สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 358 ภรรยาอยู่ไหนผมอยู่นั่น(2)



ตอนที่ 358 ภรรยาอยู่ไหนผมอยู่นั่น(2)

หลันถึงกล่าวเสริม “แม่รู้ว่าลูกเป็นห่วงตาไป แต่ที่นั่นมีคนเยอะ แยะ คุณพ่อของเขาเองก็อยู่ ต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว แต่คุณ พ่อของลูกน่ะสิ…

เธอชะงักไปครู่ถึงพูดต่อ “อยู่ที่นี่คนเดียวยังไงก็ไม่น่า วางใจ”

เซี่ยซิงเฉินเหลือบข้างมองเธอ “แม่ไม่ค้างเหรอคะ?”

“แม่เหรอ?” หลั่นถึงหลุดขำ “เด็กโง่ ในนี้นอกจากแม่แล้ว ก็มีแต่คนตระกูลไป กลางคืนแม่ต้องกลับบ้านตระกูลหลั่นอยู่ แล้ว หลันนั้นให้คนขับรถมารับแล้ว อีกเดี๋ยวแม่ก็จะไปแล้วล่ะ

ก็ดี ในเมื่อปัจจุบันเธอกับบิดาไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่าง เดิมอีกต่อไปแล้ว

“ค่ะ หนูจะอยู่ดูแลคุณพ่อเอง” เซียซิงเฉินไม่คิดอะไรมาก พร้อมพยักหน้ารับ

“ถ้ากลางคืนมีอะไรต้องโทรหาแม่นะ” หลันถึงอดกังวลไม่ได้

“ยิ้ม”
“แล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง…” หลันถึงพูดด้วยน้ำเสียงเชิงหว่าน ล้อม “ตระกูลหลันมีผู้ใหญ่หลายคนที่ยังไงก็ต้องเจอสักหน่อย ก็เลย…แม่ว่าถ้าเด็กหายดีหน่อยแล้วกลับไปพร้อมแม่สักครั้งได้ ไหม? หลายปีมานี้จนตามหาลูกเจอ พวกเขาก็ดีใจแทนแม่ มากๆ อยากเจอลูกสักหน่อย

เซี่ยซิงเฉินรู้ดีว่าบางเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง ครุ่นคิดอึดใจ เดียวก็พยักหน้าตอบรับ

รอไปชิงสั่งทานอาหารเสร็จ คุณหญิงหลันถึงก็กลับไป พร้อมคนตระกูลหลัน ไปชิงรั่งที่อายุไม่น้อยแล้วยังต้องผ่าตัด ยิ่งทำให้สุขภาพย่ำแย่ลง เมื่อทานอาหารมื้อค่ำเสร็จก็หลับไป ในทันที น้อยนักที่จะตื่นด้วยสติครบครัน

เซี่ยซิงเฉินเป็นกังวลจึงถามคุณหมอที่คอยดูแล เมื่อได้ รับคำยืนยันว่าไม่เป็นอะไรถึงได้สบายใจขึ้นเล็กน้อย ปิดประตู เดินออกจากห้องนอน

“คุณเซีย คุณหนูมาค่ะ เพิ่งลงไปก็ได้ยินเสียงคนรับใช้ เงยหน้าพลางเห็นไปเยถือถุงหลายถุงเข้ามา

“นี่คืออะไรเหรอคะ?” เซี่ยซิงเฉินถาม

“คุณหญิงบอกว่าเป็นเสื้อที่ซื้อให้เธอคราวก่อน เธอทิ้งมัน ไว้ที่นั่นไม่ได้เอาไปแล้วก็มีเสื้อสำหรับเปลี่ยนด้วย” ไปเยี่ยื่น ส่งใส่มือเธอ

เซี่ยซิงเฉินก้มหน้ามองแวบหนึ่ง เกิดความรู้สึกบางอย่างในใจ ผ่านไปแค่ไม่กี่วันนับจากที่ไปเดินชอปปิ้งกับคุณหญิงไป อย่างมีความสุข แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว

ไปเย่มองเธอแวบหนึ่ง รู้ถึงความเศร้าในใจเธอ เพียง ถาม “คุณอาฉันเป็นยังไงบ้าง?

“คุณหมอบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แค่…อายุไม่น้อยแล้ว เลยต้องพักฟื้นนานสักหน่อย

ไปเย็พยักหน้า “ตอนนี้มีเธออยู่ข้างๆ น่าจะอารมณ์ดีไม่ น้อย ต่อให้ร่างกายไม่ดีแค่ไหนก็ทนได้อยู่หรอก

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ

ไปเถอนหายใจ “จากนี้ก็ไม่รู้ควรเรียกเธอว่าน้อง หรือ

กล่าวถึงตรงนี้เธอก็หยุดชะงัก ไม่ได้พูดต่อไป เซียซิงเฉิ นก้มหน้าเม้มปากแน่นไม่ตอบรับอะไร ไฟในห้องโถงสาด

ส่องลงมายิ่งขับให้เห็นใบหน้าอันเศร้าหมองของเธอ

ไปเย่รู้ถึงความเศร้าในใจเธอจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแต่ เอ่ยเพียง “คืนนี้เธอค้างที่นี่ก็ไม่ต้องห่วงข้างบนแล้ว คืนนี้ฉันอยู่ ค้างที่จงซัน จะช่วยเธอดูแลต้าไปเอง”

เซียซิงเฉินพยักศีรษะรับ ทั้งรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ เมื่อส่ง ไป๋ซู่เย่แล้วก็ยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางลมหนาวอยู่พักใหญ่ ความจริงไม่ได้คิดอะไรมากเลยเพียงแค่ใจที่ยังว้าวุ่นแปลกๆ หลังอาบน้ำก็เตรียมยาทั้งหมดให้คุณท่านรองไป จากนั้นก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว

ไม่มีความง่วงแม้แต่นิด

ถือแก้วน้ำชายืนอยู่ตรงทางเดินพลางมองไปยังบ้านใหญ่ ที่อยู่ห่างออกไป ตอนนี้บ้านใหญ่ยังสว่างโร่ไปทั้งหลัง ดูท่า ครึกครื้นน่าดู

เขานอนหรือยัง?

ลูกยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า?

ใจของเซี่ยซิงเฉินที่เต็มไปด้วยความกังวลทำให้ไร้ความ ง่วงงุน แต่ก็ไม่กล้าไปหากลางดึกเพราะกลัวทำให้คุณท่านไม่

พอใจ

ขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย โทรศัพท์ถือมือที่เธอวางทิ้งไว้ ในห้องก็แผดเสียงดังลั่น เดิมที่คิดว่าเป็นสายจากเขาแต่พอ หยิบมาดูแวบหนึ่งเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก

เธอชั่งใจครู่หนึ่งสุดท้ายก็แนบโทรศัพท์ชิดหู

“สวัสดีค่ะ”

“ฉันเอง”

เสียงนี้…

กลับเป็นเซี่ยซิงคง

หลังจากเซี่ยซิงเฉินแน่ใจแล้วท่าทีก็เย็นชาขึ้นทันที
“เซียซิงเฉิน เธอต้องถอนฟ้อง ไม่งั้นเธอต้องเสียใจแน่ที่

ทำกับฉันแบบนี้ ฉัน…

“เธอโดนคดีอาญา ศาลฟ้องเธอเองฉันถอนฟ้องไม่ได้ แล้วก็…” เซียซิงเฉินพูดขัดเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา ต่อให้ฉัน ถอนฟ้องได้ ฉันก็ไม่ทำ ที่ต้องโดนโทษจำคุก ในตอนนี้เพราะ ตัวเธอเองต่างหาก!

“เธอ!”

“แล้วก็จากนี้ไม่ต้องโทรหาฉันอีก!” เธอพูดขัดเซี่ยซิงคง อีกครั้ง

“เซียซิงเฉิน เธออย่ามาเสียใจแล้วกัน! ฉันให้โอกาสเธอ ครั้งสุดท้าย!” เซี่ยซิงคงพูดเสียงแหลมปรี๊ด เอ่ยทุกคำจนคน ฟังอยู่ในค่ำคืนดึกดื่นสะดุ้งตกใจ

เซียซิงเฉินว้าวุ่นใจเกินไป ยิ่งไม่อยากพูดคุยกับเซี่ยงคง ให้มาก คราวก่อนที่เกือบจะโดนเธอทำร้าย บทเรียนนี้หากเธอ ไม่จดจำเอาไว้คงจะเกินไปแล้วจริงๆ เธอไม่พูดอะไรเพียงแค่ กดตัดสายทิ้ง เบอร์แปลกนั่นโทรเข้ามาติดๆ อีกหลายครั้งจน ใจเธอเริ่มไม่นิ่ง ได้แค่กดตัดสายทิ้งเป็นครั้งๆ ไป

สุดท้ายไม่รู้ว่าเซี่ยซิงคงถอดใจแล้วหรือแค่เฝ้ารอเวลา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เห็นโทรเข้ามาอีก

เซี่ยซิงเฉินโทรศัพท์ไว้ในมือ มองไปยังชั้นล่างที่มืดมิด นิ่งๆ จู่ๆ ก็เกิดคิดถึงเขาขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
คิดถึงมากๆ…

ราวกับเพียงนึกถึงเขาความว้าวุ่นในใจก็จะหายไป

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้น โทรออกไปยังสายที่แสนจะคุ้นเคย รอไม่กี่อึดใจก็ถูกรับสาย

ไปเยถึงกำลังยืนอยู่ในห้องนอนด้านบน เพิ่งอาบน้ำเสร็จ จึงสวมชุดคลุมอาบน้ำ สายตาจ้องมองตึกหลังเล็กข้างล่าง

“ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอนอีกเหรอ?”

เซี่ยซิงเฉินยืนพิงกรอบประตู มองท้องฟ้าที่มืดสนิทแล้ว พูดเสียงเบา “นอนไม่หลับค่ะ

“คิดถึงผมเหรอ?”

เธอเงียบไปครู่ราวกับถูกรู้ทันเข้า ต่อให้มีโทรศัพท์ขวาง กั้นไว้อยู่ใบหน้าก็เห่อร้อนอยู่ดี แต่กลับปากแข็งพูดตอบไปว่า “กำลังคิดใครบางคนอยู่แต่เป็นลูกชายสุดที่รักของฉันต่างหาก ต้าไปเป็นยังไงบ้างคะ? นอนหรือยัง?

“อืม เย่นอนเป็นเพื่อน คุณไม่ต้องกังวลหรอก

“ถ้างั้นก็ดี” เมื่อมีคนอยู่เป็นเพื่อนเด็กน้อยเซียซิงเฉินจึง เบาใจลงเล็กน้อย

“ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องวิ่งวุ่นสองทาง คุณต้องเหนื่อย แน่นอน” ไปเย่นิ่งพูดเตือน
แม้จะขอลาเพราะเหตุจำเป็นไม่ต้องไปทำงาน แต่ สถานการณ์ตรงหน้ากลับไม่ง่ายไปกว่าการทำงานเลย

“อืม” เซียซิงเฉินลากเสียงยาวเล็กน้อยและอ่อนโยนขึ้น

ความอาลัยอาวรณ์ในใจพรั่งพรูออกมาไม่หยุดหย่อน ไม่รู้ ตั้งแต่เมื่อไรที่เริ่มชินชากับการมีผู้ชายคนนี้อยู่ข้างกายยามดึก มีกายที่อบอุ่นของเขาและอ้อมกอดของเขาที่พึ่งพิงได้

ไปเย่นิ่งเข้าใจความหมายเธอได้จากคำเพียงคำเดียว นัยน์ตาฉายแววล้ำลึกเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ