สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 128 คิดบัญชีเก่าสักหน่อย (2)



ตอนที่ 128 คิดบัญชีเก่าสักหน่อย (2)

ไปเย่หายง่วงทันใด

“รัฐมนตรีไป เป็นเย่เซียวจริงๆ ครับ!” ไปหลางนั่งหลังตรง สีหน้าเหมือนเจอศึกหนักเข้าอย่างไรอย่างนั้น

ไปเย่จับกระเป๋าถือในมือแน่น พร้อมทั้งรับตลอดเวลา

การตรวจตราเรื่องจราจรที่นี่เข้มงวดมาก แต่รถคันนั้น กลับฝ่าเข้ามาได้ นอกจากเขา ยังมีใครกล้าหยามกันอย่างนี้อีก วันที่เขากลับเข้ามาในประเทศ คนของเธอได้ติดตามเขาอยู่ที่ สนามบิน แต่ก็คลาดสายตาไป จนถึงวันนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้ เผชิญหน้ากันโดยตรงสักที ดังนั้นที่วันนี้จู่ๆ เขาโผล่มาที่นี่ เธอก็ เดาแผนของเขาไม่ค่อยถูก

“รัฐมนตรี คืนนี้ที่นี่มีนักการเมืองสำคัญหลายคน ไม่ใช่ว่า เขาจะมาลอบฆ่าใครนะครับ เราควรเพิ่มกำลังเสริมหรือเปล่า ครับ” มือข้างหนึ่งของไปหลางจับพวงมาลัยไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ ถือกระบอกปืนไว้แนบอก

“ตามเขาไปก่อน คอยดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากันอีกที ไม่ต้องตามติดเกินไปนะ ระวังอย่าแหวกหญ้าให้ตื่น!

“ครับ”

ตลอดทางขบวนรถของเยเชียวขับไปอย่างไม่รีบร้อน พวกเขาก็คอยตามไปอย่างช้าๆ ภายใต้ค่ำคืนอันเงียบสงัด ไม่รู้ว่า ผ่านไปนานเท่าไร ขบวนรถกันกระสุนข้างหน้าก็เหยียบเบรก กะทันหันดัง ‘เอียด แล้วรถทุกคันก็จอดนิ่ง

ไป๋ซู่เย่ขมวดคิ้ว ร่างกายตื่นตัวไปทั้งร่าง

ไปหลางรีบเหยียบเบรกโดยทันที จอดรถอยู่ห่างไปร้อย เมตร มือกกระบอกปืน ใบหน้าขึ้นไปด้วยเหงื่อ ให้ตายสิ! เย่ เขียวต้องรู้ตัวแล้วแน่ๆ! ดูจากความสามารถในการหลบหนี การติดตามของเขา สามารถตามมาถึงตอนนี้ได้ก็ถือว่า มหัศจรรย์มากแล้ว!

ขณะกำลังครุ่นคิด ประตูรถคันสุดท้ายตรงหน้าก็ถูกเปิด ออก ร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งก้าวออกมา

ผู้ชายคนนี้ ต่อให้อยู่ในความมืดก็ยังคงสะดุดตาเช่นเดิม ร่างสูงใหญ่ เสื้อคลุมยาวสีดำ เรียบง่ายและเย็นชา คนที่ ติดตามอยู่ข้างเขา ล้วนแต่เป็นชายฉกรรจ์ร่างกาย ใบหน้า ดุดัน ทำให้คนเดินผ่านต่างหวาดกลัวจนต้องรีบหนี

ผู้นำคนนี้ที่ในมือมีความสามารถด้านการทหารจนเป็นที่ หวั่นเกรงของหลายประเทศ ลึกลับไม่โผงผางมาโดยตลอด คืน นี้กลับปรากฏตัวที่นี่อย่างจังก้า ไปเยอดคิดไม่ได้ว่าเขาจงใจ

เดิมทีคิดว่าเขาสังเกตเห็นพวกเธอแล้ว จนไปเยถึงขนาด เตรียมพร้อมปะทะกับเขา เพียงแต่หลังเขาลงจากรถ เขาไม่ แม้แต่จะหันมามองทางพวกเธอเลยสักนิด เขาทำเพียงแค่จุด บุหรี่มวนหนึ่งอย่างไม่รีบร้อน ยืนพิงรถอยู่อย่างนั้น นิ้วเรียวยาวสวยเคาะตัวรถด้วยท่าทางสบายๆ แววตาเรียบนิ่งทอดมองไป ข้างหน้า เหมือนกำลังรอใคร

ยิ่งเงียบแบบนี้ ก็ยิ่งสร้างความตื่นกลัวในใจ

ผู้ชายคนนี้ อันตรายเกินไป…

ไปหลางรออย่างกังวลไปร่วมนาที เห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าที ใดๆ เขาจึงเดาใจอีกฝ่ายไม่ถูก ได้แต่หายใจถี่กระชั้น

“รัฐมนตรี เขา…เหมือนกำลังรอใครอยู่เลยครับ”

ไป๋ซูเย่ก็สังเกตเห็นแล้ว เขากำลังรอใครอยู่จริงๆ แถม…

“เขากำลังรอฉันอยู่” เธอเอ่ยปาก

ไปหลางอึ้งไปชั่วครู่ หันหลังกลับมามองเธอ ไปเย่วาง กระเป๋าถือลง เปิดประตูรถเตรียมจะก้าวลงไป

“รัฐมนตรี!” ไปหลางเอ่ยเรียกเธอด้วยความเป็นห่วง สีหน้าเคร่งเครียด “เขาเกลียดคุณเข้ากระดูก ถ้าคุณไปทั้งอย่าง นี้ ก็เหมือนแกะเข้าถ้ำเสือสิครับ”

“บัญชีหนี้ของฉันกับเขา ยังไงสักวันก็ต้องจัดการให้จบ ไป๋ซู่เย่กลับคิดเชิงเข้าใจ คนอย่างเธ่เชียวนั้นยากจะมอบความ ไว้เนื้อเชื่อใจ แต่…หลังมอบให้เธอ ก็ถูกเธอหักหลังอย่างไม่มี ชิ้นดี เย่เซียวเพิ่งมาปรากฏตัวตอนนี้ ถือว่าไว้ชีวิตเธอมาหลาย ปีแล้วล่ะ

เมื่อไปหลางกำลังจะพูดบางอย่าง ไปเก็ผลักประตูออก และเดินลงไปอย่างแน่วแน่แล้ว ชุดราตรีสีแดงของเธอ เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน เปรียบดั่งดอกฝิ่นที่บาน สะพรั่ง สวยงามยากเกินบรรยาย หากทว่าดอกฝิ่นนี้ก็มีพิษเช่น กัน

เธอเดินเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยท่วงท่าสง่าอย่างเชื่องช้า เสียงกระทบจากรองเท้าส้นสูงดังเป็นจังหวะออกมา ภายใต้ บรรยากาศอันเงียบสงบนี้ ฟังดูเหมือนเป็นเสียงหัวใจที่กำลัง เต้นรัวอยู่

คนข้างๆ เยเชียว ทำเพียงยืนอยู่ด้านหลังอย่างสงบ เช่น เดียวกับเจ้านายพวกเขา ไม่ปรายตามองเธอสักนิด จนระยะ ห่างเหลือไม่ถึงสิบเมตร ไปเย่ชะงักฝีเท้าอย่างระแวง เยเชียว ดับหัวบุหรี่ แล้วนิ้วก็ดีดบุหรี่เข้าถังขยะที่อยู่ริมข้างทางอย่าง แม่นย่า

“ไป ไม่เจอกันนานนะ

เสียงทุ่มต่ำของชายหนุ่มช่างน่าฟัง แต่ว่ากลับเย็นชา เย็น ดุจน้ำแข็งพันปี ตอนนี้เขาถึงเงยหน้าขึ้นมองไปเย่ สายตานั้น ทั้งเย็นเยือกทั้งลึกล้ำ ไม่มีอุณหภูมิและความรู้สึกใดๆ เลยสัก นิต

ทว่าไปเย่รู้ดี แววตาลึกๆ ของชายคนนี้ มีแต่ความ เกลียดชังเธอจนเข้ากระดูก

“ตอนแรกคิดว่าวันที่คุณลงจากเครื่องกลับเข้าประเทศ เรา จะได้พบกันซะอีก แต่ไม่คิดว่ากลับรอมาจนถึงวันนี้ได้” ไปเย พยายามควบคุมตัวเองให้ใจเย็นแล้วเผชิญหน้าเขา ไม่ได้เจอกับเขามากี่ปีแล้วล่ะ เธอในตอนนั้นก็เป็นแค่เด็กสาวอายุสิบ แปด ที่ทำท่าทางเป็นคนไม่รู้เรื่องรู้ราวยามอยู่ต่อหน้าเขาเสมอ ทำให้เขาประคองรักไว้ในมือ แถมเเซียว ในตอนนั้นก็ไม่ได้ ยากจะคาดเดาเหมือนตอนนี้ คนอันตราย เขา ในตอนนั้นยังมี ความรู้สึก ยังมีจุดอ่อนอยู่

พวกเขาในตอนนี้ล้วนเติบโตขึ้นแล้ว แล้วก็ไม่ใช่พวก เขาในอดีตอีกต่อไป…

“อื้อจนเพิ่งมาเจอกันตอนนี้ มันน่าเสียดายจริงๆ” เยเชียว มองเธอด้วยสายตาจองหอง “คิดจะยืนคุยกับผมห่างขนาดนี้ เลยเหรอ”

ไปเยไม่ขยับ ไปหลางเดินลงมาจากรถตามหลังเธอ รีบ ตะโกนอย่างกังวล “รัฐมนตรี อย่าเข้าใกล้พวกมันนะ!”

สิ้นเสียงไปหลาง ก็ได้ยินเพียงเสียง พรีบๆๆ ปืนกลมือ แต่ละด้ามถูกยกเล็งไปยังไปหลางอย่างแม่นยำ ไปหลางรีบยก กระบอกปืนขึ้นเช่นกัน แต่ว่าแค่ปืนกระบอกนี้ จะสู้กับพวกเขา ได้อย่างไร หากตนเผลอทำอะไร ต้องถูกรุมยิงจนพรุนเป็นรังผึ้ง อย่างแน่นอน

“ไปหลาง คุณถอยเข้าไปในรถเถอะ!” ไปเย่เอ่ยสั่งอย่าง ใจเย็น

“รัฐมนตรี!”

“คุณจะไม่ฟังคำสั่งของฉันเหรอ” สีหน้าไปเยเรียบนิ่งกว่าเดิม
ไปหลางกัดฟันแน่น จำใจต้องเก็บปืนแล้วถอยกลับเข้าไป ในรถกันกระสุน

เยีเขียวกลับมีความอดทนมากพอสมควร เขาจ้องมองเธอ อยู่อย่างนั้นในระยะห่างที่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไปเย่สูดลมหายใจ เข้าลึกๆ มือจับชายกระโปรงขึ้น ก้าวเดินไปด้วยรองเท้าส้นสูง เช่นเดิม หากเปเชียวคิดจะปลิดชีวิตตนจริงๆ เขาคงไม่รอถึง ตอนนี้หรอก

ไปเย่เดินเข้าใกล้ ถึงสังเกตเห็นว่าเเชียว ในตอนนี้มี ท่าที่น่ากลัวกว่าในอดีตมาก คล้ายกับสิงโตหรือเสือชีตาห์ตัวผู้ ที่แม้แต่สายตายังเต็มไปด้วยความอันตราย

พอเธอเข้าใกล้ แขนยาวของเขาก็โอบรั้งตัวเธอเข้าไป โดยไม่ได้เอ่ยอะไร ทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความเย็น ชา ไปเย่ไม่กล้าขยับ ทำเพียงแค่ช้อนตาขึ้นมองเขาอย่าง ใจเย็น เหมือนกำลังเดาเป้าหมายของเขาอยู่

“ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี รู้ไหมว่าผมคิดถึงคุณมากขนาด ไหน” เสียงทุ่มต่ำของเขากระทบเข้าหูเธอ ทั้งๆ ที่ดูคลุมเครือ แต่กลับทำให้เธอสั่นสะท้านกลัวไปชั่วครู่

เพราะคำว่า “คิดถึง” นั่นเล็ดลอดออกจากไรฟันของเขา แท้ๆ อย่างที่คิด พริบตาเดียวเขาก็ออกแรงใช้ฝ่ามือใหญ่ก รอบคอเรียวของเธอไว้ กดตัวเธอติดตัวรถเย็นเฉียบข้างหลัง อย่างรุนแรง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ