สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 337 จับมือฉันแล้วไปด้วยกันกับฉัน



ตอนที่ 337 จับมือฉันแล้วไปด้วยกันกับฉัน

ท้ายที่สุดไปเย่เองก็ไม่ได้ห้ามเขา เพียงแต่คอยมองส่งกลุ่ม คนเดินไปด้วยใจที่หนักอึ้ง

คุณท่านตามมา “ทำไมแกไม่ห้ามพวกเขาไว้

“เขาเป็นลูกชายท่าน นิสัยอารมณ์เหมือนกับท่าน ท่านยัง ห้ามไม่ได้แล้วลูกจะห้ามไหวยังไง?”

คุณท่านรู้นิสัยลูกชายดี เป็นเหมือนก้อนหิน ที่ทั้งแข็งและ

เหม็นหึ่ง!

“ลูกทรพี!” เขาเคาะไม้เท้าลงพื้นอย่างแรงที่หนึ่ง

ขณะนั้นเองคนที่ไปเย่นิ่งสั่งทิ้งไว้เดินเข้ามาหนึ่งก้าว “คุณ เงิน ท่านประธานาธิบดีกับคุณเซีย ให้ผมส่งท่านกลับไป เชิญ ขึ้นรถครับ”

คุณท่านผลักคนนั้นออกไปแล้วตวาดเสียงดังอย่างทำอะไร ไม่ได้ “ส่งบ้าอะไร? ส่งบ้าอะไร! พวกเขาสองคนเดินตัวปลิวไป นั่นแล้ว คนแก่ทั้งหลายที่โกรธแทบตายพวกเขายังไม่เป็นห่วง เลยจะส่งอะไรอีก?!

คนคนนั้นที่ถูกตวาดใส่เริ่มทำตัวไม่ถูก ตนทำอะไรผิด
“คุณเสน หากคุณไม่มีธุระอื่น ไปนั่งเล่นที่บ้านผมสักครู่ ไหม?” ไปชิงสั่งปริปากกล่าว หากเทียบกับแรงอารมณ์ของคุณ ท่านแล้วตอนนี้เขาเริ่มกลับสู่ปกติ เหลือเพียงความเศร้าที่มี มากกว่า คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่ายังไม่ทันได้ลูกสาวกลับมาก็ต้อง แยกคู่รักออกจากกันเสียแล้ว

เงินหมิ่นมองรถยนต์ที่เคลื่อนตัวออกไปไกลด้วยหัวใจที่ เจ็บช้ำ สุดท้ายก็พยักหน้า “ก็ดีเหมือนกันค่ะ

มีคำพูดมากมายที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพูดให้กระจ่าง แต่ พอนึกถึงอนาคตซิงเฉินจะไม่ใช่ลูกสาวของตนอีกต่อไปก็เริ่ม เศร้าหมองอีกครั้ง

ระหว่างทาง

รุ่ยยังเพิ่งได้รับข่าวก็ขับรถไปยังโรงแรม King โดยทันที เธอไม่ถามเหตุผลก็เดาได้ว่าตรงทำเนียบประธานาธิบดีและ ห้องเช่าของตนต้องอยู่อย่างไม่สงบสุขแน่ พวกเขาไม่มีทางรา มือเสียดื้อๆ

เมื่อพวกเขามาถึงห้องเลข 8088 พวกเหลิงเฟยก็มาถึง

ก่อนแล้ว

นอกจากเหลิงเฟยยังมีฟเฉิน

เชยชิงเงินรู้ว่าเขาเจ็บไม่น้อยเธอเลยเปิดประตูเข้าห้อง ด้วยใจที่พะวง แต่ถูกเหลิงเฟยห้ามไว้อยู่ด้านนอก “คุณเซีย
แม้เขาจะห้ามเซียซิงเฉินไว้แต่สายตากลับมองไปที่เด็ก น้อยข้างกายเธอ

เธอเข้าใจทันทีจึงนั่งยองลงไปคุยกับเซียต้าไป “ไปดูทีวีที่ ห้องนั่งเล่นก่อนได้ไหม?

“ไม่ได้!” เซียต้าไปขมวดคิ้ว “ผมอยากไปดูเสี่ยวไป เขา โดนคุณปู่ตีต้องเจ็บมากแน่ๆ

เซี่ยซิงเฉินพรูลมหายใจยาวแล้วลูบศีรษะกลมของเขาไป มา “วางใจเถอะ เสี่ยวไปไม่เป็นอะไรหรอก

ก็แค่ภาพที่เต็มไปด้วยเลือดที่จะให้เด็กน้อยเห็นไม่ได้เด็ดขาด

เซี่ยต้าไปคิดไปมาสุดท้ายก็พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ “งั้น…ถ้ามีอะไรแม่ก็เรียกผมนะ ผมจะดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น

เธอพยักหน้าตอบรับ เด็กน้อยมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะ หมุนตัวเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น เดินไปไม่กี่ก้าวก็หันกลับมา ใหม่

เซี่ยซิงเฉินเปิดประตูเข้าไป ไปเยถึงขณะนี้นอนคว่ำอยู่บน เตียง เฉินไม่ได้จัดการแผลของเขาด้วยตัวเอง เขาทำเพียง นั่งอยู่บนโซฟาตรงมุมห้องที่พอจะมองออกว่าอารมณ์ของเขา ในตอนนี้ก็ดำดิ่งเช่นเดียวกัน เจ้าตัวดูเศร้าหมองและโทรมกว่า ครั้งที่เจอเขาตรงเปียซือหยวน

ต่อให้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้นก็รู้สึกถึงบรรยากาศหนักอึ้งรอบตัวเขา

อาจเป็นเพราะเว่ยยังสินะ!

แต่มาถึงจุดนี้แล้วเขายังมีสิทธิ์อะไรที่จะเสียใจเพราะเว่ย

ยังล่ะ?

เซี่ยซิงเฉินไม่เข้าใจฟูอี้เฉินเลยสักนิดและไม่สามารถ เผชิญหน้าโดยตรงกับชายหนุ่มที่มีภรรยาแล้วคนนี้ แต่นั่นเป็น เรื่องระหว่างพวกเขา แม้แต่เว่ยยังยังไม่ถามไถ่ถึงสักประโยค เธอที่เป็นคนนอกจะถามไปเพื่ออะไรกัน?

เธอดึงสติกลับมาแล้วเดินไปข้างเตียง แต่เดิมไปเฉิง หลับตาไว้พอได้ยินเสียงก็ลืมตาขึ้น เธอไม่ได้มองเขาเพราะ สายตานั้นทิ้งไว้บนหลังนั่นแทน

ตอนที่คุณท่านยังหนุ่มก็มีอิทธิพลไปทุกหนแห่ง เป็นบุคคล ที่โหดเหี้ยม ไม่เคยปรานีทหารของตนแม้แต่นิด วันนี้เพราะ อารมณ์ที่เดือดพล่านจึงทำเช่นเดียวกันกับลูกชาย

บาดแผลแต่ละรอยที่ซ้อนทับอยู่บนแผ่นหลังที่แต่เดิมก็มี

รอยแผลเต็มไปหมด ตอนนี้มันปริออกจนเห็นเนื้อด้านในสร้าง ความหวาดเสียวต่อผู้ที่พบเห็น

เซี่ยซิงเฉินสูดลมหายใจเข้าหลายทีก็ไม่อาจหักห้ามหยาด น้ำใสที่เอ่อคลอดวงตาได้

“ร้องไห้ทำไม? อย่าร้องไห้” ไปเย่นิ่งยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาตรงหางตาให้เธอ
เธอสูดจมูกเพื่อสกัดกั้นอารมณ์ไว้ หันกลับไปมองคนที่ กำลังจัดการบาดแผล แผลพวกนี้หนักไหมคะ?

“แผลพวกนี้อย่างน้อยก็ต้องพักฟื้นสักครึ่งเดือน หมอ

จ่ายยาให้ทานแล้ว เป็นยาที่ช่วยให้แผลสมานกัน คุณจะต้อง คอยกำชับให้ท่านประธานาธิบดีทาน” พยาบาลวางยาที่บอก วิธีการทานไว้อย่างชัดเจนบนมือเซียซิงเฉิน

สักพักเมื่อจัดการแผลเสร็จ ทุกคนก็ทยอยเดินออกไป

คุณหมอฟูเดินตามหลังไป โดยก่อนที่จะปิดประตูก็หันมา มองเซี่ยซิงเฉินด้วยแววตาสับสนแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ามีเรื่อง อยากคุยกับเธอ

ท้ายสุดเซียซิงเฉินก็เดินตามออกไป

“คุณเซีย ของพวกนี้” เฉินเอายาจำนวนหนึ่งวางไว้ บนมือเธอ เธอดูใบสั่งแวบหนึ่งเห็นว่าล้วนเป็นยาที่ราคาแพง และไม่ค่อยเห็นในวันปกติ

เธอย่อมเข้าใจถึงความหมายของเขา “ทำไมคุณไม่ไปให้

เว่ยยังเอง?”

“…” ฟูเฉินไม่ตอบ จนถึงวันนี้ในเมื่อทั้งสองมาถึงจุดนี้ แล้ว หากพบหน้ากันคงมีแต่จะเพิ่มความเจ็บปวดเท่านั้น

เซี่ยซิงเฉินรู้ทันความคิดเขา “คุณหมอฟู อย่าหาว่าฉันพูด มากเลย ในเมื่อรู้ว่าพวกคุณไม่มีหวังแล้วทำไมคุณยังจะเอา ของพวกนี้ไปก่อกวนเธออีกล่ะ ก่อกวนให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมเหรอ?”

“ท้องแรกของเธอไม่มีแล้ว มันไม่ดีต่อสุขภาพ ยาพวกนี้จะ ช่วยเธอได้มาก ถ้าคุณกลัวเธอเสียใจ…ก็บอกว่าคุณเป็นคนซื้อ เองแล้วกัน!” เฉินวางยาไว้บนมือเธอแล้วก็เดินจากไปโดย ไม่พูดอะไรอีก

เซียซิงเฉินมองยาบนมือแล้วมองประตูที่ถูกปิดลงแวบหนึ่ง

อดถอนหายใจออกมาไม่ได้

หากบอกว่าเธอเป็นคนซื้อ ไม่มีทางหลอกเว่ยยังได้หรอก เธอไม่เคยแท้งลูก ยาพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ห้อง

เมื่อทุกคนออกไปจนเหลือเพียงความเงียบสงบภายใน

เซี่ยซิงเฉินนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่สำนักงานเขตแล้วมอง แผลบนหลังไปเย่งรวมถึงความจริงที่ตนรู้อยู่เพียงครึ่ง หัวใจ ยังสั่นรัวไม่สงบลงเสียที

ยืนอยู่ตรงประตูนิ่งแล้วมองเขาที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง ก็ รู้สึกเพียงดวงตาเริ่มพร่ามัวจนทำให้เธอตาลายและรู้สึกอึดอัด จนแทบหายใจไม่ออก

ไปเย่นิ่งเห็นสีหน้าขาวซีดของเธอก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงพลาง โบกมือตรงหน้าเธอ “มานี่ มานั่งข้างๆ ผม

เชี่ยชิงเฉินเดินเข้าไปก็สอดมือเข้าฝ่ามือเขาอย่างเป็นธรรมชาติ มือทั้งสองคนเย็นเฉียบเหมือนกันทั้งคู่

เธอซบหน้าตรงหัวไหล่เขา “หมอบอกแล้วว่าอย่างน้อย คุณต้องพักฟื้นสักครึ่งเดือน

“ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้” ไปเยถึงคว้ามือเธอ

ไว้แล้วจรดปากลงบนหน้าผากเธอเบาๆ หน้าผากเธอก็เย็น เฉียบเช่นเดียวกันคล้ายกับร่างกายที่ไร้อุณหภูมิ เขารู้สึกมีก้อน จุกอยู่ในลำคอ สุดท้ายก็อ้าปากพูดเสียงแหบแห้ง “กลัวไหม?”

เซี่ยซิงเฉินเงียบไปชั่วครู่ ทำเพียงมุดหน้าเข้าซอกคอเขาให้ลึกกว่าเดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ