สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 312 เตรียมการงานแต่งงาน (4)



ตอนที่ 312 เตรียมการงานแต่งงาน (4)

ตอนที่ 312 เตรียมการงานแต่งงาน (4)

“ถ้าให้เลือกวันแต่งงาน คุณอยากเลือกวันไหน” ไปเฉิง

ถามต่อไป

เซี่ยซิงเฉินแหงนมองใบหน้ามุมข้างของเขา เธอรู้ว่าเขา กำลังถามตนอย่างจริงจังไม่ได้ล้อเล่นแต่อย่างใด นี่ไม่ใช่การ หลอกเธอเล่น

คุยเรื่องแต่งงานกับเขา เธอยังคงรู้สึกว่าเร็วเกินไปจน เหมือนความฝัน แต่เธอกลับนึกคำพูดปฏิเสธออกมาไม่ได้

เธอคิดว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ตนอยากแต่งงานกับเขามาก

ขนาดนี้? อยากแต่งงานกับผู้ชายที่อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย อยู่

ด้วยกันยาก เอาแต่ใจแถมยังหลงตัวเอง

“เหม่ออะไร?” ไปเย่นิ่งที่ไม่ได้ยินคำตอบจึงบีบนิ้วมือเธอ

เธอหลุดจากภวังค์ก็ตอบกลับเขา “ถ้าจะแต่งจริงๆ ก็ต้อง รอหลังปีใหม่น่ะสิคะ เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้ว

คำพูดคราวก่อนของไปเย่เธอยังไม่ลืม หากพวกเขาทั้ง

สองประกาศแต่งงานในสถานการณ์แบบนี้คงไม่ดีต่อภาพ ลักษณ์ของเขาสักเท่าไร ไม่ว่าอย่างไรหากพวกเขาจะแต่งกัน จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมากนักหรอก
ไปเฉิงเม้มปากคล้ายกำลังครุ่นคิด แต่ไม่ได้พูดอะไร

ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเขาที่วางทิ้งไว้ข้างๆ ก็ดัง ขึ้น เป็นเบอร์โทรส่วนตัว

เซียซิงเฉินหยิบขึ้นมาให้ เขาถาม “ใคร?”

“คุณหญิงค่ะ”

ไปเย่นิ่งหยักหน้ารับเบาๆ “รับให้ผมหน่อย

“หม?”

“รับสิ” ไปเย่นิ่งไม่คิดหลีกเลี่ยงแต่อย่างใด สองมือก พวงมาลัยไว้อย่างมั่นคง สายตามองตรงไปที่ถนนด้านหน้า “บนทางด่วนผมไม่อยากรับสาย อีกอย่าง…วันหน้าพวกคุณก็ คือแม่ลูกสะใภ้กันแล้ว ต้องรีบสานสัมพันธ์ไว้

พูดถึงประโยคสุดท้ายเขาก็หันมามองใบหน้าเธออย่าง

หยอกล้อ

เซียซิงเฉินหน้าแดงไม่คิดสนใจเขา เพียงแต่กดรับสาย แล้วแนบโทรศัพท์ติดหู

“ฮัลโหล เย่นิ่ง” เสียงของคุณหญิงไปดังขึ้นจากอีกฝั่ง

เซี่ยซิงเฉินนั่งตัวตรง จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงรู้สึกอึดอัดอยู่ เล็กน้อย กระแอมเสียงไอเบาๆ ก่อนพูดขึ้นมา “คุณหญิง ฉันซึ่ง เฉินเองค่ะ”
ไปเฉิงหันข้างมองเธอ เห็นแค่ว่าเธอกำลังนั่งตัวเกร็ง มือ หนึ่งถือโทรศัพท์อีกมือวางไว้บนหน้าตัก นิ้วมือแน่นจน สามารถดูออกว่าเธอในยามนี้ตื่นเต้นเพียงใด เขารู้สึกว่าทั้ง ตลกทั้งน่ารัก อดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “ผ่อนคลายหน่อย คุณหญิง ท่านไม่กินคน”

เสียงของเขาไม่ได้เบาเลยสักนิด คุณหญิงไปได้ยินหมด แล้ว เพียงกล่าวกับซิงเฉินว่า “นั่นสิ หนูอย่าตื่นเต้นนะ เจ้า เย่นิ่งพูดถูก ฉันไม่กินคนหรอก”

“” เซียซิงเฉินแอบถลึงตามองไปเย่นิ่งแวบหนึ่งก่อนจะ รีบเอ่ยแก้ตัว “คุณหญิง ตอนนี้เฉิงกำลังขับรถอยู่ ท่านมีเรื่อง อะไรฝากฉันบอกให้ไหมคะ?

“มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งพอดี

เซียซิงเฉินหันไปมองไปเยถึงอย่างขอความคิดเห็น เอ่ย เสียงเบา “บอกเป็นเรื่องสำคัญน่ะค่ะ”

กำลังจะกดเปิดลำโพง แต่ก็ได้ยินเสียงคุณหญิงไปพูดขึ้น “เรื่องของตระกูลไปเรา บอกเธอก็เหมือนกันนั่นแหละ

“คะ?” เซี่ยซิงเฉินนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก็พลันเข้าใจ ความหมาย ค่าพูดของคุณหญิงไป๋หมายถึงยอมรับตัวเองแล้ว ไม่เหลือท่าที ต่อตนอย่างในสายที่คุยกันครั้งแรก

ร่างกายที่เกร็งของเธอก็ผ่อนคลายลงมาก “ถ้าอย่างนั้น ท่านก็บอกฉันเถอะค่ะ ฉันจะบอกเขาให้
“พรุ่งนี้คุณลุงของเขาจะออกมาจริงๆ แล้ว ถึงเวลานั้นทั้ง บ้านเราต้องไปต้อนรับ กลางคืนก็ทานมื้อค่ำกัน ซึ่งเฉิน หนูก็ พาต้าไปกลับมาด้วยกัน ให้คุณลุงได้เห็นตาไปหน่อย แล้วก็ เห็นว่าที่สะใภ้อย่างหนูด้วย

คุณหญิงไปเอ่ยเชิญอย่างกระตือรือร้น เซี่ยซิงเฉินดีใจเป็น อย่างมาก งานที่ทางการและยิ่งใหญ่เช่นนี้ เห็นที่คุณหญิงไปไม่ ได้เห็นตนเป็นคนนอกจริงๆ แต่คุณท่าน….

“งานแบบนี้ถ้าฉันไปก็กลัวว่าคุณท่านจะไม่พอใจ

“กลัวเขาทำไม? อีกอย่างเขาก็แค่ดูด หนูต้องมากับ

เซี่ยซิงเฉินเพิ่งฟังไปไม่จบประโยคดี จู่ๆ โทรศัพท์มือถือ ถูกแย่งไป

เธอหันหน้ามา

ไปเย่งมือหนึ่งจับพวงมาลัยไว้ อีกมือถือ โทรศัพท์มือถือ ไว้ ทิ้งสายตาไว้ข้างหน้าแล้วกล่าวเพียง “พรุ่งนี้ตอนค่ำซิงเฉิน ไม่ว่างครับ ผมจะพาต้าไปไปเอง”

เซี่ยซิงเฉินนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง พรุ่งนี้ตอนเธอว่างแท้ๆ คุณหญิงไปก็ชะงักค้างไป

จากนั้นก็เอ่ยเสียงแหวกลับมา “ไม่ว่างอะไร? เธอบอกว่า ว่าง ลูกมาบอกไม่ว่างได้ยังไง? อีกอย่างลูกอยากแต่งงานกับ เธอไม่ใช่เหรอ? ก็ต้องพาเธอกลับมาให้คุณลุงของลูกเห็นหน้าหน่อยสิ”

มือที่ โทรศัพท์ของไปเย่งเกร็งแน่น

เซียซิงเฉินหันข้างไปมองก็เห็นนิ้วมือของเขากำแน่นจน ขาวซีด พักใหญ่ก็ได้ยินเขากล่าว “วันหลังใช่ว่าจะไม่มีโอกาส แค่นี้ก่อนนะครับ ผมวางสายล่ะ

ไม่ปล่อยให้คุณหญิงไปได้เอ่ยอะไรต่อ ไปเฉิงก็ชิงตัด

สายเสียก่อนแล้วทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างๆ

เซียซิงเฉินหันข้างมองเขาแวบหนึ่งจากนั้นก็หันกลับไป มองนอกหน้าต่างเช่นเดิม รู้สึกโหวงๆ ความจริงงานพรุ่งนี้ใช่ ว่าเธอจะต้องออกงาน ครอบครัวของเขาแท้ๆ ถ้าเธอไปอาจจะ รู้สึกไม่สบายตัวเท่าไร เพียงแต่ถูกเขาพูดปฏิเสธแทนตัวเองไป อย่างไร้เหตุผลแบบนี้ก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้

เขาไม่อยากพาตัวเองกลับไปแล้วเหรอ? การกระทำครั้ง ก่อนของเธอทำให้เขาไม่พอใจเหรอ?

เซี่ยซิงเฉินอยากถามแต่ความน้อยใจที่อัดแน่นอยู่ในอก ทำให้เธอถามไม่ออกจริงๆ เธอเองก็กลัวคำตอบที่จะทำให้เธอ ดูแย่

เพราะฉะนั้น….

ตลอดทางที่กลับไปทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรอีกบรรยากาศภายในรถเริ่มมา ไปเย่นิ่งไม่ได้เอ่ยถามเธอเลยสักประโยค
เมื่อถึงจุดพักรถ เขาจอดรถเสร็จเซียต้าไปก็ตื่นพอดี บอก จะไปเข้าห้องน้ำเชี่ยซิงเฉินจึงปล่อยให้เขาไปคนเดียว ทั้งสอง คนนั่งอยู่ภายในรถ จนท้ายสุดคล้ายว่าทนอยู่กับบรรยากาศ เช่นนี้ไม่ไหวอีกต่อไป เซียซิงเฉินก็เปิดประตูรถกล่าว “ฉันลงไป สูดอากาศหน่อยนะคะ

พูดจบก็จะลงรถทันที

เขายื่นมือรั้งมือที่กำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของเธอไว้

เธอหันกลับมาไม่มองเขา แค่มองมือของเขา ออกแรงขึ้น มือออก

“โกรธเหรอ?” ผ่านไปหลายชั่วโมง ในที่สุดเขาก็เปิดปาก พูด มือใหญ่จับมือเธอไว้แน่น

เซียซิงเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง แพขนตาสั่นไหว แล้วตอบ

เพียง “เปล่าค่ะ

แม้จะพูดไปเช่นนั้นแต่น้ำเสียงกลับเรียบนิ่ง

เขามองเธอตรงๆ “เพราะเรื่องที่ผมปฏิเสธทานอาหารค่ำ แทนคุณเหรอ?”

“ก็ไม่เชิงค่ะ”

ไปเย่นิ่งไม่พูดอะไร เพียงแต่ต้องเธออย่างค้นหาคำตอบ

เธอไม่ได้ขึ้นมือออกจากเขาอีก แค่ประสานสายตาเขา แล้วถามอย่างไม่ปิดบัง “คราวที่แล้วที่ฉันไปบ้านคุณทำให้คุณไม่พอใจเหรอคะ?”

นิ้วยาวของเขานวดคลึงหลังมือเธอไปมา “อย่าคิดมาก ก็ แค่คุณลุงผมเพิ่งออกจากคุก เขาตัวคนเดียวแต่เรากลับมาครบ ทั้งครอบครัว ผมกลัวจะทำให้เขานึกถึงความหลังก็เลยอยาก รอเวลาค่อยหาโอกาสให้พวกคุณเจอกัน

คำพูดของเขาก็ฟังมีเหตุผล ได้ยินเขาอธิบายเช่นนี้แล้ว เซียซิงเฉินก็สบายใจขึ้นมาก ความน้อยใจเมื่อครู่หายไปหมด แล้ว พยักหน้ากล่าวเพียง “คุณลุงคุณก็น่าสงสาร แล้ว…คุณ ก็ตามหาลูกสาวของคุณหญิงอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอคะ? เป็นลูก ของคุณลุงคุณใช่ไหม?

ไปเย่นิ่งมองเธอด้วยแววตาลึกแวบหนึ่ง สายตานั่นทำ ให้เซียซิงเฉินรู้สึกแปลกๆ ผ่านไปพักใหญ่เขาถึงกล่าว “เรื่องนี้ จบแล้ว จะไม่ตามหาอีก คุณก็อย่าเก็บมาใส่ใจเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ