สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 141 พบคุณหญิงหลันถึงอีกครั้ง(2)



ตอนที่ 141 พบคุณหญิงหลันถึงอีกครั้ง(2)

“เกี่ยวกับคุณหมอฟูเหรอ” เซี่ยซิงเฉินเอ่ยถามเสียงต่ำ

ชัดเจนว่าเธอพูดถูก คือเว่ยยังกัดปาก เปลือกตาหลุบมอง ต่ำ ไม่เอ่ยปากพูดอะไรไปพักใหญ่ เซี่ยซิงเฉิงปะติดปะต่อเรื่อง ราวในใจ “เธอ…เมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน คงไม่ใช่ว่ากับคุณ หมอฟู…”

“ระหว่างเราไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นนะ!” ฉือเว่ยยังรีบแย้ง ท่าทางแบบนั้นยิ่งพยายามปกปิดก็ยิ่งน่าสงสัย เซียซึ่งเป็นอด จ้องเธอไม่ได้ พอเธอได้สติกลับมาก็ลอบถอนหายใจอย่างสลด ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ถึงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่า พวกเราจูบกันแล้ว…ฉันจูบเขาเอง….

ผู้คนรอบข้างมีมาก เสียงเธอก็เบามาก แผ่วเบา ยิ่งเศร้า ชัดเจนกว่าเดิม ฉือเว่ยยังหลุบตามองไปที่กระดูกไหปลาร้าของ เซียซิงเฉิน เหมือนกำลังพึมพำกับตัวเอง “เมื่อคืนฉันสั่งเหล้ามา แล้วฉันก็ห้ามตัวเองไม่ได้…ฉันนึกว่าเขาต้องผลักฉันออก แน่นอน เขารู้ว่าฉันคออ่อนจะตาย แต่ว่า…เขาก็ไม่ได้ผลัก…

ฉือเว่ยยังนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่ เขาก็มีภรรยาแล้ว ทำไมถึงไม่ผลักเธอออก กลับเป็นคนคุมจูบ นั้นอีก เน้นให้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม สุดท้ายพวกเขาจูบกันตลอดทางที่ออกจากบาร์จนถึงโรงแรม จนเกือบกลายเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายก็เป็นเธอที่จู่ๆ ได้สติขึ้นมา จึงผลักตัวเขาออกแล้วทิ้งให้ เขาอยู่นอกห้องไป

ฉือเว่ยยังถอนหายใจ “ชิงเฉิน เธอว่าฉันมันไม่มีศีลธรรม เกินไปไหม”

ภายในใจเซี่ยซิงเฉินก็เศร้าและสับสนเหมือนกับเธอ หากว่าถึงศีลธรรม ตัวเองก็ไม่ได้ต่างไปจากเธอเลย ในเรื่อง ความรัก ความจริงแล้วเธอไม่สามารถให้คำชี้แนะฉือเว่ยยังได้ เลยแม้แต่น้อย

“ชิงเฉิน ใช่คุณจริงด้วย” ขณะที่กำลังครุ่นคิด ไหล่เล็กก็ ถูกสะกิด เซี่ยซิงเฉินหันไปมองทันที ใบหน้าของคุณชายหยูเจ๋อ หนันก็ปรากฏสู่สายตาของเธอ ฉือเว่ยยังรีบเก็บอาการ แล้วลุก ขึ้นยืนเอ่ยทัก “คุณชายหยู”

“คุณอยู่นี่ได้ยังไง” เซี่ยซิงเฉินถาม เธอลุกขึ้นเช่นเดียวกัน

“ก็คุณเขียนที่อยู่ร้านนี้ให้คุณหญิงไม่ใช่เหรอ ผมพาเธอ มานะ” หยูเจ๋อหนันชี้นิ้วไป เซี่ยซิงเฉินจึงเห็นคุณหญิงหลันถึง แม้แต่คือเว่ยยังก็มองออกในครู่เดียว กระซิบชิดหูเซี่ยซิงเฉิน “นี่มันท่านที่อยู่สหประชาชาติไม่ใช่เหรอ….

“อืม” เธอพยักหน้า แล้วพูดกับคุณหญิงหลันถึงด้วยรอย ยิ้ม “ที่แท้ท่านก็ยังไม่ไป คราวก่อนท่านบอกว่าจะอยู่ที่นี่แค่สอง วัน ฉันเลยนึกว่าท่านกลับไปตั้งนานแล้ว

คุณหญิงหลันถึงตอบ “ความจริงก็ควรไปแล้ว แต่มีบางเรื่องก็เลยล่าช้าไป คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเธอที่นี่เสียอย่างนั้น

หยูเจ๋อหนันเอ่ยแทรก “นี่มันพรหมลิขิตไม่ใช่เหรอครับ

“ก็ใช่ ในเมื่อบังเอิญมากขนาดนี้ ถ้าทั้งสองคนไม่ถือก็นั่ง ทานกับเราเถอะ” คุณหญิงหลันถึงเอ่ยเชิญด้วยตัวเอง

หยูเจ๋อหนันดึงหมายเลขคิวในมือของฉือเว่ยยังออก เผย ยิ้มกว้างสดใส “ตกลงตามนี้แหละ มาสนุกด้วยกันเถอะ”

เซียซิงเฉินมองฉือเว่ยยังไปแวบหนึ่ง ฉือเว่ยยังคงต้องการ คุยกับเธอแน่ๆ แต่ตอนนี้ตัวเธอเองก็ลืมเรื่องความรักของตัว เองไปหมดแล้ว ตามองคุณหญิงหลันถึงด้วยสีหน้าชื่นชม พยัก หน้ารับ “ตกลงค่ะ

“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปเถอะ

ไม่ต้องต่อแถว อีกทั้งผู้จัดการตามด้วยกลุ่มคนเดิน ต้อนรับพวกเขาเข้าไปอย่างนอบน้อม สายตาผู้คนภายนอกจ้อง มองพวกเขา อิจฉามากเหลือเกิน

พวกเขาเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ทว่าที่แบบนี้ไม่มีทางเทียบ กับร้านอาหารหรูหราในแวดวงสังคมชั้นสูงได้อยู่แล้ว หยูเจ๋อ หนันเป็นคุณชายโดยแท้ สำหรับที่แบบนี้เขาไม่ชินเลยจริงๆ แต่ คุณหญิงหลันถึงนั้นต่างกับเขา ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมแบบไหน ก็อยู่ได้อย่างสบาย

เธอยื่นเมนูอาหารให้เซียซิงเฉิน “เธอรู้จักที่นี่ดีสุด งั้นเธอก็สั่งเถอะ”
เซี่ยซิงเฉินไม่ได้เอ่ยปฏิเสธ เต็มใจสั่งอาหาร เธอสอบถาม รสชาติอาหารที่คุณหญิงโปรดปรานแล้วถึงสั่งไป พอถามถึงได้ รู้ว่ารสชาติอาหารที่ทั้งสองคนชอบกลับเหมือนกันมากกว่าที่คิด

คุณหญิงหลันถึงหัวเราะขึ้นมา ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก “นี่ฉันกับคุณเซียไม่ใช่แค่พรหมลิขิตแล้ว แต่ยังคล้ายกันมาก ขนาดนี้ แม้แต่อาหารการกินยังเหมือนกัน คราวหน้าถ้าฉันกลับ มา คุณเซียต้องหาเวลาว่างมาอยู่เป็นเพื่อนฉันสักครั้งจริงๆ

เซี่ยซิงเฉินเอ่ย “ท่านว่าเกินไปแล้วค่ะ ฉันว่างตลอดค่ะ แต่ ท่านยุ่งมาก ยากที่จะได้เจอสักครั้ง

“เจอกันครั้งนี้ ไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะได้กลับมาเมื่อไร” คุณ หญิงหลันถึงพูดอย่างปลงๆ หันไปพูดกับหยูเจ๋อหนัน “เบอร์ โทรของคุณเซีย เธอต้องบันทึกใส่มือถือฉันนะ วันหลังตอน กลับมา เธอก็ไม่ต้องเจียดเวลาอันแสนยุ่งมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เสียเวลาเธอไปหาแฟน

“อีกแล้วนะครับท่าน ผมบอกท่านตั้งแต่เมื่อไรครับว่าท่าน

ทำผมเสียเวลาไปหาแฟน อีกอย่างตอนท่านกลับมาก็ไม่รู้ว่า

เมื่อไร อาจจะ…” หยูเจ๋อหนันพูดถึงตรงนี้ ก็มองไปที่เซี่ยซิงเฉิ

นอย่างมีความนัย แล้วจึงพูดต่อ “ตอนนั้นอาจจะเจอลูกสาวของ

ท่านแล้ว ถึงตอนนั้นเกรงว่าลูกของผมกับลูกสาวท่านอาจจะโต

พอช่วยงานบ้านได้แล้ว ผมยังต้องเรียกท่านว่าคุณแม่ยาย จะ

รำคาญท่านได้ยังไงล่ะครับ

“ปากของเธอนี่มันพูดเก่งจริงๆ” คุณหญิงหลันถึงตบลงบนมือของหยูเจ๋อหนันไปที แล้วพูดต่อ “ถ้าหาลูกสาวฉันเจอจริงๆ ก็ถือว่าโชคดีเหลือเกิน เธอจะรำคาญฉันมากขนาดไหนก็ได้ เลย”

คำพูดนี้ เซี่ยซิงเฉินและฉือเว่ยยังได้ยินเข้าทั้งคู่ ทั้งสองคน สบตากันแวบหนึ่ง คือเว่ยยังจึงพูดขึ้น “ครั้งนี้คุณหญิงกลับ มาตามหาคนเหรอคะ”

พอพูดถึงเรื่องนี้ คุณหญิงหลันถึงก็ถอนหายใจ “ผู้คน มากมายขนาดนี้ ไม่มีเบาะแสเลยสักนิด ก็ไม่รู้ว่าจะหาเจอ เปล่า”

“ท่านอย่าเศร้าเลยครับ จะหาไม่เจอได้ยังไง ไม่แน่ว่าเธอ อาจจะอยู่ใกล้กว่าที่คิดก็ได้นะครับ” หยูเจ๋อหนันโอบปลอบคุณ หญิงหลันถึง สายตาก็กวาดผ่านเชี่ยซิงเฉินอีกครั้ง สายเลือด ต้องแยกจากกันเป็นเรื่องโหดร้าย แถมยังจากกันไปนานหลาย ปี เขาอดใจไม่ได้จริงๆ

คุณหญิงหลันถึงได้ยินคำพูดของเขา ก็ฮึกเพิ่มขึ้นมา จับ มือของเขาไว้ “เจ๋อหนัน เธอมีเบาะแสอะไรแล้วใช่ไหม เธอบอก ว่าอาจจะอยู่ใกล้กว่าที่คิด หมายความว่ายังไง

หยูเจ๋อหนันถูกถามจนชะงัก สายตาผู้หญิงทั้งสามคน จ้องมองมาที่เขา โดยเฉพาะแววตาอันคาดหวังของคุณหญิง ใจเขาทนไม่ได้จริงๆ ริมฝีปากขยับเล็กน้อย ค่อยๆ ยกคางขึ้น แล้วสุดท้ายจึงหันไปทางฉือเว่ยยัง “บางที…คุณคืออาจเป็น ลูกสาวท่าน นี่ก็ไม่แน่ใช่ไหมครับ
“จริงเหรอ คุณฉือ” คุณหญิงหลันถึงหันตัวมา ขอบตาร้อน ผ่านมองฉือเว่ยยัง “คุณคือ ขอถามวันเกิดคุณหน่อยได้ไหม คุณถูกรับเลี้ยงจากพ่อแม่บุญธรรมรึเปล่า ถูกรับเลี้ยงจากที่ไหน คุณยังพอจําได้ไหม

ฉือเว่ยยังนิ่งงันไปชั่วครู่ สภาพที่โหยหาบุตรสาวของ

คุณหญิงหลันถึง ทำให้เธออดสงสารไม่ได้จริงๆ เธอมองเซียซึ่ง

เฉินอย่างขอความช่วยเหลือ เซียซิงเฉินเองก็เป็นแม่คน ย่อม

เข้าใจความทุกข์ที่ต้องแยกจากเลือดเนื้อเชื้อไขมากกว่า แต่

เรื่องแบบนี้ก็จนปัญญา เธอแอบถลึงตามองหยูเจ๋อหนันแวบ

หนึ่ง เป็นเชิงให้เขาหยุดพูดจาเหลวไหลเสียที พร้อมเอ่ย “คุณ

หญิง เว่ยยังเกิดเดือนพฤษภาคม พ่อแม่แท้ๆ ตอนนี้ก็ยังแข็ง

แรงดี ทั้งครอบครัวอยู่ที่เมืองหมิงไห่ค่ะ”

“อย่างนี้นี่เอง ก็ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว…ไม่เหมือนลูกสาวที่น่า สงสารของฉัน ที่การถูกทอดทิ้งก็คือความสุข…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ