สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 133 กลับทำเนียบประธานาธิบดี อีกครั้ง (2)



ตอนที่ 133 กลับทำเนียบประธานาธิบดี อีกครั้ง (2)

มื้ออาหารวันครอบครัว เซี่ยซิงเฉินรับเซียต้าไปไปด้วยกัน

ตอนแรกที่ท้อง หญิงสูงวัยไม่พอใจต่อเซี่ยซิงเฉินต่างๆ นานา แต่เธอก็ยังชอบเซียต้าไปอยู่ดี ในเมื่อเด็กน้อยเติบโตมา ได้น่ารักขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดของตระกูลเซีย ขณะทานข้าวหญิงสูงวัยจัดการคีบกับข้าวให้เซียต้าไปหลาย อย่าง เขี่ยต้าไปก้มหน้ากินข้าวดอย่างเอร็ดอร่อย

“มา ครั้งนี้ฉันถือว่าได้เกิดใหม่ เราทั้งครอบครัวมาชนแก้ว กันหน่อย” เซียวเพิ่งยกแก้วเหล้าขึ้นด้วยท่าทางยินดีปรีดา

เซี่ยงคงรีบรินเหล้าให้สวี่เหยียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทุกคนยก แก้วขึ้น เซียต้าไปไถลตัวลงจากเก้าอี้ มือถือแก้วน้ำชา ใบเล็ก หวังอยากชนแก้วร่วมกับพวกผู้ใหญ่ ทว่าเขาแขนขาสั้น กระโดดอย่างไรก็ไม่ถึงสักที สวี่เหยียนเห็นเข้าจึงหัวเราะ โน้ม ตัวเข้าใกล้แล้วยื่นแก้วชนกับเด็กน้อย เซียต้าไปยิ้มตาหยี “ขอบคุณครับ น้าเขยเล็ก”

เสียงขาน น้าเขยเล็ก” กลับทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าสวีเห ยียนซะงักค้าง เซี่ยงคงกลับมีท่าทางถูกใจเป็นอย่างมาก ยิ้ม หน้าระรื่น “หลานตัวน้อยของฉันปากหวานไม่เบานะเนี่ย

สวี่เหยียนไม่เอ่ยอะไร แอบมองเซียซิงเฉินแวบหนึ่งด้วยใบหน้าสับสน เชียซิงเฉินทำเป็นไม่รู้ตัว ผงกหัวยกแก้วเหล้าขึ้น มหมดแก้ว

เซียกั่วเผิงวันนี้อารมณ์ดีมาก จึงดื่มไปไม่น้อย หลี่หลิง เกรงว่าร่างกายของเขาที่เพิ่งหายจะรับไม่ไหว จึงคอยเตือนให้ ดื่มน้อยๆ อยู่ข้างๆ แต่เขาก็ไม่ฟัง เซี่ยซิงเฉินคออ่อนมากแต่วัน นี้ก็ดื่มเป็นเพื่อนเซียกั่วเผิงไปไม่น้อย ไม่นานใบหน้าก็แดงเรื่อ เมาเล็กน้อย ส่วนสวี่เหยียนดูเหมือนจะมีเรื่องหนักใจ ตลอดทั้ง คืนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหาร ไม่ได้พูดอะไรมากนักแต่กลับดื่มเข้าไป ไม่น้อยเลยทีเดียว

“พอแล้ว พวกเธอสามคน วันนี้เป็นอะไรกัน เหล้าครึ่งลิตร พวกเธอก็ดื่มจนหมดแล้ว” หญิงสูงวัยแย่งแก้วจากมือของเ ยกั่วเผิงไป “แกเพิ่งหายดี ห้ามดื่มอีก

“ใช่ คุณพ่อกับพี่สวี่เหยียนห้ามดื่มอีกแล้ว” เซี่ยงคงเอ่ย

ห้ามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แล้วก็แย่งแก้วในมือสวี่เหยียนไป

เซียต้าไปหันมองหญิงสาวข้างๆ ที่ใบหน้าแดงจัดอย่าง เป็นห่วง เขาถอนหายใจ จากนั้นก็ทำตามผู้ใหญ่โดยการขยับ แก้วเหล้าตรงหน้าเธอออกไปเล็กน้อย เอ่ยห้ามน้ำเสียงแหลม เล็ก “หม่ามี้ ทุกคนไม่ดื่มแล้วนะ แม่ก็ห้ามดื่มแล้ว เด็กดีเชื่อฟัง นะ”

“ก็ให้แม่หนูดื่มเถอะ” เซี่ยงคงหัวเราะเสียงเบา น้ำเสียง ติดจะอ่อนโยน “มีคำว่า ใช้เหล้าดับทุกข์นี่นา ช่วงนี้คุณแม่หนู กำลังเสียใจ ดื่มเหล้าดับทุกข์หน่อยก็สมควรแล้ว”
“ดับทุกข์เหรอ” ไม่รอให้เขียซิงเฉินเอ่ยปาก สวี่เหยียนรับ คำแทน สายตาเขาสับสนเล็กน้อย ไร้จุดหมาย มองของเหลวสี ใสในแก้ว แล้วก็ยกดื่มอีกครั้ง “ทุกข์ใช้เหล้าแก้ได้ยังไง ถ้า เหล้าช่วยดับทุกข์ได้ เขาคงไม่ต้องนอนไม่หลับ ในทุกค่ำคืน หรอก

เซียซิงเฉินสะลึมสะลือ ได้ยินไม่ชัดว่าสวี่เหยียนพูดอะไร ทำเพียงแค่จับตะเกียบคีบกับข้าวให้เซียต้าไป หัวเราะเสียงเบา “แม่ไม่ดื่มแล้ว ลูกกินอีกหน่อยสิ…

ฟังจากน้ำเสียงชัดเจนว่าเริ่มเมาแล้ว

“หม่ามีคนโง่ ดื่มไม่ได้ก็ยังจะดื่ม ช่วยไม่ได้เลยจริงๆ เซี่ยต้าไปทั้งจนปัญญาทั้งปวดใจ

สวี่เหยียนมองไปยังเซียซิงเฉิน ไม่ได้ละสายตาไปไหนอยู่ นาน สภาพกำลังเมาของเธอน่ารักมาก เขานึกถึงภาพวันวาน ตอนที่คบกัน พวกเขานั้นใสซื่อที่สุดและยังไม่รู้ความอะไร ยาม พบเธอครั้งแรก ใต้ต้นแพร์ เธอก็ใสซื่อบริสุทธิ์เช่นนี้ เหมือนไม่ เคยต้องฝุ่น

เพราะดื่มเหล้าไปจึงทำให้ความกล้าเพิ่มขึ้นมาก สายตา ของเขามองมาที่ตัวเซียซิงเฉินอย่างไม่ปิดบัง อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่ ข้างๆ ที่จับสังเกตได้เลย แม้แต่เด็กน้อยอย่างเซียต้าไปก็ยัง เอะใจ

“น้าเขยเล็ก ทำไมน้าเขยจ้องหม่ามี้เราตลอดเลยล่ะครับ” เซี่ยต้าไปเบิกตาโตเอ่ยถามอย่าง ใสซื่อ
เซียชิงเฉินเงยหน้าด้วยสีหน้ามึนงง กะพริบตา ใส่เซียดา ไป “อะไรนะ”

มือเล็กเซียต้าไปลูบเข้าที่ใบหน้าเธอ ไม่มีอะไรหรอกหมา มี รีบกินข้าวเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวก็ปวดกระเพาะอีก “โอเค แม่จะทำตาม” เซียซิงเฉินหัวเราะเบาๆ รอยยิ้ม

สว่างจ้าต้องใจคน

สวี่เหยียนยังไม่ละสายตาไปไหน ทว่าสีหน้าของเซียซึ่งคง ย่ำแย่เหลือเกิน มือตะเกียบแน่น ไม่ทักท้วงแต่อย่างใด ห หลิงอีกลับไม่พอใจเป็นอย่างมาก มือวางตะเกียบลง “สวีเห ยียน อย่าหาว่าถ้าพูดตรงเลยนะ ในเมื่อวันนี้เธอมาแล้ว ก็ต้อง ถามเธอให้ได้ เธอหมั้นกับซิงคงมาก็นานทำไมถึงยังไม่แต่งงาน กันสักที”

เซี่ยงคงกัดปาก มือก็วางตะเกียบลงเช่นกัน

หลี่หลิงอีเอ่ยต่อ “ฝั่งพ่อแม่เธอก็ไม่มีท่าทีอะไร หรือว่าพวก เธอมีอะไรไม่พอใจกับพวกเรา ถ้าเป็นเรื่องป่วยของคุณลุงเซี่ย ตอนนี้เขาก็หายป่วยแล้ว น้าว่าถึงเวลาต้องคุยเรื่องงานแต่ง ของพวกเธอสองคนแล้วล่ะ แม่คะ แม่คิดว่ายังไงบ้าง

สายตาหญิงสูงวัยแหลมคมนัก เหลือบมองสวี่เหยียนแบบ หนึ่ง จากนั้นก็กวาดสายตามองใบหน้าสองพี่น้องอย่างเซียง เฉินและเซี่ยซิงคงไปที ถึงได้พยักหน้าในที่สุด ควรคุยเรื่อง งานแต่งงานแล้วจริงๆ ไหนๆ ก็หมั้นกันเรียบร้อย ซึ่งคงก็ถือว่า เป็นคนของบ้านเธอแล้ว และพวกเธอก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว น่าจะเตรียมตัวเตรียมใจสักที ไว้วันหลังฉันค่อยหาวันไปปรึกษากับ พ่อแม่เธอ คุยเรื่องงานแต่งให้เรียบร้อย

เซี่ยงคงดีอกดีใจ รีบเอ่ย “ขอบคุณคุณย่าค่ะ รู้อยู่แล้วว่า ย่ารักหนูที่สุด” เธอหันหลังกลับไปควงแขนสวี่เหยียนไว้ “พี่สวีเหยียน คืน

นี้พี่ก็กลับไปคุยเรื่องงานแต่งของเรากับคุณลุงคุณป้านะ ได้

ไหม”

สวี่เหยียนนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ดึงแขนตนออกจาก มือของเซียงกง เซียซิงคงสีหน้าเปลี่ยน ได้ยินสวี่เหยียนเอ่ย เพียง “ต้องขอโทษจริงๆ ครับ คุณย่า คุณลุงเชีย ความจริงคืนนี้ ผมมาที่นี่ก็เพื่ออยากขอโทษพวกคุณอย่างจริงๆ จังๆ คราวนี้ แม้แต่เซี่ยกั่วเผิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป

สวี่เหยียนมองเซี่ยซิงเฉินแวบหนึ่ง ถึงเอ่ยต่อ “ขอโทษ ครับ…ผมแต่งงานกับซิงคงไม่ได้

พอเซียซิงคงได้ยินอย่างนั้น น้ำตาก็ไหลออกมาทันที มือ จิกอยู่กับขอบโต๊ะจนนิ้วมือแทบจะหักให้ได้ ความจริงช่วงนี้ส เหยียนปฏิเสธเธออยู่เสมอ แต่เธอไม่ยอมถอย คิดแค่อยาก คืนดีกับเขา วันนี้ที่เขายอมตกลงมาทานข้าวกับครอบครัวตน เธอก็คิดว่าสำหรับพวกเขายังมีโอกาสที่จะหวนกลับคืนได้

คิดไม่ถึงว่า…

เธอมองเซี่ยซิงเฉินด้วยความแค้นเคือง ความเคียดแค้นในใจมากขึ้นกว่าเดิม

คําพูดสวีเหยียนเอ่ยออกมา ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง เซียต้าไปกำลังกัดน่องไก่อยู่ น่องไก่นั้นก็หลุดจากมือตกใส่ถ้วย เสียงดัง ‘แกร่ง เซี่ยซิงเฉินที่เดิมที่ยังงงๆ พอได้ยินคำพูดของ สวี่เหยียนก็รู้สึกสร้างขึ้นเล็กน้อย

“ผมรู้ดีว่าทำอย่างนี้มันไม่สมควร ผมสมควรตายจริงๆ แต่ ว่า….ผมไม่ได้รักซึ่งคง ถ้าผมแต่งงานกับเธอไปอย่างนี้จริงๆ ก็ เป็นการไม่รับผิดชอบเธออยู่ดี”

“แต่เราหมั้นกันแล้ว! ถ้าพี่ไม่รักฉัน รักเซียซิงเฉิน แล้ว ทำไมถึงมาหมั้นกับฉันล่ะ!? นี่ถือเป็นการรับผิดชอบฉันแล้วเห รอ” เซี่ยงคงตวาดอย่างสุดจะกลั้น เมื่อพูดถึงเซี่ยซิงเฉิน ใบหน้าแทบบิดเบี้ยวไปหมด

“ลูกบอกว่าเขารักเซียซิงเฉินงั้นเหรอ?!” หลี่หลิงอีกโมโห ไม่แพ้กัน เธอลุกขึ้นยืนทันที กระแทกเสียงไปทางเซียซิงเฉิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ