สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 149 หวั่นไหว (7)



ตอนที่ 149 หวั่นไหว (7)

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เพิ่งจะหกโมงกว่า ท้องฟ้าข้างนอกยังคงมืดมิด เซียซิงเฉินตื่นแล้ว ถ้าไปยังหลับอยู่ เซียซิงเฉินดึงผ้าห่มที่ถูก เด็กน้อยถีบจนแทบร่วงไปใต้เตียงนั่นขึ้นมาเสร็จถึงได้ค่อยๆ ออกจากห้องนอนของเขา ยังดีที่ห้องนี้คงอุณหภูมิที่ 20 องศา ไว้ตลอด ไม่หนาวไม่ร้อน ไม่งั้นเขาคงเป็นหวัดไปนานแล้ว

“คุณเซีย ท่านประธานาธิบดีเรียกให้คุณไปหาค่ะ” เมื่อ เธอออกจากห้อง ก็มีคนรับใช้มาเรียกเธอไว้

“มีอะไรเหรอ” เซียซิงเฉินเอ่ยถาม

“ท่านประธานาธิบดีไม่ได้บอกไว้ค่ะ

เซียซิงเฉินผงกหัว แล้วเดินไปทางห้องของเขา ไปเยถึงกำ ลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่ เห็นเธอเดินเข้ามาจึงชะงักมือหยุด ทำ เพียงพูดว่า “มานี่”

เธอเดินเข้าไปหาตามเสียงเรียก เขายื่นมือมาทางเธอ อย่างเป็นธรรมชาติ เธอก็ช่วยติดกระดุมแขนให้เขาอย่างเป็น ธรรมชาติเช่นกัน ไปเฉิงเผลอมองนิ้วเรียวของเธอที่กำลัง เคลื่อนไหวไปมาตรงกระดุมเพชรอันแวว ท่วงท่าของเธอ คล่องแคล่ว แผ่วเบา ยามก้มหน้าเส้นผมตรงกรอบหน้าก็ปรก อยู่ข้างแก้ม เขาเผลอทัดผมให้เธออย่างลืมตัว นิ้วเรียวกวาด ผ่านพวงแก้ม ปลายนิ้วล้วนเป็นสัมผัสแสนบางเบา
ความอุ่นร้อนน้อยๆ แล่นผ่านพวงแก้ม เซียซึ่งเฉินสะดุ้งจน เผลอเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับเขาเข้า เธอค่อนข้างอึดอัด จึงทำเพียงแสร้งเอ่ยอย่างเป็นปกติ “เรียกหาฉันเช้าขนาดนี้ คง ไม่ใช่แค่ให้ฉันมาช่วยคุณติดกระดุมหรอกนะ

คนรับใช้นำเสื้อสูทของเขาวางไว้ข้างๆ เธอยื่นมือไปลูบครู หนึ่ง มันบางมาก จึงเอ่ยไปอย่างลืมตัว “เปลี่ยนเป็นตัวที่หนา กว่านี้เถอะค่ะ วันนี้ได้ยินว่าจะมีฝนตกอุณหภูมิจะลด อากาศจะ ยิ่งหนาวนะคะ”

สิ้นประโยคถึงได้รู้ตัวว่าเหมือนตัวเองจะเป็นห่วงเกินไป จึงเงียบปากไม่กล้ามองเขาไปมากกว่านี้ เขาเผยยิ้มบางเบา รู้สึกอุ่นไปทั้งใจ “จะพกเสื้อกันหนาวไป วันนี้ประชุมในห้อง ตลอด ไม่เป็นอะไรหรอก

“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ” เสียงเธอแผ่วเบากว่าเดิม พยายามหาเรื่องคุย “เมื่อกี้ที่ถามคุณไปคุณยังไม่ตอบฉันเลย

“เรื่องของหลี่หลิง อยากจะจัดการยังไง” ไปเฉิงถาม เธอ ความจริงแล้วเขาเป็นคนที่ไม่มีสิทธิ์จัดการหลี่หลิงมาก ที่สุด เรื่องน่าเศร้าทั้งหมดเกิดจากตัวเขาเองทั้งนั้น

เอ่ยถึงเรื่องนี้ แววตาเซียซิงเฉินก็หม่นลงบางส่วน เผยยิ้ม ขมขื่น “งั้นฉันก็ต้องจัดการคุณก่อนใช่ไหม”

ไป๋เย่นิ่งมองเธอด้วยสายตาล้ำลึก “ผมนึกมาตลอดว่าคุณ เข้าใจถึงเงื่อนไขข้อตกลงระหว่างเราดี แถมยังเต็มใจ…ขอโทษจริงๆ”

คำขอโทษสุดท้าย หนักแน่นและจริงใจ

ความจริงเซี่ยซิงเฉินโทษเขา ความโกรธที่สะสมมาตั้งแต่ ก่อนเจอเขา นับวันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทว่าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ความ โกรธนั่นกลับค่อยๆ มลายหายไป อาจจะ …ตั้งแต่รู้จักเขา รู้จัก ตัวตนที่แท้จริงของเขา จากนั้นเริ่มเป็นห่วงเขา รักเขา เคารพ เขา พึ่งพาเขา จากนั้นก็โกรธไม่ลงอีกเลย

เธอถอนหายใจยาวไปที จัดการความรู้สึกได้แล้วจึงเอ่ย “ทางหลี่หลิงฉันจัดการเองก็พอค่ะ เช้านี้ฉันจะไปพบเธอ”

เขาเงียบไปเพียงครู่ จึงเอ่ยปาก ถ้ามีอะไรให้ช่วย บอก ผมนะ”

เธอพยักหน้า “ฉันรู้ค่ะ

เดิมทีเซียซิงเฉินอยากถามเขาว่าจะจัดการเรื่องงานแต่ งกับซึ่งเหวย อย่างไร แต่ว่านั่นคงเป็นเรื่องของการเมือง ถ้า เธอถามเยอะแล้วล่วงเกินถึงเรื่องลับเฉพาะคงแย่แน่ จึงไม่เอ่ย ปากไป

ทำเพียงนึกถึงอีกเรื่องพร้อมเอ่ย “ฉันมีเรื่องจะถามคุณค่ะ”

“อะไรเหรอ” ไปเยถึงแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ปากเอ่ยถาม พร้อมเอ่ยชักชวนไปด้วย “ลงไปทานข้าวเช้ากับผม

เซี่ยซิงเฉินหยิบเสื้อสูทที่เขาวางไว้ขึ้นพาดแขนอย่าง ระมัดระวังแล้วก้าวตามเขาไป เขาหันกลับมามองเธอ ภาพที่เห็นนั้นทำให้เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เซี่ยซิงเฉินถูกเขาจ้องมองจน ทำตัวไม่ถูก เอ่ยเพียง “เดี๋ยวคนรับใช้ต้องขึ้นมาเอาอีก มันเสีย เวลา”

“อืม” เขาเห็นด้วย มือหนึ่งดึงเสื้อไปพาดไว้บนแขน อีกมือ กุมมือเธอไว้ เดินลงไปชั้นล่าง

ฝ่ามือเขาทั้งอุ่นทั้งแรงเยอะ เซียซิงเฉินเสหน้ามองเขา ไม่ ได้ดึงมือออก เขาที่เดินนำอยู่เอ่ยถาม “มีเรื่องอะไรจะถามผมเห รอ”

เธอหลุดจากภวังค์ “คืนเมื่อวานซืนคุณยุ่งกับมือถือฉันใช่

“ทําไม”

“มีข้อความหนึ่งของฉันถูกคุณลบไปใช่ไหม

ทีนี้เขาถึงหันกลับมามองเธอแวบหนึ่ง ไม่ส่งเสียงตอบรับ เซียซิงเฉินเอ่ยถามไปอีกประโยค “ข้อความของสวีเหยียน

“คุณสนใจข้อความจากเขามากเลยเหรอ” ไปเยถึงเอ่ย ปากอีกทีน้ำเสียงกลับเรียบนิ่งกว่าเดิม ฝีเท้าก้าวยาวขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยซิงเฉินที่สวมรองเท้าแตะอยู่นั้นก้าวตามอย่างยากลำบาก ถูกเขาลากจนวิ่งเหยาะๆ ถึงตามทันได้ “คุณช้าหน่อย ฉันจะล้ม แล้ว”

จู่ๆ ไปเย่นิ่งก็หันตัวกลับมา เธอที่ไม่ทันตั้งตัวจึงชนเขาเข้า อย่างจัง เธอถอนหายใจเบาไปที่ เกือบล้มลงไปแล้ว ยังดีที่มือเขาไวพอจะรั้งเอวเธอไว้ เธอถึงได้ยืนมั่นคงอย่างทันท่วงที

“คุณทำฉันตกใจนะ!” เซียซึ่งเป็นสติยังไม่กลับมา ถลึงตา มองเขา

“คุณคิดยังไงกับสวี่เหยียนกันแน่” ไปเย่นิ่งไม่ได้รับรู้ถึง ความขุ่นเคืองของเธอเลยสักนิด ทำเพียงแค่จ้องมองเธอด้วย สายตาเรียบนิ่ง “คุณยังไม่ลืมเขาอีกเหรอ เลิกกันไปตั้งหลายปี ขนาดนี้ยังไม่คิดจะตัดขาดกับเขาอีกเหรอ ในขณะที่บอกว่า เคารพผม ชื่นชมผม รู้สึกดีกับผม คุณกลับตัวติดกับเขา เชียง เฉิน คุณจะหลายใจเกินไปหรือเปล่า

ไปเย่นิ่งพูดจบ เซี่ยซิงเฉินก็แทบอยากจะขุดหลุมฝังตัวเอง เสียตรงนั้น ทั้งชั้นบนชั้นล่างเต็มไปด้วยคนรับใช้ ค่าพูดเหล่านี้ ของเขา ทุกคนได้ยินกันหมดแล้ว

ที่เธอบอกว่า “เคารพ ชื่นชม! รู้สึกดี” นั้นพูดเพื่อตัด ความสัมพันธ์กับเขาในทีแรกต่างหาก ทำไม…พอออกจากปาก ของเขา ในตอนนี้กลับกลายเป็นคำสารภาพรักไปแล้วล่ะ?!

“ใช่ค่ะ ฉันก็หลายใจแบบนี้แหละ อีกอย่างก็บอกแล้วว่า

แค่รู้สึกดีเล็กๆ อนุญาตให้ฉันรู้สึกกับคุณได้ แต่รู้สึกกับคนอื่น

ไม่ได้เหรอ” เซี่ยซิงเฉินจงใจพูดไปแบบนั้น แค่ฟังก็รู้ว่าไม่ใช่

ความจริงเลย จากนั้นก็แสร้งทำเป็นโกรธถลึงตามองเขา “ว่า

แต่คุณเถอะ มาลบข้อความฉันไปเรื่อยได้ยังไง ตัดโอกาสฉันเห

รอ”

ไป๋เย่ฉิงหน้าบูดบึงแทบแย่ มือรั้งเอวเธอเข้าใกล้อีกช่วงหนึ่ง แค่นหัวเราะ “แค่รู้สึกเล็กน้อยจริงเหรอ งั้นคุณบอกผมมา สิว่าคืนนั้น ทั้งที่โทรไปเรียกรถที่เบอร์แท็กซี่ ทำไมถึงโทรเข้า เครื่องผมได้ล่ะ”

” เซี่ยซิงเฉินก็รู้สึกว่าตนนั้นโง่จริงๆ “ฉันเมา มองไม่ชัด ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนคุณสักหน่อย…

“ถ้าอย่างนั้น…ในมือถือคุณ ว่าที่สามี คืออะไร

พอสบตาที่หยอกเย้าของเขา ใบหน้าของเซียซิงเฉินก็แดง แปร๊ดทันที เธอรู้ว่าเขารู้แล้วแน่นอน! แต่ว่า….

“คุณต้องเข้าใจผิดไปแน่ๆ! จริงๆ นะ…นี่เป็นการเข้าใจผิด จริงๆ!” เซี่ยซิงเฉินอธิบาย ตอนที่ไปเย่งเห็นเข้าคงจะคิดว่าตน เป็นพวกเพ้อเจ้อ แม้แต่ในฝันก็ยังอยากจะแต่งงานกับเขาสินะ

“คุณมีความคิดแบบนั้นพูดกับผมตรงๆ ก็ได้ ไม่จำเป็น ต้องแอบขนาดนี้”

” ฉันไม่มีความคิดแบบนั้นจริงๆ นะ!” เซี่ยซิงเฉินรู้สึกว่า ตนถูกเข้าใจผิด รีบอธิบาย “นั่นเป็นเพราะเซียต้าไปจอมซนนั่น ต่างหาก หยิบมือถือฉันไปแล้วตั้งอะไรก็ไม่รู้ ฉันอยากแก้ไม่ต่ำ กว่าร้อยรอบ ขอร้องก็แล้ว ติดสินบนก็แล้ว หรือแม้แต่จะตีก็ แล้ว แต่ว่าก็ไม่ได้ผล ลูกไม่ยอมให้ฉันเปลี่ยน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ