สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 318 เอาเด็กออก



ตอนที่ 318 เอาเด็กออก

ตอนที่ 318 เอาเด็กออก

ได้ยินเขาว่าเช่นนี้เซี่ยซิงเฉินก็ไม่พูดอะไรอีก เธอไม่รู้ว่าตน เป็นอะไรไป ไม่ว่าอย่างไรก็ตามดันเกิดความว้าวุ่นใจขึ้นเสีย ดื้อๆ แต่การแต่งงานกับเขาเป็นเรื่องดีแถมตัวเองก็รอคอยวันนี้ เป็นอย่างมากไม่ใช่เหรอ?

ในเมื่อทั้งชีวิตนี้ก็ต้องเป็นผู้ชายคนนี้เท่านั้น ฉะนั้นตนก็น่า จะเด็ดขาดหน่อย จะก่อนปีใหม่หรือหลังปีใหม่มันแตกต่างกัน ตรงไหนล่ะ?

เธอคิดได้เช่นนี้ความว้าวุ่นภายในใจถึงค่อยๆ เลือนหาย ไป จากนั้นก็เต็มไปด้วยความคาดหวังอีกครั้งกับวันเสาร์ที่จะ ถึงในอีกสองวันข้างหน้า

กลางคืน

ไปเย่นิ่งอยู่ทานมื้อค่ำที่ห้องเช่าหลังเล็ก นอกจากพวกเขา ทั้งสองยังมีฉือเว่ยยัง ฉือเว่ยยังไม่ร่าเริงสดใสอย่างเคย ไม่พูด มากและนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารเงียบๆ จนแทบจะกลมกลืนไป กับอากาศเสียแล้ว

หลังทานอาหารมื้อค่ำเซียซิงเฉินส่งเขากลับไป
ภายในลิฟต์เขากอดเธอ

สุดท้ายก็เอ่ยปาก

“กลับไปกับผม”

เธอสายศีรษะ “คุณก็เห็นแล้ว เว่ยยังยังอยู่ด้านบน ช่วงนี้ ฉันต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอไปก่อน อารมณ์เธอไม่ค่อยดีน่ะค่ะ

ไปเย่นิ่งไม่ได้ตามตื้ออีก ในเมื่อ

“หลังวันเสาร์คุณก็ไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่ที่นี่คนเดียวอีกแล้ว หลังวันเสาร์เป็นต้นไปเธอก็เป็นคุณนายของทำเนียบ ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการแล้ว ถึงตอนนั้นถึงเธอจะอยาก ปฏิเสธอีกก็คงไม่ได้

เซี่ยซิงเฉินหยักศีรษะ “รู้แล้วค่ะ วันเสาร์ค่อยย้ายละกัน

หลังเขากลับไปเซี่ยซิงเฉินก็ครุ่นคิดสักพักแล้วโทรหา มารดา เงินหมิ่นได้ยินว่าพวกเขาจะแต่งงานก็ดีใจเป็นอย่างมาก

“ถ้าอย่างนั้นวันเสาร์แม่จะไปด้วย เป็นพยานให้พวกลูกไง”

“ดีเลยค่ะ แม่จะได้มาตรวจร่างกายพอดี

“ลูกแต่งงานก็หมายถึงโตแล้วจริงๆ จากนี้ไปเวลาลูกอยู่ กับเฉิง ทั้งสองคนต้องเข้าใจกันและกันให้มากๆ โดยเฉพาะ เขาที่ยุ่งมาก อย่าเอาแต่ใจกับเขา แม่รู้ว่าเขาจริงใจต่อลูกนะ
เงินหมิ่นพูดสั่งอย่างละเอียด พริบตาเดียวลูกสาวก็จะ แต่งงานแล้ว ความรู้สึกตื้นตันที่ก่อตัวอยู่ในอกย่อมยากที่จะ ทำให้สงบลงได้

“ที่แม่พูดลูกจำไว้หมดแล้วค่ะ”

เธอไม่ได้คุยกับเงินหมุนไปมากกว่านี้ กดวางสายแล้วไป จัดการห้องครัว

คืนนั้นเซียซิงเฉินนอนกับฉือเว่ยยัง กลับไม่รู้ว่าควรเอ่ย ปากกับเธอถึงเรื่องที่ตนจะแต่งงานกับไปเย่นิ่งอย่างไรดี

ตั้งแต่ฟูอี้เฉินแยกจากเธอไปนานขนาดนี้ เธอมีสภาวะ อารมณ์ที่ดิ่งลงตลอดจนทุกวันนี้ก็ยังตั้งตัวไม่ได้ ภายในเวลา ไม่ถึงหนึ่งเดือนเจ้าตัวก็ซูบผอมลงไปหนึ่งรอบเอว

เซียซิงเฉินใจร้อนรน แต่กลับไม่รู้จะทำอย่างไร โรครัก แบบนี้มีแต่ยารักที่จะรักษาได้

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น

เมื่อเซี่ยซิงเฉินตื่นขึ้นมา คือเว่ยยังที่อยู่ข้างกายก็หายตัว

ไป

“เว่ยยัง?”

เธอลุกขึ้น มัดผมอย่างสะลึมสะลือไปด้วยก็เอ่ยเสียงเรียก ชื่ออีกคนไปด้วย

กำลังเตรียมไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันเปิดประตูก็ได้ยินเสียงอาเจียนดังแว่วมาจากด้านใน

“เธอไม่เป็นไรนะ?” เธอเปิดประตูเดินเข้าไป ก็เห็นเว่ยยัง ก้มหน้าอาเจียนอยู่ข้างโถ เซียซิงเฉินนึกเพียงว่าเธออาจจะมี ปัญหาด้านลำไส้ “ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนไปกินของหมดอายุเข้านะ แต่ฉันซื้อมาแต่ของสดใหม่ทั้งนั้นเลยนี่นา

ก่อนหน้าเคยมีประสบการณ์ที่ต้าไปทานน่องไก่จนอาเจียน เซี่ยซิงเฉินจึงไม่กล้าประมาทในเรื่องอาหารการกินแม้แต่นิด

ฉือเว่ยยังอ่อนแรงจนไม่อาจพูดออกมาได้แม้แต่ประโยค เดียว เพียงโบกมือไปมา พักใหญ่ก็ลุกขึ้นยืนกดราดน้ำ จาก นั้นก็ใช้มือตวงน้ำล้างหน้า แต่ใบหน้ายังคงซีดเซียวเช่นเดิม

“ฉันไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนนะ นี่เธออ้วกขนาดนี้แล้ว ต้องมีอะไรแน่ๆ” เซี่ยซิงเฉินกำลังจะหมุนตัวกลับไปเปลี่ยนชุดที่ ห้อง ฉือเว่ยยังคว้ามือเธอไว้ เธอก็ชะงักปลายเท้าลงหันกลับมา มองเธอ

เห็นแต่ใบหน้าหม่นหมองของเธอ ลมหายใจก็อ่อนล้าไร้ เรี่ยวแรง

“ซิงเฉิน เธอพาฉันไปหาหมอสูตินรีเวชหน่อย

คำพูดของฉือเว่ยยังที่กล่าวออกมาทำให้เซียซิงเฉินสมอง พร่าเบลอไปชั่วครู่

พักหนึ่งถึงตั้งสติได้ “เธอหมายความว่า…

กล่าวถึงตรงนี้ก็ชะงักค้างไปที่หนึ่งก่อนสายตาจะตกไปที่หน้าท้องแบนเรียบของเธอ รู้สึกถึงลำคอที่แห้งผาก “เธอ…ท้อง เหรอ?”

เธอเคยผ่านมาแล้ว ความจริงก็พอจะรู้อาการของคนท้อง อยู่บ้าง เพียงแต่เธอไม่เคยนึกถึงเว่ยยังไปในทิศทางนี้เลย เธอ กับเฉิน ไปถึงขั้นนั้นแล้วเหรอ?

เห็นคือเว่ยยังพยักหน้าในหัวเซียซิงเฉินก็วุ่นวายไปหมด

“พวกเธอสองคนทำไมถึง…? ก่อนหน้านี้เธอก็รู้ว่าเขา แต่งงานไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเว่ยยังจะบ้าบิ่นถึงขนาดนี้ ทั้งที่รู้ว่า เขาเป็นชายที่แต่งงานแล้วยังจะมีความสัมพันธ์กับเขาอีก

“เป็นอุบัติเหตุ ความจริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนั้นคือฉัน ฉันก็ไม่คิดว่า….” ริมฝีปากฉือเว่ยยังสั่นระริก ความจริงจุดจบ แบบนี้มันช่างน่าลำบากใจนัก ภรรยาของเขาก็ใกล้คลอดแล้ว ส่วนทางฝั่งเธอกลับ…

“แล้วตอนนี้เธอคิดจะทำยังไงต่อ?” การที่มาสะสางความ ผิดในเวลานี้มันไม่ได้ช่วยอะไร ควรคิดวิธีแก้ปัญหาในเรื่องต่อ จากนี้ให้เร็วที่สุด

ฉือเว่ยยังกลับดูนิ่งสงบเกินคาด

“ฉันคิดมาสักพักแล้วว่าเด็กคนนี้ ฉันเก็บไว้ไม่ได้

“เธอคิดจะเอาเด็กออกเหรอ?!
“อืม” ถือเว่ยยังพยักหน้าทันที ไร้ความลังเล มีเพียงแวว ตาที่ว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าเธอมีความคิดนี้อยู่ภายในใจมา นานแล้ว

เธอบ้วนปากแล้วหมุนตัวกลับไปเปลี่ยนเสื้อในห้อง เสีย ซิงเฉินเดินตามหลังเธอไปอย่างเป็นห่วง “เว่ยยัง เรื่องนี้ไม่ใช่ เรื่องเล็กนะ เธอต้องคิดให้ดี ถ้าพลาดฉันกลัวเธอจะเสียใจภาย หลังนะ”

ในเมื่อลูกในท้องไม่ใช่ของใครอื่น แต่เป็นของผู้ชายที่เธอ ทุ่มเททั้งหัวใจไปให้ทั้งหมด

ฉือเว่ยยังชะงักค้างไปชั่วครู่ก่อนจะทิ้งสายตาไว้อย่างไร้จุด มุ่งหมาย

คำพูดที่กล่าวออกมาเหมือนคุยกับเซี่ยซิงเฉินหากแต่ก็ เหมือนกำลังพึมพำเพียงลำพัง “ถ้าไม่เอาออก จะทำยังไงได้ อุ้มเด็กไปหาเขา ให้เขาหย่ากับภรรยาแล้วมาอยู่กับฉันเหรอ? ฉันทำไม่ได้ ฉันเชื่อว่าเขาก็ทำไม่ได้…คืนนั้นของเรามันเป็น ความผิดพลาด ต้องรีบแก้ไขความผิดพลาดในตอนนี้ที่ยังทัน ก่อนจะสายเกินไปถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

คำพูดของฉือเว่ยยังก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล

ในเมื่อเซี่ยซิงเฉินเองก็ไม่ได้เกี่ยวพันอยู่ในความสัมพันธ์นี้ ต่อให้เป็นกังวลเพียงใดก็ไม่สามารถตัดสินใจแทนเธอได้ นึกถึงคราวแรกที่ตนท้องต้าไป ปฏิกิริยาแรกก็คือต้องการเอา เด็กออก
เธอขอลาแล้วขับรถพาคือเว่ยยังไปที่โรงพยาบาลเปียชื่อ

หย่วน

ตลอดทางเธอคอยระมัดระวังเพราะข้างกายมีหญิงตั้ง ครรภ์อยู่ จึงจดจ่ออยู่กับการขับรถไม่ได้คุยกับเว่ยยังแม้แต่ ประโยคเดียว เธอได้แต่หวังว่าเธอจะคิดให้ดี ไม่ว่าเด็กจะจาก ไปหรืออยู่ต่อ เธอจะต้องไม่เสียใจในภายหลังกับการตัดสินใจ ในวันนี้

แผนกสูตินารีเวชเต็มไปด้วยผู้คน

เซียซิงเฉินไปหยิบบัตรคิวแล้วนั่งรอเป็นเพื่อนเธออยู่ด้าน นอก จากนั้นก็เป็นการตรวจเช็คที่ตามมาเป็นพรวน

ก่อนหน้านี้เธอก็เคยอัลตราซาวด์มาแล้ว ฉะนั้นวันนี้เธอจึงอยากไปทำแท้งเพื่อเอาเด็กออกทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ