สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 316 ตรวจ DNA (4)



ตอนที่ 316 ตรวจ DNA (4)

ตอนที่ 316 ตรวจ DNA (4)

ไม่อย่างนั้นทำไมจู่ๆ ถึงดีกับตัวเองขนาดนี้ล่ะ?

แถมเมื่อครู่ตนเก็บเศษประทัดจนมือเปื้อนสกปรก เดี๋ยวไป ไม่เพียงไม่ตำหนิเขาแต่ยังเช็ดมือให้เขาอีก พอมานึกดูแล้ว ท่าทีนั่นอ่อนโยนจริงๆ นะ!

ไม่ปกติ! ไม่ปกติมากๆ

ไปเฉิงมุมปากกระตุก เจ้าเด็กนี่! ทำดีไม่ขึ้นเลย

ขณะที่ไปเย่นิ่งจูงมือเด็กน้อยเข้าไปในบ้านที่กำลัง ครึกครื้นเป็นอย่างมาก

ก็ได้ยินเสียงของคุณท่านไปตั้งแต่อยู่ข้างนอกอารมณ์ดีเพราะงานรื่นเริงเสียงจึงดังเป็นพิเศษกว่าปกติน้อยครั้งที่

ไปเฉิงจะเห็นบิดาตนมีความสุขมากขนาดนี้

พอทั้งสองเดินเข้าไปคุณหญิงไปก็รีบโบกมือให้เซี่ยต้าไป ทันที “ต้าไป เร็วๆ รีบมาทักทายคุณปรองเร็ว

เซียต้าไปวิ่งเหยาะๆ เข้าไปแล้วเอ่ยทักคุณท่านชิงรั่งเสียงหวาน

“คุณปูรองกับ”
ไปเย่จึงเดินตามหลังเด็กน้อย พร้อมทักทายอย่างมี มารยาท “คุณลุง

ช่วงเวลายี่สิบปีในคุกมันโหดร้ายกว่าโลกภายนอกมาก นัก คุณท่านไปชิงสั่งอายุน้อยกว่าคุณท่านไปหลายปี แต่ตอนนี้ กลับมีผมขาวขึ้นเต็มไปหมด

เพียงแต่ร่างกายยังดูแข็งแรงเหมือนตอนวัยรุ่นไม่ผิด

“ลุงออกมาได้ก็เพราะมีหลานช่วย” เทียบกับน้ำเสียงห้วน ของคุณท่านแล้ว เวลาคุณท่านไปชิงรั่งพูดแล้วจะอ่อนโยน มากกว่า

สองพี่น้องต่างกันสุดขั้ว หนึ่งหนึ่งรุ่น ลักษณะหน้าตา และท่าทางที่ต่างกัน คนหนึ่งนอบน้อมใจเย็น อีกคนเข้มงวด โหดเหี้ยม หากคนนอกไม่รู้ก็ยากจะจินตนาการได้ว่าคนที่ บุคลิกต่างกันมากขนาดนี้จะเป็นพี่น้องกันได้อย่างไร

“ท่านเกร็ง ใจเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความเสียสละของ ท่าน ตระกูลไปเราก็ไม่มีทางมั่นคงแบบนี้” ไปเยฉิงยังคงชื่นชม และขอบคุณคุณลุงผู้นี้อยู่เสมอ

ไปชิงรั่ง โบกมือไปมา “เป็นเรื่องอดีตแล้ว วันนี้เป็นวันที่ดี เราจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตกัน ฉันล่ะอยากเห็นหน้าหลานตัวเล็ก คนนี้ให้ชัดๆ สักหน่อย

ไปชิงรั่งเบนสายตาไปทางต้าไป ชีวิตที่โดดเดี่ยวมาตลอด ยี่สิบปี วันนี้ได้เห็นหนึ่งชีวิตใหม่ของตระกูลไปก็ใจสั่นคลอน
ควักซองแดงออกมาจากกระเป๋ายื่นให้เด็กน้อย เซียต้าไป ไม่รู้ว่าควรรับไว้หรือไม่ เพียงแต่แหงนศีรษะเล็กมองสีหน้าของ เสี่ยวไป ไปเยงพยักหน้าให้เขาจึงส่งสองมือเล็กไปรับพร้อม พูดว่า “ขอบคุณครับ

“อืม เจ้าตัวเล็กนี่เหมือนหลานตอนเด็กเลยนะ ฉลาดดี คุณท่านหัวเราะไปพูดไป

“ชนมาก” ไปเยองนั่งลงบนโซฟา เซียต้าไปก็ค้นของเล่น อิฐก่อสร้างจากลิ้นชักออกมา นั่งเล่นอยู่บนพื้นพรมเพียงลำพัง

คุณท่านกล่าว “ตอนเด็กหลานก็ไม่เคยอยู่เฉยๆ เลยนะ แต่ว่ารอบนี้ทำไมไม่พาแม่ของเด็กมาด้วยล่ะ?”

ไปเฉิงทำหน้านิ่ง “วันนี้เธอยุ่งมาก วันหลังยังมีโอกาส อีกมาก ยังไงเดี๋ยวท่านก็ได้พบ

“อืม มีลูกที่ฉลาดให้หลานคนหนึ่งได้ต้องเป็นผู้หญิงที่ดีเขามองคุณลุงด้วยสีหน้าสับสนเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวแน่ๆ”

เสียงเรียบ “ท่านต้องชอบเธอแน่ๆ

“อ้อ เรื่องช่วงนี้ที่ฝากให้แกตามสืบ แกได้สืบอยู่ไหม? คุณท่านนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ก็ถามลูกชาย

พอเขาพูดถึงทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหมายถึงเรื่องไหน พร้อม กับใจที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ฉะนั้นจึงหันมามองไปเย่นิ่งอ ย่างไม่ได้นัดหมาย
โดยเฉพาะไปชิงรั่ง ความคาดหวังในแววตาชัดเจนเสีย ยิ่งกว่าชัดเจน เพราะความตื่นเต้น มือที่วางทับไว้บนเขาสั่น ระริก ไปเย่นิ่งไม่อยากให้ผู้สูงวัยอย่างเขาผิดหวังเลยจริงๆ แต่ ปากบางขยับเพียงครู่สุดท้ายก็กล่าวออกไป “ยังตามสืบอยู่ ครับ”

ทุกคนถอนหายใจอย่างผิดหวัง

คุณหญิงไปพูด “ไม่ใช่ว่าจะหาไม่เจอแล้วนะ? ยี่สิบกว่าปี ผ่านไปแล้ว กลัวจะไม่เหลือร่องรอยอะไรเลยน่ะสิ

คุณท่านมองสีหน้าที่ผิดหวังของน้องชายแวบหนึ่งก่อนจะ ตะคอกเสียงแวด “พูดเหลวไหล หน่วยข่าวทั้งประเทศ 5 กำลัง ตามหาอยู่ทำไมถึงหาไม่เจอ? แค่ช่วงนี้เฉิงมัวแต่ยุ่งกับการไป เยือนประเทศ M เฉิง ไม่ว่ายังไงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับคุณลุงแก แกต้องตั้งใจนะ!”

ไปเย่นิ่งทำเพียงพยักหน้ารับแต่ไม่ได้ตอบกลับ หันข้าง มองคุณลุงที่แต่เดิมยังมีแววตาที่เป็นประกายจนค่อยๆ หม่นกลางคืนไปเย่นิ่งพาเด็กน้อยกลับ ไปเยกลับรถคันเดียวกับเขา

คุณท่านและคุณหญิงเดินไปส่งไปชิงรั่งที่บ้านเดี่ยวหลังนั้น ด้วยตัวเอง ทั้งสองถึงเดินย้อนกลับมา
ตลอดทางคุณหญิงก็เอาแต่ถอนหายใจ

“อย่าถอนหายใจบ่อยได้ไหม ได้ยินจนรำคาญแล้ว” คุณ ท่านเคาะไม้เท้ากับพื้นไปมาสองที “วันนี้น้องกลับมา เดิมที่เป็น เรื่องดีนะ คุณจะมัวแต่ถอนหายใจทำไม!

คุณหญิงคล้องแขนเขาแล้วบีบไปมา “ฉันก็ปวดใจแทนเขา ไหมล่ะ?”

“เขาออกมาแล้ว จากนี้ไปมีแต่ชีวิตดีๆ ทั้งนั้น! ยังต้องให้ คุณมาปวดใจแทนอะไรเหรอ?”

“ฉันปวดใจที่ชีวิตเขาอาภัพนัก อายุไม่ถึงสองขวบพ่อแม่ก็ จากไปจนเหลือแค่เขาคนเดียว ตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวใน ชีวิตบั้นปลาย…

“อะไรคือเหลือเขาตัวคนเดียว?” คุณท่านเอ่ยขัดประโยค ของคุณหญิง “คนตระกูลไปเราตายหมดแล้วเหรอ!

“ไม่ๆๆ! เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้ว คุณพูดอะไรที่ไม่มงคลเลย! คุณหญิงเขม่นมองคุณท่าน

“คุณก็อย่ามัวแต่ถอนหายใจ ในเมื่อเขามาอยู่ตระกูลไป แล้วก็คือคนของตระกูลไป เบื้องหลังชีวิตของเขานอกจากคุณ และผม ก็ไม่มีใครรู้อีก คุณก็อย่าให้หลุดปาก ถ้าให้เขารู้เข้า เขาก็จะรู้สึกโดดเดี่ยวเข้าจริงๆ แล้ว เข้าใจไหม?”

คุณหญิงแค่นเสียงไปที่ “ยังต้องให้คุณมาสอนฉันรึไง?”
วันพฤหัสบดีของสัปดาห์

ไปเยฉิงเพิ่งออกมาจากกรมขนส่งทางอากาศ โทรศัพท์มือ ถือก็ดังขึ้น

ล้วงออกมาดูก็เห็นว่าบนจอแสดงชื่อ “ฟู แววตาล้ำลึกขึ้น เล็กน้อย เขากดรับสายแล้วแนบชิดริมหู

“ท่าน”

“พูด” ไปเยฉิงตอบกลับไปเพียงคำเดียว

“DNA ของสามคนยืนยันว่าเป็นสายเลือดเดียวกันไม่ผิด

อีกฝั่งเงียบไปพักใหญ่ ไม่ส่งเสียงอะไรเลย มีเพียง เสียงลมหายใจที่หนักอึ้งมากขึ้นทุกที

เดาผลไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่พอได้ยินเฉินพูดออกมา

ชัดเจนแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอยู่ดี

“ท่านฟังอยู่รึเปล่า?” ไม่ได้ยินเสียงใด เฉินจึงถาม

อีกครั้ง

“ทำลายผลตรวจซะ” สุดท้ายก็อ้าปากพูด เสียงของเขา เรียบนิ่งไร้อารมณ์ใดๆ “แล้วก็ห้ามพูดถึงเรื่องนี้กับคนอื่นเด็ด ขาด!”

กลับสู่ความใจเย็นและสุขุมอย่างเคย

ฟู่เฉินไม่เข้าใจแต่ก็รับปากและไม่ถามให้มากความไปเย่นิ่งไม่ได้พูดอะไรอีก พลางกดวางสายทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ