สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 336 จับมือกันไปจนชั่วฟ้าดินสลาย



ตอนที่ 336 จับมือกันไปจนชั่วฟ้าดินสลาย

ทั้งคู่สบสายตาแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกที่พลุ่งพล่าน ดวงตาเธอ พร่ามัวเพราะหยาดน้ำที่เอ่อคลอบางๆ

ครั้งนี้เธอไม่ได้ร้องไห้แต่กลับส่งยิ้มให้เขาไปที่ รอยยิ้มนั่น แฝงด้วยความขมขื่น ความเด็ดขาดรวมถึงความโศกเศร้าอยู่ ด้วย ทำให้เขาปวดใจจนแทบอยากจะโอบรั้งเธอเข้ามาอยู่ใน อ้อมอกแล้วกอดไว้แน่นๆ ไม่อยากให้ความโหดร้ายจาก ภายนอกมาทำร้ายเธอได้อีก

เขายื่นแขนไปทางเธอเธอยื่นมือสอดเข้ากับฝ่ามือเขาอย่างไม่ลังเลเขาคว้าหมับไว้อย่างแน่นหนาทั้งสองคนประสานนิ้วเกี่ยวพันไว้มั่นคง ราวกับไม่ว่าอะไร

ก็ไม่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้อีกไปเฉิงฉุดดึงเธอให้วิ่งออกไปด้านนอกทันที

“ซิงเฉิน!”

“เย่ฉิง!”
สี่คนด้านหลังเอ่ยเรียกอย่างพร้อมเพรียง

ไม่มีใครหันกลับไป

เงินหมิ่นวิ่งตามไป “ซิงเฉิน ฟังแม่พูดนะ…”

เซี่ยซิงเฉินปิดหูไว้แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ในยามนี้ เธอปรารถนาจะให้ตัวเองหูหนวก สิ่งที่ไม่อยากได้ยินก็จะไม่ อาจได้ยินไปตลอดชีวิต เธอพอจะเดาบางอย่างได้แต่เธอรู้สึก ว่านั่นเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อเกินไป เธอรับไม่ได้! ยิ่งไม่อยากฟังคำ อธิบายของพวกเขา

เธอบอกตัวเองว่าขอแค่ไม่ได้ยิน เรื่องทุกอย่างก็เป็นเพียง ความฝันเท่านั้น ทำอะไรเธอไม่ได้ และทำอะไรเขาไม่ได้

“เสี่ยวไป๋ หม่ามี้!”

ทันทีที่เซี่ยตาไปเห็นพวกเขาออกมาก็รีบผละออกจากไป หลางเพื่อวิ่งเข้าหา เขารออยู่ด้านนอกกังวลแทบตาย แต่กลับ ไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้ ร้องไห้จนดวงตาบวมแดงเหมือน ลูกวอลนัท

เขาวิ่งมาแทรกระหว่างทั้งสอง สองมือเล็กจับมือผู้ใหญ่ทั้ง สองไว้ แม้เขาจะไม่รู้ว่าด้านในเกิดอะไรขึ้นแต่ก็เดาได้ว่าพวก เขาทั้งสองต้องแต่งงานไม่สำเร็จอย่างแน่แท้ เขาเองก็เสียใจ มากเช่นกัน มือเล็กๆ จับมือพวกเขาทั้งสองไว้แน่นและ พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ไว้คล้ายกำลังปลอบโยนทั้งคู่ “ไม่ เป็นไร ไม่ได้แต่งก็ไม่แต่ง คราวหน้าเราค่อยมาอีกที คราวหน้าไม่บอกพวกเขาแล้ว เราแอบมากันดีกว่า!

เชียซิงเฉินแสบจมูก น้ำตาแทบจะไหลทะลักออกมา เธออยากสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ให้ต้าไปมากจริงๆ แต่ตอนนี้พวกเขายังมีคราวหน้าอีกไหม?

“เฉิง” ไปเย่มองพวกเขาทั้งสามอย่างเป็นห่วงแวบหนึ่ง ด้วยหัวใจที่กล้ำกลืนเช่นกัน

“พาลูกขึ้นรถก่อน!” ไปเย่นิ่งมองเซียซิงเฉินแวบหนึ่งก่อน ที่เซี่ยซิงเฉินจะหยักหน้า อุ้มเซียต้าไปวิ่งขึ้นรถอย่างว่องไวภาย ใต้การคุ้มกันของรุ่ยกัง หันมองกลุ่มคนที่เดินออกจาก สำนักงานเขตแวบหนึ่ง เธอก็ปิดประตูรถพร้อมกดล็อกเสียงดัง “แกรัก” อย่างไม่ลังเล กล่าวกับรุ่ยกังว่า “พวกเราไปก่อน เถอะ”

“แต่ว่าท่านประธานาธิบดี…”

“มีเหลิงเฟยอยู่ไม่ใช่เหรอ?” ตอนนี้เธอไม่อยากเผชิญหน้า กับเหล่าผู้อาวุโสแม้แต่คนเดียวรวมถึงมารดา

รุ่ยกังเห็นสีหน้ากังวลปนเศร้าหมองของเธอเข้า แม้ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ท้ายสุดก็พยักหน้าพร้อมกับขับรถพุ่ง ทะยานออกไป

เซี่ยซิงเฉินอุ้มเด็กน้อยพิงเบาะรถ สายตาวูบไหวของเธอ ทิ้งไว้นอกหน้าต่างรถ ทุกอย่างที่สะท้อนอยู่ภายในดวงตากำลัง ย้อนกลับด้านอยู่
หิมะด้านนอกเริ่มตกน้อยๆ แล้ว

แต่ว่า…

ในหัวใจกลับเริ่มมีหิมะตกอย่างหนักหน่วง

เธอนึกว่าหากตัวเองไม่ได้ฟังความจริงอันโหดร้ายนั่นแล้ว ต้องไม่เสียใจและไม่รู้สึกกังวลอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้มือที่ กอดเด็กน้อยอยู่กำลังสั่น

อาจเป็นเพราะความหนาวสินะ…

เธอกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะเอ่ยกับรุ่ยกังว่า “ย กัง ช่วยเร่งฮีตเตอร์ให้หน่อย

รุ่ยยังมองเธอผ่านกระจกหลังแวบหนึ่งก่อนจะตอบรับเสียง “อืม” ความจริงฮีตเตอร์ภายในรถก็เร่งถึงที่สุดแล้ว

สักพัก

ภายในรถก็เกิดบรรยากาศกดดันขึ้นทันตา

เซี่ยต้าไปที่ปกติสดใสร่าเริงเงียบและสงบลงอย่างหาได้ ยาก ไม่ส่งเสียงใดๆ

ขณะที่รุ่ยยังคิดว่าเธอคงไม่พูดอะไรนั้นก็ได้ยินเธอแย้ม ปากพูดเสียงเบา “ให้คนส่งคุณแม่ฉันไปที่บ้านเช่าเถอะค่ะ เธอ มีกุญแจ

รุ่ยกังตอบรับ “อันนี้คุณวางใจได้ จัดการให้อยู่แล้ว
เซียซิงเฉินพยักหน้าอย่างวางใจ เธอปิดเปลือกตาอย่าง เหนื่อยอ่อน ในหัวมีแต่เรื่องราวในอดีตประเดประดังเข้ามา

วันนั้นที่ไปเย่งเห็นภาพถ่ายของเธอกับมารดาครั้งแรก บอกว่าเธอไม่เหมือนพ่อแม่เลยสักนิด…

จากนั้นตอนเธอได้พบคุณหญิงหลันถึง ช่างถูกชะตา

หลังจากนั้นหยูเจ๋อหนันก็พูดเชิงล้อเล่นว่าเธอเป็นลูกสาว ของคุณหญิงหลันถึง ซึ่งวันนั้นหลังเมามายยังบอกว่าคุณหญิง ได้หมายหมั้นเธอให้แต่งกับเขาเพื่อรับเป็นว่าที่ลูกเขย…..

ขณะนั้นเธอไม่ได้เก็บคำพูดเหล่านี้ไว้ในใจเลย แต่ตอนนี้ พอย้อนนึกแล้วกลับเหมือนหนังที่ฉายผ่านหัวทีละฉากๆ ทุก วินาที ทุกประโยค ทุกคำพูดได้ดึงสติเธอไปทีละนิดๆ อย่างไร ความปรานี

ไป๋ซูเย่มองไปเย่นิ่งด้วยแววตาหนักอึ้ง “แกไม่ใช่คนที่ไม่รู้ ว่าอะไรเป็นอะไร

“พี่น่าจะรู้ดีกว่าพวกท่าน ว่าความรักไม่ใช่ว่าสั่งเก็บก็เก็บ

ได้” ไป๋เย่นิ่งพูดเสียงมั่นคง หันมองเธอแวบหนึ่ง “ถ้าเป็นอย่าง นั้นได้ง่ายๆ ที่จะทรมานไปสามปีอย่างนั้นได้ยังไง? ส่วนตอน

กล่าวถึงตรงนี้เขาก็ชะงักไปครู่ “ความรักของพี่ยังอยู่ภาย ใต้การควบคุมของ เหรอ? ถ้าให้ผมบอกว่ารู้ทั้งรู้ว่าพวกพี่ไม่มีอนาคต แล้วจะให้พี่หยุดมัน พี่จะหยุดมันได้ไหม?

ไปเย่นิ่งเกร็ง เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะย้อนกลับมาพูดถึง

ตัวเอง

ยิ้มฝัน

นั่นสิ ความรักตัวเองยังพังไม่เป็นท่าขนาดนั้น ยังมีสิทธิ์ อะไรมายุ่งเรื่องของเขากัน?

กับเย่เซียว สัญญาหนึ่งเดือน ใกล้เข้ามาแล้ว เดิมทีเธอนึก ว่าหลังจากหนึ่งเดือนนี้เธอก็สามารถถอนตัวได้ เย่เซียวเองก็ เช่นกัน แต่ว่า…

จนถึงตอนนี้ทั้งสองคนกลับเจ็บปวดยิ่งกว่าหนึ่งเดือนก่อน เสียอีก…

“ฉันไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องความรักระหว่างพวกแกสองคน

จริงๆ แต่เนิ่ง ไม่ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไงแกก็ต้องนึกถึง

สถานะตัวเองในตอนนี้ให้ดี

“ที่ผมมาถึงจุดนี้ได้ส่วนหนึ่งก็เพื่อต้องการช่วยคุณอา ตอนนี้คุณอาปลอดภัยดีแล้ว ผมก็หมดความจำเป็นที่ต้องยึด ติดกับตำแหน่งนี้แล้ว อีกอย่าง….ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าตำแหน่ง นี้ผูกมัดผมมากขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้ผมเบื่อหน่าย

อำนาจสำหรับผู้ชายแล้วเป็นสิ่งที่สัญชาตญาณสั่งให้ไล่ ตามอยู่แล้วเขาก็แค่คนปกติทั่วไปไม่ได้ผิดแปลกไปจากผู้อื่น
แต่อำนาจและความต้องการที่เริ่มอิ่มตัว สิ่งที่ตามมาก็มัก เป็นหัวใจที่เริ่มว่างเปล่า

ความว่างเปล่านี้ทำให้เขาโหยหาครอบครัวที่ธรรมดา

ที่สุด

ตื่นเช้ามามีเธอผู้เป็นที่รัก มีลูก หลังมื้ออาหารเช้าต่างก็ แยกย้ายกันไปทำงาน ระหว่างที่กลับบ้านก็มีของเล่นที่เด็กชอบ รวมถึงอาหารที่เธอชอบติดมือมาด้วย เห็นหมวกแบบสำหรับผู้ หญิงหนึ่งใบก็รวดซื้อกลับมาเพื่อสวมให้เธอ

หลังมื้อค่ำทั้งครอบครัวก็ออกมาเดินเล่นด้วยกัน

จากนั้นก็เดินจับมืออีกฝ่ายไปเรื่อยๆ กระทั่งชั่วฟ้าดิน สลาย จักรวาลดับสูญ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ