สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 244 ยังไม่ทันเริ่มก็จบลงแล้ว(4)



ตอนที่ 244 ยังไม่ทันเริ่มก็จบลงแล้ว(4)

ฝ่ามือเธอเย็นจนแทบไม่หลงเหลือความอุ่น ทำให้คนที่ดูอยู่ ปวดใจ

หยูเจ๋อหนันก้มมองเธอ เธอหลับไปแล้ว ขนตาสั่นระริก อย่างรุนแรง น้ำใสบางๆ เกาะอยู่บนขนตาที่สั่นไหวของเธอ ดู แล้วช่างน่าสงสารจับใจ

เพราะเป็นไข้ริมฝีปากจึงแห้งผากจนไร้สี เสียงพึมพำดัง ขึ้นบางเบา เขายื่นหน้าเข้าใกล้ ได้ยินคำว่า “ไปเฉิง” ก็ชะงัก ไปครู่หนึ่ง แววตาที่เป็นกลับมามองเธออีกครั้งหม่นลง

คนโง่!

ถอนหายใจ เขาได้แต่กุมมือเธอไว้แน่นกว่าเดิมเงียบๆ คล้ายว่าต้องการส่งความอุ่นทั้งหมดไปให้เธอ

ห้องทํางาน

เหลิ่งเฟยคุยโทรศัพท์เสร็จ พลางเคาะประตูห้องทำงาน ของประธานาธิบดี ได้ยินคำอนุญาตของท่านประธานาธิบดีถึง เปิดเข้าไป
“ท่านครับ คุณหญิงโทรมาเมื่อกว่าให้ท่านกลับไปทานมื้อ เย็นที่บ้าน ท่านว่า…

เหลิงเฟยยังไม่ทันพูดจบประโยค คิ้วของไปเฉิงก็ขมวด เป็นปมแล้ว คุณหญิงไปไม่ได้ทำเพื่อประการนี้ ใจเขารู้ดี

วันนั้นเขาตอบรับหลันเย่ไปจริงๆ และไปพบหลันเยู่แล้ว ส่วนอารมณ์ไหน ใจเขาก็รู้ดี แต่ความจริงพิสูจน์แล้วว่าต่อให้ เขาไปเจอผู้หญิงอื่น อารมณ์ของเขาก็ไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด แถม ยังเหมือนจะทำให้คนตระกูลหลันทั้งหมดรวมถึงคนตระกูลไป เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าหลันเยพิเศษสำหรับเขาจริงๆ

“บอกคุณหญิง คืนนี้ต้องส่งเขี่ยต้าไปไปหาคุณยายในช่วง วันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่มีเวลาทานข้าวกับท่าน

“ครับ” เหลิ่งเฟยตอบรับแล้วถอยออกไป

นั่งเครื่องบินมาหลายชั่วโมงเพื่อกลับเมืองหลวง เมือง หลวงในเวลานี้มืดลงแล้ว

รถของหยูเจ๋อหนันจอดรออยู่นอกสนามบินนานแล้ว

เขาสั่งให้คนอื่นถอยกลับไป ส่วนตนก็ขับรถแอสตันมาร์ ดินไปส่งเธอกลับบ้าน เซี่ยซิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งกายอ่อน ปวกเปียกไม่มีแรงแม้แต่นิด จะไปเรียกรถตอนนี้ก็ทรมาน เปล่าๆ

หยูเจ๋อหนันเปิดฮีตเตอร์เพราะเกรงว่าเธอจะรู้สึกไม่สบายไม่กล้าขับรถเร็วจึงรักษาความเร็วให้ช้าๆ

“ไปหาหมอหน่อยไหม?

“ไม่ต้องหรอกค่ะ…” เซียซิงเฉินสายศีรษะที่พิงกับเบาะที่ นั่ง แม้แต่เสียงยังเบาหวิว “ไปโรงพยาบาลก็แค่ได้ยามา ที่ บ้านยังมีอีกเป็นกอง

“คุณไม่ควรกินยามากไปนะ ยังไงยาก็มีผลข้างเคียง

เธอไม่มีแรงตอบโต้สักเท่าไร หนูเจ๋อหนันจึงไม่เอ่ยปาก พูดอะไรกับเธออีก ทำเพียงแค่หยิบผ้าห่มขนแกะบางๆ คลุมตัว เธอ เธอได้กลิ่นหอมจางๆ จากผ้าห่ม กลิ่นแบบนั้นต่างจาก กลิ่นกายของไปเย่นิ่งอย่างสิ้นเชิง

กลิ่นหอมบนกายของหนูเจ๋อหนันคล้ายกลิ่นของเด็กผู้ชาย

ส่วนไป๋เย่นิ่งกลับเป็นกลิ่นที่สุขุมเยือกเย็น เหมือนมนต์…

ทำไมถึงคิดถึงเขาอีกแล้วล่ะ? หัวใจเซียซิงเฉินบีบรัด สาย

ศีรษะห้ามตนคิดอีก

ตัวโต

เซี่ยต้าไปกลับไปอยู่ที่บ้านใหญ่มาสองวัน แต่อารมณ์ไม่ ค่อยดีนัก จนปัญญาจึงจำต้องส่งมาหาคุณยายของเขา ตลอด ทางสองพ่อลูกทำสงครามเย็น ไม่มีใครยอมใคร
รถยนต์มาถึงห้องเช่าหลังเล็ก เซียต้าไปก้าวเท้าเข้าลิฟต์ ล่วงหน้าก่อนแล้ว ไปเฉิงสวมผ้าปิดปากแล้วค่อยๆ เดินตาม ภายในห้อง เสินหมินกับฉือเว่ยยังกำลังทำอาหารเย็น พอ เขาเข้ามา เงินหมิ่นรีบกล่าว “เฉิง อยู่รอทานข้าวเย็น

เซี่ยต้าไปไม่สบอารมณ์อย่างรุนแรง “คุณยาย ทำไมต้อง ให้เขาอยู่? เขามีนัดเดทแล้ว ไม่อยากอยู่กินกับเราหรอก

เงินหมิ่นมองไปเฉิง “จริงๆ ถ้าคุณมี

“ไม่มีครับ อย่าฟังเด็กพูดเหลวไหลเลย” ไปเฉิงวางเสื้อ นอกไว้ข้างๆ เงินหมิ่นหัวเราะแล้วตบเบาๆ ที่ศีรษะของเด็ก น้อย

เซี่ยต้าไปไม่ยอมอยู่ร่วมห้องสองต่อสองกับเขา จึงวิ่งไป หาคือเว่ยยังที่ห้องครัว ไปเยฉิงนั่งอยู่บนโซฟาเล็กนั้น สายตา มองตรงไปดูโทรทัศน์ข้างหน้า นั่งตัวตรงอย่างสม่ำเสมอ บน หน้าไม่มีอารมณ์อะไรมากนัก

เงินหมิ่นถือถ้วยชามาให้เขา “มา ดื่มน้ำสักหน่อย

“ขอบคุณครับ” ไปเย่นิ่งรับไว้ “ร่างกายคุณเป็นยังไงบ้าง?”

“รอบนี้ต้องขอบคุณคุณจริงๆ” เสินหมิ่นนั่งลงข้างๆ “ตอน นี้ไม่มีอะไรมากแล้ว พักฟื้นอีกสักช่วงก็กลับเมืองเหลียงได้ แล้ว”

“ทำไมไม่อยู่ที่นี่ให้นานกว่านี้ล่ะครับ?
เงินหมื่นยิ้มส่ายหน้า “ได้ยินชิงเฉินบอกว่าเตียงที่ฉันนอน อยู่เป็นของคุณ ตอนนี้ก็อาศัยมานานขนาดนี้แล้ว จะกล้า รบกวนคุณตลอดไปได้ไง?”

ไปเย่นิ่งเงียบไปชั่วครู่ถึงเอ่ย “คุณอยู่ต่ออย่างสบายใจ เถอะครับ จากนี้ผมน่าจะมาที่นี่ไม่บ่อย

“หืม? ทำไม? มีเรื่องอะไรเหรอ?” เงินหมิ่นรู้สึกว่าท่าทาง เขาแปลกๆ ไป

เขากล่าวเพียง ค่อนข้างยุ่งน่ะ

ทานมื้อเย็นเสร็จ ฉือเว่ยยังกลับไปยังตึกตรงข้าม พร้อม

กับส่งไป๋เย่ฉิง

ข่าวบนหนังสือพิมพ์ของซิงเฉินและหยูเจ๋อหนันเธอเห็น แล้ว ความจริงตอนนั้นเธอเองก็ตกใจมากเช่นกัน แต่ไม่ได้โทร ไปถามที่ประเทศ Y แต่อย่างใด ได้แต่คิดว่ารอให้เธอกลับ ประเทศค่อยถามก็พอ อย่างไรเสียไม่ว่าเธอจะอยู่กับใคร ขอ แค่เธอเลือกเอง ในฐานะเพื่อนอย่างเธอก็สนับสนุนอย่างไร้ข้อ กังขา

ฉือเว่ยยังเดินตามหลังท่านประธานาธิบดีเงียบๆ ก้าวเข้า ในลิฟต์ยังรู้สึกได้ถึงความกดดันจากตัวเขาที่มีอยู่ตลอดคืน เมื่อครู่ตอนอยู่ในครัวก็ได้ยินเสี่ยต้าไปบอกว่าเขาจะหาแม่เลี้ยง ให้แล้ว ดูท่าเขากับซิงเฉินคงจบแล้วจริงๆ
ขณะที่กำลังคิดเช่นนั้น ได้ยินเพียงไปเฉิงปริปากถาม “เธอจะกลับมาเมื่อไร?

ฉือเว่ยยังอึ้งไปชั่วครู่ก็เข้าใจว่า “เธอ” ของ ของเขาในที่นี้

หมายถึงซิงเฉิน รีบตอบกลับ “วันมะรืนก็น่าจะกลับมาแล้ว เขาไม่พูดต่อ ลิฟต์เคลื่อนตัวลงจากชั้นแปด ฉือเว่ยยังรู้สึก

ว่ารังสีรอบกายของท่านประธานาธิบดีรุนแรงเหลือเกิน ทำให้

เธอยากจะรับมือไหว

ช่วงเวลาที่ลิฟต์ลงจากชั้นแปด เหมือนว่าลงจากชั้นแปด สิบอย่างไรอย่างนั้น เสียง ทิ้ง ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก ในที่สุด ไปเยถึงขยับตัวออกข้างเล็กน้อยอย่างสุภาพเพื่อให้ ฉือเว่ยยังออกไปก่อน

ฉือเว่ยยังถอนหายใจ ก้มหัวเล็กน้อยแล้วกล่าว “ท่าน ประธานาธิบดี ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อน ท่านกลับดีๆ นะคะ”

จากนั้นเขาก็ตอบรับเสียง “อืม” คือเว่ยยังรีบก้าวเท้าเดิน ไปยังตึกตรงข้าม

ในตอนที่ไปเย่นิ่งเดินออกจากลิฟต์แล้วขึ้นรถของตัวเอง นั้น จู่ๆ แสงสว่างจ้าก็สาดส่องเข้ามาในบริเวณชุมชน แวบ เดียวก็เห็นว่าเป็นรถยนต์แอสตันมาร์ตินคันหนึ่ง รถยนต์แบบนี้ ไม่ค่อยเจอบ่อยนักในชุมชนเล็กๆ นี้

เมื่อรอเห็นป้ายทะเบียนพร้อมกับคนสองคนที่นั่งอยู่ในรถ นั้น สีหน้าของเขาก็เรียบนิ่งมากขึ้นทันที
รถจอดลงใต้ตึก

หยูเจ๋อหนันเอากระเป๋าเดินทางของเธอลงจากรถ “เดี๋ยว ผมขึ้นไปส่งคุณนะ

“อย่าดีกว่าค่ะ” เซี่ยซิงเฉินปฏิเสธ “แม่ฉันอยู่บ้าน เดิมที ข่าวของเราก็ลงหนังสือพิมพ์แล้ว แม่ฉันก็อาจจะเห็นแล้ว ถ้า คุณปรากฏตัวอยู่ในบ้านฉันอีก เธอต้องคิดว่าเป็นความจริง แน่”

หยูเจ๋อหนันพูดหยอกล้อกึ่งจริงกึ่งล้อเล่น “เป็นจริงก็ดี ไม่ใช่เหรอ? หรือว่าเราให้มันเป็นจริงซะเลยดีไหม?

“ฉันขี้เกียจสนใจคุณแล้วค่ะ” เซียซิงเฉินไม่คิดจะเก็บคำ พูดของเขาไว้ในใจ โน้มตัวลงรับกระเป๋าเดินทางของตน “คุณ กลับไปก็ระวังตัวหน่อยนะคะ ฉันขึ้นไปล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ