สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 39 พบกันที่สนามกอล์ฟ



ตอนที่ 39 พบกันที่สนามกอล์ฟ

“คุณหยูปากหวานแต่เช้าเลยนะคะ เพิ่งทานน้ำผึ้งไปเหรอคะ?”

“คุณรู้ได้ไง? ผมเพิ่งทานพุทราเชื่อมไป แล้วคุณล่ะ? อยาก ทานอะไร?” หยูเจ๋อหนันรับเมนูอาหารจากบริกร

“อะไรก็ได้ค่ะ ฉันไม่เลือกกินค่ะ”

หยูเจ๋อหนันสั่งอาหารแทนเธอ เซียซึ่งเป็นปรามเขาไว้ เธอ ทักท้วงว่า “เยอะไปแล้วค่ะ เยอะไปแล้ว!”

“ไม่เห็นเยอะเลย คุณผอมออกขนาดนี้ กินเยอะๆ หน่อยดี

“รังนกกับเห็ดสนอีกแล้ว มันแพงมากนะคะ”

“แพง?”

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกสงสารกระเป๋าสตางค์ตัวเองขึ้นมาจับใจ เงินเดือนสองเดือนของฉันอาจไม่พอจ่ายค่าอาหารมื้อใหญ่มือ นี้ของคุณชายนะคะ”

หยูเจ๋อหนันเห็นใบหน้าแสดงความขี้เหนียวของเธอกอด

ขำไม่ได้

“แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอครับ ไหนคุณบอกว่าจะเลี้ยงผมได้จะเบี้ยวผมเหรอ?”
“เปล่านะคะ ฉันกะว่าจะลงมือทำอาหารให้คุณทานค่ะ ไม่มีอะไรจะประหยัดเงินไปมากกว่านี้แล้ว

“คุณทําอาหารเป็นด้วย?”

“ทำเป็นสิคะ ฉันไม่ได้เป็นคุณชายอย่างพวกคุณนี่คะ ที่แค่ อ้าปากรอคนเอาอาหารมาให้หรือชูแขนรอคนหาเสื้อผ้ามาให้ แต่ตอนค่ำคงต้องไปขอยืมใช้ห้องครัวที่บ้านเพื่อนนะคะ

“ผมจะรอทานอาหารมื้อใหญ่นะครับ

“ก็แค่อาหารทั่วไปๆ ค่ะ คุณห้ามบ่นนะคะ”

“ทานก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

เซียซิงเฉินทำเสียง ” ขึ้นมา เธอนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ “จริงด้วยค่ะ คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าตกลงคุณเป็นใครกัน แน่ ทำไมกระทรวงการต่างประเทศถึงต้องฟังคุณคะ?”

“ไม่เชิงฟังผมหรอกครับ ผมก็แค่ให้พี่ชายของผม โทรศัพท์

ไปเท่านั้นเอง”

“พี่ชายคุณ? พี่ชายคุณเป็นใครคะ?”

หยูเจอหนุนควักกระเป๋าสตางค์โยนไปที่เธอ เขากัดเส้นส ปาเก็ตตี้เข้าไปหนึ่งคำ พลางพูดเสียงอู้อี้ว่า “รู้จักไหม?”

เซี่ยซิงเฉินเปิดกระเป๋าสตางค์ออก ในกระเป๋าสตางค์มีรูป ถ่ายอยู่ใบหนึ่ง ในรูปถ่ายมีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งคือเขา ส่วนอีกคนคือ…
ดูคุ้นตาพอสมควร เหมือนเคยเห็นในโทรทัศน์มาก่อน

“นี่มัน…รองประธานาธิบดีหยูเจ๋อเหยาไม่ใช่เหรอคะ? พี่ ชายของคุณคือรองประธานาธิบดี

เขาพยักหน้า เซียซิงเฉินบ่นอุบอิบ “มิน่าพวกเขาถึงได้ดู เกรงใจฉันนัก แถมยังพูดอีกว่าฉันอาศัยใบบุญของ ประธานาธิบดี ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง

“ผมดูน่าเชื่อถือว่าครูมัธยมธรรมดาๆ แล้วล่ะสิ?” เขา เอียงศีรษะพร้อมยิ้มตาหยีเข้าไปตรงหน้าเธอ “หนุ่มบริสุทธิ์ โสด ไม่ผ่านการแต่งงาน เป็นไง สนใจรับไปพิจารณาดูหน่อย ไหม?”

“เลิกพูดจาเลอะเทอะได้แล้วค่ะ” เซียซิงเฉินผลักศีรษะของ เขาออกไป “ฉันยังไม่ได้ถามคุณเลยนะคะ คุณไม่ได้เป็นคู่นัดดู ตัวของฉันสักหน่อย ทำไมถึงเข้ามายุ่งได้ล่ะคะ”

“คู่นัดดูตัวของคุณเป็นเพื่อนสนิทของผม ตอนนี้เขาและ ภรรยาตัวติดกันเป็นตังเมเลย เดี๋ยวพวกเขาก็คืนดีกันครับ นี่ผม เองก็ตกกระไดพลอยโจนต้องมาหน้าให้ แต่การมาพบปะดูตัว กับผม คุณก็ไม่ได้เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ”

“มันก็จริงค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ ตอนนี้ฉันคงกำลังหางานอื่นอยู่

แถมคุณชายท่านนี้ยังดูน่ารักเอาการอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ จะไม่ได้เป็นคู่นัดดูตัวตัวจริง แต่คบไว้เป็นเพื่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
“พอได้แล้ว รีบทานอาหารเช้าดีกว่า มันราคาเท่ากับเงิน เดือนสองเดือนของคุณเลยนะ รีบทานให้หมดเถอะครับ

หยูเจ๋อหนันลูบผมของเธอ

ขณะทานไปได้สักพัก เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนแต่เป็นระเบียบ ดังแว่วมา เมื่อมองไปก็เห็นคนชุดยืนเรียงรายอยู่บริเวณ ระเบียงด้านนอก ที่หูแต่ละคนใส่หูฟังบลูทูธเอาไว้ ท่าทาง เหมือนผ่านการฝึกมาอย่างเข้มงวด

“คนของคุณ?” เซี่ยซิงเฉินถาม

หยูเจอหนุนส่ายหน้า “พิธีรีตองอะไรแบบนี้น่าจะเป็นของพี่ ชายผมมากกว่า แต่ผมไม่ได้ข่าวว่าพี่ชายจะมาที่นี่วันนี้นะ

บริกรเดินปรี่เข้ามา เขาโน้มตัวกระซิบข้างหูของหยูเจ๋อ

หนัน หยูเจอหนุนกระดกหางคิ้ว “มิน่าล่ะ

เมื่อบริกรเดินกลับไป หยูเจ๋อหนันก็เช็ดปากและเอียง ศีรษะไปพูดข้างหูเซี่ยซิงเฉินว่า “เดี๋ยวประธานาธิบดีจะมา

“คะ?” เซี่ยซิงเฉินประหลาดใจ

“คะอะไรล่ะ ไปกันเถอะ ไปตีกอล์ฟกัน”

หยูเจอหนุนดึงตัวเธอขึ้นมา เซียซิงเฉินพูดว่า “แต่ฉันเล่นไม่เป็นนะคะ”

“ผมสอนคุณเอง”
เมื่อรถกอล์ฟที่นั่งมาได้สักครู่ถึงสนามกอล์ฟ เซียซิงเฉินก็ เอาแต่ชะเง้อมอง

ไปเย่นิ่งจะมาจริงๆ เหรอ?

“เหม่อลอยมองอะไรน่ะ?” หยูเจอหนุนสั่งให้คนส่งไม้ กอล์ฟส่วนตัวมาให้เขา เขาโยนไม้ใส่มือของเซียงเฉิน สอง มือประคองใบหน้าของเธอให้หันกลับมา “ตามองไปที่ลูก กอล์ฟฟี่ มองข้างหลังไม่มีประโยชน์หรอก”

“อ้อ” เซียซิงเฉินพยายามสนุกสนานไปกับเขาด้วยความ รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ

เพียงแต่ ต่อให้พยายามเหวี่ยงไม้กอล์ฟไปกี่ครั้ง แต่ผลที่ ได้ก็ไม่ค่อยดีนัก เธอไม่โดนลูกบ้าง ตีเฉไปบ้าง เธอจึงรู้สึก ท้อแท้หมดกำลังใจมาก แต่หนูเจ๋อหนันก็กลับเอาแต่นั่งดูด เครื่องดื่มและมองเธออย่างยินดีปรีดาอยู่ข้างๆ

“ขึ้นคุณยังหัวเราะอีก ฉันจะไม่เล่นแล้วนะ” เซียซิงเฉิน ถลึงตาใส่เขา

ในตอนนั้นเอง…

เสียงของรถกอล์ฟดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เซี่ยซิงเฉินมองไป ทางต้นเสียง เธอเห็นรถจำนวนสิบกว่าคันค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้า มาโดยมีบอดี้การ์ดจำนวนมากนั่งอยู่บนนั้น

หยูเจ๋อหนันเองก็มองออกไปและหันกลับมามองเชียงเฉิน เขาดูดเครื่องดื่มและเดินมาพาดแขนไปบนไหล่ของเธอ “อึ้งไปเลย? ไม่เคยเห็นประธานาธิบดีเหรอ?”

“ต้องเคยเห็นสิคะ”

“เคยเห็น?”

เซียซิงเฉินท่าเสียง “อ้อ” ขึ้นมาและพยักหน้า “คราวก่อน มีกิจกรรมที่กระทรวงการต่างประเทศ เขาก็อยู่ด้วยค่ะ

“อ๋อ” หยูเจ๋อหนันเบะปากและระบายออกมาว่า “ก็แค่สูง กว่าพี่ชายผมนิดเดียว หล่อกว่าอีกนิดหน่อย สุดท้ายเขาก็ได้ เป็นประธานาธิบดี ไม่เห็นจะยุติธรรมเลย

“ช” เซียซิงเฉินคัดค้านหัวชนฝา “คุณคิดตื้นไปนะคะ สูง หล่อแล้วยังไง? ถ้าเขาไม่มีจุดเด่นอย่างอื่นที่ดีกว่าพี่ชายของ คุณ เขาจะได้รับความรักจากทุกคนขนาดนี้เหรอคะ? การปฏิรูป รัฐวิสาหกิจเมื่อเดือนก่อน การปรับปรุงเศรษฐกิจเมื่อสองเดือน ก่อน การต่อต้านนานาชาติที่ร่วมมือกับประเทศ M เมื่อสาม เดือนก่อน ยังมี…

เซี่ยซิงเฉินยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจ เธอรู้ดีราวกับเป็นเรื่อง

ของตัวเธอเอง

“พอ หยุด หยูเจ๋อหนันขัดเธอ พลางเอามือแคะหู “ดูไม่ ออกเลยนะว่าเธอก็ชื่นชมในตัวเขาอยู่เหมือนกัน”

ชื่นชม?

เซี่ยซิงเฉินอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดที่เขาพูดกับตัวเธอเมื่อคราวก่อนว่า ขอบเขาอาจทำให้เขารู้สึกเป็นภาระ เธอรีบแย้ง ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ “ฉันไม่ได้ชื่นชมเขานะคะ

“มันเขียนไว้บนหน้าหมดแล้ว! หนูเจอหนุนยื่นมือไปวาด

ที่แก้มของเธอ “อย่ามาปฏิเสธ

“บ้า” เธอปัดมือของเขาออก

หยูเจอหนุนหัวเราะ เขาวางเครื่องดื่มลง “ช่างมันเถอะ

อย่าไปพูดถึงเขาดีกว่า เดี๋ยวผมจะสอนคุณตีกอล์ฟเอง”

ไปเย่นิ่งเดินลงมาจากรถ โดยมีเหลิงเฟยคอยคุ้มกัน ลง ตามมาติดๆ คือคุณเมย์น ข้างๆ คุณเมย์นคือคนที่เพิ่งย้ายเข้า มาที่สำนักงานประธานาธิบดีได้ไม่นานชื่อว่าสวี่เหยียน

พนักงานเดินนำพวกเขาไปยังพื้นที่สำหรับตีกอล์ฟ

เหลิงเฟยสายตาดี เขาเห็นร่างที่ดูคุ้นตาอยู่ด้านหน้า

“ท่านครับ เหมือนจะเป็นคุณเซียนะครับ” เหลิงเฟยลด เสียงต่ำลงและกระซิบไปที่หูของเขา

ไปเยฉิงมองออกไป

เธอกำลังตีกอล์ฟกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ตรงนั้นจริงๆ

ไม่! มันไม่ใช่การตีกอล์ฟ แต่มันคือการพลอดรักต่างหาก!

ชายหนุ่ม โอบเธอจากด้านหลัง มือของเขาวางไปบนมือทั้ง สองของเธอ เขากุมมือไว้พลางเหวี่ยงไม้กอล์ฟออกไป ดูเหมือนทั้งสองคนจะเพลิดเพลินอยู่ไม่น้อย ใบหน้าเธอเปี่ยมไปด้วย รอยยิ้ม

เขามองไปแค่เพียงแวบเดียว แต่บนใบหน้ากลับแสดง ความเย็นชาออกมามากขึ้น เขาละสายตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึก พลางหันกลับมาสนทนากับคุณเมย์นที่อยู่ข้างๆ

ด้านข้าง สวี่เหยียนซึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามก็มองเห็นภาพนั้น เช่นเดียวกัน เขาเหม่อลอยไปชั่วขณะ จนกระทั่งไปเฉิงกวาด สายตามองมาด้วยสายตาที่คมกริบ เขาจึงได้สติและเรียก สมาธิของตัวเองกลับมาได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ