สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 296 ความรู้สึกรัก (4)



ตอนที่ 296 ความรู้สึกรัก (4)

“หม?” หัวใจเธอสั่นไหว มือที่กำลังจะกดวางสายหดกลับเป็น เหมือนเดิมทันที แนบโทรศัพท์ชิดหูอีกครั้ง แค่รู้สึกว่า ซึ่งเป็น ที่ขานออกจากปากของเขานั้นช่างน่าใจสั่น

“คืนนี้ผมจะกลับหน่อย รอผมอยู่ที่ทำเนียบ ประธานาธิบดีนะ”

รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่มีทางเห็น แต่เซียซิงเฉินกลับพยักหน้ารับ เบาๆ “ได้ค่ะ”

“แล้วก็…” ก่อนวางสายเขาไม่วายพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียง ราบเรียบราวกับทำตัวไม่ถูกอยู่หน่อยๆ พักใหญ่ถึงเปล่งเสียง

ออกมาอีกหนึ่งประโยค “ผมก็เหมือนกัน”

“เหมือนกันเหรอคะ?” เซี่ยซิงเฉินนิ่งไปชั่วครู่เหมือนไม่ เข้าใจความหมายของเขา รอที่จะถามให้กระจ่างแต่เขากลับ ชิงตัดสายไปเสียก่อน

เมื่อรอให้ได้สติกลับมา เซี่ยซิงเฉินปากกระตุกและยิ้มออก มาในที่สุด

ความสุขในแววตามากขึ้นเรื่อยๆ

เขาก็เหมือนกัน…
ถ้าเธอเข้าใจไม่ผิดหมายถึงคิดถึงเธอเหมือนกันใช่ไหม?

เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าสีคราม โดยมีฝูงนกบินผ่าน ความ กังวลในใจเมื่อครู่จางหายไปมาก

อีกฝั่งหนึ่ง

บนรถ

ไปเยฉิงหมุนโทรศัพท์มือถือเล่นคล้ายกำลังคิดบางอย่าง จนเหม่อลอย มุมปากที่ปกตินิ่งเฉยอยู่เสมอในตอนนี้กลับเผย ยิ้มอยู่เบาบาง

“ท่านครับ”

“ท่านครับ” เหลิงเฟยเอ่ยเรียกสองที่จนเขาหลุดจากภวังค์ ส่งสายตาสงสัยให้เหลิงเฟย เขาจัดกระดุมเสื้อตรงอกไปพลาง ตีสีหน้าเคร่งขรึมแล้วกลับมามีท่าทางจริงจัง ในช่วงเวลาทำงาน อย่างเคย “มีอะไร?”

ความเปลี่ยนแปลงนี้….

เหลิงเฟยยื่นเอกสารในมือไปให้ “นี่เป็นข้อมูลคร่าวๆ ของ หญิงสาวคนนั้นที่ท่านตามหา ร่องรอยของเธอในตอนนี้อีกไม่กี่ วันน่าจะตามสืบได้หมด

ไปเย่นิ่งดึงเอกสารออกจากซองเอกสารที่ทำจากหนังวัว

ในข้อมูลปรากฏภาพถ่ายเพิ่งคลอดของเด็กน้อยและข้อมูลบางส่วนของโรงพยาบาล

“อธิบายคร่าวๆ หน่อย” เขาพลิกภาพถ่ายและเอกสาร พร้อมพูดกับเหลิงเฟย

“ตามที่สืบมา ตอนที่เด็กเกิดถูกคลุมด้วยผ้าสีฟ้าผืนหนึ่ง บนผ้าปักด้วยลายดอกกล้วยไม้ ว่ากันว่าวันที่คลอดถูกทิ้งไว้ที่ โรงพยาบาล ตอนนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งมาตรวจครรภ์แล้วเด็ก อายุหกเดือนในท้องเธอก็หัวใจหยุดเต้นและวันนั้นก็ทำแท้งไป เลย ฝ่ายหญิงเลยอุ้มเด็กที่ท่านตามหากลับไปเลี้ยงดู คงเลี้ยง เหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง

“ยังสืบไม่ได้เหรอว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร ตอนนี้ตัวอยู่ ที่ไหน?”

“เพราะเรื่องตอนนั้นผ่านมานานมากแล้ว ข้อมูลในโรง พยาบาลก็ไม่ครบถ้วน ตอนนี้เลยกำลังตามหาข้อมูลอยู่ตาม คลังเก็บข้อมูลเก่าๆ อ้างอิงแค่จากความทรงจำของคุณหมอที่ ทำแท้งให้เธอตอนนั้น เหมือนว่าเธอเป็นพวกสำรวจพืชพันธุ์ ตอนนั้นอาศัยอยู่ในเมืองหลวงทำงานก็ทำในเมืองหลวง ผม เลยเดาว่าตอนนี้เธออาจจะยังอยู่ในเมืองหลวง

ไปเย่นิ่งพยักหน้าแล้วเก็บข้อมูลกลับเข้าซองเอกสาร

“เร่งเวลาแล้วทำงานให้ดี สิ่งแรกหลังจากเจอผู้หญิงคน นั้นต้องเอาเส้นผมเธอและของคุณลุงไปตรวจ DNA

“แน่นอนครับ”
ช่วงบ่าย

ช่วงทำงานเซียซิงเฉินค่อนข้างใจลอย ทั้งที่บอกเตือนตัว เองอยู่ร่ำไปว่าอย่าคิดเหลวไหล แต่คำพูดของหลี่หมิงกลับก้อง อยู่เต็มหัวเธอไม่หายไปไหน

ทั้งที่ตั้งสติแล้วจดจ่อสมาธิกับงานอีกครั้ง โทรศัพท์มือถือ ก็พลันดังขึ้น

เธอพลิกโทรศัพท์ขึ้นดูแวบหนึ่งกลับเป็นเซี่ยงคง ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ปรากฏในโลกของเธอนานแล้ว

เซี่ยซิงเฉินพอเดาได้ว่าเธอมาหาตนเพราะเรื่องอะไร เธอ ไม่ได้กดรับสายแตกดตัดสายทันที แต่เซี่ยงคงกลับพยายาม โทรหาอยู่อย่างต่อเนื่อง เสียงเรียกเข้าดังในห้องทำงานอยู่ บ่อยครั้งคงไม่เหมาะสมนัก เธอจึงปิดเครื่องแล้วโยนไว้ข้างๆ

กดเปิดไฟล์งานบนคอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้ง แต่ปรากฏว่า สวี่เหยียนมาหาแล้วเคาะโต๊ะทำงานเธอเบาๆ

“ซิงเฉิน”

เชียซิงเฉินชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งคงให้คุณมาหาฉันเหรอคะ?

สวี่เหยียนพยักหน้าแล้วถอนหายใจกล่าว “เธอบอกว่า ตอนนี้เธอรอคุณอยู่สนามไปยว คุณ…ไปดูหน่อยไหม ในสาย เธอร้องไห้หนักมากเลย
เซียซิงเฉินมองออกไปนอกหน้าต่าง บนสนามไปยวมันก พิราบสีขาวบินร่อน ข้างน้ำพุมีร่างคุ้นเคยยืนอยู่ ต่อให้มอง จากที่ไกลเซียซิงเฉินก็ดูออก

เธอเงียบไปพักหนึ่ง ครุ่นคิดเสร็จก็พับฝาโน้ตบุ๊ค เดินลง

ไปชั้นล่าง

เซี่ยซิงเฉินเดินไปที่สนามไปยว เซียซึ่งคงที่นั่งอยู่ริมน้ำพุ ผุดลุกขึ้นยืนทันทีแล้วสับเท้าเข้าหาเธออย่างไว

ขณะที่ห่างกันหนึ่งเมตรเซียซิงเฉินก็มองเห็นคราบน้ำตา บนใบหน้าเธอได้ ลมในฤดูหนาวดุจใบมีดทิ่มแทงใบหน้าเธอ นานๆ ที่เธอจะไม่แต่งหน้าจนดูโทรมไปทั้งตัว สภาพย่ำแย่ มาก

ทั้งสองคนขยับเข้าใกล้ ยังไม่ทันปริปากจู่ๆ เซี่ยงคงก็ คุกเข่าลงข้างเท้าเซียซิงเฉิน

เธอขมวดคิ้ว

สองมือของเซี่ยงคงกอดรอบขาเซียซิงเฉิน “พี่ ฉันขอร้อง ล่ะ! ฉันขอร้องล่ะ! ครั้งนี้มีแค่พี่ที่ช่วยคุณแม่ฉันได้แล้วจริงๆ

ดูท่าคุณหญิงไปกำลังจัดการเธอแล้ว

“เซียซึ่งคง ลุกขึ้นมา!” ที่นี่คือหน้าสำนักงาน ไม่ว่า อย่างไรเธอก็เป็นพนักงานในสำนักงาน ภาพเช่นนี้คงดูไม่ดีนัก
“ฉันไม่ลุก! พี่ แม่ฉันน่าสงสารมากจริงๆ นะ…พ่อทิ้งเธอ แล้ว คุณย่าก็ไม่สนใจเธอ..ตอนนี้เธอไม่มีครอบครัว ไม่มีสามี ไม่มีเงิน ถ้าถูกจับไปจริงๆ แม้แต่อิสระเธอก็ไม่มีแล้ว…

เซี่ยงคงร่ำไห้จนเสียงเริ่มแหบแห้ง “แม่ฉันคืนพ่อให้แม่พี่ แล้ว สวี่เหยียนของฉันก็ถูกพี่แย่งไปแล้ว ฉันขอร้อง…ขอร้องพี่ อย่าไล่ต้อนเราขนาดนี้เลย พี่ พี่ไปขอร้องท่านประธานาธิบดี ให้หน่อย ท่านประธานาธิบดีต้องยอมรามือแน่ๆ!

เสียงของเธอไม่ดังแต่ก็ไม่เบา คนเดินผ่านรอบข้างส่ง สายตามองมา เซียซิงเฉินเริ่มคุกรุ่น พลางเก็บบัตรพนักงานที่ แขวนคล้องไว้บนลำคอเข้าในกระเป๋า

สีหน้าราบเรียบไม่สะเทือน “แม่เธอมีสภาพตอนนี้ก็เพราะ ตัวเธอเอง! กล้าหลอกคุณหญิง อ้าปากก็ขอเงินสิบล้าน ตอนที่ เธอทำก็น่าจะคิดถึงผลของมันได้! กลับเป็นความโง่ของเธอเอง โทษใครไม่ได้!”

“พี่! ตอนพี่อายุแปดขวบก็ไม่มีแม่ แม่ฉันเลี้ยงดูพี่เหมือน ลูกสาวแท้ๆ มาจนตอนนี้ ทำไมถึงสะบัดหน้าหนีไม่รับล่ะ?”

“ตอนฉันแปดขวบก็ไม่มีแม่?” เซี่ยซิงเฉินก้มมองหญิงสาว ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างประชดประชัน “ถ้าไม่ใช่เพราะ แม่เธอ ทำไมตอนฉันแปดขวบถึงไม่มีแม่อยู่ข้างๆ ล่ะ? อีก อย่างเมื่อเธอบอกว่า แม่เธอเห็นฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ งั้นเห รอ?”

เอ่ยถึงตรงนี้เธอก็รู้สึกว่ามันน่าขำ “เซียซิงคง เธอเคยเห็นแม่แท้ๆ ที่ไหนขายลูกสาวตัวเองไหม? เธอเคยเห็นแม่แท้ๆ วางยาสลบลูกสาวตัวเองแล้ววางบนเตียงให้ผู้ชายไหม? ถ้า เขาเห็นฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ จริงๆ ทำไมถึงกล้าคิดแผนหลอก เงินคุณหญิงตั้งสิบล้าน! คำว่า “แม่แท้ๆ ที่ออกจากปากพวก เธอมันก็คือการหยามแม่ฉัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ