สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 28 ผ่านเรื่องเลวร้าย



ตอนที่ 28 ผ่านเรื่องเลวร้าย

รออยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่ได้คำตอบ เขาเลิกคิ้ว จากนั้น ได้ยินเธอเอ่ย เพียงว่า “เป็นห่วงสิคะ คุณเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับความนิยม ที่สุดในประเทศของเรามาตลอด ทุกคนเป็นห่วงคุณกันหมด เห็นท่าทางคุณคงจะได้รับบาดเจ็บในข่าวเมื่อวาน เพื่อนร่วม งานพวกนั้นเองก็รู้สึกทนไม่ได้เหมือนกับฉัน

แววตาของไปเย่นิ่งเข้มขึ้นเล็กน้อย เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ เย็นชาว่า “แค่นี้เอง?”

เซี่ยซิงเฉินได้แต่ทำเป็นไม่เข้าใจว่า “แค่นี้เอง” ที่เขาพูด ถึงนั้นคือแค่ไหน เธอเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “ตอนนี้คุณ อ่อนแอมาก เราอย่ามามัวคุยกันดีกว่า รีบทานข้าวต้มตอนที่มัน ยังร้อนๆ เถอะ! แล้วก็รีบๆ หายดี ประชาชนเขาจะได้ไม่ต้อง คอยเป็นห่วง”

เธอพูดพลางตักข้าวต้มป้อนไปยังริมฝีปากของเขา แววตา อยากรู้ของเขาหยุดอยู่ตรงใบหน้าของเธอชั่วขณะหนึ่งนัยน์ตา มีสีเข้มบ้างอ่อนบ้าง ราวกับต้องการเน้นความจริงบางอย่าง ออกมาจากใบหน้าของเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร

ไป๋เย่นิ่งรู้สึกหมดสนุกขึ้นมาทันที ไม่มีคำพูดใดหลุดออก มาจากปาก เขาเอาแต่ทานข้าวต้ม สีหน้าเผยความเย็นชาออก มาเล็กน้อย
บรรยากาศของความสัมพันธ์แสนคลุมเครือที่เพิ่งจะเกิด ขึ้นก็พลันมลายหายไปจนหมด

ในใจของเซียซิงเฉิน ในตอนนี้กลับสับสนวกวน แต่เธอก็รู้ อยู่เต็มอกว่าตกลงตัวเธอเองเป็นห่วงหรือประชาชนเป็นห่วงกัน แน่

ในตอนบ่ายฟูเฉินเข้ามาทำแผลให้เขา เขานอนหลับไม่รู้ สึกตัวอยู่ตรงนั้นเหมือนเช่นเคย

“เมื่อคืนเขาไข้ขึ้นทั้งคืนเลยค่ะ แต่พอตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ใช้ก็ลดลง แต่ก็ไม่ค่อยอยากทานอะไร ทั้งวันเขาทานข้าวต้มไป แค่สองชามเท่านั้นเองค่ะ” เซี่ยซิงเฉินรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด ทั้งวันอย่างตั้งอกตั้งใจ เสียงของเธอเบามาก เพราะกลัวว่าจะ ทำให้เขาตื่น “วันนี้เขาตื่นขึ้นมาได้สักพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็ หลับยาวเลยค่ะ คุณหมอฟ เขาคงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”

“อืม เป็นเรื่องปกติครับ เพราะเขาเองก็บาดเจ็บไม่น้อย” เฉินมองไปที่เซี่ยซิงเฉิน “เดี๋ยวผมจะทำแผลให้เขา คงต้อง รบกวนให้คุณมาช่วยผมหน่อย

“ได้ค่ะ”

เซี่ยซิงเฉินทำตามที่ฟู่เฉินบอก เธอถือกรรไกรเพื่อจะมา ตัดผ้าพันแผลที่หน้าอกของเขา แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลงมือ อยู่ๆ เขาก็ตื่นขึ้นมา เขาเห็นเธอกำลังถือกรรไกรโน้มเข้ามาใกล้ตัว เขา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“คุณหมอมาค่ะ เดี๋ยวเขาจะทำแผลให้คุณ” เสียงของ

เซียซิงเฉินเองก็เบามากเช่นกัน “อาจจะเจ็บนิดนึงนะคะ ด้วยท่าทางที่แสนอ่อนโยนนั้น รอยย่นระหว่างคิ้วของไป

เฉิงก็พลันคลายออกโดยไม่รู้ตัว

เขาฝันลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมา “ส่งกรรไกรมาให้ผม แล้ว ออกไปเถอะ”

“ทำไมล่ะ? ตอนนี้ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณหมอนะ ฉันออก

ไปไม่ได้”

“พอได้แล้ว ผมบอกให้คุณออกไป คุณก็ออกไปไง” ไป เฉิงเอื้อมมือไปคว้ากรรไกรในมือของเธอ แต่เธอไวกว่าเขา เธอยกมือสูงขึ้น ไม่ยอมยกกรรไกรให้เขา

เขาขมวดคิ้ว

ผู้หญิงคนนี้ คิดจะแกล้งคนป่วยอย่างเขา ในตอนนี้หรือไง? เขาเปรยตามองไปที่ฟู่เฉิน “ไล่เธอออกไปทีเถอะ”

เฉันอดอมยิ้มไม่ได้ เขามองไปที่เซี่ยซิงเฉินและมองไป ที่ไปเยฉิงอีกอย่างสนใจ “คุณเซียครับ บาดแผลของคุณ นั้นไม่น่าดูสักเท่าไหร่ เขาเกรงว่าคุณจะทนดูไม่ได้ ถ้าคุณกลัว คุณออกไปเถอะครับ ผมให้เขาช่วยก็ได้”

พอเขาพูดจบ สายตาคมกริบของไปเย่นิ่งก็หันขวับไปที่เขา
ไอ้นี่! ใครใช้ให้เขาพล่ามอะไรเยอะแยะ? พูดมาก!

เซี่ยซิงเฉินอึ้งไปพักหนึ่ง เธอแอบชายตามองไปที่ไปเฉิง โดยไม่รู้ตัว เขา…กลัวว่าบาดแผลจะทำให้เธอตกใจจริงๆ หรือ? แต่ในเมื่อเขาไม่ได้โต้แย้งในสิ่งที่คุณหมอฟูพูด งั้น…ก็คงเป็น แบบนั้นสินะ?

จิตใจของเธอหวั่นไหวเล็กน้อย และอดยิ้มไม่ได้ ไม่ต้อง เป็นห่วงค่ะ ฉันไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น อีกอย่าง….ตอนนี้เขาก็ เจ็บหนักมาก คงช่วยเหลืออะไรมากไม่ได้”

ฟู่เฉินพยักหน้า “จะเป็นการดีที่สุดเลยถ้าคุณอยู่ที่นี่

สีหน้าของไป๋ฉิงดูไม่สบอารมณ์นัก สรุปคือ คนสอง คนที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ ไม่มีใครสนใจความคิดเห็นของเขาใน ตอนนี้สักนิดเลยเหรอ?

ในขณะที่อี้เฉินกำลังเตรียมยาอยู่นั้น เซี่ยซิงเฉินก็คอย ช่วยตัดผ้าพันแผลบนหน้าอกและมือของเขา

ทุกครั้งที่ลงมือ ลมหายใจทั้งหมดก็ถูกตรึงเอาไว้แน่น เธอ เห็นบาดแผลของเขาไปแล้วในวันแรก พอมาคิดดูในตอนนี้ก็ ยังรู้สึกเสียวสันหลังไม่หาย

เธอระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะกลัวว่าเขาจะเจ็บ

สายตาของไปเยจิ้งจ้องมองไปบนใบหน้าของเธอ เมื่อเห็น คิ้วที่ขมวดแน่นและใบหน้าที่ซีดเผือดของเธอ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หุ้มขึ้นมาว่า “อย่าฝืนเลย”

“อย่ามาดูถูกฉันนะ” เซียซิงเฉินถลึงตามองไปที่เขา แล้วก็ กลับไปจดจ่อกับการตัดผ้าพันแผลต่อ “ถึงฉันจะไม่เคยเห็น บาดแผลอะไรที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน แต่ฉันเองก็ถือว่าเป็นคน ที่เคยเห็น ไม่เคยผ่านเรื่องเลวร้ายมาก่อนเหมือนกัน”

“เธอ? เคยผ่านเรื่องเลวร้ายอะไรมา?” ไปเยถึงพูดต่อ ท่าทางจดจ่อของเธอ ช่างดูน่าหลงใหลจริงๆ

“ตอนคลอดเซียต้าไปตอนนั้น ฉันเสียเลือดมาก ชีวิต แขวนอยู่บนเส้นด้าย คุณหมอถึงกับต้องทำหนังสือแจ้งพ่อของ ฉันว่าฉันอยู่ในอาการโคม่า แต่ยังดีที่ฉันผ่านมันมาได้ ไม่งั้น ตอนนี้คุณคงไม่ได้เห็นฉันแล้ว นี่ถือว่าฉันเองก็ผ่านเรื่องเลวร้าย มาเหมือนกันใช่ไหม?

ในขณะที่เซี่ยซิงเฉินเล่าเรื่องพวกนี้ น้ำเสียงของเธอผ่อน คลาย แถมยังมีรอยยิ้มบางๆ ติดอยู่ที่มุมปาก เมื่อเล่าจบ ก็ยัง ไม่ลืมที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาราวกับรอให้เขาพยักหน้า

หว่างคิ้วของไปเย่นิ่งปูดขึ้นมา สีหน้าเย็นชาและเคร่งขรึม ผู้หญิงคนนี้ ยังยิ้มออกมาได้อีก!

“ไม่เห็นต้องซีเรียสเลย” สีหน้าจริงจังของเขาทำให้เสียซิง เฉินถึงกับต้องแลบลิ้นออกมา “โอเค ฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้ใน เวลาแบบนี้”

เธอก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออีกครั้ง เส้นผมยาวๆ ข้างแก้มสยายลงมาปิดบังใบหน้าเล็กๆ ที่อ่อนเยาว์ไปครึ่งหนึ่ง ไปเ งมองเธอไม่วางตา ในสมองมีแต่ภาพที่เธอนอนหวาดกลัวและ สิ้นหวังอยู่บนเตียงผ่าตัด

จริงๆ เหลิงเฟยเองก็คอยตามสืบเรื่องของเธอมาตลอด แต่เขาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องการเสียเลือดของเธอเลย พอมา ได้ยินเข้าในตอนนี้ นอกจากจะรู้สึกประหลาดใจแล้ว ก็รู้สึกจุก แน่นขึ้นมาที่หน้าอก

จู่ๆ นิ้วมือที่เรียวยาวก็ยื่นออกมาหยิบเส้นผมที่อยู่ข้างแก้ม ขึ้นไปทัดไว้หลังใบหูของเธอ ปลายนิ้วของเขาปัดผ่านใบหูของ เธอไป เธอสะดุ้ง จิตใจว้าวุ่นเล็กน้อย

เธอช้อนตาขึ้นมองดูเขาโดยไม่รู้ตัว เธอเห็นประกายสลับ ซับซ้อนที่เย็นชาแต่ลุ่มลึกภายในดวงตาของเขา หัวใจของเธอ เต้นไม่เป็นจังหวะ

เธอเกี่ยวปลายผมข้างแก้มด้วยความอึดอัดใจ เธอไม่พูด อะไรออกมาเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตายุ่งเรื่องของตัวเองต่อไป

เพียงแต่…

สายตาของเขาเมื่อครู่ยังคงวนเวียนปรากฏอยู่ในสมอง

ตลอดเวลา

ความรู้สึกสับสนนั่น…คืออะไรกันแน่?

ฟูอี้เฉินเก็บรายละเอียดของคนทั้งสองไว้ในสายตาอยู่ ข้างๆ ขณะที่มองดู ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
เขาและไปเฉิงโตมาด้วยกันในกองทัพ นี่เป็นครั้งแรกที่ เห็นเขาทำกับผู้หญิงแบบนี้

เพียงแต่…

ทั้งสองคน คงไม่มีอะไรกันใช่ไหม?

หลังจากเซียซิงเฉินตัดผ้าพันแผลเสร็จเรียบร้อย บาดแผล ทั้งหมดก็ปรากฏออกมาให้เห็น ถึงแม้เธอจะเคยเห็นมาก่อน แล้ว แต่ก็ยังคงมองได้แค่แวบเดียว และไม่กล้าที่จะมองเป็น ครั้งที่สอง

บาดแผลรุนแรงขนาดนี้ คงจะเจ็บและทรมานมาก สีหน้าของฟูอี้เฉินเองก็ดูจริงจังมาก “ยาแรงมากนะ อาจจะ เจ็บหน่อย”

“ไม่ต้องพูดมากแล้ว ทายาเลย”

ฟู่เฉินพยักหน้าและบรรจงทายาลงไปบนบาดแผล

ชั่วขณะนั้น มือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของไปเฉิงก็กำ ผ้าปูที่นอนที่อยู่ข้างใต้ตัวของเขาเอาไว้แน่น ความเจ็บปวด ทรมานเหลือจะทน ทำให้ริมฝีปากของเขาซีดเผือดลงทันที บน หน้าผากและบนปลายจมูกมีเหงื่อแตกพลักเต็มไปหมด แต่เขา ก็อดทนกัดฟันเอาไว้ แม้แต่เสียงร้องสักนิดก็ไม่มี

เซี่ยซิงเฉินรู้แต่ว่าหัวใจถูกบีบแข็งเป็นก้อนไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ