สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 101 ว่าที่ภรรยาประธานาธิบดี(2)



ตอนที่ 101 ว่าที่ภรรยาประธานาธิบดี(2)

เหมยหลิว พูด “ลูกอย่าโกรธขนาดนั้นเลย แม่จะรีบสั่งให้คน ไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้ ดูว่าเธอเป็นใครกันแน่”

“ไม่ต้องสืบหรอกค่ะ ลูกรู้ว่าเธอคือใคร ลูกเคยเจอเธอ ด้วย! ได้ยินน้องสาวเธอบอกว่า เธอไม่ใช่คนดีอะไร ชีวิตสะเปะ สะปะตั้งแต่เด็ก มีแฟนหลายคน ตอนเด็กจะทำตัวเหลวไหลยัง ไงก็ช่าง แต่นี่กลับท้องตั้งแต่สิบแปด แถมยังคลอดออกมาอีก

เหมยหลิวยิ่งตกใจ “ผู้หญิงแบบนี้ ประธานาธิบดีก็ชอบ งั้นเหรอ! นี่มันเหลวไหลสิ้นดี!

“ทำไมถึงไม่ชอบล่ะคะ คุณแม่ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว ยังไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ของผู้ชายอีกเหรอคะ เมื่อก่อนมีแต่บอก ว่าชายไม่เลวหญิงจะไม่รัก ตอนนี้ก็กลับกลายเป็นหญิงไม่เลว ชายถึงจะไม่รัก!”

“เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนแบบนี้” เหมยหลิว พูด “เห็นที แม่ต้องไปคุยกับพ่อของลูกสักหน่อยแล้ว งาน แต่งงานของพวกลูก แม่ว่าต้องดูกันอีกยาว

“คุณแม่ไม่ต้องไปหาคุณพ่อหรอก ดูกันอีกยาวอะไรล่ะ!!

ซ่งเหวยอีดึงแขนเหมยหลิวไว้ “คุณแม่ยังไม่รู้จักคุณพ่ออีก หรือไง เขาอยากเอาการแต่งงานของลูกไปแลกกับอำนาจการเมืองตั้งนานแล้ว คุณพ่อไม่มีทางยกเลิกการแต่งงานของ ลูกกับเขาหรอก อีกอย่าง…ถ้าลูกไม่แต่งงานกับเขา ผู้หญิงคน นั้นก็ได้ใจน่ะสิ ไม่แน่ รูปพวกนี้ก็ผู้หญิงคนนั้นแหละที่ถ่ายแล้ว ส่งมาให้! ยิ่งเธอทำแบบนี้ ลูกก็จะต้องแต่งงาน! แล้วลูกก็จะ จัดการเธอด้วย!”

ซึ่งเหวย พูดจบ แววตาก็ดุดันขึ้นมา เธอเป็นถึงคุณหนูผู้ ร่ำรวย ตั้งแต่เล็กจนโต ใครๆ ก็ตามใจเธอทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง ตอนนี้เธอกลับถูกผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่ง แถมยัง เป็นผู้หญิงที่มีลูกแล้วประกาศสงครามโต้งๆ กันอย่างนี้ เธอจะ กล้ำกลืนแรงแค้นนี้ลงได้อย่างไร

“เหวย ลูกจะทำอะไร

“เรื่องนี้คุณแม่ไม่ต้องกังวลหรอก ลูกก็แค่จะทำให้เธอรู้ถึง ผลของการมาแย่งผู้ชายกับคนอย่างซึ่งเหวย!”

เหมยหลิวลี่เห็นด้วยกับการกระทำของบุตรสาว แต่ก็ไม่ วายพูดเตือน “สั่งสอนน่ะเป็นเรื่องดี เพื่อคนเขาไม่รู้ที่ต่ำที่สูง แต่ว่าแม่ขอพูดไว้ก่อนเลยว่าอย่าให้ถึงชีวิต ไม่ว่ายังไงพ่อของ ลูกก็เป็นถึงรองประธานาธิบดี ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ถึงเป็น ลูกก็จะถูกเขาลงโทษเพื่อความยุติธรรม!

“คุณแม่ ไม่ใช่สักหน่อย ลูกจะเอาเธอถึงชีวิตได้ยังไงล่ะ” เธอไม่ให้เสียซิงเฉินตายหรอก แต่ก็จะทำให้เธอตายทั้งเป็น

เซี่ยต้าไปยังไม่หายดี เมื่อกินยาแล้วจึงนอนต่อ
ไป๋ซู่เย่พูดกับเซี่ยชิงเฉินว่า “กว่าเราจะได้เจอกันนี้ยาก จริงๆ ไปคุยกันข้างล่างเถอะ

เชียซิงเฉินพยักหน้า ห่มผ้าให้เด็กน้อยเสร็จก่อนจะเดินลง ไป ตอนที่เธอลงไปถึงขั้นล่างก็เห็นไปเย่กำลังนั่งอยู่ในศาลา หลังคาโค้งข้างน้ำพุ ใต้เสาสีขาวแบบโรมัน เรือนร่างที่ปรากฏ อยู่ตรงนั้นเหมือนกับไปเย่นิ่ง ไม่ต้องทำอะไร ก็เป็นทัศนียภาพ อันแสนงดงามแล้ว

เซี่ยซิงเฉินพอจะเดาออกว่าไปเย่จะคุยอะไรกับตัวเอง ความจริงแล้ว นอกจากประเด็นที่เกี่ยวไปเฉิง ระหว่างพวกเธอ ก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก

เธอก้าวไปหาช้าๆ ไปเย่ยิ้มให้บางๆ แล้วพูด “นั่งสิ”

เซียซิงเฉินนั่งลงตามคำเชิญ เธอไม่ได้เปิดปากพูดก่อน ได้ แต่นั่งรับลมเย็นที่พัดผ่านมา คนรับใช้หยิบเสื้อคลุมให้เธอ อย่างเงียบๆ เธอจึงหันกลับไปเอ่ยขอบคุณ

ไปเย่จ้องมอง พลางยกกาแฟขึ้นจิบ ถึงได้ปริปากพูด อย่างไม่เร่งรีบ “เลี้ยงลูกมาคนเดียวทั้งหลายปี ไม่ง่ายเลยสินะ”

“ที่จริงก็ยังดีค่ะ เท่านี้ก็พอใจแล้ว” ตัวเองเคยผ่านความ ยากลำบากแบบไหนมา ตัวเองรู้ดีก็พอ เธอไม่ใช่คนที่จะเอา เรื่องแบบนั้นมาพูดอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ ไม่ว่าอดีตเคยผ่าน อะไรมา แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธออยู่ดี ต้าไปก็อยู่ดี ขอแค่ ไปเย่นิ่งยอมคืนลูกให้เธอ ก็ไม่มีอะไรให้ไม่พอใจอีก

“ชินกับการอยู่ที่นี่หรือเปล่า” ไป๋ซูเย่ถามอีก
เซียซิงเฉินยิ้มบางๆ “ฉันหาบ้านได้แล้ว ย้ายออกไปแล้ว ค่ะ เพียงแต่ครั้งนี้เกิดเรื่องฉุกเฉินกับลูก ฉันเลยตกลงกับเขาว่า ให้ลูกอยู่ที่นี่ เผื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

“ย้ายออกไปแล้วเหรอ” เหมือนว่าไปเยจะรู้สึกผิดคาด เลยมองเซียซิงเฉินเพียงครู “ขอโทษที่ฉันต้องพูดตรงๆ นะ ถ้า เป็นหญิงคนอื่นแล้วเข้ามาอยู่ในนี้ได้ พวกเธอคงจะรู้สึกเป็น เกียรติมาก และคิดว่าคงไม่มีใครอยากย้ายออกไป

เซี่ยซิงเฉินไม่ได้พูดอะไรอีก

ไปเย่วางแก้วกาแฟลง แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้น “เธอรู้เรื่องที่ เยฉิงจะหมั้นกับซ่งเหวยสินะ”

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ว่าเมื่อได้ยินอีกครั้ง หัวใจ ของเซี่ยซิงเฉินก็ยังคงบีบรัด ยังคงเจ็บปวดอยู่ ไม่นานเธอถึงได้ เงยหน้าขึ้น พยักหน้า “ฉันได้ยินมาแล้วค่ะ…

“เธอคิดยังไง”

“ฉันเหรอคะ” เซียซิงเฉินยิ้มเจื่อน “นี่เป็นเรื่องของท่าน ประธานาธิบดี ฉันจะไปคิดอะไรได้ล่ะคะ”

แววตาไปเปลีกา ผู้หญิงคิดมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว

สายตาของเธอเหมือนจะมองทะลุดวงตาเซียซิงเฉิน จนทะลุกัน บึงหัวใจของเธอไป เซี่ยซิงเฉินกแก้วในมือแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่กลับได้ยินไป๋ซูเย่เปิดปากพูดว่า “เฉิงให้เธอเข้ามาอยู่ในนี้ ได้ จนคิดจะพาเธอไปแนะนำต่อหน้าพ่อแม่ ฉันเชื่อว่าความ หมายที่เธอมีต่อเขานั้นไม่ธรรมดาแน่ เพียงแต่ว่า…คนอย่างพวกฉัน การแต่งงานกับความรัก ไม่เคยจะเป็นเรื่องเดียวกัน ความรักเราตัดสินใจเองได้ แต่การแต่งงานกลับไม่เป็นอย่าง นั้น”

น้ำเสียงของไปเย่ไพเราะมาก อ่อนโยนแผ่วเบา เหมือน กับปุยเมฆ แต่ว่าเซียซิงเฉินที่ได้ยินแบบนั้นกลับรู้สึกปวดแป ลบๆ

“ตอนนั้นที่พ่อฉันแย่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับพี่ชาย ของรองประธานาธิบดีคนปัจจุบันแล้วคะแนนแพ้ไปไม่กี่เสียง ตระกูลไป์ของเราได้ถูกข่าวลือแย่ๆ ใส่ร้ายมาโดยตลอด จน ทำให้คุณลุงของฉันเสียชีวิตอย่างอนาถ คุณอาสามทุกวันนี้ก็ ยังอยู่ในคุก ตอนนี้ไปเย่งกำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้คุณ อาสามอย่างเต็มกำลัง แต่ในเรื่องนี้คนที่สมรู้ร่วมคิดด้วยนั้นมัน เกี่ยวโยงไปอย่างกว้างขวางมาก ไม่ว่ายังไงก็ต้องยืมมือของ คนในรัฐสภาอาวุโสช่วยผลักดันเรื่องนี้ให้ได้ ถ้าได้ฟังถั่วเหยา มาช่วยพวกฉันล่ะก็ เรื่องก็จะง่ายขึ้นมาก ทุกวันนี้เฉิงได้อยู่ใน ตำแหน่งนี้ ดูเหมือนจะเรียกลมสั่งฝนได้ เกียรติภูมิไร้ขอบเขต แต่อย่างว่าที่สูงก็ไม่มีทางเอาชนะความเหน็บหนาวได้ ลับหลัง แล้วมีสายตามากมายที่กำลังจ้องมองอยู่ มีคนมากมายรอให้ เขาพลาด รอให้เขาล้มลงมา แล้วค่อยเสียหมัดใส่เขาอีกที นี่ เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงหรอก ผลสุดท้าย…พวกฉันยังไม่กล้า จินตนาการเลยสักนิด”

เซี่ยซิงเฉินได้ยินอย่างนั้น ในใจก็พลันบอกไม่ถูกว่ากำลัง รู้สึกอย่างไร นี่สินะการเมือง เป็นเรื่องของอำนาจ แม้จะไม่ได้เจอฝนกระสุนห่าใหญ่ตลอดเวลา แต่หลุมพรางรอบข้างกลับน่า หวั่นใจยิ่งกว่าฝนกระสุนหาใหญ่เสียอีก คราวก่อนกลุ่มก่อการ ร้ายบุกรุกที่พระราชวังไปยว จนเขาได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น หากประมาทเพียงเล็กน้อย ก็อาจพลาดท่าจนไม่เหลือซากเลย ก็ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เซี่ยซิงเฉินก็อดหวั่นกลัวขึ้นมาไม่ได้ ที่ บอกว่าคนเดินอยู่บนคมมีด ก็คงหมายถึงพวกเขาเหล่านี้ล่ะมั้ง

แต่ว่า อันตรายพวกนี้ เขาไม่เคยนำพามาให้เธอกับลูก เลยสักครั้ง

ไปเย่มองปฏิริยาของเธอ เผยยิ้มบางเบา “เธอก็ไม่ต้อง เป็นห่วงเขามากหรอก หลายปีที่ผ่านมาพวกฉันก็ใช้ชีวิตแบบนี้ แหละ จะว่าไปก็คงชินแล้ว ที่ฉันพูดอะไรมากมายกับเธอขนาดนี้ ก็แค่อยากเตือนเธอ หากจะถอนตัวก็รีบซะ สำหรับเธอ สําหรับ เขาด้วย ไม่ใช่เรื่องร้ายแน่นอน ฉันเป็นห่วงว่าถ้าวันไหนเขาถึง ขั้นถอนตัวจากเธอไม่ได้ล่ะก็ จะเอาเรื่องเดือดร้อนที่ไม่จำเป็น มาให้ตัวเอง ผู้แข็งแกร่งไม่จำเป็นต้องมีและห้ามมีสิ่งที่เรียกว่า จุดอ่อน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ