สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 155 ไม่เข้าใจความหมาย (2)



ตอนที่ 155 ไม่เข้าใจความหมาย (2)

แววตา ลึกมองเธอแวบหนึ่ง ควบคุมความรู้สึกต้องการในใจ ไม่ได้ โน้มตัวลงแล้วประทับริมฝีปากเธอทันที

จูบนี้เหมือนเป็นไปตามความคาดหมาย แต่ก็เหมือนอยู่ เหนือความคาดหมาย เธอไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย ปล่อยให้เขา จูบ เพียงครู่เดียวก็ถูกเขาจูบจนความคิดกระเจิดกระเจิง มือกำ เสื้อสูทเขาไว้แน่น หายใจไม่เป็นจังหวะ

จนเมื่อทั้งคู่หายใจแทบไม่ทัน เขาถึงได้ผละออกจากริม ฝีปากเธออย่างอาลัยอาวรณ์ มองใบหน้าที่ปรือตาของเธอ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเขาจะห้ามใจไม่ไหวอีกต่อไป มือที่ตั้งเอวเธอ ไว้กระชับแน่น แต่สักพักก็ปล่อยมือ

“ขึ้นไปเถอะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง คำพูดง่ายๆ เต็มไปด้วยความต้องการที่พยายามหักห้ามไว้ แววตาเป็น ประกายเสมือนของซิงเฉินฉายแววความทรมานที่ต้องอดกลั้น

ไว้เล็กน้อย

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกได้ว่าร่างกายของชายหนุ่มต้องการเธอ มัน ชัดเจน

“ถ้างั้น…ฉันไปนะคะ” เธอเอ่ยเสียงเบา แม้แต่ตัวเองยัง ฟังออกว่าน้ำเสียงนั้นปนด้วยความอาลัย อ่อนโยนและเย้ายวน

แววตาไปเยฉิงจ้องเธอนิ่งมากกว่าเดิม แววอันตรายชัดเจนมากขึ้นเมื่ออยู่ท่ามกลางความมืด “ถ้ายังพูดกับผมแบบ นี้ คืนนี้ อาจจะเป็นคุณที่ไปไม่ได้ ไม่ก็ผมที่ไปไม่ได้

ใบหน้าเซียซิงเฉินแดงระเรื่อ รีบก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“อ้อ เสื้อของคุณ…”

“ใส่ไว้”

“อ่า ได้ค่ะ” เธอผงกหัวอย่างเชื่อฟัง รีบกระชับเสื้อกัน หนาวไว้แน่น อืม ถึงเสื้อจะไม่หนาเท่าไร แต่ว่าก็เหมือนมีตัว ของเขาโอบหุ้มเธอไว้ ความอบอุ่นที่บอกไม่ถูก แม้แต่ลมหนาว ด้านนอกก็ไม่หวาดกลัวอีกต่อไป

เธอเดินไปเพียงก้าว จู่ๆ ก็หันกลับมา

ไปเฉิงยืนพิงรถ สายตาจ้องมองเธอแนวนิ่ง “ถ้าคุณไม่ อยากไปจริงๆ ผมขึ้นไปพร้อมกับคุณได้นะ เพียงแต่…ถ้าผมขึ้น ไป คืนนี้ก็คงไม่ลงมาอีกแล้ว

ประโยคสุดท้ายเขาเอ่ยคลุมเครืออย่างหยอกเย้า

“” ใบหน้าของเชียซิงเฉินแดงเถือกฉับพลัน ผู้ชายคนนี้

“ฉันแค่อยากถามคุณว่าที่ให้หลี่หลิง ไปทำงานที่นั่น เป็นความ คิดคุณใช่ไหม”

ไปเยฉิงยักไหล่ “ผมไม่คิดวิธีแย่ๆ แบบนี้หรอก เป็นข้อ เสนอของเหลิ่งเฟยน่ะ”

เหนือความคาดหมายของเซียซิงเฉิน ปกติเหลิงเฟยไม่ ค่อยพูดอะไร แต่ที่แท้ความคิดร้ายๆ ก็มีเยอะไม่น้อย
“ผลแบบนี้ พอใจไหม” ไปเย่งเอ่ยถาม

เซี่ยซิงเฉินเอ่ยรับเสียงเบา ครั้งนี้ก็ทำให้หลี่หลิงไม่กล้า จองหองได้อีกแล้วสินะ!

ไปเย่นิ่งพิงรถพลางเอ่ยกับเธอไปเรื่อย เพราะเรื่องนี้เลย ได้ตรวจสอบพวกหยางอู่ไปด้วย พวกเขาไม่ได้สะอาดขนาด นั้น”

“แต่ตรวจสอบพวกเขาจะไม่เป็นไรเหรอคะ ฉันได้ยินคุณ พ่อฉันบอกว่าพวกเขาเป็นคนของซุงถั่วเหยา ถ้าคุณตรวจสอบ พวกเขา แล้วทางซ่งถั่วเหยา…

“พวกเขาก็แค่ตัวประกอบเล็กๆ ยังข่มอะไรเขาไม่ได้หรอก เขาก็ไม่โง่ถึงขนาดทำลายความสัมพันธ์กับผมเพียงแค่เพราะ สองคนนี้”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ” เซียซิงเฉินเบาใจ ความจริงเธอ

กังวลเรื่องยกเลิกหมั้นของเขาเสียมากกว่า

ไปเย่นิ่งมองเธอด้วยแววตาลึก ทำสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ จัดการทุกคนหมดแล้ว แล้วผมล่ะ”

เซียซิงเฉินมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แววตาไปเฉิงเรียบนิ่ง “เรื่องเมื่อห้าปีก่อน….เคยคิดจะจัดการผมยังไงบ้างไหม

เธอเข้าใจความหมายของเขาโดยทันที สองมือสอดเข้า กระเป๋าเสื้อกันหนาวของเขาเบาๆ แววตาสดใสมองเขา สุดท้ายก็ส่ายหัว นัยน์ตาวูบไหวเล็กน้อย “ฉันถือว่าเรื่องอดีตนั้นเป็นแค่ฝัน เลิกโทษคุณไปนานแล้วค่ะ ห้าปีมานี้ถึงเรื่องท้อง จะทำให้ฉันพบเจออะไรมาก แต่ฉันก็รู้สึกมาตลอดว่าถ้าไปเป็น ของขวัญสำหรับฉันจากสวรรค์ เพียงแค่จากนี้ไปแต่ละวัน คุณ เป็นพ่อที่ดี ทำให้เขามีความสุข ให้อนาคตที่สดใสและสมบูรณ์ แก่เขา ชีวิตนี้คิดว่าฉันก็ไม่มีเรื่องอะไรให้กล่าวโทษและ เสียดายอีกแล้ว”

ยามเอ่ยถึงเด็กน้อย ใบหน้าเธอทั้งอ่อนโยนและอิ่มเอม เธอ ในตอนนี้ทั้งที่แต่งกายอย่างง่ายดายและธรรมดา แม้แต่ผม ยาวยังถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงไปหมด ทว่ากลับมีแสงประกายอยู่ ทั่วเรือนร่าง ต่อให้อยู่ในความมืดก็เย้ายวนได้ถึงเพียงนั้น ชวน ให้ใจเต้นเหลือเกิน

บริเวณอกเหมือนถูกบางอย่างทุบเข้าอย่างจัง ไปเย่นิ่ง รู้สึกแค่ว่าในนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ เธอเป็น ผู้หญิงที่รักเป็นและเข้าใจที่จะรัก ผู้หญิงเช่นนี้มีเสน่ห์ ก่อนหน้า นี้ตนไม่เคยใช้อะไรมาวัดว่ารู้สึกดีกับเธอมากเพียงใด แต่เขารู้ ว่าความรู้สึกดีในตอนนี้ไม่ใช่แค่น้อยๆ อย่างแน่นอน

“ทำไมถึงมองฉันแบบนั้นล่ะคะ” เซี่ยซิงเฉินถูกเขาจ้องมอง จนทำตัวไม่ถูก ก้มมองตัวเองนานสองนาน

ไปเย่นิ่งหลุดจากภวังค์ ซ่อนแววตาเดิม แล้วแสร้งทำหน้า

ตึง “เสี่ยวไปในชินจังเป็นหมาน

“คุณถึงกับไปดูจริงๆ เลยเหรอคะ” เซียซิงเฉินคาดไม่ถึงเขายังมีเวลาไปดูการ์ตูนอีกเหรอ
“คุณเทียบผมกับหมา

เธอหัวเราะ สีหน้าเรียบตึงของเขาคลายลงเพราะรอยยิ้ม ของเธอ สุดท้ายเขาก็มองเธอเดินขึ้นไป แล้วกลับเข้ามาในรถ จากนั้นพอมองเห็นตัวเองที่สะท้อนจากกระจก มุมปากก็เหยียด ขึ้นเสียอย่างนั้น

เขานั่งนิ่ง อดมองตัวเองในกระจกมากกว่าเดิมไม่ได้ ต้อง มนต์อย่างนั้นเหรอ ถูกเธอเอาไปเปรียบเทียบกับหมาในการ์ตูน เขาไม่โกรธสักนิดแต่กลับยิ้ม!!

วันรุ่งขึ้น

เซี่ยซิงเฉินตื่นมาล้างหน้าแต่เช้าตรู่ เสร็จแล้วถึงได้ออก จากห้องน้ำ ได้ยินเสียงดังจากข้างห้องเหมือนกำลังปรับปรุง ห้อง เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

ห้องข้างๆ ว่างมาโดยตลอด หรือจะมีใครเข้ามาอยู่แล้ว? ก็เป็นเรื่องดี คงจะครึกครื้นขึ้นมาบ้าง พอคิดแบบนี้เธอก็ไม่ได้ เก็บเรื่องนี้ไปคิดอีก เมื่อแต่งตัวทำผมเสร็จ ได้ยินชื่อเว่ยยัง เรียกตนอยู่ชั้นล่าง รอให้ไปทำงานพร้อมกัน เธอรีบเอ่ยตอบ แล้วถือกระเป๋าออกจากห้องอย่างเร่งรีบ

“ไม่ทราบว่าคุณคือคุณเซียใช่ไหมครับ

เพิ่งออกจากห้อง จู่ๆ ก็มีผู้ชายสวมแว่นคนหนึ่งที่คาดว่าจะ เป็นนักออกแบบ มือถือกระดาษแล้วเดินมาขวางทางเธอไว้ เธอไม่เข้าใจเล็กน้อยจึงมองเขาพลางเอ่ยตอบ “ใช่ ฉันเองค่ะ คุณ คือ?”

“สวัสดีครับ ผมเป็นคนออกแบบของห้อง ห้องข้างๆ นะ ครับ จะเจาะกำแพงให้เชื่อมกับห้องของคุณ สองวันนี้อาจทำให้ คุณไม่ค่อยสะดวก ขอให้คุณเข้าใจด้วยนะครับ” เชียซิงเฉินสงสัยว่าตนฟังผิดไปหรือเปล่า ห้องข้างๆ กลาย

เป็นของเธอไปด้วยตั้งแต่เมื่อไรกัน

“แต่ ฉันไม่ได้บอกให้เชื่อมห้องเลยนี่คะ! ห้องนั้นก็ไม่ใช่ ของฉันด้วย พวกคุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า” เซี่ยซิงเฉินไม่ เข้าใจ เธอไม่ได้เช่าห้องข้างๆ อีกอย่างเธออยู่นี่ก็แค่คนเช่าห้อง จะขอให้เจาะกำแพงเชื่อมห้องได้อย่างไรกัน

“บอสของผมสั่งไว้ ถ้าคุณมีปัญหาอะไรก็โทรถามเขาได้

เลยครับ”

“บอสของคุณ? ไม่ทราบว่าคือ…

“เขาบอกแค่ว่าแซ๊ไปครับ”

เซี่ยซิงเฉินเข้าใจทุกอย่างทันที แต่ไป ในชีวิตเธอผู้ชายแซ่ ไปคนเดียวที่เธอรู้จัก นอกจากไปเย่นิ่งก็ไม่มีใครอีกแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ