สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 332 จดทะเบียนสมรส



ตอนที่ 332 จดทะเบียนสมรส

“เธอรีบพาคุณจึงขึ้นไป หยูเจ๋อหนันเห็นโอกาสก็รีบสั่งคนรับ

ใช้ให้พยุงตัวจึงอลุกขึ้นจากโต๊ะ บนโต๊ะอาหารในยามนี้และ ไปหมด ส่วนเธอก็หมดสภาพเช่นกัน

ขณะเดินผ่านหยูเจ๋อหนันเธอพูด “ขอบคุณ” ให้หยูเพื่อหนุน เบาๆ น้ำเสียงนั้นแผ่วเบาเหมือนขนนกที่ไร้น้ำหนักท่ามกลางอากาศ

สองพยางค์นั้นกลับทำให้หนูเจ๋อเหยายืนกำมือแน่นอีก

หยูเจ๋อหนันเพียงแค่ปรากฏตัวขึ้นในวันนี้แล้วพูดขอชีวิตครั้ง

ให้เธอไปไม่กี่คำก็ได้คำขอบคุณจากใจเธอได้

ส่วนตัวเอง…

ละทิ้งท่าทีเย่อหยิ่งยามอยู่ต่อหน้าเธอ ทะนุทนอมเธอยังไม่

ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ต่อให้ทำถึงขนาดนี้ก็ไม่เคยได้สีหน้าดีใจ

อย่างจริงใจจากเธอสักครั้ง

จะพอใจได้อย่างไร?

“จึงอ!” จู่ๆ เขาก็เปิดปากพูดเสียงนิ่ง มือใหญ่ในหน้า โต๊ะไว้ เกร็งแน่นก่อนจะผ่อนคลายลง สุดท้ายก็กำแน่นราวกับ พยายามสกัดกลั้นอารมณ์โกรธ
ฝีเท้าจึงอวหยุดชะงัก หัวใจสั่นวูบทันที

“ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร คู่หมั้นคนก่อนกลับมาเลยอยู่ กับผมต่อไม่ได้แล้วใช่ไหม?” เธอไม่ได้หันกลับไปมองเขา คำ พูดนี้แทนที่จะบอกว่าเป็นประโยคคำถาม บอกว่าเป็นประโยค บอกเล่าคงจะถูกกว่า

ริมฝีปากของจิ้งอวี้ขยับคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ สุดท้ายก็ไม่ได้ตอบโต้ ต่อหน้าหมูเจ๋อเหยายังมีอะไรให้ต้อง อธิบาย? ปกติเขาว่าอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น

“อยากไปจากผม ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ รอให้ผมเบื่อก่อน คุณจะไปก็ไปได้ แต่… เทียบกับเมื่อครู่แล้วคำพูดจากหยูเจ๋อ เหยาในยามนี้เงียบสงบมากกว่า เขาหมุนตัวกลับไปใช้สายตา เย็นยะเยือกมองแผ่นหลังที่นิ่งเกร็งของเธอ “ก่อนที่ผมจะเบื่อ ทางที่ดีคุณอย่าทำให้ผมโกรธ ไม่อย่างนั้น…อย่าหาว่าผมไม่ ปรานีกับเขา!

ประโยคสุดท้ายเน้นเสียงหนักและแอบแฝงด้วยความโหด เหี้ยม

จึงอสูดหายใจเข้าลึก สุดท้ายก็ไม่ตอบอะไรพลางเดินขึ้น

ไปชั้นบน

ตลอดทางไม่หันกลับมามองเขาแม้แต่แวบเดียว ยิ่งไม่ได้ ตอบโต้คําพูดเขาแต่เขารู้ว่าเธอได้ยินคำขู่ของเขาแล้ว

หยูเจ๋อเหยานั่งลงไปใหม่ คนรับใช้เก็บอาหารเช้าทั้งหมดออกไปแล้วเปลี่ยนใหม่ ทุกคนเพียงตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง แม้แต่สีหน้าก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราวกับเมื่อครูไม่มีอะไรเกิด

สง่า

เขากลับมาสุขุมดั้งเดิมแล้วทานอาหารเช้าต่อด้วยท่วงท่า

มีเพียงมือที่กำแน่นซึ่งบ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาในตอนนี้

หยูเจ๋อหนันถอนหายใจ นั่งลงเป็นเพื่อนเขาและทาน อาหารเช้า ไม่ส่งเสียงไปพักหนึ่ง

“มีอะไรก็พูด แกไม่ใช่คนที่ตื่นเช้าแบบนี้” สุดท้ายก็เป็นห ยูเจ๋อเหยาที่เปิดปากพูดก่อน

“พี่ พี่จะทำแบบนี้กับผู้หญิงไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่รัก ขนาดนี้” หยูเจ๋อหนุนระบายที่อัดอั้นอยู่ภายในใจ

หยูเจ๋อเหยาเหลือบมองเขาแวบหนึ่งด้วยสายตาไม่พอใจ

ไม่อยากฟังเขาพูดสั่งสอนอย่างเห็นได้ชัด

“ได้ๆๆ ผมไม่พูดเรื่องนี้ก็ได้” หยูเจอหนุนที่ถืออาหารเช้า อยู่ยกขึ้นพร้อมท่าทีจนใจ หยูเจ๋อเหยาเก็บสายตาแล้วเขาถึง วางมือลง ฉีกครัวซองต์เข้าปากต่อไป พลางหันมองเขาเหมือน ลองหยั่งเชิงดูพร้อมกล่าวอย่างระแวง “คือ….มีเรื่องหนึ่งที่ผม ต้องบอกพี่ แต่ว่าพี่ต้องห้ามโมโห

มือที่ถือซ้อนของหยูเจ๋อเหยาชะงักค้าง ก่อนจะหันมองน้อง ชายของตัวเอง “แกสร้างเรื่องอะไรอีก?
“ก็ไม่ถือว่าสร้างเรื่องมั้ง?

“ลองพูดมา”

“ก็คือ…เมื่อคุณหญิงหลันถึงโทรหาผม ถามถึงลูกสาว ของเธอ ผมก็เลยบอกความจริงไป” ประโยคสุดท้ายเขาพูด อย่างรวดเร็ว เห็นสีหน้าที่เริ่มแย่ของหนูเจ๋อเหยาแล้วจู่ๆ เขาก็ ลุกพรวดยืนหลบห่างไปเป็นเมตร หยิบส้อมพร้อมจานเป็น อาวุธและที่กำบังใบหน้าตัวเอง โผล่ให้เห็นแค่ดวงตาทั้งคู่ “พี่ พี่จะโทษผมไม่ได้นะ ไปเยฉิงตามสืบได้ว่าลูกสาวของคุณหญิง คือซิงเฉิน พี่ลองคิดแม้แต่ไปเฉิงยังสืบได้ ถ้าผมปิดบังต่อ ไปก็มีแต่ทำให้คุณหญิงไม่สบายใจ เลยไหลตามน้ำไป ที่ผมทำ ก็เพื่อพี่เลยนะ”

หยูเจ๋อเหยาไม่ได้โมโหใส่หนูเจ๋อหนันจริงๆ เพียงเงียบไป ครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบมองที่นั่งว่างเปล่าข้างกายแวบหนึ่ง “กลับ มานั่ง

“พี่ต้องสัญญาก่อนว่าไม่ทำอะไรผม

“ถ้าฉันจะทำอะไรแก แกคิดว่าแค่ยืนอยู่ตรงนั้นจะรอดเหรอ?”

ก็ใช่ฝีมือของพี่ชายไม่ใช่สิ่งที่เขาจะหลบหลีกได้เลย

หยูเจ๋อหนันคิดแล้วจึงวาง อาวุธ ลงแล้วกลับไปนั่งอย่าง เชื่อฟัง หยูเจ๋อเหยาถาม “คุณหญิงมีปฏิกิริยายังไง? จะกลับประเทศไหม?”

“จะว่าไปก็แปลก” หยูเจ๋อหนันเอียงหัวครุ่นคิด “คุณหญิง ชอบซิงเฉินมากเลยไม่ใช่เหรอ? ตามปกติแล้วถ้ารู้ว่าซิงเฉิน เป็นลูกสาวของเธอ เธอต้องดีใจมาก แต่…ผมฟังเสียงเธอ แล้วเหมือนไม่ดีใจเท่าไร กลับดูเศร้าใจมากกว่า ไม่สิ ยิ่งกว่า เศร้าใจอีก เหมือนช็อกไปแล้ว แถมยังพูดพึมพำอยู่ตลอดว่า ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้…

ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ หยูเนื้อหนันพูดเลียนเสียง ของคุณหญิง

หยูเจ๋อเหยาครุ่นคิดสักพักก็หยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องนี้ เดี๋ยวฉันจะไปตรวจสอบดู แกไม่ต้องสนใจแล้ว

“พี่ ตรวจสอบก็ส่วนของตรวจสอบ แต่พี่จะทำอะไร…

“ในเมื่อคุณหญิงรู้ความเป็นอยู่ของลูกสาวแล้วต้องกลับ ประเทศแน่ๆ” หยูเจ๋อเหยารู้ว่าเขาต้องการพูดอะไรจึงเอ่ยขัดห ยูเจ๋อหนัน พลางกล่าวต่อ “แกไปเช็คเที่ยวบินจากประเทศ M มาเมืองหลวงเราเที่ยวที่เร็วที่สุด คุณหญิงต้องอยู่บนเที่ยวบิน นั้นแน่ๆ แล้วแกก็จัดการไปต้อนรับให้ดี

“พี่”

“แกไม่ต้องพูดมาก ฉันรู้อยู่แก่ใจ

“เชอะ!” หยูเนื้อหนันแค่นเสียงออกมาทีก่อนจะใช้ส้อมจิ้ม เส้นหมี่ในจาน “ผมช่วยก็ส่วนช่วย แต่ว่าผมก็ขายเพื่อนไม่ได้พี่อย่าบังคับให้ผมต้องเป็นคนเลว

“แปลว่าแกไม่อยากได้เซียซิงเฉินแล้วเหรอ? จะยอมเป็น แค่เพื่อนงั้นเหรอ?”

หยูเจอหนุนชะงักไปครู่ก่อนจะนึกถึงเซียต้าไป สุดท้ายทำ เพียงสายศีรษะ “ความจริงเป็นแค่เพื่อนก็ดีเหมือนกัน”

เขามีลูกกันแล้ว อีกทั้งครอบครัวสามคนก็ดีอยู่แล้ว ต่อให้ เขาอยากเข้าไปแทรกก็ไม่มีแม้แต่ช่องให้เขาได้ทำ! แล้วจะไป หาเรื่องให้ตัวเองทำไมล่ะ?

รถยนต์ที่เคลื่อนตัวอยู่ในที่สุดก็ถึงสำนักงานเขต

“ท่านครับ ถึงแล้ว

เสียงเหลิงเฟยดังมาจากด้านหน้าก่อนที่ไปเยถึงจะหยัก หน้าเบาๆ พลางพูดสั่ง “ให้ด้านในรีบเตรียมพร้อม

เหลิ่งเฟยรู้ว่ายามนี้พูดอะไรไปคงไม่มีความหมาย จึงรับ เสียง “ครับ” ก่อนจะเดินนำลงจากรถ เซียต้าไปกระโดดลงจาก รถเป็นคนแรก เซี่ยซิงเฉินที่ตามหลังมาคอยพูดเตือนให้ระวัง

ไป๋เย่งถือเอกสารของทั้งสองไว้แล้วเดินลงจากรถ ใช้ สายตาเรียบนิ่งมองสำนักงานเขต ดึงเซี่ยซิงเฉินมายืนข้างตน

คนอื่นต่างยืนเฝ้ารออยู่หน้าประตู ทันใดนั้นเองรุ่ยทั้งที่ไป

รับเงินหมิ่นก็มาถึงพอดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ