สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 256 ความรักที่แท้จริง (6)



ตอนที่ 256 ความรักที่แท้จริง (6)

เซียซิงเฉินให้เขานั่งลงบนโซฟา “คุณถอดเสื้อออกให้ฉันดู หน่อย”

ไปเฉิงทำตาม เซียซิงเฉินดูแล้วหายใจติดขัด เงินหมิ่น ขมวดคิ้ว “ทำยังไงให้เจ็บขนาดนั้นได้ล่ะ?”

บันไดนั่นล้มลงแรงมากจริงๆ ทำให้ผิวของเขาถลอกทันที

“ต้องให้คุณหมอดูหน่อยไหม?”

“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น เรื่องเล็กน้อย บาดแผลแบบไหน ที่เขายังไม่เคยได้รับกัน? “มียาฆ่าเชื้อไหม?”

“มีค่ะ”

เซี่ยซิงเฉินก้นน้ำยาฆ่าเชื้อออกมา และตอนนั้นเองที่ประตู ถูกเคาะ เงินหมิ่นกล่าว “อาจจะเป็นเว่ยยัง แม่จะไปเปิดประตู เอง”

เงินหมิ่นเดินไปเปิดประตู พอเห็นคนด้านนอกประตู หน้าก็ยิ้มค้าง ยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ ไม่ได้ปริปากพูดอะไร

เมื่อได้สติกลับมาก็แทบจะปิดประตูทันที

“เสียวหมิ่น!” เซียวเผิงขวางไว้
ใบหน้าเงินหมิ่นฉายแววเจ็บปวดแวบหนึ่ง “อย่าเรียกฉัน ว่า เสียวหมิ่น” “

ก็แค่ชื่อเรียกในอดีต พอได้ฟังกับหูในตอนนี้แล้วก็ยิ่ง ทำให้เจ็บปวดเสียเท่านั้น

เซี่ยซิงเฉินหันกลับไปมองทางประตูอย่างตกใจ เห็นบิดา ยืนอยู่หน้าประตูนั่น สายตามองมารดาอย่างสับสน คล้ายมีคำ พูดมากมายจะเอ่ย อากาศข้างนอกหนาวเหน็บ ระหว่างคิ้วของ เขาเคลือบด้วยหิมะบางๆ

“คุณยกของไปรอฉันที่ฝั่งนั้นแป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวฉันจะทำ แผลให้คุณ” เซี่ยซิงเฉินบอกกับไปเยถึง พลางปิดกล่อง ปฐมพยาบาลแล้วเอาให้เขา เขาไม่พูดอะไร เพียงแค่เดินไป ห้องนอนเดิมของเขา พอเขาลุกขึ้น เซี่ยกั่วเผิงจึงรับรู้ถึงการมี อยู่ของเขา ยืนทักทายอย่างนอบน้อมตรงหน้าประตู “ท่าน ประธานาธิบดี”

เขาหยักหน้ารับอย่างสง่า ยังคงท่าทางสูงส่งแต่ก็เป็น กันเองมากพอสมควร

เขาเดินไปอีกฝั่ง เซี่ยซิงเฉินจัดโซฟาลวกๆ กล่าว “พ่อ เข้ามานั่ง ข้างนอกมันหนาว

“ซิงเฉิน” เสินหมิ่นกุมมือลูกสาวคล้ายไม่เต็มใจ

เซี่ยซิงเฉินพูดเสียงเบา “แม่ จะให้ลูกห้ามพ่อไว้นอกประตู คงไม่ดีใช่ไหม? อีกอย่างข้างนอกหนาวขนาดนั้น ถ้าป่วยขึ้นมาก็ไม่เอานะ”

พอเธอพูดเช่นนี้ เงินหมิ่นก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก

เซี่ยวเพิ่งเข้ามา เซียซิงเฉินไปเทน้ำร้อนมาให้แก้วหนึ่ง “พ่อแม่คุยกันเถอะ ลูกขอไปดูแผลของเขาแป๊บหนึ่ง พูดจบก็ทิ้งที่ตรงนี้ไว้ให้พวกเขา หันกลับไปมองแวบหนึ่ง

ในใจยังคงแอบกังวลอยู่บ้าง

เซียซิงเฉินหาเขาเจอที่ห้องนอน เขากำลังนั่งอยู่บนเตียง มือพลิกหนังสือบนหัวเตียง ล้วนเป็นตำราเกี่ยวกับพืชพรรณที่ ปกติมารดามักจะอ่าน

เขาอ่านอย่างใจจดใจจ่อ

เธอเข้ามาเขาก็ไม่ได้เงยหน้ามองแต่อย่างใด เธอยืนอยู่หน้าประตู มองผู้ชายคนนี้นิ่ง ในใจมีหลาก หลายความรู้สึกพลุ่งพล่านอยู่ ในหัวล้วนเป็นภาพที่เมื่อครู่เขา เผลอปกป้องตน…

“ถ้ายืนอยู่ตรงนั้นตลอด แผลของผมอาจจะเน่าแล้วล่ะ เหมือนรู้ตัวว่าเธอคอยมองตนอยู่ตลอด ไปเย่นิ่งเอ่ยเสียงเรียบ ไม่ได้เงยหน้าเพราะยังจดจ่อกับหนังสืออยู่

เซี่ยซิงเฉินปากพึมพำ “จะขนาดนั้นได้ยังไง?

เธอเดินไปยืนอยู่ด้านหลังของเขา เขาเปลือยกายครึ่งท่อนบน ลายเส้นกล้ามเนื้องดงามจนทำให้เธอหน้าแดงแถมยังใจ สั่น ต่อให้เป็นแค่แผ่นหลัง

ผู้ชายคนนี้เข้มงวดกับตัวเองอยู่เสมอ ต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ ยังหาเวลาออกกำลังกายได้ทุกวัน ถึงได้มีเรือนร่างแข็งแรง ขนาดนี้

ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม คนที่ทำให้ หญิงสาวนับพันนับหมื่นคนชื่นชม ซึ่งเหวย หายไปก็มีหลันเ มาแทน ไม่แปลกใจเลยจริงๆ

แล้วตัวเองล่ะ?

ตนคงเป็นหนึ่งในบรรดาคนนับพันนับหมื่นนั่น…

ดูคล้ายจะใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้ แต่ความจริงก็ห่างไกล เหลือเกิน…

“คุณหันตัวหน่อย” เธอพูดเสียงเบา เขานั่งหันข้างอย่าง เชื่อฟัง เธอถือยาฆ่าเชื้อไว้ในมือ “เดี๋ยวจะเจ็บนิดหน่อย คุณ ทนหน่อยหนึ่งนะคะ”

“อืม” เขาตอบรับเสียงเรียบ

เธอเทน้ำยาลงไป ไปเย่นิ่งกลับไม่ส่งเสียงใดๆ แม้แต่น้อย เพียงแค่มือที่จับหนังสืออยู่กำแน่นขึ้นบ้าง

เซี่ยชิงเฉินไม่อยากยอมรับ แต่ปวดใจจริงๆ…

แรงที่ใช้ก้านสำลีทายาให้เขาเบาลง เหมือนกลัวว่าจะทำเขาเจ็บ เมื่อทายาเสร็จก็โน้มตัวลงอย่างไม่รู้ตัว เป่าแผลให้เขา ร่างกายเขานิ่งเกร็ง มือที่พลิกหนังสืออยู่หยุดชะงัก จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “คุณทำอะไร?

เสียงแหบแห้งเล็กน้อย

“แบบนี้ก็จะไม่เจ็บเท่าเดิมไม่ใช่เหรอคะ?” เซียซิงเฉินพูด ตอบปกติ

ยังคงไม่รับรู้ถึงความผิดปกติของเขา พลางโน้มตัวลงเป่า อีกสองที

ลมอุ่นๆ พร้อมกลิ่นกายของเธอ ทั้งอ่อนโยนทั้งยั่วเย้า เหมือนกระแสไฟฟ้าที่แล่นผ่านหลังเขา จากนั้นก็ระเบิดทุกเซลล์ ในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาล้ำลึก หันหลัง กลับไปยึดแขนเธอไว้ทันที อีกมือก็จับคางเธอแล้วเชยขึ้นมา “เซียซิงเฉิน คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?!

สีหน้าของเขาดุดัน หัวคิ้วขมวดเป็นปม ดูท่าทางกำลัง

เคือง โกรธ

เซี่ยซิงเฉินมองเขาอย่างมึนงง “อะไรคือหมายความว่ายัง ไง?”

เธอจับมือของเขาออก จะลุกขึ้นยืน แต่ไปเฉิงกำมือเธอ แน่นแล้วกระชากตัวเธอลงเล็กน้อย เธอที่โน้มตัวอยู่ประสาน สายตากับเขา สามารถเห็นแสงหม่นจากดวงตาล้ำลึกของเขา ได้ รวมไปถึงความหักห้ามใจและขัดแย้งลึกๆ
“คุณกำลังยั่วผม!” ทุกคำจากปากเขาไม่ได้กำลังถามไถ่ แต่เป็นการกล่าวหา

ยั่ว?

เซียซิงเฉินรู้สึกว่าถูกกล่าวหา แต่พอเขาพูดเอ่ยเตือนก็เพิ่ง รู้สึกตัวว่าการกระทำเมื่อของตัวเอง…ไม่เหมาะสมจริงๆ

“ฉันไม่ได้…” เธออธิบาย “ปกติลูกเจ็บก็ขอแบบนี้ ก็เลย ฉันไม่รู้ตัว….

“ไม่รู้ตัว?” ไปเฉิงต้องเธอเขม็ง พูดเสียงกรอดทุกคำ “เซียซิงเฉิน อย่าลืมว่าคุณเคยบอกว่าเกลียดผม! ถ้าเกลียดผม ขนาดนั้นจริงๆ ก็อย่ามายุ่งกับผม!

ผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้เหรอว่าทำแบบนี้กับเขามีแต่จะทำให้ใจ เขาว้าวุ่น ทำให้เขายิ่งกระวนกระวาย กินไม่ได้นอนไม่หลับ ยิ่งลืมเธอไม่ได้! ความรู้สึกแบบนี้ย่ำแย่ที่สุด แต่กลับต้องเห็น เธอถึงจะผ่อนคลายได้บ้าง แต่ตอนนี้เขากลับรู้ตัวว่าพอเห็นเธอ แล้ว ความว้าวุ่นใจนั้นก็ยิ่งหนักข้อขึ้น

วนลูปไปอย่างร้ายกาจ

เซียซิงเฉินชะงักไป มองเขาสักพักก็กัดปาก พูดแย้งเสียง อุบอิบ “…คุณมาที่นี่เองนะ ทำไมถึงว่าฉันไปยุ่งกับคุณล่ะ?”

ฉะนั้นคำที่ว่า “ยุ่ง” นั้นก็หมายถึงตัวเขาด้วยสินะ?

ไป๋เย่นิ่งมองตาที่หลุบต่ำของเธอ ฟังคำพูดของเธอแล้วก็มี สีหน้าเรียบนิ่ง นั่นสิ เขามาเองไม่ใช่เหรอ?
เขม่นมองเธออย่างแรงสองที โยนหนังสือลง

เขาหยิบเสื้อเปื้อนเลือดขึ้นสวม เห็นได้ชัดว่าโกรธแล้ว เปิดประตูเดินออกไปทันที

เซี่ยซิงเฉินมองแผ่นหลังที่จากไปด้วยความคุกรุ่นแล้วก็อ้า ปากค้าง อยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่รู้ควรเริ่มพูดอย่างไร หากตนเรียกเขาไว้อีกครั้ง บอกให้เขาว่าระวังปากแผลอย่าให้ โดนน้ำ จะโดนเขาหาว่าเธอยุ่งกับเขาอีกไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ