สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 361 ผู้ชายหน้าไม่อาย (2)



ตอนที่ 361 ผู้ชายหน้าไม่อาย (2)

เซี่ยซิงเฉินจัดเสื้อผ้าหน้าผมเสร็จถึงล้วงกุญแจเปิดประตูเข้าไป เห็นเพียงคุณหมอกับคนรับใช้กำลังไปห้องคุณท่านรองไปชั้น สองอย่างเร่งรีบ เธอใจหล่นวูบรีบตามไปโดยไม่รีรอ

ห้องนอนที่คุณหมอกำลังตรวจอาการอยู่ข้างใน

คนรับใช้กำลังทําความสะอาด

ไปชิงรั่งนอนอยู่บนเตียงด้วยอาการสะลึมสะลือ เซียซิงเฉิ นมองแล้วก็ปวดใจ ก้าวเท้าเข้าไปถามคุณหมออย่างร้อนรนใจ “ทำไมเหรอคะ? กลางดึกแบบนี้เกิดอะไรขึ้น?

หลังจากคุณหมอตรวจอาการเสร็จก็ดึงสายสเต็ต โทสโค ปลง “คุณเซียสบายใจได้ นี่เป็นอาการทั่วไป คืนนี้ต้องมีคนเฝ้า ถ้าไข้ขึ้นต้องรีบแจ้งเรา

เซียซิงเฉินหยักหน้าฟังคุณหมอพูด แต่ใจก็ยังยากจะสงบ

ลงได้

มีคนรับใช้คอยเฝ้าอยู่ข้างกาย ครั้งนี้เธอโบกมือเป็นเชิง ถอยออกไปแล้วตัวเองจะเป็นคนเฝ้าอีกค่อนคืนหลังเอง

ภายในห้องเหลือเพียงไปชิงรั่งกับเซี่ยซิงเฉิน
เหตุเพราะฉีดยาไปหลายเข็มทำให้แขนแห้งเหี่ยวของไป ชิงรั่งที่วางไว้นอกผ้าห่มนั้นบวมเป่ง เส้นเลือดปูดโปน หลังมือ ขึ้นรอยจํา

อาจเป็นเพราะเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เชียซิงเฉินมองด้วย หัวใจที่เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เธอจับมือของเขาขึ้นเบาๆ แล้วสอดเข้าในผ้าห่ม

คล้ายว่าไปชิงรั่งรู้ถึงความเป็นอยู่ของเธอจึงลืมตาขึ้นเล็ก น้อยเพื่อมองเธอแวบหนึ่งอย่างยากลำบาก

ตรงหน้าราวกับมีหมอกควันปกคลุมอยู่ แต่ต่อให้เป็นเช่น นั้นก็รับรู้ว่าข้างกายคือลูกสาวของตนอย่างแน่นอน มุมปาก โค้งขึ้นเล็กน้อยพลางเผยยิ้มอย่างอิ่มเอมใจก่อนจะหลับใหลไป

เห็นเขานอนหลับสนิทดีเธอจึงเบา ใจลงมาก สีหน้าที่ เคร่งเครียดก็ผ่อนคลายลง

วันรุ่งขึ้น

ภายในบ้าน ใหญ่กำลังทานอาหารเช้าอยู่

บนโต๊ะอาหารประกอบไปด้วยคุณท่าน คุณหญิงไป ไป

เย่ฉิงและไป๋ซู่เย่

คุณท่านอ่านหนังสือพิมพ์ไปทานอาหารเช้าไป ไปเย่นิ่งไม่ ได้ทานไวนักพลางเหลือบข้างมองไปเย่แวบหนึ่ง ไปเที่ได้ รับสายตาจากเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากในทันที เพียงแค่ค่อยๆ พูดขึ้นหลังจากทานข้าวต้มหอยออร์เมอร์หมดไปถ้วยหนึ่ง เราก็ ทานกันเสร็จแล้ว ไม่ต้องเตรียมเพื่อชิงเฉินกับคุณอาเหรอคะ?

“ไม่ต้องห่วง ข้างล่างก็มีครัว แม่สั่งให้คนฝีมือดีหลายคน ลงไปจัดการแล้ว อากาศหนาวขนาดนี้ ทุกคนต่างก็วิ่งขึ้นวิ่งลง เหนื่อยกันหมด” คุณหญิงไปตอบกลับ

ไปเย่เหลือบมองไปเย่นิ่งแวบหนึ่ง ทั้งสองยังคงไร้คำพูด

ใดๆ เพียงแค่ทานอาหารต่อเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าอาหารเช้ามื้อนี้ไม่มีซิงเฉินมาร่วมด้วยเสีย แล้ว

แม้คุณท่านกำลังอ่านหนังสือพิมพ์แต่สายตาคู่นั้นก็กวาด ผ่านลูกชายหลายต่อหลายครั้ง ในฐานะลูกชายของตน ตน ย่อมรู้ทันความคิดของเขาดีกว่าคนอื่นอยู่ดี

ครั้งที่สามหลังดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่งก็กล่าวกับ

ลูกชาย “แกยังไม่ไปเหรอ? นี่มันแปดโมงแล้ว

“ไม่รีบครับ” เขาเอ่ยปากพูดเสียงเลื่อย ก้มหน้าทาน อาหารเช้าต่อ

คุณท่านแค่นเสียงไปที เพราะทานเสร็จแล้วจึงเดินไปอ่าน หนังสือพิมพ์ที่ห้องโถงต่อ

คุณหญิงโป้กล่าวกับลูกชาย “พ่อของลูกแปลกขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ ทานอาหารมื้อเช้าแค่นี้ทำไมต้องเร่ง! ลูกอย่าไปฟังเลย ทานเยอะๆ ทานอิ่มแล้วค่อยไปก็ไม่สาย
คุณหญิงไปพูดไปก็ตักอาหารให้ลูกชายไปไม่น้อย พร้อม ถามอย่างเป็นห่วง “แผลบนหลังหายดีหรือยัง?

“อืม ใกล้หายดีแล้วครับ

“ลูกนี่น้า อย่ายั่วโมโหพ่อบ่อยสิ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่าง เขาน่ะลูกยังไม่รู้เหรอ?”

ไปเยตอบรับ “อารมณ์ของเขาก็ได้มาจากพ่อนั่นแหละ แม่พูดอย่างนี้กับเขาไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอก

“ก็ใช่ ยังไงซะนิสัยพ่อลูกก็เหมือนกัน แม่พูดไปก็เสีย

เปล่า”

ไปเย่นิ่งไม่ตอบอะไร ทานไปหลายคำจากนั้นก็เช็ดปากลุก ขึ้นยืน “ผมไปพักที่ห้องโถงแป๊บหนึ่งนะ

เขาเองก็ไปห้องโถงเช่นเดียวกับคุณท่าน น้อยนักที่จะได้

อ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบาย สองพ่อลูกนั่งอยู่คนละฝั่งของ

โซฟา

คุณท่านรู้ว่าคนคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ สายขนาดนี้แล้วเจ้า ตัวยังไม่ไป ก็กำลังรอคนอยู่ไม่ใช่หรือยังไง?

แค่คิดว่าเขายังไม่ปล่อยมือน้องสาว คุณท่านก็ใจเดือด พล่าน ทันใดนั้นก็ใช้ไม้เท้าเขียขายาวที่ไขว้กันอยู่ “ยังนั่งอยู่ อีก ทำไมยังไม่ไปอีก!

“ไม่รีบ เหลิ่งเฟยยังไม่มา”
“แกกำลังรอเหล็งเฟยเหรอ? ฉันว่าแกกำลังรอคนอื่นอยู่ ไปเย่นิ่งไม่ตอบกลับ ไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ

คุณท่านดูเวลาอีกแวบหนึ่ง “มีสักกี่คนที่เป็นประธานาธิบดี ว่างงานอย่างแก!”

ทันใดนั้นเองก็มีคนรับใช้เดินเข้ามาจากด้านนอก “ท่าน ประธานาธิบดี รองผู้บังคับบัญชาการเหล่งมาถึงแล้ว

คุณท่านชายตา “ทีนี้คงต้องไปแล้วสินะ?

“ให้เขารออยู่ข้างนอกแป๊บหนึ่ง

คุณท่านแค่นเสียงที โยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะเตี้ยก่อน จะถลึงตาจ้องเขา “ฉันขอเตือนแกนะ แกอย่ามาฉวยโอกาสที่ คุณอาแกป่วยแล้วสร้างปัญหา! คืนนี้แกกลับไปนอนที่ทำเนียบ ประธานาธิบดีของแกไป ห้ามมาที่นี่!

คุณหญิงไปกำลังเดินมาทางนี้จากห้องทานอาหาร เมื่อ ได้ยินคำพูดของคุณท่านก็สับเท้าเร็วขึ้น ทันทีที่เข้ามาถึงก็ หวาดเสียงกลับ “พูดอะไรนะ! นี่คุณกำลังพูดบ้าอะไรอยู่ นี่ก็บ้า นของเฉิง เขาอยากมาก็มา อยากนอนก็นอน คุณทำขนาดไล่ เขาเลยเหรอ?”

“คุณจะเข้าใจอะไร! มันมาที่นี่ไม่ได้คิดอะไรดีๆ เลย!”

“ฉันไม่สนว่าเขาคิดอะไร แค่มาอยู่เป็นเพื่อนคุณได้คุณก็ขอบคุณดินเถอะหญิงไปออกโรงปกป้องลูกชายเต็มที่

“มาอยู่เป็นเพื่อนผม! ผมไม่โมโหขอบคุณฟ้าดินแล้วคุณท่านยกนิ้วลูกหน้า พลางกัดฟันกรอด

เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่ผิด คุณท่านคิดรอบคอบ เมื่อคืนตน

คงมีน้อยเขา

ไป๋เย่ฉิงล้วง โทรศัพท์มือถือออกก่อนหนึ่งแล้วกดส่ง

สักพักมีข้อความตอบมา สองตัวสั้นว่า เดี๋ยวไป

“กลางคืนดึกดื่นจะอะไรได้?” คุณหญิงไปยังต่อปาก

คุณท่านแค่นเสียงไปที่ ถลึงตามองลูกชาย “หน้าไม่อาย หน้าหนาอย่างกับกำแพง

ไป๋เย่นิ่งขึ้นยืนแล้วมือกระเป๋า “นั่นเพราะได้ กรรมพันธุ์ดีๆ แม่ ก็รู้อะไรคือความอับอาย

คุณท่าน โมโหลูกชายแทบตาย แต่หมุนตัวกลับยังถูกลูกชายมองเป็นเรื่องตลกอีก! น่าขายหน้า! น่าขายหน้าที่สุด

กล่าวถึงเรื่องอดีตคุณหญิงไปกลับมีท่าทีได้ใจเหลือเกิน “ถลึงตามองอะไร? ความจริงทั้งนั้นนี่คะ

* คุณท่านพูดไม่ออก

หันกลับไปก็เห็นลูกชายที่ไม่เพียงแต่ยังไม่ออกไปแต่กลับ

เดินขึ้นไปยังชั้นบน

“เจ้าหมอนี่ ดูท่าจะไม่ไปจนกว่าซิงเฉินจะมาสินะ”

“คุณอย่าไปสนเลย” คุณหญิงไปถึงคุณท่านไว้ “ตอนนี้ที่ บ้านมีคนป่วยสองคน คุณก็อย่าทำให้เสียบรรยากาศอีกเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ