สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 17 คนรับใช้ของทำเนียบ



ตอนที่ 17 คนรับใช้ของทำเนียบ

ไม่กี่อึดใจถัดมา เงาร่างโปร่งระหงก็สะท้อนเข้ามาในตาของ เธอ

หญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองสวมกระโปรงยาวสีเหลืองหุ่น ลมโชยพัดผ่านทำให้ผ้าไหวสะบัด ดูแล้วสวยงามยิ่งนัก

เธอเดินเคียงข้างไปเย่นิ่งพลางแหงนหน้าคุยอะไรบาง อย่างกับเขา สีหน้าของเขายังคงเย็นชา แต่ก็พยักหน้าตอบบ้าง เป็นบางครั้ง

ช่างเป็นภาพที่น่าดูเสียจริงๆ หนุ่มหล่อกับสาวสวย ทั้งคู่ เหมาะสมกันมาก

เซี่ยซิงเฉินดึงสายตากลับมาอย่างเงียบเชียบ เธอโน้มตัว ออกไปปิดหน้าต่าง เธอไม่มีสิทธิจะไปสนใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ แรกอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นก็อย่าไปสนใจเลยจะดีกว่า

“เอ๊ะ เธอเป็นใครคะ?”

ขณะหน้าต่างจวนจะปิดสนิท จู่ๆเสียงของหญิงสาววัยละ

อ่อนก็ดังขึ้นมาจากข้างล่าง

เซียซิงเฉินใจเต้น ตึกตัก พลางก้มหน้ามองลงไปโดย

ไม่รู้ตัว

ซึ่งเธอก็คิดไม่ถึงว่าทุกคนจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอ สาวน้อยมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ส่วนสายตาของไปเปถึงก็เพ่งจ้อง มองมาที่เธอ ในขณะที่พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ ก็เอาแต่เช็ดเหงื่อที่ แตกพลัก

และเซี่ยซิงเฉินก็คิดไม่ถึงด้วยว่าการปิดหน้าต่างของเธอ นั้นจะดึงดูดความสนใจจากทุกคนได้ จิตใจเธอรู้สึกสับสนไปชั่ว ขณะ แต่ไม่นานก็กลับมานิ่งสงบตามเดิม เธอค่อยๆ ยิ้ม พลาง ปิดหน้าต่างอย่างใจเย็น

ข้างล่าง

ซ่งเหวย รู้สึกแปลกใจกับสถานะของเซี่ยซิงเฉินที่จู่ๆ ก็ ปรากฏตัวขึ้นมาในทำเนียบ แต่ในเมื่อไปเย่นิ่งไม่ได้พูดอะไร เธอก็เลยไม่กล้าถามอะไรเขามาก ก่อนเดินผ่านประตูไป เธอก็ อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หน้าต่างบานนั้นอีกครั้ง

หรือท่านประธานาธิบดีจะแอบเลี้ยงดูผู้หญิงเอาไว้

เธอแอบชำเลืองมองไปเย่นิ่งอย่างเงียบๆ แต่สีหน้าของ เขายังคงเหมือนกับน้ำที่สงบราบเรียบจนดูไม่ออก

ข้างบน

ยังไม่ทันที่เซี่ยซิงเฉินจะได้กดกริ่ง คนรับใช้ก็วิ่ง ตาลีตาเหลือกขึ้นมาข้างบน

“คุณเซีย คุณไม่ควรโผล่ไปที่หน้าต่างแบบนั้นนะ ถ้าเกิด คุณซึ่งเข้าใจผิดขึ้นมาจะเกิดเรื่องเอาได้
“Sorry ฉันไม่ทันระวัง แต่เธอรีบไปเอาชุดคนรับใช้มาให้ ฉันเปลี่ยนเร็วเข้าเถอะ!”

“คะ?”

“อย่ามัวชักช้าอยู่!”

เซี่ยซิงเฉินส่งเสียงเร่ง อีกฝ่ายก็ไม่กล้านิ่งเฉยพลางรีบ หอบชุดคนรับใช้วิ่งขึ้นไปข้างบน

เซี่ยซิงเฉินถอดชุดตัวเองออกและเปลี่ยนเป็นชุดคนรับใช้ สีดำาขาวอย่างคล่องแคล่ว

“คุณเซี่ย นี่คุณ…?”

เมื่ออีกฝ่ายเห็นเธอแต่งตัวแบบนี้ก็รู้สึกตกใจ ถึงแม้เธอจะ ไม่มีทางเป็นภรรยาประธานาธิบดี แต่อย่างไรเธอก็เป็นแม่แท้ๆ ของคุณชาย ใครจะไปกล้าเรียกเธอว่าคนรับใช้กัน?

“ให้คุณซึ่งเลิกสงสัยก่อนแล้วค่อยว่ากันจะได้ไม่เกิดเรื่อง ขึ้น” เซี่ยซิงเฉินอธิบายพลางมัดผมไปด้วย

ณ ตอนนี้ก็คงอ้างได้แค่ว่าตัวเธอเป็นคนรับใช้ของ ทำเนียบเท่านั้น ถึงจะพอถูไถไปได้

คนรับใช้เองก็ไม่พูดอะไรต่อ

ทางด้านนี้ ประตูของห้องรับรองแขกปิดสนิท เหลิงเฟย และบอดี้การ์ดอีกสองสามคนคอยเฝ้าอยู่หน้าประตู

เซี่ยซิงเฉินเดินลงมา สายตาของเหลิงเฟยมองผ่านเธอไปครั้นแล้วก็หยุดและหันกลับมามองอย่างละเอียดอีกครั้ง ตอน นั้นเขาถึงได้รู้ว่าเป็นเธอ

“คุณเซีย นี่คุณ…

“ๆ! เลิกเรียกฉันว่าคุณเซียได้แล้ว” เซียซิงเฉินมองไปที่ ห้องรับรองแขกแวบหนึ่ง

ในตอนนี้ คนรับใช้ก็ยกกาแฟและขนมเข้ามาพอดี พ่อ บ้านรับและพูดกับเซี่ยซิงเฉินว่า “ขอโทษด้วยครับคุณเชีย คง ต้องรบกวนคุณแล้วล่ะครับ”

เซียซิงเฉินเข้าใจความหมายของพ่อบ้านที่ต้องการให้ส่ง เหวย คิดว่าเธอเป็นคนรับใช้ของทำเนียบ ซึ่งเซียซิงเฉินเองก็ คิดแบบนี้เช่นเดียวกัน

เธอพยักหน้าและยกขนมเดินเข้าไป

ประตูแง้มออกเล็กน้อยทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะของซ่ง เหวยอีดังเล็ดรอดออกมาจากข้างใน “เวลาเล่นหมากรุกกับ ท่านตอนเด็กๆ ไม่เห็นท่านจะยอมให้ฉันเหมือนตอนนี้บ้างเลย

“ไม่นึกเลยว่าคุณซึ่งจะจำเรื่องสมัยเด็กๆ ได้ด้วย

“เรียกฉันว่าเหวยอีเถอะค่ะ ท่านประธานาธิบดี”

ไปเย่นิ่งพยักหน้ารับเบาๆ พลางมองผ่านศีรษะของเธอไป เธอไม่ได้ติดกิ๊บผมประดับเพชรที่เขามอบให้เธอ

“คุณไม่ชอบของขวัญที่ผมให้?” เขาตัวหมากรุกคริสตัลในมือเบาๆถามพลางหมุนคลึง
“ชอบสิคะ ชอบมากๆ ด้วย คุณแม่ถึงกับชมใหญ่เลยว่า ท่านประธานาธิบดีตาแหลมมาก แต่…ฉันกลัวจะทำมันหล่น หายก็เลยไม่กล้าเอามาใช้ค่ะ

ไปเฉิงยิ้มอ่อนๆ ขอแค่คุณชอบ ถ้าหายก็ค่อยซื้อใหม่ ก็ได้”

ซึ่งเหวย อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด เสียงของเธอก็ยิ่ง หวานละมุนขึ้นด้วยเช่นกัน “มันไม่เหมือนกัน นั่นเป็นของขวัญ ชิ้นแรกที่ท่านประธานาธิบดีให้ฉัน คุณค่ามันต่างกันค่ะ”

เซี่ยซิงเฉินยืนฟังเสียงคนสองคนพูดคุยโต้ตอบกันอยู่ตรง ประตู พลันให้รู้สึกว่าตัวเองดูคล้ายจะเป็นส่วนเกิน

คำพูดและสีหน้าของซ่งเหวย แสดงให้เห็นถึงความ เคารพเลื่อมใสที่เธอมีต่อไปเยฉิง ในขณะที่ไปเยฉิงเองก็ปฏิบัติ กับเธออย่างสุภาพอ่อนโยน ซึ่งไม่บ่อยนักที่เขาจะทำแบบนี้ เขา ไม่ได้ทำตัวเย็นชาเหมือนที่ทำกับตัวเธอ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เซี่ยซิงเฉินก็เคาะศีรษะของตัวเองด้วย ความหงุดหงิดอีก

คิดอะไรไร้สาระน่ะ? เรื่องของประธานาธิบดีและว่าที่ ภรรยาประธานาธิบดี ตัวเองไปเกี่ยวอะไรด้วย? ตัวเธอเป็นแค่ ประชาชนคนธรรมดามีสิทธิเข้าไปยุ่งได้เหรอ?

เธอสะบัดศีรษะเพื่อสลัดความคิดทั้งหมดออกไป ครั้นแล้วจึงถือขนมเดินเข้าไป
พวกเขากำลังเล่นหมากรุกฝรั่งกัน ตัวหมากรุกทำจาก คริสตัล ส่วนกระดานทําจากหยก คนหนึ่งครอบครองอีกฝ่าย เซี่ยซิงเฉินเองก็ไม่ได้เข้าไปรบกวน เธอเพียงแต่ตั้งขนมไว้ด้าน ช้างอย่างเงียบๆ

“เอ๊ะ! เดี๋ยว!” ขณะกำลังจะหันหลังกลับออกไป ซึ่งเหวยอีก เรียกให้หยุด “เธอคือผู้หญิงที่อยู่บนตึกเมื่อกี้ใช่ไหม?

ไปเย่งเลื่อนสายตามองเธอ ดวงตาเข้มขึ้นเล็กน้อย

เธอสวมชุดคนรับใช้ ท่าทางใจดีและดูสุภาพนั้นช่างหาดู ได้ยากจริงๆ

“สวัสดีค่ะคุณซ่ง พอดีพ่อบ้านบอกว่าเดี๋ยวฝนจะตก เมื่อกี้ ฉันก็เลยขึ้นไปปิดหน้าต่างด้านบนค่ะ” เซียซิงเฉินอธิบาย

“เธอ…เป็นคนรับใช้ของที่นี่?” ซึ่งเหวยอีสังเกตเธออย่าง

ละเอียดอีกรอบด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้

“ใช่ค่ะ”

“อย่างนี้แล้วกัน เธออยู่ช่วยฉันแกะปูก่อน” ซึ่งเหวย ชำเลืองไปที่ที่เพิ่งยกเข้ามาเมื่อครู่ ซึ่งเหวยชอบทานมาก ในครัวจึงเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว

คะ?

เซี่ยซิงเฉินนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ นี่ตัวเธอต้องมาเป็นคนรับใช้จริงๆ เหรอ?

เธอเหลือบมองไปที่ซึ่งเหวย เธอไม่ได้อยากทำเลย
แต่พอมาคิดดูอีกที อย่างไรที่นี่ก็เป็นทำเนียบ เธอยังอยาก อยู่กับตาไปอีกสักพัก ถ้าเกิดทำให้ซ่งเหวยไม่พอใจและโดน ไล่ออกไปคงไม่ดีแน่

แกะ แกะ!

เธอหยิบเครื่องมือแกะปูขึ้นมาพลางถอยไปด้านข้างเพื่อ ไปจัดการกับกระดองปู ขอเพียงมีเครื่องมืออยู่ในมือ การแกะปู ก็ไม่ใช่งานยาก

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ ซึ่งเหวย ก็หันมาแล้วพูดว่า “ใช้มือ เปล่าแกะ ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรอก เสียงมันรบกวนการเล่น หมากรุกของฉันและประธานาธิบดี

คะ? มือเปล่า?

อะไรกัน? ปูตัวใหญ่ขนาดนี้ ให้ใช้มือเปล่าแกะ คงไม่ได้มี เจตนาจะสร้างความลำบากให้เธอใช่ไหม?

เซี่ยซิงเฉินส่งเสียงไม่สบอารมณ์อยู่ในใจลึกๆ เธอเหลือบ มองไปที่ท่านประธานาธิบดีพลางกัดฟัน มือเปล่าก็มือเปล่า อย่างไรมันก็คงดีกว่าการถูกไล่ออกไป

เธอแกะจนเหงื่อชุ่มไปทั่วศีรษะ กว่าจะได้แต่ละจานมามัน

ช่างไม่ง่ายเลย

“อ๊ะ…” ขณะที่เธอใช้มือเปล่าแกะขาปูอยู่นั้น กระดองที่ แหลมคมก็ทิ่มเข้าไปที่นิ้วของเธอ

เธอเจ็บจนต้องร้องออกมาเบาๆ ขณะที่เลือดไหลซึมออกมาบนนิ้ว

ทางด้านนี้ ไปเยถึงสะดุ้งเล็กน้อยพลางขมวดคิ้ว สายตา ของเขามองไปที่เธอ เขาถามเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “เป็น อะไร?”

“อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร…” เซียซิงเฉินส่ายหน้าพลาง ซ่อนมือไว้ข้างหลัง เสียงตกใจของเธอเมื่อครู่เบามากจนแทบ จะเป็นเสียงถอนหายใจ

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้ยินด้วย

แต่คิ้วที่ขมวดแน่นของเขานั้นกำลังต่อว่าเธอที่ไม่ควร

รบกวนพวกเขาใช่ไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ