกับฉัน” เซี่ยซิงเฉินนึกถึง เรื่องเขากับเซี่ยงคง ใบหน้าหมองลงเล็กน้อย พลางเอ่ยขึ้น

“ฉัน…ก็ไม่ได้ชอบเขาเท่าไหร่แล้ว”
“งั้นเหรอ?” ไปเย่นิ่งไม่เชื่อเลยสักนิด อยู่ๆ นิ้วมือก็บีบเข้า ที่ปลายคางเธอ ซ้อนใบหน้าเธอให้เงยขึ้นมา

แววตาสำรวจวนเวียนอยู่บนใบหน้าเธอ มองขนตาเธอที่ กระพือไหวราวกับปีกผีเสื้อ หัวใจเขากระตุก ลืมคำพูดที่จะเอ่ย ตอนแรก อยู่ๆ กลับเอ่ยปากขึ้นมาว่า “เรื่องในอดีต คุณจำได้ แค่ความรู้สึกเจ็บปวด?”

“อะ…อะไร?”

เขาหรี่ตา “ดูท่าทาง ผมจะจำได้เยอะกว่าคุณนะ”

น้ำเสียงทุ้ม ยิ่งแฝงความคลุมเครือ

เสียงวิ่งดังขึ้นในหัวเซียซิงเฉิน ในขณะนั้น ใบหน้าซับสี เลือดจนแดงก่ำ

ถ้าอย่างนั้น…

เขาหมายความว่า เขาเองก็เหมือนเธอ ยังจำวันคืนเหล่า นั้นได้จนทุกวันนี้ ความเร่าร้อนของพวกเขาทั้งสองยังรบกวน จิตใจงั้นเหรอ?

เซี่ยซิงเฉินย่อมไม่กล้าถาม สองมือเกาะไหล่เขาพยุงตัวไว้ รีบกระโดดลงมาจากตักเขาทันที

แล้วก็ไม่กล้าต่อความเขาอีก เธอเลยไปนั่งอยู่ตรงข้ามเขา ถึงแม้ไม่ได้มอง แต่รู้สึกได้ว่าสายตาของเขาหยุดอยู่ที่ร่างของ ตัวเองอยู่ครู่ใหญ่

ร้อนราวกับไฟ
เชียซิงเฉินใจเต้นรัว ทั้งๆที่อุณหภูมิในรถคงที่ แต่เธอกลับ รู้สึกร้อนตับแตกขึ้นมาเสียเฉยๆ ใช้มือโบกพัดก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เท่าไหร่

ผู้ชายคนนี้ พูดแบบนี้กับเธอหมายความว่าอย่างไรกัน

แน่?

ตรงกันข้าม ไปเย่งรวบรวมสมาธิเพ่งมองเธอ ในที่สุดมุม ปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย หยิบเอกสารราชการมาพลิกดูผ่านๆ

ดูเหมือนว่า ความทรงจำในค่ำคืนเหล่านั้นที่เธอจำได้ ไม่มี

แค่ความเจ็บปวด

รถ ขับมาอย่างรวดเร็ว ก็มาถึงภายในสวน

คนรับใช้ทยอยกันออกมาต้อนรับ ขณะที่รถจอด เชียง เฉินเอนหลับอยู่ภายในรถแล้ว เหลิงเฟยเข้ามา ตอนแรกตั้งใจ จะปลุกเธอ ไปเย่งรวบเอวบางไว้แล้วอุ้มเธอลงมาจากรถ

เหลิงเฟยตกใจเล็กน้อย แต่ก็รู้อยู่แก่ใจ

ไป๋เย่ฉิงอุ้มเซี่ยซิงเฉินตรงเข้าไปยังห้องนอนชั้นสอง เซียต้าไปกำลังก้มหน้าทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะหนังสือตัวเล็ก ทันที ที่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็เงยหน้าเล็กๆ ขึ้นมา

“อุ๊ย ทำไมหม่ามีเซียถึงอยู่ได้กับเสี่ยวไปล่ะครับ”

“…” เจ้าเด็กนี่ มักจะเรียกเขาเสี่ยวไปทุกคำ ไม่กลัวบารมี ประธานาธิบดีอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย ไปเยฉิงขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม เรียกพ่อ”

“ได้ครับ พ่อ” เซียต้าไปหัวเราะแหะๆ “เสี่ยวไป ทำไมถึง ได้อุ้มหม่ามีเซียกลับมา?”

ไปเย่งเล่นเอาเขาไปไม่ถูก แล้วก็ขี้เกียจจะตามแก้ อีก ถึงอย่างไรเด็กคนนี้ก็ยังนับว่ารู้จักกาลเทศะ ไม่กล้าฝืนกฎ เช่นนี้ต่อหน้าคนนอก

“เสี่ยวไป หม่ามี้เซี่ยของเราหอมมากใช่มั้ย?”

เจ้าเด็กนี่ไม่สนใจว่าเขาจะตอบรับหรือไม่ ปีนขึ้นบนเตียง ดึงผ้าห่มออกพลางพูดฉอดๆ

ไปเยถึงมองเขาแวบหนึ่ง เลิกคิ้วสูง ทว่าไม่ได้เอ่ยตอบ

วางเซี่ยซิงเฉินลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง แขนเรียวเล็ก ของเธอค่อยๆ ไหลลงจากบ่าเขา เขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ เป็นอย่างที่เจ้าเด็กน้อยว่า หอมเหลือเกิน เหมือนเมื่อห้าปีก่อน ไม่มีผิด

กลิ่นหอมชนิดนี้ ชวนให้ใจลุ่มหลงมัวเมา

ไปเย่นิ่งดึงสติกลับมา ตบท้ายทอยเขี่ยต้าไปเบาๆ กำชับ ว่า “เชื่อฟังพ่อ ไปทำการบ้านนะ

“ครับ” เซี่ยต้าไปผงกศีรษะอย่างว่าง่าย แล้วกลับไปที่โต๊ะ หนังสือต่อ นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขากัดหัวดินสอ ดวงตาโตสี นิลเปล่งประกายหันกลับมามองท่านประธานาธิบดี “พ่อ แต่งงานกับแม่ผมได้ไหม?”
ไปเยถึงรู้สึกตกใจ เอ่ยถาม “ทำไมอยู่ๆ ถึงได้พูดเรื่องนี้

“เซี่ยซิงเฉินต้องอกหักแน่ถึงได้ดื่มจนเมา ผมรู้ว่าคนที่แม่ ชอบจะมาเป็นน้าเขยผม ผมไม่อยากเห็นแม่เสียใจ

เจ้าเด็กแก่แดดนี่ รู้ไปหมดทุกเรื่องอย่างเหลือเชื่อ ไปเยถึงปรายตามองเซี่ยซิงเฉินที่หลับไม่ค่อยเป็นสุขนัก

อยู่บนเตียงพลางเอ่ยว่า “พ่อแต่งงานกับเธอก็ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าอยากให้เธอหายเศร้า ก็ต้องให้น้าเขยลูกแต่งงานกับเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ