สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 203 บุคคลสำคัญปรากฏตัวในบ้าน



ตอนที่ 203 บุคคลสำคัญปรากฏตัวในบ้าน

“ข้อความอะไรคะ?” เซี่ยซิงเฉินถูกถามจนงงไปหมด แถมไม่ เข้าใจอีกด้วยว่าอารมณ์ฉุนเฉียวของเขาในตอนนี้นั้นมาจากที่ ใดกัน

“ขอให้มีความสุขกับการแต่งงาน รักกันร้อยปี มีทายาท ไวๆ!” เขากัดฟันพูดเน้นทีละคำ เซียซึ่งเป็นอดขำไม่ได้ ทั้งที่ เป็นตัวอักษรที่เต็มไปด้วยคำอวยพร ทำไมพอออกจากปากเขา ในตอนนี้กลับเหมือนคำสาปแช่งเสียได้

ยังจะหัวเราะ!

เขาถลึงตามองเธอ

“ฉันไม่ได้ส่งค่ะ” เชียซิงเฉินแก้ตัว “ลูกชายคุณส่งต่างหาก”

นึกถึงต้าไป เธอก็ถอนหายใจ “เขาก็นึกว่าคุณแต่งงานไป แล้วเลยยังโกรธเรื่องนี้อยู่ เสียใจอยู่นานเลย

“พอจะดูออกได้ ตั้งแต่เช้าก็ทำตัวแปลกๆ น่าตีจริงๆ” ไป เฉิงซะงักไปเพียงครู่ เสหน้าไปมองมุมข้างของใบหน้าเธอ อย่างมีนัยยะ “ที่โกรธและเสียใจมีแค่เขาเหรอ?”

เซียซิงเฉินหันหน้ามาสบสายตาที่ลึกซึ้งของเขา หัวใจเผลอเต้นผิดจังหวะ

แววตาของชายหนุ่มเหมือนสามารถมองเธอทะลุปรุโปร่ง

ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เธอรู้สึกขัดเขินถึงที่สุด บ่ายเบี่ยงหน้า หนีไม่ได้ตอบโต้ ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวตัวยาว มือของชาย หนุ่มบีบมือเธอแน่น คล้ายกำลังเร่งให้เธอตอบคำถาม “ซิงเฉิน ไปซื้อผักกับแฟนตั้งแต่เช้าเลยเหรอ!” ขณะนั้นเอง

ก็เจอคนรู้จักเข้า และกำลังทักทายพวกเขาอย่างสนิทสนม

เซียซิงเฉินหัวเราะ อยากแก้ไขว่าเขาไม่ใช่ “แฟน” ของตัว เองสักหน่อย แต่พอดูท่าทางทั้งสองที่กำลังกุมมือกันอยู่ จะบอก ว่าไม่ใช่แฟน คนอื่นคงคิดว่าเธอง่ายสินะ?

เบนสายตามองเขา เขากลับอารมณ์ดีอย่างถึงที่สุด ยิ้ม พยักหน้า เอ่ยตอบโต้อีกฝ่ายด้วยท่าทีสุภาพ

ดูท่าว่าเขาไม่ได้อยากจะแก้การเข้าใจผิดแต่อย่างใด…

หัวใจเซี่ยซิงเฉินเกิดความรู้สึกแปลกๆ ชั่ววูบ ความจริง แม้แต่ตนก็สงสัยว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองอยู่ในสถานะอะไรกัน แน่?

“หม่าม เสี่ยวไป!” ขณะกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย เสียง เซียต้าไปพลันดังขึ้น ทั้งสองเงยหน้ามองพร้อมกันโดยไม่ได้นัด หมาย จึงเห็นว่าเงินหมิ่นกำลังจูงมือเซียต้าไปเดินมาทางพวก เขา เซียซิงเฉินเป็นคนหน้าบาง แทบจะดึงมือออกจากฝ่ามือไป เฉิงทันที ขยับออกห่างไปหนึ่งก้าว รักษาระยะห่างกับเขา อย่างร้อนตัว
ไปเฉิงแอบถลึงตามองเธอแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้บังคับเธอ อีก ทำเพียงแค่เดินไปทักทายเงินหมื่น

“พวกคุณมาได้ยังไง?” เขาถาม

“ต้าไปรอพวกคุณอยู่ตั้งนานก็ไม่เจอ ไปหาที่บ้านคุณน้า สองก็ไม่เจอ เลยซื้อให้ฉันพาออกมาเดินเล่น” เงินหมิ่นตอบ กลับ ไปเยฉิงตวัดสายตาจ้องมองลูกชายตนแวบหนึ่ง ก้างขวาง คอชิ้นนี้ช่างมาได้ถูกจังหวะเสียจริง ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

เซียต้าไปกลับทำเป็นไม่เห็นสายตาของคุณพ่อตัวเอง วิ่ง ไปตรงกลางระหว่างเขาทั้งสองอย่างดีใจ มือเล็กกุมมือคนละ ข้างไว้ แล้วเดินไปด้วยท่าทางที่มีความสุข อีกทั้งยังคอยเอ่ยทัก คนรู้จักตลอดทาง “คุณลุง นี่คือคุณพ่อผมเอง คุณลุงเรียกเขา ว่าเสี่ยวไปก็พอ”

“พี่สาวตัวเล็ก เขาเป็นคุณพ่อผม เขาชื่อว่าเสี่ยวไป มารับ ผมกับหม่ามกลับบ้านล่ะ!

“ต้าเหมา เดี๋ยวฉันก็จะกลับไปแล้วนะ คุณพ่อฉันมารับ แล้ว!”

มาคนหนึ่งเขาก็จะพูดครั้งหนึ่ง ในน้ำเสียงเต็มไปด้วย ความภาคภูมิใจปนโอ้อวด มองดูท่าทางดีใจของเขา เซี่ยซิงเฉิ นพลันรู้สึกเบาใจขึ้นมากทีเดียว

ลอบมองไปเย่นิ่งแวบหนึ่ง เห็นเพียงสายตาของเขาที่มองเด็กน้อยอยู่เช่นกัน ใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อย มือใหญ่หัวเล็กไป ที เงินหมิ่นที่อยู่ข้างๆ มองอยู่ก็รู้สึกอุ่นใจ

กลางวันทั้งครอบครัวได้มาทานข้าวที่ลานบ้าน เชียซิงเฉิ นกำลังตักข้าว เซียต้าไปก็จัดวางตะเกียบอย่างมีความสุข ไป เย่งยืนอยู่ข้างๆ คอยดูแม่ลูกตรงหน้า รู้สึกอิ่มเอมแปลกๆ ใน ที่เล็กๆ เช่นนี้ ทั้งเงียบสงบ ทั้งเต็มไปด้วยบรรยากาศเก่าๆ ไม่มี เรื่องให้ว้าวุ่นใจ ไม่มีการต่อสู้แย่งชิง เขารู้สึกสบายเป็นอย่าง มาก

ขณะที่เธอกำลังตักข้าว ใบหน้าที่ก้มลงน้อยๆ เผยให้เห็น แพขนตางอนยาวชัดขึ้น ทุกจังหวะที่กะพริบตาเป็นเหมือน ใบพัดขนนกอันหนึ่ง พัดใจเขาให้รู้สึกสั่นไหว จั๊กจี้ แต่ก็อ่อนนุ่ม

“มาทานข้าวได้แล้ว” เธอพลันเงยหน้าขึ้นเรียกเขา สายตา เขายังไม่ถูกเบี่ยงออกไป ทั้งสองสบสายตา เขาไม่ได้มีความ คิดที่จะล่าถอย สายตามองตรงเหมือนจะมองให้ทะลุไปที่ใจเธอ เธอกลับชะงักไปครู่หนึ่ง ถูกมองจนทำตัวไม่ถูก มือที่ทำด้วยอยู่ บีบแน่น เสียงเบาลงมากกว่าเดิม “มาทานข้าว…

ไปเย่งเท้าเข้าใกล้ ดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง เพราะเป็น หมิ่นยังไม่ออกมา เขาย่อมไม่มีทางแตะตะเกียบก่อนอยู่แล้ว ทำเพียงแค่ยื่นมือโอบเอวเล็กเธอไว้ ดึงตัวเธอมายืนข้างๆ ตน

เขาจะกล้าเกินไปแล้ว!

เซี่ยซิงเฉินตกใจเล็กน้อย เผลอหันมองเซียต้าไปแวบหนึ่ง ดีที่ตอนนี้เซียต้าไปกำลังนั่งยองๆ กับพื้นเล่นกับหนอนตัวหนึ่งอยู่ จึงไม่เห็นท่าที่ทั้งสองคน

เธองอแขนกันไหล่เขาไว้ แล้วพูดเสียงเบา “ปล่อยฉันก่อน ค่ะ เดี๋ยวแม่ฉันก็จะออกมาแล้ว…

ขณะที่พูดอยู่ก็หันมองประตูห้องครัวเป็นพักๆ แต่เทียบกับ ความเขินอายของเธอแล้ว เขายังคงหน้าด้านเช่นเคย

เขาไม่ยอมปล่อยมือ มือใหญ่วางบนเอวเธอ แล้วเงยหน้า มองเธอ “คิดจะกลับไปเมื่อไร?

ต่อให้มีผ้าหน้าที่กั้นเป็นชั้นๆ เธอยังคงรู้สึกถึงความอุ่น ร้อนจากฝ่ามือเขาได้ แววตาชายหนุ่มลึกล้ำมองไม่เห็นจุดสิ้น สุด แสงอาทิตย์เที่ยงวันตกกระทบเข้าตาเขาจากเหนือหัว ใน นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสนมากมาย เซี่ยซิงเฉินก้มมองลง ไป รู้สึกเพียงแค่หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ

เธอส่ายหน้า เอ่ยเสียงเบา “อย่างน้อยก็ต้องผ่านวันเกิด แม่ฉันไปก่อน”

“อืม” เพราะมีเหตุผล ไปเย่นิ่งย่อมไม่เอ่ยบังคับ กล่าว เพียง “ถึงวันนั้นผมค่อยให้คนมารับคุณ

“แปลว่าวันนี้คุณจะไปแล้วเหรอคะ?” เซี่ยซิงเฉินถาม แม้แต่ตนยังไม่รู้สึกถึงน้ำเสียงที่ปนความอาลัย ไปเย่นิ่งเ สูงเล็กน้อย เหมือนรู้สึกว่าคำถามเธอนั้นถูกใจเป็นอย่างมาก มุมปากเผยยิ้มบางเบา ไม่ใช่ว่าเมื่อวานพอผมมาก็รีบไล่ให้ ผมกลับไปหรอกเหรอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนคุณจะไม่อยากแล้ว นะ?”
น้ำเสียงของเขาเย้ยหยัน เซียซิงเฉินหน้าบาง ปากแข็งไม่ ยอมรับ “ฉันก็แค่ถามดูเท่านั้นเอง ฉันรู้ว่าคุณยุ่งมาก…

ทั้งที่ยุ่งมากขนาดนั้นยังมาที่นี่ด้วยตัวเองอีก พอเชียซึ่ง เฉินนึกถึงสภาพเหนื่อยล้าของเขาเมื่อคืน ก็อดปวดใจไม่ได้

“ขับรถกลับไปเหรอคะ? หรือเหลิงเฟยจะมารับคุณ?”

“นั่งรถไฟ” เพราะเป็นตารางงานลับๆ เลยไม่จำเป็นต้อง ทำเรื่องให้ใหญ่โต

“แล้ว…จะไปเมื่อไรคะ?”

ไปเย่นิ่งมองเวลาบนข้อมือแวบหนึ่ง “อีกสามชั่วโมง

เซียซิงเฉินพยักหน้า “จู่ๆ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็ต้องกลับ ไปจัดการอยู่แล้ว พวกเขาแอบติดตั้งเครื่องดักฟังในตึกทำงาน ของคุณ สำหรับคุณแล้ว…มีผลกระทบอะไรมากไหมคะ?”

“ตอนนี้เป็นพวกเขาเองที่มีผลกระทบมาก คนในพรรค พวกเขาทั้งสองกำลังเดือดพล่านจนหัวไหม้ไปหมดแล้ว ซึ่งเรา ถือว่าในความโชคร้ายก็ยังมีเรื่องที่อยู่

เซี่ยซิงเฉินถึงได้เบาใจกว่าเดิมหน่อย

คราวนี้เงินหมิ่นออกมาจากห้องครัวแล้ว เซี่ยซิงเฉินได้ยิน เสียงจึงก้มหน้ามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนที่มือจะรีบผละออกจาก ไหล่เขา เขาก็ไม่ได้ขึ้นตัวเธอไว้ ได้แต่เลื่อนมือลงจากเอวเธอ เงียบๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ