ตอนที่ 239 ขึ้นพาดหัวข่าวอีกครั้ง (1)
คล้ายหลันเต่จะคิดไว้แต่แรกแล้วว่าเขาจะตอบเช่นนี้จึงไม่ตกใจ สักนิดและไม่เสียใจ กลับยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร คุณไม่คิดจะ แต่งงานนั่นแหละดีที่สุดแล้ว ฉันล่ะกลัวคุณคิดจะแต่งงาน…
คิดไว้ว่าจะแต่งงาน แต่อีกฝ่ายที่แต่งด้วยไม่ใช่เธอ นั่น ต่างหากที่เธอกังวลที่สุด
“ความจริงวันนั้นที่ดูคุณกับซึ่งเหวย เดินพรมแดง ฉันยัง รู้สึกไม่พอใจอยู่ บอกตรงๆ ไม่ว่าด้านไหนฉันก็ไม่ได้แย่ไปกว่า เธอแต่…ความจริงได้กระจ่างแล้วว่าคุณกับซ่งเหวยดวงไม่ สมพงศ์กัน” หลันเยเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่คิดจะปิดบังความ ในใจของตน ประโยคสุดท้ายพูดออกมาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
ใช่ว่าไปเย่นิ่งจะไม่รู้ความคิดเธอ ขณะที่ทั้งสองอยู่ในทีม นาวิกโยธิน เธอก็สารภาพรักกับเขาต่อหน้าเพื่อนพ้องในนาวิก โยธินมาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ไว้หน้าเธอแต่อย่าง ใด ปฏิเสธเธอตรงๆ ต่อหน้าทุกคน เธอเจ็บใจจนร้องไห้ไปอีก นาน
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ว่าดวงผมไม่สงพงศ์กับซ่งเหวย อี” ไปเฉิงชายตามองเธอ แววตาเรียบนิ่งไม่มีอารมณ์เหลือ แม้แต่นิด คำพูดที่กล่าวออกมาก็เฉยชา “ผมดวงไม่สมพงศ์กับ ผู้หญิงทุกคนต่างหาก
หลันเย่นิ่งอึ้ง
ปฏิเสธได้ชัดเจนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เธอจดจ้องเขาด้วยแววตาที่ล้ำลึกขึ้น “คุณรู้ไหมว่าคุณยัง ใจร้ายเหมือนเมื่อก่อน
ไปเย่นิ่งไม่ตอบเธอกลับ เพียงแค่เบนความสนใจไปที่ โทรศัพท์มือถืออีกครั้งแล้วกดโทรออกยังเบอร์นั้น ครั้งนี้ หลันเย่เห็นคำว่า “ชิงเฉิน” บนจอนั่นเต็มๆ ตา ชัดเจนว่ามันเป็น ชื่อของผู้หญิง ซึ่งเฉิน คือใครกันแน่? เธอคิดว่าเธอควรไปสืบ ให้ดีเสียหน่อย อย่างที่ว่าถ้าเข้าใจอีกฝ่ายให้มากถึงจะรบร้อย ครั้งชนะร้อยครั้งได้
สายของเขายังคงโทรไม่ติด
ถึงตระกูลหลันแล้ว คนขับรถเปิดประตูรถให้อย่าง นอบน้อม ไปเฉิงเดินลงมาส่ง หลันเย่ไม่ได้ตามซื้อแล้วเอ่ยลา กับเขา แต่พอเดินไปสองก้าวก็หันหลังเดินมาที่ตรงหน้าเขา
“คุณจำได้ไหมว่าเมื่อก่อนคุณติดค้างฉันไว้อย่างหนึ่ง หลันเย่เอียงหัวถามเขา ยามที่เธอมองเขา แววตาเป็นประกาย ปนด้วยความหลงใหลเยี่ยงหญิงสาวทั่วไป
ไปเย่นิ่งไม่ตอบ จู่ๆ เธอเขย่งเท้าประทับจูบลงข้างแก้มเขา ไปที่ สีหน้าเขาเรียบตึงหวังจะผลักเธอออก หลันเต่กลับชิงถอย ออกก้าวหนึ่งเสียก่อน หัวเราะมองเขา “คุณจะโกรธไม่ได้นะ! คุณติดค้างฉันเอง ตอนนั้นที่ฉันบาดเจ็บจนไม่ค่อยได้สติ ถ้าคุณไม่ตกลงให้ฉันจูบคุณ ฉันจะเอาแรงที่ไหนลุกขึ้น แล้วคุณจะ ได้สมญานามว่าผู้ชนะแห่งนาวิกโยธินได้ยังไง? หนี้ที่ค้างไว้ เมื่อสิบปีก่อนแล้วเพิ่งมาเอาคืนกับคุณ ฉันไม่คิดดอกเบี้ยถือว่า ดีมากแล้ว!”
เหลิงเฟยหัวเราะเบาๆ อยู่ข้างๆ
ไป๋เย่นิ่งเขม่นมองใส่เธอแวบหนึ่งถึงตอบกลับหลันเย่ “คุณเข้าไปเถอะ ผมมีธุระอื่นอีก
“อืม บ๊ายบาย” หลันเยโบกมือส่งเขาขึ้นรถ ก่อนที่ประตู รถจะปิด เธอก็เอ่ยเสริมอีกประโยคอย่างหนักแน่น “ท่าน ประธานาธิบดี ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะเริ่มจีบคุณอย่างจริงจังแล้ว จากนี้ไปขอฝากตัวด้วย!
ไปเย่นิ่งปิดประตูทันที ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่เธอพูด
เหลิงเฟยแอบเช็ดน้ำตาแทนหลันเยู่ที่อยู่ด้านนอก ท่าน ประธานาธิบดีจะใจร้ายเกินไปแล้ว!
“ท่าน คุณหลินเยี่ยังคงมั่นคงต่อท่านจริงๆ สินะ!”
ลิ่งเฟยยังคงเห็นหลันเยจากกระจกหลังเห
ไปเย่งหลับตาพักผ่อนบนรถ ได้ยินคำพูดของเขาแล้วก็ ส่งสายตาไป “ชอบก็เอาไป
ไปเย่นิ่งกลับถึงทำเนียบประธานาธิบดี เซียต้าไปกำลัง อาบน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำสำหรับเด็ก ร้องเพลงไปพลางๆ สนุกใหญ่
เขาเข้าไปยืนมองเซียต้าไปที่ขอบประตูพักใหญ่ เจ้าตัว น้อยดีใจขนาดนี้ ไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนหม่ามีของเขาต้องลำบาก เพราะเขามากแค่ไหน
“พ่อ” เซียตาไปหันหน้ามาก็เห็นเขา เอ่ยเรียกเสียงใส
คนรับใช้ที่อาบน้ำให้เขาอยู่จึงรู้ตัว รีบลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ เขาพูดกับเซี่ยต้าไปเพียงว่า “อาบน้ำเสร็จแล้วออกมา พ่อมี เรื่องจะคุยกับลูก”
ไปเฉิงนั่งอยู่ในห้องหนังสือ มือเปิดเอกสาร โทรศัพท์มือ ถือวางอยู่ข้างๆ ตอนนี้ทุ่มกว่าแล้ว โทรศัพท์มือถือของเขายัง คงไม่มีเสียงเรียกเข้าใดๆ เมื่อครูใช้โทรศัพท์บ้าน โทรเข้าเบอร์ นั้นอีกรอบก็ปิดเครื่องเช่นเดิม
เขาเหลือบมองโทรศัพท์ที่เงียบเชียบแวบหนึ่ง เริ่มหวั่นใจ
“เสี่ยวไป” เซียต้าไปที่อาบน้ำเสร็จเปิดประตูเข้ามาทั้งที่ หัวยังเปียกอยู่
เขาขมวดคิ้ว “ผมเปียกทำไมไม่เป่าให้แห้งก่อน อากาศ หนาวขนาดนี้”
“พ่อมีเรื่องจะคุยกับผมไม่ใช่เหรอ? ถามก่อนค่อยไปเป่า ก็ได้” เขาวิ่งไปยืนข้างๆ เขาเสียงดังถึงปัง สะบัดศีรษะกลมเล็ก อย่างชนจนน้ำกระเด็นใส่ตัวเขาทั้งหมด ไป๋เฉิงจับตัวเขาไว้“ไปให้คนเป่าผมให้แห้งก่อน พ่อจะไปส่งลูกกลับไปหาแม่
ดึกขนาดนี้เธอน่าจะอยู่บ้านแล้ว
“ไปหาหม่าตอนนี้?” เซี่ยต้าไปสายศีรษะ “หม่ามีบอก แล้วว่าช่วงนี้ให้ผมอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไป
“ทำไม?” ไปเย่นิ่งไม่เข้าใจ ลูกสำคัญต่อเธอขนาดไหน เมื่อคืนเขารู้สึกได้แล้ว ทั้งยังรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งเสียด้วย ทำไม เธอถึงยอมทิ้งลูกไว้ที่เขาล่ะ?
“พ่อไม่รู้เหรอ?” เซียต้าไปจ้องเขาเขม็งด้วยดวงตากลมโต ทั้งคู่ “หม่ามีไปสัมมนาไง ไปประเทศ Y แล้ว!
ไปเยฉิงสีหน้าเรียบนิ่ง “ไปตั้งแต่เมื่อไร?
เซี่ยต้าไปสายศีรษะเล็กไปมา “ไม่รู้ แต่ว่าตอนบ่าย โทรมาหาผมนะ ตอนนี้แม่น่าจะนอนอยู่ล่ะมั้ง แม่บอกว่าวันนี้ ต้องนอนเยอะเลย
นี่เธอไปประเทศ Y ทั้งอย่างนี้โดยไม่บอกสักคำ!?
“เบอร์ของเธอล่ะ เอามาให้พ่อ
เซี่ยต้าไปแบมือเป็นเชิงทำอะไรไม่ได้ “เป็นเบอร์โทร สาธารณะ ผมก็ติดต่อแม่ไม่ได้เหมือนกัน!
สีหน้าคนบางคนพลันแย่ลงมากไปกว่าเดิม
เวลาระหว่างประเทศ Y กับประเทศ 5 ห่างกันแปดชั่วโมง ตอนนี้เธอน่าจะเจ็ทแลคอยู่
วันนี้เซี่ยชิงเฉินหลับไม่สนิทเลย วันรุ่งขึ้นขณะที่ท้องฟ้า
ด้านนอกหน้าต่างสว่างแล้วนั้นเธอก็ถูกปลุกด้วยเสียงเคาะ ประตู จัดการตัวเองเพียงครู่ก็รีบวิ่งไปเปิดประตู หนูเจอหนุนยืน
อยู่ด้านนอก
“มีเรื่องอะไรแต่เช้าเหรอคะ?” เซียซิงเฉินหาวหวอดอย่าง เกียจคร้านไปที่ หน้าตายังสะลึมสะลือ บนกายเป็นชุดนอน กระโปรงผ้าไหมสีฟ้าอ่อน แม้จะปิดมิดชิดแต่ท่าทางเกียจคร้าน แบบนั้นหยูเจอหนุนที่มองอยู่กลับรู้สึกว่า…ดูเป็นผู้หญิงที่ เซ็กซี่ และยั่วยวนมาก…
“เฮ้! สติหายไปแล้วเหรอ?” เซียซิงเฉินเห็นว่าเขาไม่ขยับ ตัวจึงโบกมือตรงหน้าเขา
หยูเจ๋อหนันรีบหลุดจากภวังค์ กระแอมเสียงไอเบาๆ เพื่อ ปิดบังความขัดเขินของตัวเอง แสร้งโวยวายเสียงดัง “คุณเป็น ล่ามของผมนะ มีอย่างที่ไหน ผมตื่นแล้วแต่คุณยังนอนอยู่บน เตียง! รีบๆ หน่อย ไปทานอาหารเช้ากับผมชั้นล่าง
เซียซิงเฉินบ่นอุบ คนคนนี้นี่ ทั้งที่พูดได้ตั้งหลายภาษา ทำไมยังต้องให้เธอมาเป็นล่ามด้วย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ