สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 91 ความรักที่เก็บซ่อนถูกเปิดเผย(1)



ตอนที่ 91 ความรักที่เก็บซ่อนถูกเปิดเผย(1)

เซียซิงเฉินรู้สึกปวดหัว “คุณอยากคุยอะไรกับฉันกันแน่

“คุณรู้ไหม พี่ชายผมรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก เขาทุ่มเทแรง ใจทุกอย่างที่ทำได้เพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ว่าเขากลับแต่งงานกับ เธอไม่ได้ นั่นเป็นเพราะชีวิตการแต่งงานของเขามีไว้เพื่อรักษา ฐานะให้มั่นคง รวมถึงชีวิตการแต่งงานของผม ก็เป็นไปเพื่อเป้า หมายทางการเมืองของเขาเช่นกัน ส่วนชีวิตการแต่งงานของไป เฉิงนั้นยิ่งกว่า ต่อให้เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หรือเพียงเพื่อ พวกพ้องที่เสี่ยงตายและติดตามเขามาหลายปี ชีวิตการ แต่งงานของเขาก็ไร้ทางเลือกเช่นกัน ซึ่งเฉิน ถ้าคุณกล้าลองดี กับเขา สุดท้ายแล้วก็มีแต่จะทำให้คุณเจ็บตัว คุณไม่ควรเล่น เกมโง่ๆ แบบนี้!”

ยิ่งพูดหยูเจ๋อหนุนน้ำเสียงยิ่งรุนแรงขึ้น สิ้นประโยคก็ดึง บัตรเชิญสีแดง ใบหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะเล็ก

สีแดงจัดจ้านของบัตรเชิญนั่นเห็นแล้วชวนแสบตา เชียง เฉินหายใจกระชั้น พื้นที่ออยู่ตรงนั้น หนูเจอหนุนจ้องมองไปที่ เธอพริบตาหนึ่ง น้ำเสียงเบาลงตามอารมณ์ที่สงบลงบ้างแล้ว “นี่เป็นบัตรเชิญงานแต่งงานที่ซึ่งถั่วเหยาให้พี่ชายผมดูวันนี้ ถึง จะทำออกมาเพื่อลองดูก่อน ยังไม่ถือว่าเป็นทางการอะไร แต่ว่าซ่งถั่วเหยาเป็นคนที่รอบคอบมาก ในเมื่อเขาหาคนออกแบบ บัตรเชิญแล้วเอามาให้พี่ชายผมดู นั่นหมายความว่ายังไง ใจ คุณคงจะรู้ดี ซึ่งเฉิน เรื่องบางเรื่องก็ถูกกำหนดไว้แล้วเหมือน ตะปูที่ตอกลงบนแผ่นไม้

หยูเจ๋อหนันไปตั้งแต่เมื่อไร เซี่ยซิงเฉินไม่รู้ แต่เวลาผ่านไป สักพัก เธอถึงได้นั่งลงบนโซฟาด้วยความมึนงง

ถุงใส่เนกไท ในมือตกไปอยู่ข้างเท้า เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิด ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เธอขยับตัวแล้วหยิบบัตรเชิญนั่นไว้ใน มือ พลางเปิดดู

ไป๋เย่ฉิง ซ่งเหวยอี

ตัวอักษรใหญ่หกตัว เด่นสะดุดตา เซียซิงเฉินจ้องมองอยู่ อย่างนั้น ไม่รู้เพราะอะไรทำให้เธอรู้สึกแสบตาขึ้นมา

ก็ดี เนกไทที่ซื้อวันนี้ ไม่ทันเป็นของขวัญวันเกิด ก็เป็นของ ขวัญวันหมั้นได้ งานหมั้นของพวกเขา คิดว่าอย่างไรก็เป็นจุด สนใจของคนทั้งประเทศ ในวันนั้นเธออาจจะได้เป็นล่ามแปลที่ นั่นก็ได้

เซี่ยซิงเฉินค่อยๆ ปิดบัตรเชิญลง สายตาสะดุดไปที่พลาส เตอร์ติดแผลบนนิ้วมือ เธอแกะมันออกเบาๆ แล้วทิ้งลงถังขยะ บนนิ้วนั้นมีเพียงรอยแผลเล็กๆ ทั้งที่มันหายดีแล้วแต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้เธอถึงได้รู้สึกเจ็บขึ้นมาอีก

เธอรู้สึกตัวเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นเป็นครั้งที่ห้า เธอเดิน ออกไปเปิดประตู และบุคคลที่อยู่นอกบานประตูนั้นได้สร้างความตกใจให้เธอเป็นอย่างมาก

เธอรู้จักเขาดี เขาเป็นคนขับรถของเซี่ยต้าไป

เซียซิงเฉินคิดว่าเขาพาเด็กน้อยมาด้วย เมื่อสอดส่อง สายตาดูก็ไม่พบเห็นเงาของเด็กแม้แต่น้อย

“คุณเซีย รบกวนกลับทำเนียบประธานาธิบดีกับผมด้วย

ครับ!”

“ทําไมเหรอ”

“วันนี้ไม่ว่าจะทำยังไงคุณชายน้อยก็ไม่ยอมทานข้าวเลย ร้องแต่ว่าจะอดอาหาร และจะมาหาคุณให้ได้

เซี่ยซิงเฉินได้ยินก็รู้สึกปวดใจ เด็กตัวเล็กแค่นั้น จะไม่หิว ได้อย่างไร แต่เธอรู้ดี เด็กน้อยนิสัยดื้อรั้น หากบอกไม่กินก็คือ ไม่กิน อีกทั้งครั้งแรกที่ถูกไปเฉิงพาไปที่นั่น เด็กน้อยก็อด อาหารจนสามารถได้เจอกับเธอ เขาฉลาด เมื่อรู้ว่าวิธีนี้ได้ผล เขาเลยใช้วิธีนี้อีก ถึงแม้ว่า เซี่ยซิงเฉินจะรู้ทันความคิดของเด็ก น้อย แต่เธอก็ไม่อาจยอมให้เขาทนหิวได้

“ในเมื่อเขาอยากจะมาหาฉันที่นี่ ทำไมคุณไม่พาเขามาล่ะ”

“พวกผมก็อยากพาเขาออกมา เพียงแต่ว่าท่าน ประธานาธิบดีเคยรับสั่งไว้ ไม่ว่าใครก็ห้ามพาคุณชายน้อยออก จากทำเนียบประธานาธิบดี อีกทั้งตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณชายน้อยจะถูกกักบริเวณ เวลาเรียนจะมีติวเตอร์ไปสอนถึงทำเนียบประธานาธิบดี ฉะนั้นแล้วผมก็จนปัญญา” เซี่ยซิงเฉินได้ยินเช่นนั้นก็อดรู้สึกโกรธอยู่ในใจไม่ได้ เธอ

ไม่เข้าใจว่าไปเย่งหมายความว่าอย่างไร อย่างไรก็ตามต้าไป ก็เป็นลูกชายของเธอ เธอเลี้ยงดูจนโตขนาดนี้ ตอนนี้ให้มาอยู่ กับเธอไม่กี่วันก็ย่อมได้ แต่เขากลับกีดกันกันขนาดนี้เชียวหรือ

“ได้ ฉันจะกลับไปกับคุณ

เซี่ยซิงเฉิงคิดในใจว่า ยังไม่ได้กินอาหารเย็นก็จะต้องกลับ ทำเนียบประธานาธิบดีกับคนขับรถเสียแล้ว ก่อนจะปิดประตู ห้องก็พลางนึกถึงเนกไทที่เพิ่งซื้อมาได้ เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก สุดท้ายจึงหันกลับไปหยิบมาด้วย ถือเป็นของขวัญงานหมั้นล่วง หน้าให้กับเขาแล้วกัน

เธอคิดอยู่แล้วว่าอย่างไรตนก็ต้องกลับมาที่ทำเนียบ ประธานาธิบดี ในเมื่อคราวก่อนที่เธอออกมาก็ไม่ได้นำของ กลับออกมาเยอะมากนัก หลังจากที่ย้ายมาอยู่ในห้องเล็กๆ นี้ สิ่งของหลายอย่างเป็นของที่เธอซื้อใหม่ แต่สักวันเธอต้องกลับ ไปเก็บของออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้น หากซ่งเหวยย้ายมา แล้วเห็นเข้าก็คงจะสร้างความไม่พอใจให้เธอไม่น้อย แต่ว่าเธอ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้กลับไปไวขนาดนี้

ตลอดทาง ไม่มีบทสนทนาระหว่างคนขับรถกับเธอเลยสัก ประโยค เซี่ยซิงเฉิงเอนตัวพิงเบาะหลัง แสงไฟนีออนนอก หน้าต่างรถกระทบเข้าตาเธอ แต่เธอรู้สึกว่าสิ่งที่สะท้อนออกมามีเพียงความมืดมนและว่างเปล่า

จนกระทั่งเธอรู้สึกแสบตาเหมือนใกล้จะร้องไห้ เธอจึงรีบ หลับตาแล้วกดความรู้สึกเจ็บปวดนั้นลงไป

นั่งรถไปหนึ่งชั่วโมง ตัวรถก็มุ่งตรงเข้าไปหน้าทำเนียบ คน ขับรถเปิดประตูให้เธออย่างนอบน้อม เธอก้าวเข้าไปในบ้าน หลังใหญ่ พ่อบ้านกับคนรับใช้ต่างก็ออกมาต้อนรับอย่างดอก ดีใจ

พ่อบ้านดีใจเป็นอย่างมาก “คุณเซีย ในที่สุดคุณก็กลับมา สองวันที่คุณไม่อยู่ อย่าว่าแต่ท่านประธานาธิบดีเลย แม้แต่พวก เราก็ไม่ชินสักนิด

เซียซิงเฉินยกยิ้มแต่ไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าไปเยถึงจะไม่ อยู่สินะ

พ่อบ้านพูดขึ้นอีกว่า “ท่านประธานาธิบดีกับคุณชายน้อย ต่างก็รอคอยให้คุณกลับมาครับ คราวนี้คุณกลับมาแล้วก็อย่า ไปไหนอีกเลยนะครับ

เซียซิงเฉินคิด พ่อบ้านคงจะไม่รู้ ความจริงเธอถูกไปเย่นิ่ง ไล่ออกมาต่างหาก แม้ตอนนั้นเขาจะกำลังโกรธอยู่ แต่ว่า ถ้อยคำรุนแรงที่ออกจากปากของเขานั้นเพียงพอที่ทำร้ายจิตใจ ได้ ทำให้ไม่ต้องการอ้อนวอนที่จะกลับไป ยิ่งตอนนี้

ก็ยิ่งไม่มีทาง

เซี่ยซิงเฉินเอ่ยถาม “คุณชายน้อยอยู่ข้างบนเหรอ”
“ครับ” พ่อบ้านพยักหน้า “ตั้งแต่ท่านประธานาธิบดีก บริเวณคุณชายน้อย เขาก็ดูไม่มีความสุข วันนี้ทั้งวันจนถึงตอน คุณชายน้อยยังไม่ยอมทานข้าวเย็นเลย แม้แต่น้ำสักหยดก็ไม่ ได้ดื่ม”

เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจ เขาดื้อรั้นขึ้นมากไม่รู้ว่าเหมือน ใคร นี่ก็สองทุ่มกว่าแล้ว เธอที่ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นยังรู้สึกหิว แล้วเขาที่เป็นเพียงเด็กแค่นั้นล่ะ

เธอวางเนกไทลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินขึ้นไปอย่างเงียบๆ เพื่อปลอบเด็กน้อย

เมื่อเธอเดินขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงคนรับใช้ที่กำลังพูด คะยั้นคะยอแว่วมาแต่ไกล “คุณชายน้อย ไม่ว่ายังไงก็ทานสัก หน่อยเถอะค่ะ”

“ผมไม่อยากกิน”

“คุณชอบกินของหวานที่สุดแล้วไม่ใช่หรือคะ ไม่ทานก็ ลองดมดูหน่อย มันหอมมากเลยนะคะ”

“อย่าคิดหลอกล่อผม ผมไม่เปลี่ยนใจหรอก!”

“ผลไม้คุณก็ไม่ทานหรือคะ”

“ไม่เอาๆ! ไม่เอาอะไรทั้งนั้น!”เซียต้าไปถูกพูดคะยั้นคะยอ จนเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว สักพักคนรับใช้ก็ถูกไล่ออกจาก ห้อง เมื่อเธอหันหลังมาแล้วเห็นเซียซิงเฉิน ก็เหมือนเธอเห็นผู้ช่วยชีวิตอย่างไรอย่างนั้น “คุณเซีย ในที่สุดคุณก็กลับมา เธอยิ้มตอบบางเบา “เอาอาหารมาให้ฉันเถอะ ฉันป้อน เขาเอง”

คนรับใช้แอบโล่งใจ จึงส่งของให้เธอ เธอผลักประตู เข้าไป เซียต้าไปนั้นคิดว่าเป็นคนรับใช้มารบกวนเขาอีก จึงไม่ หันกลับมามอง และทำเพียงซุกตัวอยู่บนโซฟา หันหลังให้ ประตูแล้วพูดออกมาอย่างอุ่นเคือง “ผมไม่กิน ผมจะกินแค่น้อง ไก่ที่หม่ามีทำเท่านั้น!

เซี่ยซิงเฉินมองไปยังแผ่นหลังที่ดื้อรั้นนั่น พลันรู้สึกแสบตา ขึ้นมาเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ