สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 53 เขาอยากได้ของขวัญขอบคุณสุดพิเศษ



ตอนที่ 53 เขาอยากได้ของขวัญขอบคุณสุดพิเศษ

สวี่เหยียนคัดค้านความเป็นไปได้นั้นที่คุณย่าคิดโดยไม่รู้ตัว “ใช่ครับ ผมก็เห็นด้วยกับคำพูดของคุณน้านะครับ เท่าที่ผม ทราบ ท่านประธานาธิบดีกับซิงเฉินไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ กันเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน”

หากรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ครั้งก่อนที่สนามกอล์ฟพวก เขาทั้งสองก็ควรจะทักทายกันแล้ว

“เห็นไหมคะ!” หลี่หลิงรู้สึกว่าตัวเองพูดถูก ในความ ภูมิใจนั้นก็รู้สึกโล่งใจไปด้วย

เธอจะยอมให้เซียซิงเฉินดีกว่าเซี่ยซิงคงของเธอได้

อย่างไรกัน?

ตอนที่เซี่ยซิงเฉินถูกเชิญไปถึงหน้าประตูห้องเปลี่ยนเสื้อ นั้น ชายชุดดำก็ยืนอยู่ทั้งด้านนอกและด้านในเต็มไปหมด

เธอผลักประตูเข้าไป ไปเย่งกำลังยืนให้คนเปลี่ยนชุด ป้องกันเชื้อโรคให้อยู่ด้านใน

ในชั่วขณะนั้นเธอไม่รู้ว่าจะเข้าไปหรือถอยออกมาดี นี่เป็น สถานที่เปลี่ยนชุดของประธานาธิบดี คนธรรมดาจะเข้ามาตามใจชอบได้ที่ไหน?

แต่เขากลับชาเลืองมาแล้วเอ่ยว่า “เข้ามาส

พอพูดจบเขาก็พยักเพยิดกับแพทย์พยาบาลที่ยืนอยู่ด้าน ข้าง อีกฝ่ายก็รีบหยิบชุดป้องกันเชื้อโรคขึ้นมา

“คุณเซีย ชุดนี้เตรียมไว้สำหรับคุณค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

“พวกคุณออกไปก่อน

ไปเย่งออกคำสั่ง ทุกคนก็ทยอยกันถอยออกไป

เพียงครู่เดียวภายในห้องเปลี่ยนเสื้อก็เหลือเพียงเธอกับ ไปเยถึงสองคน เธอมองเขาแวบหนึ่ง ในใจเต็มไปด้วยความ รู้สึกขอบคุณ ราวกับเขาจะล่วงรู้ จึงเอ่ยเพียงว่า “เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเถอะ”

เธอใส่ชุดป้องกันเชื้อโรคตามที่เขาบอก

ไปเย่นิ่งมองแวบหนึ่ง แล้วก้าวหนักๆ มาหยุดยืนอยู่ตรง

หน้าเธอ

เขายกมือขึ้น นิ้วเรียวยาวแตะบนต้นคอเธอ เธอหายใจ ติดขัด ประหม่าจนถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ไปเย่นิ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจนัก

“เข้ามายืนดีๆ!”

” เซี่ยซิงเฉินกัดริมฝีปากจ้องมองเขา สองครั้งติดกันที่เกือบจะโดนเขา…เขมือบเข้าไป ถึงอย่างไรเธอก็ยังหวาดกลัว อยู่บ้าง…

เขาหรี่ตา “คุณพูดขอบคุณกับผมอย่างนี้เหรอ?”

เซียซิงเฉินทาปากยื่นราวกับไม่เต็มใจ ทว่าก็ยังเดินเข้าไป แต่โดยดี

ไปเฉิงจ้องมองเธอ ยื่นมือมาจับคอเสื้อของเธอแล้วล็อก ให้แน่น

ที่แท้…

เขาก็แค่อยากจะช่วยเธอแต่งตัว…

เซี่ยซิงเฉินลืมตามองเขาแวบหนึ่ง แม้ว่าเขาจะสวมชุด ป้องกันที่ดูอ้วนเทอะทะ ทว่าท่าทางเช่นนั้นกลับชวนให้ไม่อาจ ละสายตา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะที่เขาก้มลงช่วยดูความเรียบร้อย ของเสื้อผ้าให้เธออย่างจดจ่อ เธอรู้สึกเพียงว่าหัวใจสั่นไหว อย่างรุนแรง ความรู้สึกอันซับซ้อนหลากหลายกำลังหมุนวนอยู่

ทันใดนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณ”

ค่าสองคำ สดใส อ่อนโยน ราวกับเมฆขาวที่ล่องลอยใน อากาศ

ไปเย่นิ่งเลื่อนสายตาขึ้นมองเธอ แววตาเข้มขึ้นเล็กน้อย “กลัวเหรอ?”
เธอส่ายหน้าทันควัน “ไม่กลัวค่ะ

มีเขาอยู่ เธอรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ

เขาเปรียบเสมือนท้องฟ้า เป็นยอดเขาสูงตระหง่านที่ไม่มี

วันพังทลาย

“ใส่หน้ากากกับถุงมือให้ดี” ไปเย่นิ่งพูดพลางหยิบ หน้ากากมาสวมไว้บนหน้าเธอ การกระทำของเขาไม่อ่อนโยน เลยสักนิด ทว่ายามที่นิ้วเรียวยาวของเขาเผอิญปัดผ่านแก้มเธอ เธอกลับรู้สึกว่าทั้งตัวและหัวใจอ่อนยวบไปหมด

เขาก๊าซับเสียงหนักแน่น “เดี๋ยวตอนเข้าไป ไม่ว่าจะเกิด อะไรขึ้น แม้แต่ตอนเจอพ่อของคุณ ก็ห้ามถอดหน้ากากกับ ถุงมือเด็ดขาด!”

น้ำเสียงช่างเผด็จการ ไม่เปิดโอกาสให้เถียง

ทว่าเซี่ยซิงเฉินกลับรู้สึกอ่อนหวานในใจ เธอยิ้ม “ค่ะ ฉัน เชื่อคุณ”

ท่าทางว่านอนสอนง่ายเช่นนี้ ไปเย่นิ่งดูจะพออกพอใจมาก อดไม่ได้ที่จะมองเธออย่างลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสวม หน้ากากให้ตัวเอง

เชียซิงเฉินดึงหน้ากากลงครึ่งหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว ว่า “จริงๆ แล้วฉันยังไม่ได้พูดคำว่า “ขอบคุณ” กับคุณเลยค่ะ”

“หม?”

“เรื่องงานของฉัน…” เซี่ยซิงเฉินเอ่ยเสียงแผ่ว นัยน์ตาฉายแววซาบซึ้งใจ

พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ไปเย่นิ่งดูจะยังโกรธอยู่ เขาทำเสียงที่ อย่างเย็นชา “ผมเองที่ยังไม่เข้าเรื่อง! ฝีมือการดึงดูดผู้ชายของ คุณก็ไม่เลวน มีหยูเจ๋อหนันผู้ปกป้องสาวน้อยเช่นนั้น จะต้องให้ ผมเปลืองสมองกับคุณไปทำไม?

เธอไม่โกรธเขา แต่กลับหัวเราะขึ้นมา “อย่างมากก็แค่ เข้าครัวทําอาหารอีกสักมือเป็นการไถ่โทษให้คุณ ตกลงไหม คะ?”

เธอนึกถึงคำพูดเหล่านั้นที่เซี่ยต้าไปคุยกับเธอทาง โทรศัพท์ครั้งก่อน มิน่าเขาถึงได้เข้าใจมาตลอดว่าคนที่เธอคิด จะทำอาหารเลี้ยงต้อนรับเย็นนั้นคือเขา

“ใครต้องการ? ฝีมือทำอาหารของพ่อครัวที่บ้านก็ดีมาก อยู่แล้ว”

ตอบแทนด้วยวิธีเดียวกันกับผู้ชายคนนั้น อีกทั้งเขายังไม่ ได้เป็นคนแรก เขาเกรงว่าเขาจะกลืนอาหารมื้อนั้นไม่ลง

“งั้นแบบไหนล่ะคะที่คุณต้องการ?

ไปเย่นิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สายตาหยุดอยู่ที่ร่างเธอราวกับ นึกอะไรบ้างอย่างได้ แววตาที่จ้องมองเธอค่อยๆ ร้อนแรงขึ้น

เธอถูกเขามองจนใจสั่น ได้ยินเพียงเขาเอ่ยเสียงพร่า “สิ่ง ที่ผมอยากกินไม่ใช่เพียงแค่อาหารเย็นธรรมดาๆ เท่านั้น…

สายตาของชายหนุ่มมีเลศนัยสุดๆ เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วร่าง อันตรายพุ่งมาจากรอบทิศ

เธอได้แค่ทําเป็นฟังไม่เข้าใจ หมุนตัวแล้วเดินออกไป ใน เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว เรารีบออกไปกันเถอะค่ะ!”

พอพูดเสร็จก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตูออกทันที แม้ว่าจะเดิน มาถึงประตูแล้ว ก็ยังรู้สึกถึงแววตาร้อนแรงดุจไฟจากด้านหลัง

ใจเธอเต้นรัวยิ่งกว่ากลอง ดัง ตึกตัก ไม่เป็นจังหวะ

ไปเย่นิ่งมองท่าทางเธอหนีเตลิดอย่างขบขัน จู่ๆ ก็รู้สึก ว่าการหยอกล้อเธอเล่นเป็นเรื่องน่าสนุกดี

ในห้องผู้ป่วยแยกห้องแล้วห้องเล่ามีผู้ป่วยพักอยู่มากมาย

ข้างกายไปเยฉิงติดตามด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลรวมทั้งสื่อมวลชนของรัฐบาลเป็นลำดับ เซี่ยซิงเฉินใน ฐานะญาติผู้ป่วยเดินรั้งท้าย

หลังจากเข้าไปในห้องผู้ป่วย เขาพูดคุยกับผู้ป่วยอย่าง นอบน้อมและจริงใจ ตอนจับมือกับผู้ป่วยยังตั้งใจถอดถุงมือ ออกอีกด้วย

หัวใจของเซี่ยซิงเฉินรู้สึกเหมือนโดนบีบรัดไว้แน่น เธอยืน อยู่ด้านหลังนึกถึงคำพูดที่เขากำชับตัวเองไว้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ ห้ามถอดถุงมือกับหน้ากากเด็ดขาด ก็แทบทนไม่ได้อยากช่วย ใส่ถุงมือให้เขา แต่ว่า…

เธอทําไม่ได้…
ต่อหน้าผู้คน สําหรับเขาแล้ว สิ่งที่เธอทำได้ มีเพียงเงีย หน้ามอง..

ยิ่งกว่านั้น ในฐานะเช่นนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤต ของประชาชน เขาก็ต้องไม่ยี่หระต่อความเป็นความตายของตัว

เอง

ทุกคนหยุดอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยแยกห้องหนึ่ง

ฟู่เฉินสีหน้าจริงจัง “ท่านครับ ในห้องนี้เป็นผู้ป่วยราย ใหม่ที่เพิ่งมาครับ ตอนนี้โอกาสในการแพร่เชื้อยังคงสูงมาก ฉะนั้นพวกเราแนะนำว่าท่านอย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เลยครับ”

ไป๋เย่นิ่งไม่ได้ส่งเสียงตอบรับ เพียงแค่หันกลับมามองเซีย ซิงเฉินแวบหนึ่ง เซี่ยซิงเฉินเริ่มไม่สบายใจ แต่ว่าก็ไม่อยากให้ ไปเย่นิ่งเข้าไปเสี่ยงอันตรายกับเธอ

เดิมทีเธอแค่เอ่ยปากขอให้เขาช่วย ไม่เคยคิดเลยว่าเขา

จะมาด้วยตัวเอง!

“หมอฟู ท่านประธานาธิบดี ข้างในอันตรายมาก ให้ฉัน เข้าไปคนเดียวเถอะค่ะ” เซี่ยซิงเฉินก้าวออกมาข้างหน้าแล้ว หยุดยืนอยู่ข้างฟู่อี้เฉิน

เหลิงเฟยก็เอ่ยว่า “ท่านครับ อีกสองวันค่อยมาใหม่เถอะ ครับ”

ไปเย่นิ่งมองเธออย่างจริงจัง แววตาลุ่มลึกจนเธออ่าน ความคิดเขาไม่ออก ทันใดนั้นก็ได้ยินเขากำชับว่า “พวกคุณทุกคนกลับไปเถอะ ห้องผู้ป่วยห้องนี้พวกคุณไม่ต้องตามเข้าไป แล้ว”

เหลิงเฟยเข้าใจความประสงค์ของเขาทันที แต่ก็ไม่เห็น ด้วยอย่างชัดเจน “ท่านครับ แบบนี้อันตรายมาก ท่านยังมีเรื่อง สำคัญอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ

“นายก็กลับไปซะ!” ไปเฉิงตัดบทเหล่งเฟย น้ำเสียงยิ่ง

เด็ดขาดแบบไม่ยอมให้โต้แย้ง

เหลิงเฟยสบตากับฟูอี้เฉินแวบหนึ่ง ส่งสัญญาณให้ฟู่เฉิน เอ่ยปากพูดอะไรบ้าง ฟู่เฉินจนปัญญา ได้แต่เอ่ยว่า “ทุกคนไป กันเถอะ คุณเซีย อยู่ก่อนนะครับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ