สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 300 ความรู้สึกรัก (8)



ตอนที่ 300 ความรู้สึกรัก (8)

“คำพูดของหลี่หมิงเมื่อวานเธอก็อย่าเก็บไว้ในใจนะ ยัยนั่นก็ พูดมั่ว เธอดูสิ วันนี้ฉันไม่เจอเนื้อคู่แน่ๆ เธอว่าฉันทำงานทั้งวัน ไม่ได้ไปไหนเลย ฉันจะเจอเนื้อคู่ได้ยังไง ใช่ไหมล่ะ?”

เซี่ยซิงเฉินกระตุกยิ้มมุมปาก วางแก้วน้ำชาลง “ความจริง ฉันไม่ได้เก็บไว้ในใจอยู่แล้วล่ะ เรื่องความรักถ้าทำนายจากไฟ ไม่กี่ใบได้ โลกนี้ก็คงไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านความรักมากมาย หรอก ใช่ไหม? อีกอย่าง…

กล่าวถึงตรงนี้เธอก็หยุดชะงักไปนิด นึกถึงผู้ชายคนนั้น หัวใจก็สงบลงมากขึ้น “ฉันเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างเรา

“ไม่ส่งผลต่อเธอก็ดีแล้ว ไม่งั้นฉันต้องรู้สึกผิดมหันต์แน่

หลี่หมิงประกบมือทั้งสองข้างประกอบท่าทาง

เซี่ยซิงเฉินสายศีรษะเป็นเชิงว่าไม่ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ

ไม่ว่าอย่างไรทุกความรู้สึกก็กลับกลอกไปมาเป็นร้อยเป็น พันรอบอยู่แล้ว เพราะเหตุนี้ถึงได้สำคัญยิ่งกว่าเดิม มันทำให้มี เยื่อใยมากเป็นพิเศษ หากระหว่างพวกเขาต้องผ่านอุปสรรคอัน แสนโหดร้ายเพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน อย่างนั้นแล้ว…ทั้งคู่ก็คงยิ่ง รักกันและกันมากขึ้นสินะ?

ฉะนั้นแล้วหากมีวันนั้นจริงๆ ก็ถือว่าทั้งหมดนี้เป็นบททดสอบสําหรับทั้งคู่แล้วกัน

เซี่ยซิงเฉินคิด ในแง่ดีแต่เธอกลับไม่เคยคาดว่า….

ช่วงบ่าย

เซียซิงเฉินกำลังดูเวลา

เขาบินจากเมืองหลวงไปยังเมืองหลวงของประเทศ M ต้องใช้เวลาสิบชั่วโมง ตอนนี้ยังคงอยู่บนฟ้า

เธอเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเพื่อจะทำงานต่อ พลีน เห็นอนตวนที่จู่ๆ ก็กอดเอกสารเดินก้มหน้าเข้ามาจากด้าน นอกด้วยใบหน้าแดงเลือก เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยแดงจากความ ขัดเขินคล้ายเด็กสาวที่เจอรุ่นพี่ที่ตัวเองชื่นชอบ

เซียซิงเฉินไม่ได้สนใจนักแต่นึกถึงบางอย่างเข้าใจ กระตุกวูบ เธอหันไปมองอวิ๋นตวนนิ่งจนเผลอเหม่อลอย

พักใหญ่จนอวิ๋นตวนเดินผ่านตัวเองจนกลับไปยังโต๊ะ ทำงานของเธอแล้ว เธอถึงได้สติ

เงียบไปครู่หนึ่ง ท้ายสุดก็ทนไม่ไหวหันกลับไปมองอวิ๋นต

วน

“เธอ…เจอคนที่ชอบแล้วเหรอ?”

“นี่เธอดูออกด้วยเหรอ?” อวิ๋นตวนกดเสียงเบา “เมื่อฉัน อยู่ในลิฟต์แล้วชนเขาเข้าเต็มอก น้ำเน่ามากเลยใช่ไหม? แต่เขาหล่อมากเลยนะ แถมยังสุภาพบุรุษมากด้วย…

ต่อให้กดเสียงเบาแค่ไหนแต่อวันตวนก็พูดไปพร้อมทำท่า ทางประกอบไปด้วย

หมายความว่า….

คำทำนายของหลี่หมิงเป็นจริงแล้ว?

เซียซิงเฉินขนลุกซู อลิ้นตวนยังมีคำพูดมากมายอยากพูด แต่เธอกลับฟังต่อไม่ไหวแล้ว ในหัวว้าวุ่นไปหมด

หรือว่า…

อนาคตตนอาจเป็นเหตุให้เขาสูญเสียทุกอย่างไปจริงๆ?

เธอกำลังคิดว่าหากมีวันนั้นเข้าจริงๆ เธอไม่มีทางปล่อย ให้ตนไปถึงขั้นนั้นแน่นอน เป้าหมายที่เขาทุ่มเทมาทั้งชีวิต เธอ จะปล่อยให้เขาสูญเสียทุกอย่างเพราะตนได้อย่างไรกัน?

เวลาของประเทศ 5 และประเทศ M นั้นห่างกันมาก ตารางงานของไปเย่นิ่งถูกจัดไว้แน่นเอี้ยด ทั้งการประชุมต่างๆ รวมถึงการพบปะกับแขกนอกมากมายทำให้เขาแทบอยาก แยกร่าง

จนกระทั่งวันที่สามถึงมีเวลาพบปะกับหัวหน้าเลขาของ ประเทศพันธมิตรอย่างคุณหญิงหลันถึง

หลังเสร็จสิ้นตารางงานทั้งวันแล้วไปเย่นิ่งได้นัดคุณหญิงเป็นการส่วนตัว ทั้งคู่นัดเจอกันที่ห้องชุด โรงแรมที่เขาพักอาศัย ยามค่ำคืนภายในห้องนั่งเล่น คุณหญิงหลันถึงกับไปเย่นิ่ง นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

“ดึกขนาดนี้ยังนัดเจอฉันคงไม่ใช่เพราะเรื่องหลานสาว ของฉันอย่างหลันเย่หรอกนะ?” คุณหญิงหลันถึงหัวเราะ “ได้ยิน หลันนั้นบอกว่าสองตระกูลตั้งใจผูกญาติกันเหรอ?”

ไปเย่นิ่งไม่ตอบ

คุณหญิงหลันถึงกล่าว “ฉันว่าเธอกับเจ้าหลันเต่ก็เหมาะสม กันดี นิสัยของเธอเถรตรง ชอบเธอก็คือชอบเธอ ไม่มีหลบซ่อน เลย อีกอย่างพวกเธอทั้งสองก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมรบอยู่ครั้ง หนึ่ง ต่างก็รู้จักกันและกันเป็นอย่างดี เหมาะสมกว่าซึ่งเหวย นั่นเยอะเลย

“ช่วงนี้ผมมีความคิดจะแต่งงานจริงๆ” ไปเฉิงตอบกลับ คุณหญิงหลันถึง จิบกาแฟไปอีกหนึ่ง “คู่แต่งงานก็เป็นคนที่ท่าน รู้จัก

คุณหญิงหลันถึงนิ่งอึ้งไปแวบหนึ่งถึงเอ่ย “ฉันเข้าใจล่ะ คู่ แต่งงานของเธอที่กำลังพิจารณาอยู่เห็นทีคงไม่ใช่หลานสาว ของฉันสินะ ในเมื่อฉันก็รู้จัก เป็นคุณหนูตระกูลไหนล่ะ?”

“ซิงเฉิน” ไปเย่นิ่งไม่คิดปิดบัง เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้แววตาก ฉายแววอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย

“ชิงเฉิน?” คุณหญิงหลันถึงตกใจยิ่งกว่า “ใช่เซียซิงเฉินที่ฉันรู้จักนั่นไหม?”

“เธอเองครับ”

“พวกเธอสองคนทำไม…” คุณหญิงหลันถึงไม่ได้พูดต่อ กล่าวเพียง “เธอเป็นผู้หญิงที่ดีไม่ผิด แต่เรื่องสถานะระหว่าง พวกเธอทั้งสอง ไม่พูดถึงคุณพ่อของเธอ แต่คนในพรรคของ เธอคงไม่เห็นด้วยหรอก ถ้าถึงเวลานั้นน้องชายฉันจะต้องออก มาแย้งเป็นคนแรกแน่นอน

ไปเย่นิ่งไม่ส่งเสียงตอบรับใดๆ เรื่องเหล่านี้ใช่ว่าเขาจะ คิดไม่ถึง ตอนนี้อำนาจทางการเมืองของเขายังไม่มั่นคงพอ สิ่ง ที่จะผูกโยงกับเขานั้นมีมากเกินไป ฉะนั้นแล้วหากแต่งงานตอน นี้เห็นทีคงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก

“ไม่สนว่าใครเห็นด้วยหรือเปล่า สิทธิ์ตัดสินการแต่งงาน อยู่ที่ผม ถ้าผมไม่เจอเธอคงทำเหมือนคนอื่นที่ใช้การแต่งงาน เป็นสะพานเชื่อมเพื่อเส้นทางการเมืองแล้ว แต่ตอนนี้ ไป เฉิงชะงัก มองคุณหญิงหลันถึงด้วยสายตาแน่วแน่ “สะพานนี้ ผมต้องเก็บไว้ไปสู่เส้นทางอื่น

คุณหญิงหลันถึงหัวเราะ “ฉันไม่คิดเลยว่าที่แท้เธอก็เป็น คนที่หลงใหลในความรักคนหนึ่ง

“ความจริงคนตระกูลไปเราหลงใหลในความรักกันทุกคน ไปเย่นิ่งแอบเปลี่ยนประเด็นมายังเรื่องสำคัญ ใช้สายตาค้นหา จ้องคุณหญิงหลันถึงไม่ห่าง คุณหญิงหลันถึงแอบชะงักไปชั่วครู่ เมื่อเงยหน้าสบตาเขา
“คุณหญิง ไม่ทราบว่าท่านเคยได้ยินหรือเปล่าว่าคุณลุง ผมใกล้ออกมาแล้ว

เอ่ยถึงคนคนนั้นมือของคุณหญิงหลันถึงที่ถือแก้วกาแฟก็ กระตุกไปที สักพักถึงพยักหน้าแล้วพูดเสียงเบา “ฉันได้ยิน หลินจิ้นบอกแล้ว”

“ครั้งนี้ที่ราบรื่นได้ก็เพราะคุณหญิงช่วยพวกเรา” ฝั่ง หลันนั้น เห็นคุณหญิงหลันถึงพูดโน้มน้าวไปไม่น้อย คุณหญิงหลันถึงพ่นลมหายใจออกไม่ได้ปฏิเสธ พริบตาเดียวก็ผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้ว……

เธอไม่รู้แม้แต่ว่าตนจะมีชีวิตได้อีกกี่ปี

“ความจริงครั้งนี้ที่ผมมาไม่ใช่เพื่อคุยเรื่องคุณลุงของผม ไปเย่นิ่งหยิบซองเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากด้านข้าง ส่งมัน ให้คุณหญิงหลันถึง คุณหญิงหลันถึงมองเขาอย่างสงสัย เขา โบกมือให้เธอไปที่ “ท่านลองเปิดดู

เธอไม่ได้ถามให้มากความ ทำเพียงเปิดซองเอกสารออก

ตอนแรกก็ยังไม่มีอะไรแต่พอเห็นขอบตาก็ร้อนขึ้นทันที น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงจากกรอบตาโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ พักใหญ่ถึงนึกได้ว่ามีเขานั่งอยู่ตรงข้าม กักเก็บน้ำตาเข้าไป อย่างฝันใจ แต่เก็บได้ที่ไหนกัน?

เขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้มาอย่างสุภาพบุรุษ “หากไม่รังเกียจเชิญใช้เถอะครับ”
“ขอบคุณ” คุณหญิงหลันถึงรับผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาตรง หางตา เธอจึงไม่ปิดบังอีกต่อไป ในเมื่อมีเอกสารมาถึงตรง หน้าตนแล้ว เห็นเขาคงรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ