สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 333 คู่สร้างคู่สม



ตอนที่ 333 คู่สร้างคู่สม

คนที่เหลือต่างก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ทันใดนั้นเองเงินหมิ่นที่รุ่ย ยังเป็นคนไปรับก็มาถึง

“คุณยาย!”

“แม่!”

เซี่ยต้าไปวิ่งตึงตังเข้าหาแล้วกอดขาเงินหมิ่นไว้ เชียง เฉินหันกลับมาเอ่ยทัก

“น้าเงิน” ไปเย่นิ่งเดินตามหลังทั้งสองคน แต่เทียบกับ อารมณ์ร่าเริงของทั้งคู่แล้วสีหน้าของเขากลับตึงเครียดกว่า

เงินหมิ่นมองเขาแวบหนึ่ง “เมื่อคืนหลับไม่สนิทหรือเปล่า

สีหน้าดูไม่ค่อยดีนะ”

ไปเย่นิ่งสายศีรษะแล้วพูดเสียงเรียบ “อาจเป็นเพราะช่วงนี้ ยุ่งเกินไปครับ

เงินหมิ่นไม่ได้ถามมากความต่อจึงกล่าวเพียง “เราเข้าไป กันเถอะ ข้างนอกหนาวมากเลย

เซี่ยซิงเฉินพยุงเงินหมิ่น พลางเดินนำอยู่ด้านหน้า เชียง เฉินถาม “เมล็ดที่ลูกให้แม่เอามาเมื่อคืน แม่เอามาไหม?

“เดี๋ยวก็แต่งงานแล้วยังคิดเรื่องนี้อยู่อีก!
“ลูกตกลงกับคุณอาเขาไว้ไง จะผิดคำพูดตั้งแต่วันแรกที่

แต่งงานไม่ได้นะ

เงินหมิ่นแตะเข้าที่ปลายจมูกเธอที่พร้อมพูดหยอกเย้า “ยัง ไม่ทันแต่งเข้าบ้านเลยก็วิ่งมาขอของรักแม่ให้ครอบครัวสามีซะ แล้ว”

คำว่า “ครอบครัวสามี ทำให้เสียซิงเฉินใบหน้าแดงระเรื่อ

เผลอหันกลับไปมองชายหนุ่มที่เดิมตามหลังแวบหนึ่ง เขา กำลังพูดสั่งเหลิงเฟยบางอย่างอยู่จึงเห็นแค่มุมข้างของเขา แต่ ยังรู้สึกได้ถึงความเย็นชาของสีหน้าได้ เซียต้าไปก็เดินเงยหน้า มองเขาอยู่ข้างๆ ตลอดทาง

ตั้งแต่วันนี้ไปผู้ชายคนนี้ผู้ชายที่ผู้คนเคารพนับถือ จะ เป็นสามีของเธออย่างแท้จริงแล้ว…

ภายในใจของเซี่ยซิงเฉินเกิดความรู้สึกบางอย่างพรุ่ง

พล่านอยู่จนยากจะอธิบาย

ไปเย่นิ่งเดินเข้าไปพร้อมเชี่ยซิงเฉิน คนของสำนักงานเขต มายืนเป็นแถวรอแต่เช้าแล้ว

“ท่านประธานาธิบดี คุณนาย!” ทุกคนต่างก็ก้มหัวทักทาย อย่างพร้อมเพรียง อดลอบเงยหน้าขึ้นมองไปทางเซียซิงเฉินไม่ ได้ ทุกคนล้วนสงสัยเกี่ยวกับหญิงสาวที่สามารถแต่งงานกับ ท่านประธานาธิบดีว่าเป็นคนอย่างไร
เดิมที่คิดไว้ว่าต้องเป็นคุณหนูของตระกูลใดแน่ๆ แต่พอ ทุกคนมองเซียซิงเฉินไปพักหนึ่งก็ยังดูไม่ออก

นี่เป็นคุณหนูตระกูลไหนกันล่ะ?

คำว่า “คุณนาย สำหรับเธอแล้วช่างประหลาด แต่พอฟัง แล้วก็อดใจเต้นไม่ได้ เงยหน้ายิ้มให้พวกเขาไปที่ถือเป็นการ ตอบรับ ไปเยงโบกมือเป็นเชิงให้พวกเขาออกไป เหลือเพียง คนที่เป็นฝ่ายจดทะเบียนเพียงคนเดียว

เงินหมิ่นและเซี่ยต้าไปนั่งอยู่ข้างๆ เหลิงเฟยก็ยืนนิ่งอยู่

ข้างไป๋เย่นิ่ง

“ท่านประธานาธิบดี คุณนาย เชิญกรอกข้อมูลของทั้งสอง ท่านตรงนี้” พนักงานพูดพลางแจกเอกสารไว้ตรงหน้าพวกเขา ทั้งสอง เหลิงเฟยรีบหยิบปากกาที่ท่านประธานาธิบดีใช้ประจำ ออกมาแล้ววางไว้บนมือเขาอย่างนอบน้อม

ไปเฉิงกรอกข้อมูลของตัวเองไปก็มองเวลาไปแวบหนึ่ง เหลือบมองเธอที่ยังไม่ขยับก็ขมวดคิ้วผลักเธอเบาๆ “ยังนิ่งเฉย อยู่ทำไม? รีบกรอก

พอจะดูออกว่าเขารีบร้อนมากจริงๆ

เชียซิงเฉินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกรอกข้อมูลของตัวเองไป

เงียบๆ

“ได้ทะเบียนสมรสแล้วตอนบ่ายเราก็ไปดูบ้านกัน

“ดูบ้านเหรอคะ?” เซี่ยซิงเฉินหันข้างมองเขา
“ซื้อบ้านที่เหมาะสำหรับครอบครัวอยู่ด้วยกัน ไปเยถึงเส มองมาทางเธอแวบหนึ่งด้วยแววตาที่ล้ำลึก “จากนี้ถ้าวันหนึ่ง ผมไม่มีอะไรแล้ว เราสามคนก็จะอยู่แบบคนที่ไม่มีอะไร

ประโยคนี้พูดง่ายดายเหมือนกำลังล้อเล่น แต่เซียซิงเฉินก ลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาวูบหนึ่ง ไม่รู้ทำไมจู่ๆ คำพูดของหลี่ห สิ่งที่กล่าวกับตนก่อนหน้าก็ผุดขึ้นในหัว

ถ้าเธอดึงดันจะอยู่กับเขา มีแต่จะทำให้เขาสูญสิ้นทุก อย่างไป

มือที่กำปากกาไว้สั่นเล็กน้อย

“ชอบมองผมขนาดนี้เลยเหรอ?” ไปเฉิงยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หนึ่ง มือบีบคางเธอไว้แล้วจับหน้าเธอหันกลับไปยังที่เดิมเพื่อให้ สายตาเธอจรดแผ่นกระดาษบางๆ ตรงหน้า “รอให้ได้ทะเบียน ก่อนกลับไปค่อยให้คุณดูให้พอ ตอนนี้รีบกรอกซะดีๆ

เซี่ยซิงเฉินหลุดหัวเราะ พยายามสกัดกลั้นความไม่ สบายใจนั้นลงไป “มีคนที่หลงตัวเองอย่างคุณอีกไหม? ข้าง นอกยังมีคนคอยมองอยู่เลย!

ไปเยถึงเบ้ปาก ไม่ได้เงยหน้าแต่อย่างใด “พวกเขามีแต่ จะเห็นด้วยกับคําพูดผม

“คนหลงตัวเอง”

เขาโน้มตัวเข้าใกล้ชิดจ้องมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งน่า หลงใหล “คุณนายไป คนนอกยังมองอยู่ ยังไม่ทันแต่งเข้าบ้านก็เริ่มกระแนะกระแหนสามีตัวเองแล้ว เหมาะสมเหรอ?”

เซียซิงเฉินหัวเราะแล้วบีบมือเขาอย่างออดอ้อน เผลอเสีย หน้ามองคนรอบข้างก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะพร้อมกัน เห็นคู่รักที่ เป็นคู่สร้างคู่สมแต่งงานกัน ความสัมพันธ์ก็ดีขนาดนี้ พลัน ทำให้ฤดูหนาวนี้อบอุ่นขึ้นทันตา

เหลิงเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ คอยมองพวกเขาทั้งสองแบบนี้ แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายลง ยังไงลูกก็มีแล้ว แค่ไม่ถูกเปิดโปงต่อ หน้าสาธารณชนก็ถือว่าไม่เคยมีความลับนี้แล้วกัน

“ท่านประธานาธิบดี!” ทันใดนั้นเองก็มีคนเดินเข้ามาอย่าง รีบร้อน

ไปเยถึงเงยหน้าขึ้น “มีเรื่องอะไร

“ข้างนอก…คุณท่านกับคุณหญิงมาครับ บอกว่าจะเข้ามา สีหน้าของเขาเรียบตึง เหลือบมองเหลิงเฟยข้างกายแวบ หนึ่งก่อนที่เหลิงเฟยจะกล่าว “ผมออกไปดูเอง

สีหน้าของเขาเรียบนิ่งขึ้นมาก เซี่ยซิงเฉินเองก็เริ่มกังวลใจ จนเผลอมองไปด้านนอกแวบหนึ่ง ระยะห่างถึงประตูใหญ่ของ สำนักงานเขตมีประตูอีกบานหนึ่งขวางกั้นไว้อยู่ มีเสียง โวยวายดังลั่นของคุณท่านอยู่เนืองๆ

ดูท่า…
ก่อนหน้านี้เธอจะมองโลกในแง่ดีเกินไป เห็นได้ชัดว่าคุณ ท่านไม่ได้ยอมรับเธอ

“ไม่ต้องคิดมาก เขียนของคุณไป

“แน่ใจว่าจะไม่ออกไปทักทายพวกท่านหน่อยเหรอคะ? แบบนี้จะทำให้คุณถูกมองว่าอกตัญญูหรือเปล่า?

“เรื่องกตัญญูทดแทนได้ แต่คุณ วันนี้ผมต้องได้

เซี่ยซิงเฉินกัดปาก

เงินหมิ่นที่นั่งตรงข้ามยังคงไม่วางใจ ให้ต้าไปลงจากตัก

แล้วพูด “ฉันออกไปดูสักหน่อย

“น้าเงิน นั่งลงครับ!” ไปเย่นิ่งอ้าปาก

เงินหมิ่นมองเขาอย่างฉงนใจ รู้สึกแต่ท่าทางตื่นตัวเล็ก น้อยของเขาอย่างเดียว เขาเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์ ถึงพูดเสริมอีกประโยค “ท่านนั่งลงก่อน เรื่องข้างนอกไม่ต้อง สนใจครับ มีคนคอยดูอยู่

เงินหมิ่นยังคงไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายก็พยักหน้าแล้วนั่งลงด้านนอก

คุณท่านไป คุณท่านรองไปและคุณหญิงไปอยู่ข้างนอก อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เหลิงเฟยสั่งให้คนห้ามไว้ “คุณท่าน ขออภัยครับ ท่าน ประธานาธิบดีสั่งไว้ห้ามใครเข้าไป

“ห้ามใครเข้าไปงั้นเหรอ! ฉันไม่สน!” คุณท่านขบกราม แน่นจนเส้นเลือดปูดโปนออกมา ยกไม้เท้าขึ้นแล้วพุ่งตัวไปทาง เหลิงเฟย “ฉันว่าแกเป็นพวกเดียวกับมัน! แกจะไม่รู้เหรอว่ามัน กำลังทำเรื่องบ้าๆ อยู่

คุณท่านโกรธจนควันออกหู เดิมทีก็ไม่มีที่ให้ระบายแล้ว

ตอนนี้ยังไม่ปรานมากกว่าเดิม

เขาฟาดไม้เท้าลงบนตัวเหลิงเฟยเป็นครั้งๆ ราวกับแส้ แค่ สองทีก็ทำให้เนื้อตัวเกิดแผลปริออกมา แต่เหลิงเฟยก็เป็น ทหารเช่นกันจึงแข็งแรงกว่าคนทั่วไป เกร็งตัวแน่นไม่หลบหลีก ไม่แม้แต่จะส่งเสียงสักนิด

“พอแล้วคุณ ไม่ต้องตีแล้ว! ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตีคนนะ! คุณหญิงไปคว้าไม้เท้าของคุณท่านไว้ แล้วถลึงตามองเหลิงเฟย แวบหนึ่ง “แกยังไม่หลีกไปอีก! อยากโดนฟาดจนตายหรือไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ