สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 98 ขอร้องล่ะคืนลูกให้ฉันเถอะ(5)



ตอนที่ 98 ขอร้องล่ะคืนลูกให้ฉันเถอะ(5)

เขาก็ถูกสั่งสอนเช่นนี้มาแต่เด็ก เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าเขาก็เป็นห่วงลูก คำสอนเช่นนี้จะทำให้ลูกเข้มแข็ง แม้เธอจะปวดใจ แต่ก็ยอมรับ ไม่ได้แย้งเขาแต่อย่างใด ถึงแม้เซี่ยต้าไปจะเป็นเด็กที่ดื้อรั้นคน หนึ่ง แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว เด็กชายจึงกัดฟันแน่น หลังมือเล็ก ขาวนุ่มถูกยกขึ้นมาเช็ดน้ำตา เขากลั้นสะอื้นไว้แล้วหยุดร้องไห้

ไปเย่งยิ้มมุมปาก พูดชม “เด็กดี”

เมื่อพวกเขาเดินออกมาข้างนอก รถก็เตรียมพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็ง ขันยืนเรียงเป็นแถว พลางเปิดประตูรถคันที่สองออก ไปเยถึง ให้เซียซิงเฉินขึ้นไปก่อน เขาที่สวมชุดนอนอยู่ก็อุ้มเด็กน้อยขึ้น ตามไปทีหลัง

รถยนต์เป็นขบวน มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลกั่ว ระหว่างทาง เขาโทรศัพท์หาเฉิน ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของเฉินคอยอยู่ที่ นั่น สีหน้าของเซียซิงเฉินซีดเซียวกว่าเด็กน้อยมากนัก

“อย่ากังวลเลย หมอบอกแล้วว่ากระเพาะอาหารของลูก ไม่ดีเท่าไร คงจะกินอะไรผิดแล้วอาการหนักกว่าคนทั่วไป เท่านั้นแหละ”

“…อืม” เซี่ยซิงเฉินขานตอบ การปลอบใจของเขา มีพลังอย่างหนึ่งที่ทำให้ใจสงบลงได้

เธอมองไปยังมือใหญ่มือเล็กของทั้งสองคนที่กำลังกุมกัน อยู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เวลาเดียวกันภายในใจปั่นป่วนเป็นร้อย ครั้งพันครั้ง ความรู้สึกหลากหลายปะปนกัน ถ้าหากตอนนี้เธอ ดูแลลูกอยู่เพียงคนเดียว แล้วเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นล่ะ เธอ ต้องไม่มีวิธีที่จะทำให้ลูกได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในเวลาอันสั้น แบบนี้แน่ แต่กับชายคนนี้ มันต่างกัน…

เขาสั่งลมเรียกฝนได้ เพียงแค่ต้าไปต้องการ อยากได้อะไร เขาก็หาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้เด็กน้อยได้

รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง

เพียงไม่นาน ขบวนรถก็มาจอดอยู่ตรงหน้าโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า ครอบครัวคนไข้ ทั้งหมดถูกเชิญให้กลับไปแล้ว แม้แต่ผู้ป่วยก็ถูกจัดให้อยู่ ภายในห้องพักเรียบร้อย เวลานี้ห้ามให้มีการเข้าออกโดย พลการ เพราะฉะนั้น ตลอดทางที่พวกเขาเดินเข้าโรงพยาบาล จึงมีแต่ความเงียบสงัดและความว่างเปล่าที่ไม่เคยเกิดขึ้นมา ก่อน

ตอนนี้เซี่ยต้าไปหมดสติไปแล้ว เด็กชายถูกเฉินที่เป็น หัวหน้าทีมผู้เชี่ยวชาญนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที จากนั้นก็ ทําการล้างท้อง

ทั้งสองคนถูกจัดให้รออยู่ในห้องพักผู้ป่วยระดับ VVIP
เขาสวมชุดนอนออกมา ถึงจะเตรียมเสื้อกันหนาวให้เธอ แต่ตัวเองไม่ได้เปลี่ยนแม้กระทั่งรองเท้าแตะ แต่ถึงจะอยู่ใน สภาพนี้ เขาก็ไม่ได้มีสภาพที่ไม่น่ามองแต่อย่างใด บุคลิกภาพ ของบางคนที่มีมาพร้อมตั้งแต่เกิด เพียงแค่ชุดนอนไม่ได้ส่ง ผลกระทบอะไรกับเขามากนัก บุคลิกของเขายังคงไม่ธรรมดา ดูสูงส่งและสง่างาม

เซี่ยซิงเฉินเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สบาย “ฉันโทรหาที่ ทำเนียบให้พวกเขาส่งเสื้อกันหนาวมาน่าจะดีกว่านะ กลัวว่า คุณจะไม่สบาย….

“ไม่ต้องหรอก ร่างกายผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ไปเย่นิ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก้มหน้ามองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง

“ท่านวางใจเถอะค่ะ คุณหมอบอกว่าเด็กพ้นขีดอันตราย แล้วค่ะ” พยาบาลที่รู้ดีว่าเขาคิดอะไรอยู่ พูดขึ้นอย่างรีบร้อน

นอกจากฟอี้เฉินแล้ว ไม่มีใครรู้ถึงประวัติที่แท้จริงของเด็ก คนนั้น แม้จะเกิดข้อสงสัยขึ้นภายในใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ย ถาม มิหนำซ้ำยังไม่กล้าพูดมาก เรื่องบางเรื่อง ยิ่งรู้น้อยเข้าไว้ ยิ่งปลอดภัย ไม่เช่นนั้น ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะปลอดภัยต่อไปอีกหรือ ไม่

เวลาประมาณตีสาม เด็กน้อยถูกเข็นเข้าห้องพักสำหรับผู้ ป่วย ในที่สุดก็พ้นขีดอันตราย พ่อบ้านโทรศัพท์มาบอกว่า ปัญหาอยู่ที่น่องไก่สองน่องนั่น คาดไม่ถึงว่า ในทำเนียบจะมีอาหารหมดอายุ แถมผลของมันยังเกิดขึ้นกับลูกอีก ย่อมทำให้ ไปเยถึงเดือดขึ้นมา เซี่ยซิงเฉินไม่รู้ว่าเขาจัดการยังไง รู้เพียงว่า เขากำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเรียบตึง

จัดการยังไง ทำเนียบเขาย่อมมีกฎของเขาเอง เซียงเฉิ นรู้ดี จึงไม่เอ่ยถามอะไร ขอเพียงแค่ลูกปลอดภัย เธอจะยังไง

ก็ได้

“สองสามชั่วโมงนี้ ห้ามให้เขากินอะไรเด็ดขาด ถ้าเขา คอแห้ง ก็หยดน้ำแต้มริมฝีปากเล็กน้อยพอ” เฉินกำชับเซีย ซิงเฉิน

เธอขานตอบรับ แม้จะมีพยาบาลอยู่ แต่ถ้าหากเป็นเรื่อง การดูแลลูก เซี่ยซิงเฉินไม่อยากให้คนอื่นทำแทน

จากนั้น ไปเฉิงโบกมือเป็นเชิงให้ทุกคนถอยออกไป ภายในห้องพักผู้ป่วยนั้นเหลือเพียงพวกเขาสามคน เซี่ยซิงเฉิ นถึงฟุบอยู่ข้างเตียง พลางหยิบก้านสำลีแต้มริมฝีปากของเด็ก น้อยเบาๆ สีหน้าอ่อนโยนดุจหยดน้ำ ไปเฉิงนั่งอยู่บนโซฟาที่ อยู่ห่างออกไป สายตาจ้องมองเธอ เสมือนเชือกที่อยู่ในใจถูก แปรเปลี่ยนเป็นขนนกบางเบา

เธอช่างเป็นแม่ที่ดีจริงๆ…

เพียงแต่ ถ้าหากให้ลูกไปอยู่กับเธอจริงๆ จากนี้ไปถ้า อยากเจอเธอ ก็คงไม่มีเหตุผลดีๆ แล้ว

จู่ๆ เขาก็รู้สึกดีใจที่ตอนอยู่ในห้องหนังสือ พวกเขายังไม่ ไปถึงขั้นสุดท้าย แต่ว่าสักวันหนึ่ง เธอจะต้องมอบตัวเธอให้กับเขาเองด้วยความเต็มใจ

“พรุ่งนี้คุณยุ่งมากไหม” ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ จู่ๆ เธอก็ เงยหน้าขึ้นมาถามเขาเสียงเบา

เขาได้สติกลับมา ปรับสีหน้าให้เหมือนเดิม แล้วตอบกลับ “อืม” เขาไม่เคยไม่ยุ่งสักวัน

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปนอนพักที่ห้องข้างนอกหน่อยเถอะ เซียซิงเฉินหยิบผ้าห่มผืนหนึ่งออกมาจากตู้ ห้องพักผู้ป่วยห้องนี้ หรูหรามาก หรูหรากว่าบ้านหลังที่เธออยู่ทุกวันนี้เสียอีก ผ้าห่ม เป็นของใหม่ทุกผืน แถมยังมีกลิ่นหอมอีก

เซี่ยซิงเฉินถือผ้าห่มเดินมาตรงหน้าเขา “ตอนนี้ก็ดึกมาก แล้ว คุณรีบเข้าไปนอนพักสักหน่อยเถอะ ไปเฉิงลุกขึ้นยืน ก้มหน้ามองเธอ แววตาลึกซึ้ง “คุณล่ะ”

ทั้งสองคนยืนชิดกันมาก มีเพียงผ้าห่มในมือของเธอที่กั้น กลางอยู่ เชียซิงเฉินได้กลิ่นหอมสดชื่นจากตัวเขาอย่างชัดเจน เธอพาลนึกไปถึงรสจูบอันร้อนแรงในห้องหนังสือเมื่อครู่ แล้ว รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา ใบหน้าร้อนผ่าว เธอหลบสายตาของเขา แล้วพูดเสียงเบา “ฉันนอนกับตาไปเองค่ะ จะได้ดูแลเขาได้”

ไปเย่นิ่งไม่พูดอะไร ยื่นมือข้างเดียวออกไปรับผ้าห่ม เซีย ซึ่งเป็นกำลังจะหันหลังกลับ เขาก็ยื่นมืออีกข้างที่ว่างฉุดแขนที่ ผอมบางของเธอไว้ทันที ความร้อนที่แผ่ซ่านมาจากตรงหัวไหล่ แม้จะมีเสื้อกันหนาวห่อหุ้มอยู่ เธอก็รู้สึกได้ดี ทั้งร่างแข็งที่อ หัวใจเต้นรัว
เขาออกแรงเพียงนิดเดียว ก็ดึงตัวเธอไปได้ทันที เธอหลุด เสียงร้องออกมาเบาๆ มือทั้งคู่วางอยู่บนไหล่อันกว้างใหญ่ของ เขาอย่างเป็นธรรมชาติ สองสายตาประสานกัน เธอแลบลิ้นเลีย ริมฝีปากที่แห้งผาก แพขนตาสั่นไหวอย่างรุนแรง พริบตาเดียว จูบของเขาก็ประทับลงมาทันที

ครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงและดุดันเหมือนในห้องหนังสือ แต่กลับ เป็นจูบที่อ่อนโยน ละเมียดละไม และยาวนาน ฝ่ามือใหญ่เลื่อน จากมือไปที่เอวของเธอ รสจูบดูดดื่มกว่าเดิม และมือของเขาได้ เปลี่ยนมาวางบนแผ่นหลังของเธอ บดเบียดร่างของเธอ ให้ชิด กับตัวเองมากยิ่งขึ้น

เซี่ยซิงเฉินถูกจูบจนใจสั่นไหว มือทั้งคู่เสื้อของเขาแน่น จนกระทั่งเขาปล่อยเธอ อารมณ์ของเธอยังคงเห็นได้ชัดจาก ดวงตาว่าไม่หายไปเลยแม้แต่น้อย

เขามองไปที่เธอด้วยท่าทีถึงหัวเราะ แววตาเป็นประกาย น้ำเสียงแหบทุ่มเอ่ยขึ้น “ดูเหมือนที่คืนนี้ไม่ได้จัดการคุณ จะไม่ ได้มีแค่ผมคนเดียวที่เสียดายสินะ…….

ถูกล้อเข้าเสียแล้ว เซี่ยซิงเฉินแทบอยากจะขุดหลุมมุด

เข้าไป

“ใครเสียดายกัน” เธอกัดริมฝีปาก พูดปฏิเสธอย่างไม่ ยอมรับ “คุณนั่นแหละที่เสียดาย!

“ใช่ไง ผมรู้สึกเสียดายมากๆ เลยล่ะ” เขาพูดตอบด้วย ท่าทีไม่เขินอายแต่อย่างใด
เธอทําหน้าไม่ถูก และไม่ได้หน้าด้านเหมือนเขา ผลัก เขาออกทั้งที่ใจเต้นรัว “คุณรีบไปนอนเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ