ตอนที่ 349 จิตสํานึกของหญิงที่ แต่งงานแล้ว (4)
ร่างแน่นิ่งพร้อมสอดประสานมือเข้ากับเขาที่ทิ้งตรงอยู่ข้างลำ ตัว “น่าจะเป็น….คุณหญิง
ไปเย่งทําหน้าเคร่งขรึม มองเห็นแพขนตาเธอสั่นไหว เบาๆ “ถ้าคุณไม่อยากพบ ผมให้เหลิงเฟยไม่เปิดรับก็ได้
“ไม่ค่ะ” เซียซิงเฉินสายศีรษะ แหงนหน้าสบตาเขา “เชิญ
เข้ามาเถอะ หลบมาสามวันแล้ว ก็น่าจะคุยให้รู้เรื่องได้แล้ว” เขาขมวดคิ้วพลางมองเวลาแวบหนึ่ง เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าเขา ค่อนข้างยุ่ง “คุณไปทำงานของคุณเถอะค่ะ ฉันไม่หวั่นไหว
เพราะท่านหรอก
ไปเย่ง โอบแขนยาวทั้งตัวเธอเข้ามาในอ้อมอก เขาตัวสูง มากจึงยิ่งทำให้เธอดูตัวเล็กลง สวมรองเท้าแตะแล้วก็ยังสูง เพียงหัวไหล่เขาเท่านั้น ยืนทิ้งร่างอ่อนนุ่มพิงอกแกร่งของเขา นิ้วเรียวยาวทั้งห้าของเขาสอดเข้ากลุ่มผมของเธอแล้วเชย ใบหน้าขาวเนียนของเธอขึ้น “ต่อให้คุณหวั่นไหวก็ไม่ทันแล้ว อย่าลืมว่าตอนนี้คุณเป็น ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว!
เซี่ยชิงเฉินยิ้มขัดเขินเล็กน้อย “ฉันจำได้น่า
เธอเปลี่ยนเสื้อในห้องที่ไปเย่งเดินออกไปก่อนแล้ว
เมื่อเดินไปถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นคุณหญิงหลันถึงถูกเชิญเข้า มาแล้ว พอเห็นเขาเธอก็รีบลุกอย่างฉับพลัน “เฉิง….
“คุณหญิง” ไปเย่นิ่งก้มหัวทักทาย ยังคงมีมารยาทตั้งเคย
“ชิงเฉินเธอ… กล่าวถึงลูกสาวตนเองดวงตาหลั่นถึงแดง ทันที มือที่ทิ้งไว้ข้างตัวเริ่มสั่นเทาเพราะพยายามสกัดกลั้น อารมณ์ “เธอรู้ดีที่สุด ตอนนั้นที่ฉันทิ้งเธอไว้ก็เพราะความ จําเป็น…”
“เดี๋ยวท่านอธิบายกับเธอเองดีกว่า” ไปเฉิงกล่าว “เดี๋ยว เธอก็ออกมา”
ดวงตาหม่นหมองของหลันถึงฉายแววดีใจ “เธอยอมเจอ ฉันเหรอ?”
เขาพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมดูเวลาแวบหนึ่ง “ท่านนั่งรอสัก ครู ผมมีธุระคงต้องขอตัวก่อน
เดิมทีหลันถึงอยากพูดคุยกับเขาเรื่องระหว่างเขากับซิง เฉิน แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เอ่ยปากไปแต่กลับพยักหน้ารับ จาก นั้นก็นั่งลงเงียบๆ ไม่นานเซียซิงเฉินจึงเปิดประตูเดินออกมา จากห้อง
คุณหญิงหลันถึงนั่งหันหลังให้เธออยู่บนโซฟาตรงห้องนั่ง เล่น เซี่ยซิงเฉินมองด้วยสายตาเรียบนิ่งทั้งที่ในใจกำลังว้าวุ่น ทุกความรู้สึกกำลังพลุ่งพล่านไม่หยุด ความถูกชะตากับคุณหญิงก่อนหน้ารวมถึงความชื่นชอบที่น่าแปลกใจนั้นในวันนี้มัน ได้กลายเป็นความรู้สึกอย่างอื่นเสียแล้ว
สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อกดอารมณ์ภายในใจให้ลง ลีก ค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไป
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวหลันถึงก็หันกลับมา สองสายตา ประสานกัน ดวงตาหลันถึงก็ขึ้นด้วยน้ำใสบางๆ ทันที เธออด กลั้นไว้แล้วแย้มริมฝีปากยิ้มน้อยๆ “ซิงเฉิน….
เซี่ยซิงเฉินนั่งลงตรงข้ามเธอ เดิมอยากเรียกทักว่า “คุณ หญิง แต่พอขยับปากแล้วก็ไม่อาจเรียกดังเดิมได้อีกต่อไป จึง แค่ขยับปากพูดอย่างฝืดเคือง ไม่ได้เจอกันนานนะคะ
“ใช่…ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ…
สายตาหลันถึงที่เต็มไปด้วยความรักใครจรดบนตัวเธอ ทั้งดีใจทั้งตื้นตัน พยักหน้ารัวราวกับกำลังคุยกับเธอแต่ก็ เหมือนกำลังพูดพึมพำ “ตอนที่ฉันรู้ว่าเป็นหนู แทบไม่อยากจะ เชื่อเลย…พระเจ้าไม่เคยใจร้ายกับฉัน….
เซี่ยซิงเฉินไม่รู้ควรรับคำอย่างไรดี ในการรับรู้ของเธอนั้น แม่ของเธอคือเงินหมิ่นตลอดมา พ่อคือเซียกั่วเผิง ต่อให้หลาย ปีที่ผ่านมาเธอจะขาดแคลนความรักจากพ่อแม่อยู่ไม่มากก็น้อย แต่ในการรับรู้ของเธอก็ยอมรับเพียงพวกเขา
แม้ก่อนหน้าจะรู้สึกถูกชะตากับคุณหญิงหลันถึงแต่พอรู้ ความสัมพันธ์กันแล้วกลับรู้สึกห่างเหินแปลกๆ ราวกับระหว่างนี้มีอุปสรรคที่ข้ามไม่ได้
“ท่านมาหาฉันเพราะอยากคุยเรื่องของฉันกับเฉิงเหรอ คะ?” เซี่ยซิงเฉินถามตรงๆ
หลันถึงเจอลูกสาวแล้วก็รู้สึกเบาใจไปเยอะ กลับไม่เริ่มคุย กับเธอเรื่องที่ต้องแยกคู่รักจากกัน แต่ในเมื่อมาถึงนี่แล้ว…
“สองวันนี้ฉันอยู่บ้านตระกูลไปตลอด เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ เย่นิ่งไม่ยอมรับเลย จู่ๆ พวกหนูก็หายตัวไป คุณท่านไปก็โมโห มาก แน่นอนว่าคุณพ่อหนู” กล่าวถึงตรงนี้คุณหญิงหลันถึง หยุดชะงักพลางใช้สายตาสงสัยมองสีหน้าซิงเฉินแวบหนึ่ง จาก นั้นก็รีบเปลี่ยนคำพูด “คุณอาของเฉิงก็ไม่เห็นด้วยที่พวกหนู คบกัน เรื่องนี้หนูโทษพวกเขาไม่ได้ ในเมื่อลูกพี่ลูกน้อง….
หลันถึงไม่ได้พูดต่อไป
มือของเซียซิงเฉินที่วางซ้อนอยู่บนหัวเข่าบีบแน่น
“ฉันรู้ว่าพวกท่านไม่เห็นด้วย พวกท่านมีเหตุผลที่จะไม่ ยอมรับ แต่ฉันกับเขาก็มีเหตุผลที่ต้องอยู่ด้วยกัน เธอเปิดปาก พูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง
หลันถึงเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย “ซิงเฉิน อย่าโง่เลย
นอกจากเย่นิ่งหนูยังมีทางเลือกอีกมากมาย คนที่เก่งกาจอย่าง เขาไม่ใช่จะไม่มี”
“ท่านหมายถึงเจ๋อหนุนสินะคะ? ได้ยินเขาบอกว่าตอนที่ ท่านยังหาลูกสาวไม่เจอก็หมายหมั้นให้เขาแล้ว
หลันถึงขยับปากอยากพูดอะไรบางอย่าง เซียซึ่งเ นอ้าปากอีกครั้งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งกว่าเดิม “ขอโทษนะคะ ต่อให้เขาเก่งมากแค่ไหน การแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ ทางการเมืองฉันไม่สนใจ อีกอย่างในสายตาฉันไม่มีใครที่ไป กว่าเย่นิ่งอีกแล้ว
ท่าทีของเธอเย็นชากว่านักหากเทียบกับที่ผ่านมา แต่ สายตาเย็นยะเยือกเพียงนิดก็ทำให้หลันถึงเจ็บแปลบที่ขั้วหัวใจ
“ก็ได้ๆๆ หนูมีความคิดของหนู เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ ชั่วคราว” คุณหญิงหลันถึงพูดด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง กว่าจะ เจอลูกสาวตนไม่ง่ายเลย เธอไม่อยากทำให้ลูกสาวต้องโกรธ จึงสกัดกลั้นอารมณ์เจ็บปวดไว้แล้วกล่าว “พวกหนูหายตัวไป หลายวันแล้ว พ่อของหนู…เขาอยากเจอหนูมากจริงๆ
เซี่ยซิงเฉินกัดปากไม่ตอบโต้
“ซิงเฉิน หนูจะโกรธที่ตอนนั้นฉันทิ้งหนูไป ฉันเข้าใจได้ แต่พ่อของหนู…หลายปีมานี้เขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย หนูมีเหตุผลที่ จะโกรธฉันแต่โกรธเขาไม่ได้นะ” คุณหญิงหลันถึงพูดปกป้องไป ชิงนั่งอยู่ทุกคำไป สุดท้ายก็มองเซี่ยซิงเฉินอย่างเว้าวอน “กลับ ไปตระกูลไปกับฉันสักครั้ง ไปเจอคุณพ่อของหนู ได้ไหม?”
เซี่ยซิงเฉินรู้ดีว่าคำพูดของคุณหญิงไม่ได้ไร้เหตุผล เพียง
ขณะกำลังครุ่นคิด โทรศัพท์ในกระเป๋าก็แผดเสียงดัง เธอ ควักออกมาดูหน้าจอแล้วกล่าว “ขอโทษนะคะ ฉันขอรับสายหน่อย”
คุณหญิงหลันถึงหยักหน้าแล้วเธอจึงกดรับสายพร้อมทั้ง ลุกขึ้นยืน “สวัสดีค่ะ คุณครูหยาง”
เป็นคุณครูของต้าไปเองที่โทรมา เมื่อได้ยินเสียงของเซี่ย ซึ่งเฉิน คุณครูหยางก็รีบกล่าว “คุณแม่ต้าไป คุณรีบมาโรง พยาบาลเลยค่ะ!”
“เกิดอะไรขึ้นคะ?” เซียซิงเฉินได้ยินคำว่า “โรงพยาบาล ก็ชาวาบไปทั้งหัวใจ
“ตอนเที่ยงวันนี้ต้าไปกำลังทานข้าวอยู่จู่ๆ ก็อ้วกออกมา
เราคิดว่าเขามีปัญหากระเพาะเลยให้เขาทานยาไป พอเห็นเขา ไม่เป็นอะไรแล้วเลยไม่ได้เก็บมาคิดมาก แต่ไม่คิดว่า…ไม่คิดว่า ก่อนจะเลิกเรียนเขาก็เป็นลมหมดสติไป
“หมดสติ?” เซียซิงเฉินเกิดรู้สึกอ่อนแรงทันที แทบจะกำ
โทรศัพท์ไว้ไม่มั่น
คุณหญิงหลันถึงก็ผุดลุกขึ้นทันที ได้ยินเพียงเซี่ยซิงเฉิน
ถามเสียงสั่นทั้งที่มือยังจับโทรศัพท์อยู่ “โรงพยาบาลไหนคะ?
ตอนนี้ถึงโรงพยาบาลหรือยัง?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ