สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 283 จริงจังกับความรัก (3)



ตอนที่ 283 จริงจังกับความรัก (3)

“เธอก็พูดเกินไป ใครทำเรื่องไม่ดีกัน?” เซี่ยซิงเฉินติงเธอ ประโยคหนึ่ง ผู้หญิงที่มีความรัก ทุกคำพูดล้วนอ่อนโยน มี ความสุขจนคนรอบข้างยังรู้สึกได้

ฉือเว่ยยังยกซานมขึ้นดื่มอีกหนึ่งถึงพยักหน้าส่งๆ “ใช่ ไม่ได้ทําเรื่องไม่ดีหรอก เรื่องปกติน่า เรื่องทั่วไปของคน เป็น เรื่องดี!”

กลอกตามองเธอแวบหนึ่ง “วันนี้เธอไม่ได้มาทานข้าวกับ ฉันแต่ตั้งใจมาแซวฉันใช่ไหม?

“จะกล้าได้ยังไง เธอเป็นว่าที่ภรรยาของประธานาธิบดีเรา

เลยนะ” ประโยคสุดท้ายนั้นถือเว่ยยังกดเสียง ให้เบาลง

“พูดมั่วอีกแล้ว”

เซี่ยซิงเฉินไม่รู้จะทำอย่างไรกับปากเธอ ตอนนั้นเองที่ พนักงานมาเสิร์ฟอาหาร ทั้งสองทานอย่างไม่รีบร้อน หัวเราะ และพูดคุยไปพลาง

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยถึงเรื่องสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน เซี่ยซิงเฉินกำลังจะพูดแต่ชะงักไปเพราะจู่ๆ ด้านนอกปรากฏเงา คนคู่หนึ่ง เธอกลืนทุกคำพูดที่กำลังจะเอ่ยปาก สายตาจ้องมอง ไปนอกหน้าต่างนิ่ง
“ซึ่งเฉิน?” ฉือเว่ยยังมองเธออย่างฉงน เซี่ยซิงเฉินได้สติ ทันทีกำลังจะพูดแต่ไม่ทันเสียแล้ว

เพียงแวบเดียว

ฉือเว่ยยังทอดสายตามองไปตามเธอ ใบหน้าเธอก็ยึดทันที

ฟู่อี๋เฉิน

ไม่ได้มาคนเดียวด้วย

เคียงข้างมีหญิงสาวคนหนึ่งที่คล้ายว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพราะหน้าท้องนูนขึ้นเล็กน้อย เฉินกับเธอเดินเข้าร้านขาย ของสําหรับเด็กน้อยโดยเฉพาะ

ท่าทางของเฉินที่คอยระมัดระวัง ทั้งคอยดูแลประคอง

อีกฝ่ายไม่ขาด

เซี่ยซิงเฉินมองฉือเว่ยยังแวบหนึ่ง เห็นเพียงฉือเว่ยยังนั้น

ขอบตาแดงก่ำ

ฟู่เฉินกับเธออยู่ในสถานะไหนกันแน่?

ช่วงวัยรุ่น พื้นที่สวยงามที่สุดของเธอ หัวใจของเธอเต้น เพื่อผู้ชายคนนี้คนเดียว

เธอรักเขามาตลอดหลายปีจนเธอแทบลืมมันไป ช่วงที่เขา หายไปหลายปีนั้นเธอละเมอเรียกชื่อเขาในกลางดึกนับครั้งไม่ ถ้วน และสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันมาร้องไห้อีกนับครั้งไม่ถ้วน

เธอทุ่มเทไปหมดตัว ใช้ชีวิตราวกับร่างไร้วิญญาณมาหลายปี ทรมานตัวเองแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไม่อาจตัดชื่อ เฉิน” ออกจากหัวใจได้ กลับยิ่งอยู่ยิ่งฝังรากลึกและยิ่งเจ็บปวด

“เว่ยยัง…” เซียซิงเฉินเรียกชื่อเธอเสียงเบา เธอไม่รู้ว่า ควรหาคำพูดไหนมาปลอบเธอ เพราะในตอนนี้ทุกคำ ปลอบโยนดูเหมือนจะสูญเปล่า

มีดคมที่ชื่อความรักไม่ได้ปักลงกลางใจคุณ คุณไม่มีทางรู้ ว่ามันเจ็บปวดมากเพียงใด และไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนี้ได้

“ฉันไม่เป็นไร” ถือเว่ยยังหัวเราะ เธอชื่นชมตัวเองมากที่

เวลานี้ยังหัวเราะออกมาได้

เซียซิงเฉินถามเสียงเบา “เราไปถามเขาให้รู้เรื่องไหม?”

“ถามยังไง? ไปถามในฐานะอะไรล่ะ?” ถือเว่ยยังสูด หายใจเข้าลึกๆ พยายามเก็บน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา “นั่นภรรยา 121…”

เซียซิงเฉินตกใจ ครั้งก่อนที่สนามเบสบอล ยามที่เห็น พวกเขาทั้งสองเดินอย่างใกล้ชิดปานนั้น เธอหลงคิดว่าทุก อย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่คิดว่า…

ทันใดนั้นเองโทรศัพท์เธอก็สั่น เป็นข้อความจาก เสียวไป

ไม่อยู่โรงอาหารเหรอ?

เขาถามแบบนี้หมายความว่าเขาไปโรงอาหารเหรอ?
เซี่ยชิงเงินไม่ตอบกลับ ทำเพียงแค่ควักเงินจากกระเป๋า ออกมาให้พนักงานคิดชำระเงิน ตอนนี้พวกเธอทั้งสองไม่มี ความอยากอาหารอีกต่อไปแล้ว

เมื่อเดินออกจากร้านอาหาร ฉือเว่ยยังหักห้ามใจตัวเองไม่ ให้มองไปยังทิศทางของคู่นั้นแม้แต่แวบเดียว เพราะมองแค่ แวบเดียวก็เป็นการทรมานตัวเองเปล่าๆ เธอทิ่มแทงหัวใจตัว เองมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ถ้ายังโหดเหี้ยมต่อไปก็คงเป็นการ ทําร้ายตัวเอง

เธอนั่งรถแท็กซี่จากไป เซียซิงเฉินเป็นห่วงจึงโทรเตือน เธออีกครั้ง อีกฝั่งของสาย เสียงของเธอสะอื้นชัดเจน จนเธอที่ ฟังอยู่เริ่มกระวนกระวายในใจ

มองไปที่ร้านขายของสำหรับเด็กด้วยใจที่หนักอึ้ง มีเพียง ถนนเส้นเดียวที่ขวางกั้น เฉินกลับดูโดดเด่นเช่นเคย ความ หล่อเหลานั้นแค่แวบเดียวก็จับตัวได้จากท่ามกลางผู้คน

เขากำลังก้มหน้าพูดคุยกับผู้หญิงข้างกายด้วยสีหน้าอ่อน โยน จากมุมมองคนนอกแล้วทั้งคู่ก็เป็นคู่สามีภรรยาที่มีความ

สุข

เธอเดินกลับไปทางสำนักงาน ขณะเดียวกันก็ตอบกลับ ข้อความของไปเฉิง ขึ้นไปหาคุณได้ไหม?

เว้นช่วงสักพักเขาถึงตอบกลับเธอ ด้วยคำง่ายๆ ว่ามา’
ไม่มีแม้แต่สัญลักษณ์อะไรเลย

เซี่ยชิงเฉินถอนหายใจ พลางเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ใน

กระเป๋าแล้วกระชับเสื้อเดินสับเท้าให้ไวกว่าเดิม

การจะขึ้นไปชั้นบนสุดมันไม่ง่ายขนาดนั้น ที่แบบนี้หาก ไม่มีเหตุผลที่ดีพอจะขึ้นไปได้ง่ายๆ เสียเมื่อไรกัน

เซียซิงเฉินเดินตามขั้นบันไดขึ้นไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็ ขบคิดหาเหตุผล แต่ยังไม่ทันไรก็มีคนหนึ่งเดินตรงมา

“คุณเซีย”

กลับเป็นเหลิงเฟย

“รองผู้บังคับบัญชาการเหลิง”

เธอเอ่ยทักแถมโค้งตัวเล็ก

น้อย

เหลิ่งเฟยไม่ควรได้รับการโค้งตัวทักทายจากเธอแต่ก็ไม่ ได้อยู่ที่ลับตาคน จึงจำต้องแสร้งรับบทต่อ “นี่เป็นเอกสาร เอาไปให้ท่านประธานาธิบดีที่ชั้นบนสุดด้วยตัวเองที

สำคัญมากฉบับหนึ่ง พอดีผมมีธุระนิดหน่อย วานคุณช่วยผม

เสียงของเหลิ่งเฟยไม่ดังไม่เบา แม้แต่คนรอบข้างก็ได้ยิน เป็นข้ออ้างที่ดีทีเดียว

เซียซิงเฉินยิ้มเบาบาง หยักศีรษะ ส่งถึงมือแน่ๆ ค่ะ” เหลิ่งเฟยกดเสียงต่ำ “รีบขึ้นไปเถอะ
เซียชิงเฉินขึ้นไปด้วยลิฟต์ธรรมดา กลางคันก็เปลี่ยนไป ขึ้นลิฟต์ที่ไปยังชั้นบนสุด โดยเฉพาะ นี่เป็นเวลาพักกลางวัน คนในชั้นบนสุดอาจไปทานอาหารกันหมดแล้ว เพราะทั้งเงียบ และไร้ผู้คนเดินขวักไขว่

เธอ โล่งอกเล็กน้อย พลางกอดเอกสารแล้วเคาะประตู ได้ยินเขาพูดว่า “เชิญ” เธอถึงเปิดประตู

“ท่านประธานาธิบดี

โค้งตัวเคารพตรงหน้าประตูอย่างเป็นทางการไปที่ เขาไม่ ใต้เงยหน้า นิ้วเรียวเคาะโน้ตบุ๊คบางไปมา นิ้วยาวทั้งสิบเรียว งามมาก เซียซึ่งเป็นรู้สึกว่าตนท่าจะหลงเขาไม่เบา เพราะมอง เขาอย่างไรก็ดูดีไปหมด

“เหม่ออะไร? เข้ามา

ไม่ได้เงยหน้ายังรู้ว่าเธอกำลังเหม่อลอย

เซี่ยซิงเฉินวางเอกสารของเหลิงเฟยไว้บนโต๊ะ ตนยืนห่าง จากเขาแค่โต๊ะทำงาน “เหลิงเฟยให้ฉันขึ้นมาส่งให้ บอกว่า เป็นเอกสารที่สำคัญมาก

“อืม” เขาส่งเสียงรับ เปิดซองเอกสารดูแวบหนึ่ง ราวกับ ว่าเป็นเอกสารอะไรแล้วจึงไม่ดูต่อ กลับวางไว้ข้างๆ

“คุณทานข้าวที่โรงอาหารเหรอคะ?” เธอถาม

“มาข้างๆ ผมนี่” เขาหลุบตามองที่ตำแหน่งเคียงข้างแวบ หนึ่ง เซี่ยซิงเฉินหัวเราะแล้วขยับไปทางนั้นหนึ่งก้าว จากนั้นก็ถูกเขากระชากตัวไปนั่งลงบนหน้าตักเขา

เซี่ยซิงเฉินใจเต้นระรัว

ความใกล้ชิดแบบนี้คงไม่เหมาะสมนักกับสภาพแวดล้อม นี้

“นี่เป็นห้องทำงานนะ” เธอมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยเดือน ใน เมื่อครั้งก่อนมาที่ห้องทำงานเขานั้นมันกลางดึก และไม่ใช่ลูก น้องของเขา แต่ตอนนี้ต่างกัน เธอเป็นพนักงานของเขา เป็น ลูกน้องที่ทำงานของเขา

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลางานสักหน่อย” ไปเยงโน้มหน้าพูดกับ

เธอ ริมฝีปากเขาแนบชิดกกหูเธอ สูดดมกลิ่นหอมจากกายเธอ ราวกับความเหนื่อยล้าตลอดเช้าหายไปในพริบตาเมื่อได้ กลิ่นหอมนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ