สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 243 ยังไม่ทันเริ่มก็จบลงแล้ว(3)



ตอนที่ 243 ยังไม่ทันเริ่มก็จบลงแล้ว(3)

ผู้หญิง เขามีถมไป ตั้งแต่เมื่อไรที่ต้องเป็นเซียซิงเฉินอย่างเธอ กัน!

ไปเยถึงคิดเช่นนั้น รู้สึกว่าตนน่าจะรับเรื่องทุกอย่างของ เธอกับหนูเจอหนันได้ แต่ผลสุดท้ายจนถึงตีสามก็ยังหลับไม่ลง

กระชากผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง เทเหล้าใส่แก้วดื่ม เข้าไปในอีกเดียว ของเหลวเย็นเฉียบยังคงดับความคุกรุ่นที่ยิ่ง อยู่ก็ยิ่งร้อนรุ่มภายในทรวงอกไม่ได้

บนหัวเตียงชุดนอนชุดหนึ่งพับไว้อย่างดี เป็นของเขาเอง คืนก่อนเธอเพิ่งสวมมันไป เดิมทีเธอก็ผิวขาวซีดแถมยังตัวเล็ก ผอมบาง ชุดนอนของเขาที่สวมไว้บนกายเธอจึงเหมือนตุ๊กตา ตัวหนึ่ง ทำให้ชายหนุ่มอยากโอบอุ้มไว้ในอุ้งมืออย่างรักใคร่ นึกถึงท่าทางเช่นนั้นของเธอแล้วก็นึกถึงหยูเจ๋อหนัน….หรือว่า เธอก็สวมชุดนอนของผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน? หรือว่าก็ปล่อย ให้เขากอดไว้ในอ้อมอกเหมือนกัน? ตอนที่ผู้ชายคนนั้นจูบเธอ เธอก็จะตอบกลับอย่างเขินอายหากแต่ใจกล้าเหมือนกันงั้นเห รอ?

เพลิงไฟที่อัดอั้นไว้ในอกมาหลายชั่วโมงกลับมอดไหม้รุนแรงมากกว่าเดิม

“มีใครอยู่ไหม!” ตะคอกเสียงดังไปที คนรับใช้ที่เฝ้าเวร อยู่รีบขึ้นจากชั้นล่างแล้วเปิดประตูเข้ามา

“ท่านประธานาธิบดี” รู้กันดีว่าวันนี้อารมณ์ของท่าน ประธานาธิบดีย่ำแย่ถึงขีดสุด คนรับใช้เข้ามาทำเพียงแค่ก้ม หน้ามองพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองสักนิด ทั้งยังหวาด เกรงไปทั้งใจ

ชุดนอนสีขาวตัวหนึ่งถูกโยนไว้ข้างเท้าของเธอเหมือนเป็น ขยะชิ้นหนึ่ง ได้ยินเพียงเสียงเย็นของท่านประธานาธิบดีดังขึ้น “เสื้อผ้าที่สกปรกแล้วก็เอาไปเผาทิ้ง อย่ามาวางเกะกะสายตา ของผม!”

* สกปรก? ไม่มีทางน่า เสื้อผ้าที่สกปรกแล้วจะกล้าเอา ให้ท่านประธานาธิบดีถือที่ไหนกัน?

ชุดนอนนี้หลังจากคุณเซียใส่คราวก่อนก็ผ่านการซักและ ฆ่าเชื้ออย่างละเอียดแล้ว วันนี้เตรียมไว้ตรงหัวเตียงก็เพื่อให้ ท่านประธานาธิบดีใส่ เห็นวันนี้คงไปเกะกะตาของท่าน ประธานาธิบดีเสียแล้ว

คนรับใช้ฉงนใจเป็นอย่างมาก หากแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปาก แม้แต่คำเดียว และไม่กล้าถามมาก ทำเพียงเก็บชุดนอนขึ้นมา อย่างเร่งรีบแล้วกล่าว “ค่ะ ท่านประธานาธิบดี ดิฉันจะจัดการ เดี๋ยวนี้”
วันรุ่งขึ้น

ภายในทำเนียบประธานาธิบดีวุ่นวายแต่เช้า คุณชายเล็ก แสนรักเริ่มอารมณ์เสียแต่เช้าเลย ไม่ยอมแปรงฟันไม่ยอมล้าง หน้า จากนั้นก็ไม่ยอมสวมเสื้อผ้าไม่ยอมทานข้าว

เหล่าคนรับใช้ที่ตามอยู่ด้านหลัง พูดคะยั้นคะยอจน เหนื่อยหน่ายใจ พ่อลูกคู่นี้ทำไมสองวันนี้ถึงได้ผิดปกติเช่นนี้ ล่ะ?

“มากินข้าว” ในห้องทานอาหาร ในที่สุดไปเปถึงก็ทนต่อ ไปไม่ไหว พูดสั่งเซี่ยต้าไปหน้านิ่ง

เซียต้าไปแค่นเสียงไปที ไม่ยอมนั่งเก้าอี้สำหรับเด็ก หาก แต่นั่งลงตรงข้ามเขา ท่าทางคล้ายจะเจรจากับเขาอย่างไร อย่างนั้น ทั้งสองคนจ้องตาเขม็ง ใส่กันและกัน

“ลูกอารมณ์เสียอะไร?” ไปเยถึงวางอุปกรณ์ทานข้าวลง

“ผมไม่อยากคุยกับพ่อที่ผิดคำพูด!” ตอนนั้นบอกว่าอะไร นะ ไม่มีทางหาแม่เลี้ยงให้เขา แต่เมื่อคืนล่ะพูดอะไร?!

“อย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นตั้งแต่วันนี้ไปลูกก็ไปอยู่กับ คุณปู่คุณย่าไป!” ไปเย่นิ่งเอ่ยสั่งพ่อบ้าน “บอกฉียงว่าตั้งแต่ วันนี้ไปเขาจะอยู่กับคุณนายคุณท่านไป

อู๋ฉียงเป็นคนขับรถประจำตัวเซียต้าไป
“แล้วก็…” ไปเยถึงเหลือบมองเนกไทที่บิดเบี้ยวบนคอของ เขาแวบหนึ่ง “ลูกเป็นลูกชายของไปเย่นิ่ง คืนนี้คนที่จะพบก็เป็น คนสำคัญ สภาพนี้คงไม่ได้ จัดเสื้อให้คุณชายเล็กให้ดี!

ประโยคสุดท้ายพูดกับคนรับใช้

เซี่ยต้าไปร้องไห้โฮออกมาทันที ร่างเล็กๆ ไถลตัวลงจาก เก้าอี้ ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปพลาง ตะโกนเสียงดังไปพลาง “ผม จะฟ้องคุณย่าว่าพ่อรังแก! จะฟ้องหม่ามีว่าพ่อจะหาแม่เลี้ยงให้ ผมอีกแล้ว! พ่อมันผู้ชายเลว! ผมกับหม่าเกลียดพ่อ! ผมไม่ไป เจอภรรยาพ่อหรอก! เกลียด เกลียด!

ไปเย่นิ่งมองแผ่นหลังที่เศร้าโศกของเด็กน้อย สีหน้า หม่นหมองลงเล็กน้อย สุดท้ายก็หมดความอยากอาหาร

วางอุปกรณ์ทานอาหารลงไม่ทานต่อ

หากตนแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นจะ สนใจไหม? เขาสงสัยเป็นอย่างมาก

ประเทศ Y ในอีกฟาก

เลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่เซียซิงเฉินยังคงไม่ง่วงสักนิด ยืน มองประเทศแปลกหน้านี้อยู่ตรงระเบียงของโรงแรม ในใจกลับ วูบโหวง
จู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอหยิบมาดู บนจอกลับเป็น เบอร์โทรของทําเนียบประธานาธิบดี ตอนนี้ในประเทศเป็น เวลาแปดโมงเช้าพอดี

…จะเป็นเขาหรือเปล่า?

เธอมองโทรศัพท์มือถือไปพักหนึ่ง กดรับสายแล้วแนบไว้ ข้างหู ยังไม่ทันเอ่ยปากพูด เสียงที่ดังแว่วมาจากอีกฝั่งกลับ เป็นเสียงสะอื้นจนตัวโยนของเด็กน้อยที่กำลังเสียใจ

เซี่ยซิงเฉินใจกระตุกวูบ หัวใจเต้นแรงจนแทบถึงปากลำ ) “เป็นอะไรต้าไป?”

“ฮือ ฮือ หม่าม พ่อรังแกผมตอนที่แม่ไม่อยู่…” เสี่ยต้าไป ร้องไห้อย่างหนัก แม้แต่เสียงพูดยังขาดเป็นช่วงๆ

เซี่ยซิงเฉินฟังแล้วรู้สึกปวดไปทั้งหัวใจ “ลูกพูดดีๆ เกิด

อะไรขึ้นกันแน่? พ่อรังแกลูกได้ยังไง?

“เขารังแกผม…เขาโกหกผม…” เซียต้าไปเอ่ยปากฟ้อง “ทั้งที่เมื่อก่อนเคยรับปากแล้วว่าจะไม่หาแม่เลี้ยงให้ผม แต่วัน นี้…วันนี้ยังบอกว่าจะพาผมไปเจอผู้หญิงคนอื่น! บอกว่าอาจเป็น แม่ของผมในวันหน้า

คำพูดของเด็กน้อยทำให้เซี่ยซิงเฉินนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น ภายในหัวขาวโพลนไปพักใหญ่

มัน…เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?

คืนนั้นขณะที่เธอบอกว่า “หากวันไหนเขาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ความจริงก็แค่ลมปาก หัวใจกลับ… เธอเริ่มสติหลุดไปแล้ว เชี่ยต้าไปกำลังพูดบางอย่างด้วย

เสียงสะอื้นกับเธออยู่ เธอได้ยินไม่ชัดมาก เวลานี้แม้แต่ตัวเอง ยังทำใจไม่ได้ ไม่รู้ควรหาคำพูดอะไรมาปลอบลูกชายจริงๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เด็กน้อยวางสายไปแล้ว เชียง เฉินก็ยังยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของอีกประเทศ มองแสงไฟเปิด

จรัสอันแปลกตาอย่างน่าสงสาร แววตาว่างเปล่า…

ในหัวใจก็เช่นกัน…

ลมหนาวตีกระทบหน้า หนาวจนเธอสั่นระริกแต่เธอกลับ

ไม่รู้สึกอะไร

ตำแหน่งอกซ้ายหนาวเหน็บยิ่งกว่า เหมือนถูกคนยัดน้ำ แข็งเป็นพันเป็นหมื่นตันเข้าไป ทั้งหนาวทั้งหนักหน่วง

วันรุ่งขึ้น เซี่ยซิงเฉินป่วย

วันนั้นหนาวเกินไป ลมหนาวไม่หายไปบวกกับความเศร้า กัดกินใจจนเริ่มเป็นไข้ที่สูงถึง 39 องศาแทบจะ 40 องศา เจ้า ตัวนอนไร้สติ

อย่าว่าแต่ทำงานเลย แม้แต่ลุกจากเตียงยังทำไม่ได้

เดิมทีเซียซิงเฉินยืนยันจะทำงานทั้งสภาพป่วยเช่นนั้น แต่ ถูกหยูเนื้อหนันห้ามไว้ เขาโทรศัพท์หาหยูเจ๋อเหยาบอกว่าตนมีธุระด่วน จำเป็นต้องกลับประเทศก่อน พร้อมโยนงานทิ้งกลาง คัน หยูเจ๋อเหยาไม่เคยห้ามเขาได้จึงอนุญาตให้เขากลับมา

เพราะฉะนั้นวันที่สาม ขณะที่ใช้ของเซียซิงเฉินลดไปหน่อย แล้ว หยูเจ๋อหนันก็พาเธอขึ้นเครื่องกลับประเทศ

ที่นั่งชั้นหนึ่งมีที่ว่างกว้างขวาง ตลอดทางเธอก็หลับๆ

อื่นๆ ยามที่สะลึมสะลืออยู่ก็รู้สึกว่ามีคนกำลังห่มผ้าให้ตน

ไป๋เย่ฉิง…

ริมฝีปากแห้งผากของเธอขยับไปมา ส่งเสียงออกมาแผ่ว เบา มือเล็กที่เย็นเฉียบคว้าเข้ากลางอากาศอย่างไม่ได้ตั้งใจ จับมือใหญ่แสนอุ่นข้างหนึ่งไว้

เหมือนว่าต้องการจะดูดความร้อนไป เธอกำมือแน่นไม่

ปล่อย

ในหัวที่ไข้ขึ้นสูงจนสติเลือนราง ล้วนเป็นเงาของชายหนุ่ม ที่ทำให้เธอปวดใจ….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ