สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 88 จูงมือกันผูกพันครอบครัว (2)



ตอนที่ 88 จูงมือกันผูกพันครอบครัว (2)

เซียซิงเฉินคิดจะมอบคำอวยพร สุขสันต์วันเกิด ให้เขา แต่ยัง ไม่ทันพูดออกไป ไปเปถึงก็เดินไปข้างหน้า เงาด้านหลังของเขา ดูเย็นเยียบกว่าเมื่อครู่

ผู้ชายคนนี้โมโหอีกแล้ว!

ทำไมเขาถึงต้องสนใจสวี่เหยียนถึงขนาดนั้นด้วย? เพียง เพราะเธอผิดสัญญากับเขาหรือเธอพลาดวันเกิดของเขาไป เซียซิงเฉินถอนหายใจอย่างจนปัญญา

สุดท้ายทั้งสามคนก็เดินช็อปปิ้งกันต่อ สีหน้าของบางคน ยังคงไม่น่าดูเอาเลย บางครั้งเซียซิงเฉินพยายามจะพูดกับเขา แต่เขาก็จะตอบเธอกลับมาแบบขอไปที่แค่คำสองคำเท่านั้น แต่ กว่านั้นก็คือไม่พูดเลยสักคำ ท่าแต่เสียงสบถออกมาอย่างเดียว

เมื่อถูกปฏิเสธบ่อยเข้า เซียซิงเฉินก็เลยหยุดหาเรื่องใส่ตัว และเลิกสนใจเขา เธอเดินจูงมือพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกับเด็ก น้อยอยู่ข้างหน้า ส่วนเขาซึ่งอยู่ข้างหลังก็ได้แต่เดินตามด้วย ใบหน้าบึ้งตึง

เธอไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ หน้าตาบูดเบี้ยวชัดเจน ถึงขนาดนั้นแล้ว แถมยังไม่ชอบขี้หน้าเธอและไม่ชอบผู้คนที่ เบียดเสียดกันขนาดนี้อีก แต่กลับยังคงเดินตามติด ในระยะ

ประชิดอยู่ไม่ห่าง
เชียซิงเฉินเดินไปที่โซนอาหารทะเล เซียต้าไปบอกว่า อยากกินปู เธอจึงให้คนขายหยิบใส่ในถุงมาสองสามตัวเพื่อ จะได้นำไปนึ่งให้แมวน้อยที่หิวโซตัวนี้ทานในคืนนี้

“คุณผู้หญิงถือดีๆ นะครับ” พนักงานขายปูที่ชั่งน้ำหนัก แล้วใส่ลงไปในถุงกระดาษและยื่นให้เธอ

“ขอบคุณค่ะ” เซี่ยซิงเฉินคว้าถุงกระดาษมาไว้ในมือ

“โอ๊ะ” ไม่ทันไร นิ้วมือขวาก็ถูกความเจ็บปวดเข้าโจมตี ทันที เธอส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ และก้มศีรษะมองลงไป บน นิ้วมือมีหยดเลือดไหลซึมออกมา ต้นเหตุมาจากก้ามปูเจาะทะลุ ถุงกระดาษออกมาและบาดนิ้วของเธอจนเป็นแผล

“เป็นอะไร หม่ามี้” เซี่ยต้าไปที่อยู่ข้างๆ เงยหน้าและเขย่ง เท้าขึ้นอย่างรีบร้อน

ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร เงาสีดำก็พุ่งเข้ามา ไปเย่นิ่งที่ กำลังฉุนจัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า เธอ

มือของเธอถูกคว้าไป เขามองนิ้วมือที่ยังคงมีหยดเลือด ไหลซึมออกมาและจ้องเขม็งไปที่เซี่ยซิงเฉินอีกครั้ง “ทำไมคุณ ถึงได้ซุ่มซ่ามขนาดนี้?”

ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงของการตำหนิและท่าทางหงุดหงิด ของเขานั้นก็ดูน่ากลัวมากจริงๆ แต่เซียซิงเฉินกลับไม่โกรธเลย สักนิดเดียว ในใจรู้สึกอบอุ่น โดยไม่รู้สาเหตุ เธอได้แต่ปล่อย ให้เขาจับนิ้วมือของเธอไป เธอสายศีรษะพลางพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องที่คาดไม่ถึงบางเรื่องก็ถือเป็นเรื่องปกติ”

ไปเย่นิ่งมองดูแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เชียซิงเฉินจึงหดนิ้ว

มือกลับไป แต่เขาก็ยังคงหัวเสียไม่หาย อาการหัวเสียของเขาส่งผล

ต่ออารมณ์ของเซี่ยต้าไป

เพราะ…

เมื่อมือเรียวนุ่มของต้าไปยื่นออกไปคว้าช็อกโกแลต เสียง ที่เย็นเยียบจากเบื้องบนก็ดังแว่วเข้ามา “ห้ามกินของหวาน อยากฟันหลอหรือไง?”

เขาถอยไปเลือกมันฝรั่งทอดแทน

“ของทอดทำให้เป็นมะเร็ง! ห้ามกิน

เขากัดฟันฝืนหยิบอาหารปรุงสำเร็จ

“อาหารขยะ ห้ามกิน!”

เขาสบถเสียงที่ออกมาและเดินไปคว้าโค้กมากระป๋องหนึ่ง “มีโซดา ห้ามดื่ม!”

เซี่ยต้าไปรู้สึกน้อยใจจนกลั้นไว้ไม่อยู่ ใบหน้าห่อ ขว ลง ดวงตากลมใสเหลือบมองไปที่เซี่ยซิงเฉิน มือน้อยๆ กอดขา ของเธอเอาไว้ ท่าทางวิงวอนชวนให้เห็นใจ “หม่าม เสี่ยวไป แกล้ง..”

เซี่ยซิงเฉินไม่อาจต้านทานแววตาของเขาคู่นั้นได้เลยจิตใจของเธออ่อนยวบละลายกลายเป็นน้ำ เธอมองไปเย งด้วยสายตาเว้าวอน เขาเม้มริมฝีปากและตอบกลับมาด้วย ท่าทีที่เฉยชา “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

เซี่ยซิงเฉินส่งสายตาขอความเห็นใจไปที่เซี่ยต้าไป เพราะเธอได้พยายามช่วยเต็มที่แล้ว

เซียต้าไปหงุดหงิด “ต่อไปไม่พาเสียวไปมาช็อปปิ้งด้วย แล้ว…”

พ่อน่ารำคาญที่สุด!

เขาบ่นพึมพำพลางปล่อยมือจากขาของเซียซิงเฉิน จาก นั้นจึงเดินปั้นจึงไปที่จุดชำระเงิน

เซี่ยซิงเฉินมองดูเด็กกับผู้ใหญ่คู่นี้อย่างหมดทาง เธอทั้ง ทั้งจนใจ เดินช็อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตกันอยู่ดีๆ แท้ๆ แต่ทั้ง สองคนก็กลับมาโกรธกันจนได้ ยังดีที่เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้น บ่อยนัก ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องปวดหัวตายแน่ๆ

ขณะที่เซี่ยซิงเฉินกำลังจะควักเงินออกมาจ่าย บัตรทองก็ ถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงานคิดเงิน บัตรทองใบนั้นเป็นเหมือน เครื่องแสดงฐานะ ทั้งประเทศมีเพียงไม่กี่ใบ คนที่มีไว้ในครอบ ครองล้วนเป็นคนที่มีพาวเวอร์สูงหรืออยู่ในตระกูลสูงศักดิ์กัน ทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อดึงบัตรออกมา พนักงานคิดเงินจึงตกใจ พลาง จ้องดูบัตรและมองไปที่ชายหนุ่มตลอด

เขาชำเลืองมองพนักงานคิดเงินด้วยสีหน้าที่เย็นชา แวว ตาข่มขู่นั้นทำให้แววตาใครรู้ของอีกฝ่ายต้องหลบและก้มหน้าก้มตายุ่งเรื่องของตัวเองไปแต่โดยดี

เซี่ยซิงเฉินเองก็มองบัตรใบนั้นด้วยความอยากรู้ ขณะที่ ไม่มีใครสังเกต เซียต้าไปที่เอาแต่ทำเสียงฮึดฮัดก็ฉวยโอกาส โยนลูกอมสีสันสวยงามหนึ่งกล่องเข้าไปในรถเข็น

หลังจากช็อปปิ้งเรียบร้อย เซียต้าไปก็เหนื่อย ไปเยถึงอุ้ม เขาเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือหนึ่งก็หิ้วถุงใส่ของที่ซื้อจาก ซูเปอร์มาร์เก็ต

ตอนที่ทั้งสามคนเดินออกมา เหลิงเฟยก็ยืนรออยู่ตรงนั้น แล้ว เมื่อเห็นพวกเขาออกมา เขาก็เปิดประตูรถให้อย่าง นอบน้อม ส่วนคนอื่นก็กุลีกุจอไปข้างหน้าเพื่อช่วยถือถุงใส่ของ ให้

เซี่ยซิงเฉินเองก็ขึ้นรถตามไป เธอให้เหลิงเฟยไปส่งเธอ เซี่ยต้าไปง่วงจนเปลือกตาทั้งสองเข้าห้ำหั่นกัน เขานั่งฝืนความ ง่วงอยู่บนตักของเซี่ยซิงเฉิน เพราะถ้าหลับเมื่อไรพ่อจะต้องพา ตัวเขากลับไปแน่ๆ

กว่าจะเข้าใกล้ตัวตึกได้นั้นไม่ง่ายเลย เซี่ยซิงเฉินลงจาก รถ เซี่ยต้าไปก็เดินตามเธอลงมาอย่างร่าเริงด้วย

“พ่อ วันนี้ผมอยู่นี่นะ! ไม่ต้องพาผมกลับไปนะ”

เซี่ยซิงเฉินเองก็ไม่ยอมปล่อยมือเซียต้าไป ตอนแรกเธอ คิดว่าเขาจะไม่ยอมเสียอีก ไม่คิดเลยว่าเขาจะตามพวกเขาสองแม่ลูกลงมาด้วย

เขาให้เหลิงเฟยรออยู่ใต้ตึกและหิ้วถุงใส่ของเดินตรงดิ่ง ไปยังลิฟท์โดยไม่บอกกล่าว เซี่ยซิงเฉินมองดูภาพด้านหลังของ เขาแล้วก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เห็นได้ชัดว่าไปเย่นิ่งไม่ได้กะจะกลับทันทีหลังจากส่งของ เสร็จ เขายืนรออยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเซียซิงเฉินไม่มี ปฏิกิริยาโต้ตอบ เขาจึงขมวดคิ้ว “รองเท้าแตะ

เซียซิงเฉินนิ่งอึ้งไป “ที่บ้านไม่มีรองเท้าแตะของผู้ชายค่ะ คุณเดินเท้าเปล่าไปก่อนแล้วกันนะคะ

ไม่มีรองเท้าแตะของผู้ชาย ก็แปลว่านอกจากเขาแล้วก็

ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยมาที่นี่ รวมทั้งสวี่เหยียน

สีหน้าบึ้งตึงตลอดทั้งเย็นของไปเยถึงค่อยๆ ดีขึ้นมาเล็ก น้อย เขาเดินเท้าเปล่าเข้าไป

ปกติบ้านหลังนี้ก็เล็กมากอยู่แล้ว มีห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัวและห้องน้ำอย่างละหนึ่งห้อง เวลาเซียซิงเฉินอยู่คน เดียวก็รู้สึกว่ากำลังดี แต่พอไปเย่นิ่งเข้ามา พื้นที่ทั้งหมดก็ดูคับ แคบลงทันตา ขนาดจะหมุนตัวก็ยังลำบาก

เซี่ยซิงเฉินพูด “คุณนั่งรอสักครู่ก่อนนะคะ ถ้าไปง่วงแล้ว ฉันพาเขาไปล้างหน้าและส่งเขาเข้านอนก่อนนะคะ

“อืม” ไปเย่นิ่งพยักหน้าและนั่งลงบนโซฟา เมื่อเขานั่งลงมือและขาที่เรียวยาวของเขาก็ไขว้ซ้อนกัน เฉกเช่นภาพวาด ภาพหนึ่ง

เซียซิงเฉินไม่กล้ามองต่อ เธอเปลี่ยนรองเท้าแตะให้เด็ก

น้อยและอุ้มเขาไปยังห้องน้ำ เมื่อประตูห้องน้ำปิดลง เซี่ยต้าไปก็กระซิบถาม “หม่ามี

ครับ เดี๋ยวไปก็อยากนอนที่นี่ด้วยใช่ไหม?”

“ไม่หรอกจ้ะ” เซี่ยซิงเฉินปฏิเสธความคิดนี้

“แม่ก็ปล่อยให้เขานอนด้วยไม่ได้เหรอ นอนด้วยกันสาม คน เมื่อก่อนเราก็เคยนอนด้วยกันไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ได้ นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ก็คือตอนนี้

“แล้วมันต่างกันตรงไหน?”

ต่างกันแน่นอน ตอนแรกพวกเขาทั้งสองคน…ไม่เคย ควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างเมื่อคืน….

เซี่ยซิงเฉินไม่กล้าคิดต่อ เธอหยิบสบู่มาล้างมือให้เด็ก น้อย เธอกนิ้วมือทุกนิ้วจนสะอาดหมดจด หลังจากล้างมือเสร็จ เธอก็ล้างหน้าและนิ้วเท้าน้อยๆ ของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ