สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 365 ศัตรูหัวใจ (3)



ตอนที่ 365 ศัตรูหัวใจ (3)

หลันจนเกิดความรู้สึกบางอย่างในใจแต่กลับไม่กล้าพูดอะไร ยืนหลบข้างให้คุณหญิงหลันถึงและเซี่ยซิงเฉินเข้าไป

เขาจำเซียซิงเฉินได้แถมยังจำได้ชัดเจนมากเสียด้วย ครั้ง แรกที่เจอกันอยู่ที่หอมืออัน เธออยู่กับหนูเจอหนัน ส่วนครั้งที่ สองกลับเป็นครั้งที่เขาจดจำได้ชัดเจนที่สุดเพราะเกิดขึ้นเมื่อ หลายวันก่อน

ขณะที่กำลังเปิดกล้องประชุมกันอยู่เขาเห็นเธอสวมชุด นอนและปรากฏอยู่ในกล้องทางฝั่งไปเฉิงได้อย่างชัดเจน

ทั้งสองคนกำลังทำผิดศีลธรรมอยู่ไม่ใช่หรือไง?

หลันนั้นตกตะลึงไม่หายและปวดศีรษะอย่างมาก เขาเป็น คนของพรรคประธานาธิบดีย่อมต้องควบคุมเรื่องงานแต่งงาน ของเขาด้วย ตอนนี้เขากลับรักกับลูกพี่ลูกน้องตัวเอง ไม่มีทาง ที่จะไม่ถูกคัดค้าน

เข้าไปหลันนั้นก็ดึงตัวหลันถึงไปคุยกันที่ห้องรับรองเล็ก เซี่ยซิงเฉินนั่งอยู่ห้องโถงกลางและมียวนเสี่ยงกำลังปอกผลไม้ ให้เธออยู่ตรงหน้า

“ไม่หิวใช่ไหม? ห้องครัวกำลังเตรียมอาหารอยู่คงต้องรอ อีกสักพัก เทียบกับท่าทีของหลันนั้นแล้วยลิ้นเสียงผู้ที่ไม่รับรู้เรื่องใดๆ กลับมีท่าที่เป็นมิตรกว่ามาก

เซียซิงเฉินส่ายหน้าตอบ “ไม่หิวค่ะ”

“ใช่แล้ว ยังไม่ได้ถามหนูเลยว่าชื่ออะไร!

“ฉันนามสกุลเซีย ท่านเรียกฉันว่าซิงเฉินก็พอค่ะ

ยนเสียงเงยหน้าขึ้น “บังเอิญจังเลย หนูก็ชื่อเซี่ยซิงเฉิ นงั้นเหรอ?”

“ยังมีใครชื่อนี้อีกหรือคะ?”

ยวนเสียงหัวเราะ “ความจริงก็ไม่ใช่ใครหรอก ศัตรูหัวใจ ของลูกสาวสุดที่รักฉันนะ ก่อนหน้าเธอซึมไปพักหนึ่งบอกว่าคน ที่เธอชอบไม่รักเธอ ได้ยินว่าอีกฝ่ายหลงรักผู้หญิงที่ชื่อ เซียซึ่ง เฉิน” เธอพูดถึงหลายครั้งจนฉันจำได้แล้ว

เซียซิงเฉินยิ้มฝัน ไม่รู้ว่าถ้าคุณน้าสะใภ้คนนี้รู้ว่าตนเป็น เซียซิงเฉิน” ที่กำลังพูดถึงแล้วจะคิดอย่างไร

ขณะกำลังคิดเพลินๆ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว

เพราะหลันเย่ที่สวมชุดทหารวิ่งเข้ามาด้านใน “แม่ คุณป้า พาน้องสาวกลับมาหรือยัง?

“กลับมาแล้วเหรอ?” ยวนเสี่ยงเห็นลูกสาวยิ้มตาหยีก่อน จะเห็นชุดบนตัวเธอจึงกล่าว “ลูกไปสนามฝึกอีกแล้วเหรอ? ลูก ดูตัวเอง เป็นผู้หญิงอยู่ดีๆ ชอบทำให้ตัวเองเปื้อนอยู่เรื่อย มิน่าคนอื่นถึงไม่ชอบ ไป รีบไปเปลี่ยนเสื้อลงมาเจอแขกหน่อย

หลันเย่ไม่ได้ฟังที่มารดาพูดเลยสักนิด เพราะหลังเข้ามา

สายตาก็จดจ้องที่เซี่ยซิงเฉินนิ่ง

เซียซิงเฉินยืนขึ้นพร้อมได้ยินเสียงของเธอถามอย่างไม่ พอใจ “ทำไมเธออยู่ที่นี่? ใครให้เธอเข้ามา? เธอรู้ไหมว่าที่นี่ คือที่ไหนเธอถึงบุกเข้ามาได้?

คำถามยาวพรีดไล่ต้อน ในเมื่อเป็นถิ่นของตระกูลหลัน เซียซิงเฉินเป็นเพียงคนนอกก็ไม่ได้เด็กน้อยจนต้องถกเถียงกับ เธอ

กลับเป็นขวนเสี่ยงที่ทนฟังไม่ไหวรีบเอ่ยแทรก “เย่เย่ อย่า เสียมารยาท”

“ลูกเสียมารยาทเหรอ?” หลันเถอดหมวกทหารขว้างลง โซฟาอย่างแรงก่อนจะชี้นิ้ว “เซียซิงเฉิน เธอรีบออกไปซะ! ฉัน ไม่สนใจว่าเธอมีเหตุผลอะไรถึงมา แต่นี่เป็นบ้านฉัน บ้านฉันไม่ ต้อนรับเธอสักนิด!

“เย่เย่! ลูกพูดกับน้องสาวตัวเองอย่างนี้ได้ยังไง?” ยวน เสี่ยงขมวดคิ้วหวาดเสียงดัง จากนั้นก็พูดเสียงเบา “ถ้าให้คุณ ป้าของลูกได้ยินเข้า….

“แม่ว่ายังไงนะ?!” หลันเย่ได้สติทันควันก่อนจะชี้ไปทาง เซี่ยซิงเฉิน “แม่ว่าเธอคือน้องสาวของลูก? เธอเป็นลูกสาวของ คุณป้างั้นเหรอ?!”
“ลูกรู้จักเหรอ?”

“ลูกจะไม่รู้จักได้ยังไง! แม่ เธอก็คือคนก่อนที่ลูกพูดว่ากับ เย… กล่าวถึงตรงนี้จู่ๆ หลันเก็นึกบางอย่างออกพลันหยุด

ชะงัก

จู่ๆ ก็หัวเราะ

คล้ายอารมณ์ดีขึ้นทันตาและไม่ไล่เซียซิงเฉินอีกต่อไป กลับพูดพึมพำ “น้องสาว…น้องสาวที่คุณป้ากับคุณท่านรองไป

ให้มา…”

เซียซึ่งเฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เป็นคำถามของคนทั้ง โลกเมื่อรู้ถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนนี้ เธอไม่พูดอะไรเพียงแค่ ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบอย่างเชื่องช้า

หลันเยยักคิ้วก่อนจะพูดเชิญชวน “น้องสาว ฉันน่ะรอคอย การมาเยือนของน้องสาวมาโดยตลอดเลยนะ ฉันจะขึ้นไป เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ขึ้นไปนั่งเล่นกับฉันสักหน่อยไหม?”

เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าหลันเยมีเรื่องจะคุยกับตน

ยวนเสียงผู้ไม่รู้และหวังให้ทั้งสองปรองดองกันจึงกล่าว ตอบ “อายุพวกลูกพอๆ กัน ต้องมีเรื่องให้คุยไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ พวกเขาสองคนกำลังคุยธุระกันอยู่คงอีกนานกว่าจะออกมา ซึ่ง เฉิน หนูนั่งไปก็เบื่อเปล่าๆ ขึ้นไปคุยเล่นฆ่าเวลากับเย่เยู่ข้างบน ก็ดีเหมือนกันนะ”

“ก็ได้ค่ะ” เซี่ยซิงเฉินไม่ปฏิเสธ วางถ้วยน้ำชาลงแล้วขึ้นไปชั้นบนกับหลันเป็

หลันเยเป็นคุณหนูที่มีความสุขมากคนหนึ่ง

แม้จะใช้เวลาตั้งแต่เล็กจนโตในค่ายทหารไปไม่น้อยแต่ ห้องนอนกลับตกแต่งด้วยสีชมพูอ่อนหวานราวกับเจ้าหญิง บน กำแพงมีรูปแขวนอยู่มากมาย ล้วนเป็นภาพถ่ายของเธอกับพ่อ แม่ตั้งแต่เล็กจนโต

แค่ในภาพถ่ายก็ดูออกถึงความรักที่พ่อแม่มีให้เธอ สายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่

เซียซิงเฉินยืนอยู่หน้ากำแพงที่เต็มไปด้วยภาพถ่าย เกิด ความรู้สึกอิจฉาแปลกๆ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตภาพถ่ายของ เธอกับพ่อแม่มีเพียงเมื่อครั้นที่อายุเพียงแปดขวบ ภาพถ่ายใบ เดียวก่อนที่พ่อแม่หย่าร้างเด็ดขาด พวกเขาในภาพถ่ายที่รัก กันดีแต่ใจกลับไม่ใช่

ส่วนพ่อแม่แท้ๆ…

ยังไม่เคยมีภาพครอบครัวแม้แต่รูปเดียว

ขณะกำลังคิดสายตาก็ไล่กวาดภาพถ่ายไปเรื่อยๆ ก่อนจะ เห็นคนที่คุ้นเคยมากที่สุด

ไปเย่จ๋ง

น่าจะเป็นตอนที่ยังอยู่กองพลนาวิกโยธิน ไปเยถึงในสมัย นั้นดูอ่อนเยาว์กว่าตอนนี้มาก แต่เย็นชาดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็น ภาพที่แอบถ่ายหรือรูปคู่กับหลันเย่ ล้วนไม่มีรอยยิ้มแม้แต่นิดเดียว!

เท่จริงๆ เลยนะ!

อีกทั้ง…

เลื่อนสายตาลงก็เห็นรูปที่เธอได้รับก่อนหน้า

ท่ามกลางแสงอ่อนๆ ภาพที่หลันเยเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบ

เขา

ดูเหมือนหลันเยจะรักเขาจนหมดใจจริงๆ สินะ แม้แต่รูปนี้ ยังเก็บไว้อีก

เซียงเฉินปาก ไม่รู้ว่าควรโกรธหรือรู้สึกดี ตอนนี้เธอ เป็นคนที่ใจแคบและขี้หึงมากคนหนึ่ง ต่อให้รู้ความเป็นไปของ รูปนี้แต่พอเห็นทั้งคู่เช่นนี้แล้วกลับไม่สบายใจอยู่บ้างเล็กน้อย อีกทั้งจะว่าไปแล้วเธอกับไปเฉิงยังไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเลย! ไม่ เคยแม้แต่รูปเดียว!

ไม่รู้ว่าตอนที่เขาถ่ายกับตนจะเย็นชาเยี่ยงตอนที่อยู่กับ หลันเย่หรือเปล่า

เซี่ยซิงเฉินคิดก่อนจะตัดสินใจ ครั้งนี้รอเขากลับมาต้อง

ลากเขามาถ่ายรูปให้ได้ และเธอก็ทำเหมือนหลันเยีที่ล้างรูป เหล่านี้ออกมาให้หมดพลางแขวนไว้บนกำแพงที่ห้องเช่า

“เธอคงรู้นะว่าที่ฉันให้เธอขึ้นมาเพราะอยากคุยอะไรกับ เธอ?” ขณะนั้นเองหลันเต่ก็อ้าปากพูดขึ้นอยู่ด้านหลังเธอ
เธอล็อกประตูห้องนอนเสร็จสรรพ

เซียซิงเฉินหันกลับไปจึงเห็นหลันเย่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ คิดแอบเธอสักนิด ถอดชุดทหารออกแล้วสวมชุดอื่นทันที

“ฉันไม่ได้คิดมากขนาดนั้นค่ะ แค่อยู่ข้างล่างแล้วเบื่อเลย

ขึ้นมาดูสักหน่อย” เซี่ยซิงเฉินไม่ตอบรับประโยคหาเรื่องเธอ จนกระทั่งสายตาจรดลงภาพถ่ายของไปเฉิงตอนยังเยาว์วัย “คุณหลับใสใจจริงๆ เลยนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ