สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 143 หวั่นไหว (1)



ตอนที่ 143 หวั่นไหว (1)

“กรุ๊ปเลือด P เหรอคะ?” เซี่ยซิงเฉินเอ่ยแทรก “คุณหญิง ต้องการเลือดกรุ๊ป P เหรอคะ”

“ครับ หรือว่าคุณกรุ๊ปนี้?” คุณหมอหันหน้ามามองเชียง เฉินอย่างเหลือเชื่อ

เซี่ยซิงเฉินพยักหน้า “ค่ะ ฉันเลือดกรุ๊ปนี้จริงๆ

คุณหมออดตื่นเต้นไม่ได้ “จริงเหรอครับ! เลือดกรุ๊ป P เนี่ย ในหนึ่งล้านคนก็ใช่ว่าจะหาเจอสักคนนะครับ! จนถึงทุกวันนี้ ตามบันทึกของประเทศ S เราก็มีไม่ถึงสิบคน

เชียซิงเฉินพยักหน้าอีกหน “บังเอิญว่าฉันก็เป็นหนึ่งในสิบ

คนนั่น!”

“คุณหญิงช่างมีบุญนัก!” คุณหมอเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยว

ผมจะเตรียมให้คนถ่ายเลือดคุณทันที

คุณหมอเอ่ยจบก็ก้าวเท้าเดินไปก้าวใหญ่ แต่ก้าวไปได้ เพียงก้าวเดียวก็พลันนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันศีรษะกลับมา แล้วเอ่ยถามอย่างจริงจัง “คุณครับ คุณกับคุณหญิงคนนั้นไม่ใช่ ญาติสายตรงกันใช่ไหม ถ้าใช้เลือดญาติสายตรงอาจทำให้ เกิดโรคแทรกซ้อนได้ พอเกิดโรคแทรกซ้อน อาการก็จะสาหัส มาก ตรงส่วนนี้คุณต้องเข้าใจด้วยนะครับ”
พอหยูเจ๋อหนันได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนเล็กน้อย ขณะที่กำลัง จะเอ่ยบางอย่าง ก็ได้ยินเซี่ยซิงเฉินพูดอย่างมั่นใจ “วางใจเถอะ ค่ะ เราไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกันเลย

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ เชิญตามผมมาเลย” คุณหมอเอ่ย

“ชิงเฉิน!” หยูเจ๋อหนันเอ่ยปากเรียกเธอ เหมือนมีบาง อย่างอยากจะพูด เซียซิงเฉินตอบว่า “มีอะไรก็รอให้ฉันออกมา ค่อยว่ากันนะคะ”

ฉือเว่ยยังเอ่ยสมทบอีกที ให้เธอไปก่อนเถอะ ทางคุณ หญิงอันตรายอยู่”

หยูเจ๋อหนันกำลังจะพูดอะไรบางอย่างอีกครั้ง แต่เซียซิงเฉิ นกลับเลี้ยวเดินตามคุณหมอไปที่ห้องถ่ายเลือดแล้ว คำพูดที่ห เจอหนุนกำลังจะเอ่ย ถูกกลืนลงคอไปเหมือนเดิม

ไปเย่นิ่งกลับถึงทำเนียบประธานาธิบดีไม่ได้ดึกมากนัก ขณะที่ก้าวเข้ามาก็มองไปที่หน้าประตู พบว่าไม่มีรองเท้าผู้หญิง คู่ที่คุ้นตา สีหน้าเรียบนิ่งกว่าเดิม

“เธอล่ะ” เอ่ยถามพ่อบ้าน พลางถอดสูทตัวนอกออก ยื่น

ให้คนรับใช้

“คุณเซียบอกว่าคืนนี้มีนัด ก็เลย…ออกไปชั่วคราวครับ พ่อบ้านเอ่ยตอบอย่างหวาดระแวง

พอไปเย่นิ่งได้ยินคำว่า “มีนัด สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เธอผิดคำพูดกับเขาอีกแล้ว ไปพบสเหยีย นงั้นเหรอ? เมื่อคืนสวี่เหยียนส่งข้อความยาวเหยียดมาขนาด นั้น ถึงเขาจะลบมันทิ้งไปแล้ว แต่สวี่เหยียนก็ไม่มีทางยอมแพ้ ง่ายๆ หรอก

“เสี่ยวไป กลับมาแล้วเหรอ” เสียงของเซี่ยต้าไปดังลงมา จากชั้นบน

สีหน้าไปเฉิงย่ำแย่มาก ไม่ได้สนใจเด็กน้อยสักนิด พอ เห็นทั้งบ้านเต็มไปด้วยตัวอักษรสีแดงว่า “มงคล” ก็ยิ่งหัวร้อน “นี่แขวนอะไรกัน เอาออกไปให้หมด!

เกะกะสายตามาก แค่เห็นก็รำคาญแล้ว

พ่อบ้านมีสีหน้าลำบากใจ “คุณหญิงสั่งให้คนเอามาให้ ตั้งแต่เช้าครับ บอกว่าให้ดูเป็นปีติมงคล

“ใครดูแล้วยินดีกัน ลูกดูแล้วยินดีเหรอ” ไปเยถึงถาม ลูกชาย

“ไม่! หม่ามี้ก็ไม่ชอบ!

ไปเย่นิ่งมองพ่อบ้าน พ่อบ้านรีบเอ่ยตอบทันที “ครับ ผมจะ สั่งให้เอาออกทันที

เขาผ่อนลมทางจมูกเอ่ยตอบรับเสียง “อืม” แล้วเดินขึ้นไป ชั้นบน เซี่ยต้าไปตามติดอยู่ข้างๆ “เสี่ยวไป เราไปรับหม่ากัน ดีไหม ดึกขนาดนี้แล้ว หม่ามี้ยังไม่กลับมาเลย แม่คงไม่มีรถนั่ง กลับมา”
“ผู้หญิงที่ผิดคำพูดทุกครั้ง ทำไมพ่อต้องไปรับ” พอพูดถึง เรื่องนี้ น้ำเสียงไปเฉิงก็ฉุนเฉียวกว่าเดิม ความจริงแล้วตอนนี้ เขาอยากจะลากผู้หญิงคนนั้นกลับมาตีสักครั้งจริงๆ แถมยัง ต้องตีให้หนักถึงจะพอชำระความแค้นได้

“ใครว่าหม่ามีผิดคำพูด แม่ไม่ได้ทำอย่างนั้นสักหน่อย

ไปเย่นิ่งแค่นหัวเราะ “เธอมีนัดกับผู้ชายคนอื่น ไม่ถือว่าผิด คําพูดเหรอ!”

เซียต้าไปเงยหน้ามองเขา จู่ๆ ก็หัวเราะคิกคักออกมา ดวงตากลมโตาขลับนั้นแพรวพราว “เสี่ยวไป พ่อชอบหม่าม จริงๆ ใช่ไหม พ่อโกรธขนาดนี้ต้องกำลังหึงหม่ามีเราอยู่แน่ เลย!”

“” ไปเยถึงชะงักงัน เพียงครู่เดียวก็ทำหน้าถมึงทึง “การบ้านลูกทำเสร็จแล้วเหรอ ถ้ายังไม่เสร็จก็รีบกลับไปทำ

“เสี่ยวไปคนโง่ชัดๆ!” เซียต้าไปเอ่ย “หม่ามีไปหาแม่ บุญธรรมแท้ๆ มีนัดกับแม่บุญธรรมต่างหาก แถมแม่ยังรับปาก กับผมไว้แล้วว่าคืนนี้จะกลับมาแน่นอน แม่ไม่เคยผิดคำพูดกับ ผม!”

ไปเยฉงชะงักฝีเท้าชั่วครู่ “เมื่อกี้ลูกพูดว่าอะไรนะ”

“ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ผมจะไปทำการบ้านแล้ว!” เซี่ยต้าไป แลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างซุกซน จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องนอน ตัวเองเสียงตึงตัง ตามด้วยปิดประตูทันที
แปลว่า…

เธอไม่ได้ไปเจอสวี่เหยียน

ไปเยถึงได้สติมาอีกที คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลายออก หัน ค่อนข้างลำบากจริงๆ

เวลาแวบหนึ่ง ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว เธอจะกลับทำเนียบคง

เขาย่ำเท้าเดินกลับห้องของตน ถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้ว

เปลี่ยนเป็นเสื้อสบายๆ สำหรับอยู่บ้าน

เซี่ยต้าไปนั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะ สักพักประตูห้องก็ถูก เปิดออก คนบางคนเดินเข้ามาหาเด็กน้อยแล้วนั่งลงข้างๆ โต๊ะ เขียนหนังสือ

“พ่อ พ่อออกไปเถอะ ผมทำการบ้าน พ่ออย่ามากวนผม

เลย” เซี่ยต้าไป๋ไม่แม้แต่เงยหน้าก็เอ่ยปากไล่

ไปเย่นิ่งหยิบสมุดการบ้านเด็กน้อยขึ้นเปิดดู “พ่อมาตรวจ การบ้านของลูกต่างหาก

“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ปกติพ่อก็มีงานตลอดอยู่แล้วนี่ นา ผมรู้ว่าพ่อยุ่งมาก ปกติก็มีหม่ามีกับคุณลุงพ่อบ้านช่วยตรวจ ให้ คุณครูก็บอกว่าผมทำการบ้านได้ดีมาก” เซี่ยต้าไปเอ่ย มือ ดึงการบ้านจากมือของเขาออก

ไปเยถึงเริ่มฉุน โยนมือถือลงบนโต๊ะทันที เซียต้าไปเลยหน้ามองเขา
“โทรเร็ว!” เขาเอ่ย

“โทรหาใคร”

“ลูกรู้อยู่แล้วยังถามอีก เมื่อซื้อยากไปรับหม่ามีลูกไม่ใช่ หรือไง” เจ้าตัวน้อยนี่! ยิ่งน่ารำคาญขึ้นเรื่อยๆ

“ก็เมื่อกี้เสี่ยวไปบอกว่าจะไม่ไปรับหม่ามีไม่ใช่เหรอ! ยังไง พรุ่งนี้ผมก็เจอหม่ามีอยู่ดี หม่ามีไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร อีกอย่าง ผมก็ไม่มีเรื่องต้องหาแม่นี่” เซี่ยตาไปฉลาดเป็นกรด มือหยิบ ดินสอแสร้งขีดเขียนบนสมุดไปมา

ไปเย่นิ่งรู้สึกว่าตนเริ่มจะหมดความอดทนกับเจ้าตัวเล็ก แล้ว

“ได้! ลูกไม่โทรก็ไม่โทร ยังไงเดี๋ยวพ่อก็จะหมั้นกับผู้หญิง คนอื่นอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นลูกก็กอดผู้หญิงอื่นแทนแม่เถอะ!” พูด

จบเขาก็ลุกขึ้น ดูเย็นชาถึงที่สุด

เซี่ยต้าไปโยนดินสอไปอีกข้าง ถลึงตามองเขา วินาทีต่อ มาก็รับมือถือไปอย่างเชื่อฟัง

เพียงครู่เดียว มือถือก็มีคนรับสาย ไม่รู้ว่าอีกฝั่งพูดอะไร เซี่ยต้าไปกลับส่งเสียงออกมาอย่างร้อนใจ “หม่ามี้ แม่ไม่เป็นไร ใช่ไหม ทั้งที่มีนัดกับแม่บุญธรรม ทำไมไปอยู่โรงพยาบาลได้ ล่ะ”

ไปเฉิงขมวดคิ้ว ยังไม่ทันรอเธอที่อยู่อีกฝั่งตอบกลับ ก็ แย่งมือถือจากมือของเด็กน้อยไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ

อีกด้านหนึ่ง เซี่ยซิงเฉินคาดไม่ถึงว่าเสียงของเขาจะดัง ออกมาอย่างกะทันหัน เธอชะงักไปชั่วครู่แล้วจึงตอบเสียงเบา “คุณบอกตาไปอย่าห่วงเลย ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันมาถ่ายเลือด ให้คนอื่นแค่นั้นเอง”

ไป๋เย่นิ่งตอบรับเสียงอืม มือที่กำแน่นคลายลงมาก เด็ก น้อยที่กำลังเงยหน้าอยู่ มองมาที่เขาด้วยท่าทางร้อนใจ ร้อนใจ จนเท้าไปมา ฝ่ามือหนาใหญ่ของชายหนุ่มตบเข้าที่ไหล่เล็ก ของเด็กน้อยไปที่ “ไม่มีอะไร แค่ไปถ่ายเลือดให้คนอื่นน่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ