สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 205 ช่วงลองรัก (1)



ตอนที่ 205 ช่วงลองรัก (1)

เธอเงยศีรษะขึ้นแล้ววางคางเกยอยู่บนไหล่เขา สบสายตากับ เขา “แล้วตอนนี้คุณก็แตกหักกับซุงถั่วเหยาจริงๆ เหรอคะ?”

ท่าทีเช่นนี้ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากเป็นพิเศษ ลมหายใจ ที่เริ่มหนักหน่วงเล็กน้อยของเขาทำให้บรรยากาศในรถเริ่ม แปลกไป

ไป๋เย่นิ่งก้มมองใกล้ชิดกว่าเดิมอีกนิด จนกระทั่งปลาย ขนตาแทบจะคลอเคลียปลายจมูกของเธอแล้ว เซี่ยซิงเฉินใจ สั่นไหวอย่างรุนแรง ลมหายใจก็ถูกเขาปั่นป่วนไปหมด แม้แต่ มือที่ถูกเขากุมอยู่ก็บีบเกร็ง

ได้ยินเพียงเสียงต่ำของเขาเอ่ยถาม “เป็นห่วงผมเหรอ?”

“ฉัน…ความจริงคือเป็นห่วงคุณลุงคุณ…” ระยะที่ใกล้ชิด เช่นนี้ทำให้เธอปากแห้งแปลกๆ เธอแลบลิ้นเลียริมฝีปากเล็ก น้อย ไม่กล้าเล่นกับเขาอีก ทำเพียงหดตัวอยากจะมุดเข้าตรง มุม ความจริงผู้ชายคนนี้ก็คือนักรักคนหนึ่ง สายตาที่มองเธอ เหมือนห่อหุ้มด้วยเพลิงไฟ บางทีสายตาของเขาเช่นนี้ก็คือ สายตาที่สามารถทำให้คนท้องได้อย่างที่บนอินเตอร์เน็ตว่ากัน ล่ะมั้ง!

ไป๋เย่นิ่งหมดอารมณ์ทำงาน วางเอกสารลงแล้วยกตัวเธอ ขึ้นนั่งบนตัก ไม่ได้นั่งแบบหันข้าง แต่เป็นนั่งหันหน้าเข้าหากันเรียวขาเธอเกี่ยวเข้าที่เอวเขา

เซียซิงเฉินตื่นตระหนกแต่กลับไม่กล้าส่งเสียงดัง ทำเพียง ถลึงตามองเขา รีบหันกลับไปมองด้านหน้าอย่างกังวล คนขับ รถกับรุ่ยทั้งที่อยู่เบาะหน้า อีกทั้งระหว่างพวกเขาเพิ่งมีข่าวฉาว ออกไปจนเป็นที่พูดคุยกันทั้งเมือง ตอนนี้เขาจะทำเหลวไหลอีก แล้วเหรอ!?

ไปเย่นิ่งรู้ว่าใจเธอกังวล เขากดปุ่มปุ่มหนึ่ง หน้าต่างรถ พลันมีม่านเคลื่อนขึ้นมา บดบังทัศนียภาพภายในรถจนมิด เพียงแต่ไม่ได้ขวางกั้นเบาะหน้ากับเบาะหลังไว้

เซี่ยซิงเฉินใจวูบไหวยันลำคอ ถามเขาเสียงเบา “คุณจะ ทําอะไรอีก?”

ไป๋เย่ฉิงสูดดมกลิ่นกายเธอ “คุณพูดเองว่าจะมาส่งผม

ไม่ใช่ว่าอยากทำอะไรกับผมงั้นเหรอ?”

“ฉันก็แค่จะส่งคุณ ไม่ใช่อยากทำ….อย่างนั้นกับคุณ” เซีย ซิงเฉินหน้าแดง เพราะข้างหน้ามีรุ่ยยังอยู่ เธอตื่นเต้น ความ รู้สึกแบบนั้นเหมือนกำลังแอบคบกันอยู่อย่างนั้นแหละ

ไปเย่นิ่งย่อมไม่มีทางทำอะไรเธอจริงๆ ยามอยู่ต่อหน้า ผู้คน ต่อให้รุ่ยทั้งที่อยู่ข้างหน้าจะรู้ดี ไม่มีทางหันกลับมามองแม้ เพียงแวบเดียวก็ตาม เขาสอดมือรวบผมเธอขึ้น ดูดดึงผิวกาย ตรงล่าคอเธอหนักๆ ไปที่

“อย่า…” เซี่ยซิงเฉินเอียงหลบ แต่มือของไปเย่นิ่งก็รั้งเข้าที่ ท้ายทอยระหงเธอไว้ไม่ให้โอกาสเธอหลบหนี
เขาดูดดึงอย่างแรง จนยอมถอย เซียซิงเฉินกดตรงนั้นไว้ บ่นอุบอิบ คราวก่อนตาก็ถามแล้ว คุณยังจะอีก…

ไปเย่นิ่งดึงมือลง ผิวขาวของเธอ พอมีรอยประทับ บางเบาอยู่ตรงนั้นยิ่งขับให้กว่าเดิม แถมยังยิ่ง เซ็กซี่

ริมฝีปากเขาดูดดึงปากเบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่า หลังจากเกิดกลับไปอย่าเวลาแต่เดียว…

ประโยคง่ายๆ ประโยคเดียว เซี่ยซิงเฉินต้องการเขาต่อตนออก และฟังความนัยของประโยคนั้นออก ฉะนั้นเธอจึงไม่

การมาเมืองเหลียงในครั้งเป็นตารางแล้วยามที่จากไป ย่อมต้องไปเงียบๆ

ไปเย่นิ่งลงจากรถสวมผ้าปิดปาก ดีสถานีไฟฟ้า ความเร็วสูงของเมืองเหลียงคนไม่มากนัก เธอถูกตลอดทาง จนส่งเขาพร้อมรุ่ยถึงบริเวณตรวจตั๋ว

ไปเถอะ คนขับรถจะส่งคุณกลับไป” ไปเย่นิ่งพูดยกับเธอ

“อืม คุณเข้าไปก่อนเถอะค่ะมือเธอยังเบาๆ มือ ของนาฬิกาบานใหญ่เหนือศีรษะแวบ เวลารอไม่อีกต่อไป
เซี่ยซิงเฉินเองก็รู้จึงค่อยๆ ดึงมือกลับไป

เขาไม่ได้อยู่ต่อนานกว่านี้ หมุนตัวจะเดินไป แต่คล้ายกับ นึกบางอย่างออก สองเท้าหยุดชะงักแล้วหันกลับมามองเธออีก ครั้ง เธอก้าวไปใกล้หนึ่งก้าว ถาม “มีอะไรอีกเหรอคะ?”

โทรศัพท์มือถือ ห้ามปิดเครื่องอีก! แล้วก็ห้ามวางสายผม ด้วย!” น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว

เซี่ยซิงเฉินฟังเช่นนั้นแต่ในใจกลับรู้สึกอ่อนหวาน “รู้แล้ว

สั่งเสร็จถึงได้เดินผ่านช่องตรวจตั๋วพร้อมรุ่ยทั้ง

เซียซิงเฉินยืนอยู่ด้านนอกมองไปยังแผ่นหลังของเขา จน กระทั่งลิฟต์ด้านล่างเลือนหายไป เธอถึงค่อยๆ ถอนสายตา กลับไป ความรู้สึกอึดอัดสุมอยู่ในอก คงจะ…ไม่อยากจากกัน ล่ะมั้ง?

เธอถอนหายใจ

ก็แค่หวั่นไหวกับเขาเล็กน้อยเท่านั้นไม่ใช่เหรอ? ทำไม ถึง….รู้สึกว้าเหว่เพียงเพราะห่างกันระยะสั้นๆ ได้ล่ะ? หัวใจ คล้ายกับว่าว่างเปล่า

คนขับรถส่งเธอถึงบ้าน เพิ่งลงจากรถก็เห็นคุณน้าคุณอา นั่งแทะเมล็ดทานตะวันอยู่ในบ้านและกำลังพูดคุยสัพเหระ มารดาเก็บผักอยู่ข้างๆ
เซียต้าไปไม่อยู่บ้าน คิดว่าคงไปเล่นกับตาเหมาเออร์เหมา แล้ว เซียซิงเฉินยิ้มทักทายทีละคนๆ หาเก้าอี้ตัวเล็กนั่งลงตรง หน้ามารดา พลางช่วยทำงาน

“ซิงเฉินเอ๋ย แฟนของหนูตกลงมีหน้าค่าตายังไงเนี่ย ทำไม ถึงใส่ผ้าปิดปากตลอดเลย หน้าก็มองไม่ชัด” คุณน้าสองถาม

เซี่ยซิงเฉินตอบกลับ “เขาป่วยนิดหน่อยค่ะ หนูกลัวว่าเขา จะแพร่เชื้อใส่ลูกเลยให้เขาใส่ผ้าปิดปาก ส่วนหน้าตาก็งั้นๆ พอไปวัดไปวาได้ล่ะค่ะ”

เธอนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาสุดแสนจะสมบูรณ์แบบของไป เฉิง ในใจเป็นสุขจนกลัวว่ามารดาจะรับรู้ถึงความคิดตน จึง ก้มหน้าให้ต่ำกว่าเดิม

“ต้าไปหน้าตาดีขนาดนั้นต้องเป็นเพราะยืนของพวกเธอ สองคนดีแน่ๆ อีกอย่างคุณพ่อของเด็กก็ต้องเก่งมากสินะ? วันนี้ มีคนขับรถมารับเขาไปอีกแล้ว เป็นเถ้าแก่ค้าขายรายใหญ่เห รอ?”

เซี่ยซิงเฉินสบตาเงินหมิ่นแวบหนึ่ง ไม่รู้จะอธิบายถึง สถานะของไปเยถึงอย่างไรดี เงินหมิ่นกล่าว “เก่งไม่เก่งไม่ว่า ที่ สำคัญคือนิสัยดี ต้องจริงใจต่อชิงเฉินถึงจะดี

“คำพูดนี้ของคุณแม่เงินพูดถูกแล้ว ซึ่งเฉิน พวกหนูกะจะ แต่งงานเมื่อไรเหรอ? ลูกโตขนาดนี้แล้ว น้าคิดว่ารีบแต่งเถอะ นะ นานวันเข้ากลัวเกิดเรื่องไม่ดี”

ทีนี้เซี่ยซิงเฉินก็เงียบลง ไม่ตอบ ทำเพียงแค่เก็บผักเงียบๆ

เงินหมิ่นเชยตาเล็กน้อย มองเธอแวบหนึ่ง ผมของเธอปรก มาตรงหน้า ร่อยรอยบนลำคอเพียงแค่แวบเดียวเธอก็เห็นแล้ว แต่เธอไม่ได้มองนานไปกว่านั้น เพียงแค่เก็บผักต่อไป แกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วถาม “ต้าไปรับที่เขาแต่งงานกับผู้หญิง

คนอื่นไม่ได้ ก็ต้องรับไม่ได้ถ้าลูกแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น

เหมือนกัน พวกลูกสองคนเคยคุยเรื่องแต่งงานกันหรือยัง?”

“ไม่เคยค่ะ” เซียซิงเฉินตอบตามตรง

แต่งงาน?

เธอรู้สึกว่าเรื่องนั้นสำหรับเธอและไปเย่นิ่งแล้วเหมือนจะ ห่างไกลไปจริงๆ พวกเขาทั้งสองในตอนนี้ อย่างมากก็อยู่ใน ช่วงลองรักกันดูเท่านั้น

กระทั่งความรัก ในครั้งนี้เพียงเริ่มต้นขึ้นเล็กน้อย ยังไม่ เป็นรูปร่างดี ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองในตอนนี้เปรียบ เหมือนไขที่กำลังจะฟักออกมาแต่ยังไม่ฟัก อ่อนแอมาก บางที ออกแรงบีบเพียงนิดเดียวก็สลายได้ ถึงขั้นไม่มีผลใดๆ

“เขาเป็นคนจริงใจดี แม่ดูแล้วชอบมาก แต่ว่าแค่แม่ชอบ มันไม่มีประโยชน์ พวกลูกสองคนอายุไม่น้อยแล้ว ต้องคิดถึง ปัญหาในชีวิตจริง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ