สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 229 การกลับมาของ ประธานาธิบดี (3)



ตอนที่ 229 การกลับมาของ ประธานาธิบดี (3)

เมื่อสังเกตถึงสายตาของเธอ รุ่ยทั้งที่กำลังทานบะหมี่อยู่จึงมอง ตามสายตาเธอไปทางประตู เมื่อเห็นเงาร่างนั้นก็รีบวาง ตะเกียบลงพร้อมลุกยืนตรง หันหลังไปก้มหัว “ท่าน

คราวนี้คนที่เหลือก็วางตะเกียบอย่างพร้อมเพรียงแล้วลุก

ขึ้น หันหลังเอ่ยทักอย่างนอบน้อม “ท่าน

ไปเย่นิ่งหยักศีรษะเบาๆ ถือเป็นการตอบรับ “ทานต่อเลย ไม่ต้องสนใจผม

“วันนี้ห้องครัวเปลี่ยนรสชาติแบบใหม่ รสชาติดีมาก ท่าน ก็รีบลองเถอะ!” รัฐมนตรีเอ่ยเชื้อเชิญอย่างขันแข็ง ถือเป็นการ เอ่ยชมฝีมือของ กุ๊กคนใหม่” ไม่หยุดหย่อน

สายตาไปเย่นิ่งมองไปทาง ทุกคนใหม่ ที่ว่าอย่างเย็นชา แวบหนึ่ง แววตาแฝงความหมายมากมาย เขาหาที่ที่หนึ่งแล้ว นั่งลง จากนั้นก็มีคนจากครัวนำชุดอุปกรณ์ทานอาหารสำหรับ ประธานาธิบดีโดยเฉพาะมาให้ทันที

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกเหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดี อาจจะ เพราะช่วงนี้งานเยอะเกินไป เธอเติมบะหมี่ไว้ถ้วยหนึ่งแถมโปะ ด้วยไข่ทอดที่ทอดกำลังดีไว้ตรงหน้าเขา
“ท่านประธานาธิบดี เชิญค่ะ” น้ำเสียงนอบน้อม ไปเฉิง ไม่ได้มองเธอ หยิบตะเกียบที่ทำจากงาช้างสีขาวใสลิ้มรส

มีคนจากอีกฝั่งเรียกเธอ “แม่ครัว ให้ไข่ทอดผมอีกหนึ่ง ฟองได้ไหม?”

“อ่า ค่ะ จะรีบไปเดี๋ยวนี้” เซียซิงเฉินเอ่ยรับไปที มองคน บางคนไปแวบหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้น…ท่านค่อยๆ ทานนะคะ ฉันไป ห้องครัวก่อน

เธอเอ่ยเสร็จก็หมุนตัวจะเดินไป ไปเฉิงขมวดคิ้วพลางรั้ง แขนเธอไว้ ในยามค่ำคืนเช่นนี้ฝ่ามือเขาอบอุ่น ยังดีที่เขานั่ง ตรงมุมด้านในสุด การที่เขาตั้งแขนไว้จึงไม่มีใครเห็นเข้า

เซี่ยซิงเฉินกลับใจเต้นระส่ำ มองเขาแวบหนึ่งแล้วเหลือบ มองคนข้างๆ เธอขยับแขนไปมาพร้อมขยับริมฝีปาก “รีบปล่อย ค่ะ…ถ้ามีคนเห็นเข้า….

“แม่ครัว” ได้ยินคนเรียกอีกครั้ง เธอคล้ายถูกบางอย่าง ลวก รีบกระชากแขนกลับไป “อะ…อะไรคะ?

เธอถามด้วยเสียงติดขัดแปลกๆ เฮ้อ เป็นอย่างที่เว่ยยัง พูดเลย ความรู้สึกแบบนี้เหมือนแอบเป็นชู้กันจริงๆ

“ยังมีผลไม้อีกไหม? ผมอยากได้ผลไม้อีกที่

“มีค่ะ ฉันจะไปหยิบให้ท่านเอง” เซียซิงเฉินตอบกลับเสียง ใส ไม่มองใครบางคนแม้แต่แวบเดียวแล้วรีบเดินเข้าห้องครัว เหลิ่งเฟยเหลือบมองสีหน้าท่าทางเรียบนิ่งของคนบางคนข้างๆมีแต่เหงื่อไหลพลั่กๆ

สุดท้ายเธอเดินเข้าห้องครัว ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงออกมา ไปๆ มาๆ ท่ามกลางผู้คน เหมือนเธอจะมีความสุขมาก อย่าว่า แต่จะสนใจใครบางคนที่สีหน้าเริ่มแย่ลงทุกทีเลย แม้แต่เวลา มองเขาแวบเดียวก็ยังไม่มี

สุดท้ายเขาวางตะเกียบแล้วลุกขึ้นเดินจากไปทันที

เซี่ยซิงเฉินนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ มองไปทางโต๊ะที่เขานั่งถึงได้รู้ ว่าเขาไม่ได้ทานไปมากมาย คนคนนี้ ไหนว่าอยากทานบะหมี่ ไง? ทำไมเธอทำแล้วเขากลับไม่ทานล่ะ?

ขณะที่เธอกำลังคิด เหลิงเฟยก็ย้อนกลับมาที่ห้องทาน อาหาร สบตากับรุ่ยทั้งที่ยืนอยู่ไกลออกไปแวบหนึ่ง ทำงาน ด้วยกันมาหลายปีทำให้รุ่ยยังเข้าใจในพริบตา เท้าเดินไป กระซิบข้างหูเซียซิงเฉิน “คุณเซีย ท่านประธานาธิบดีให้คุณรีบ ไปหา

ห้องทำงานของประธานาธิบดีมีไฟเปิดสว่างโร่เสมือนช่วง

เที่ยงวัน

เซี่ยซิงเฉินเดินตามเหลิงเฟยที่นำทางอยู่ ไปเย่งกำลังนั่ง พิงโซฟา บนขา ในมือรวมไปถึงโต๊ะเตี้ยตรงหน้าล้วนกองเต็ม ไปด้วยเอกสารต่างๆ เขาก้มหน้าอ่านมันอยู่ ได้ยินเสียงก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา

เหลิงเฟยถอยออกไปเงียบๆ เซียซิงเฉินก้าวเข้าไปข้างใน อีกหลายก้าว ไม่ได้เอ่ยปากรบกวนเขาก่อน ทำเพียงแค่ลอบ มองสถานที่ทำงานของเขาเงียบๆ

ห้องทํางานมีขนาดหลายร้อยตารางเมตร นอกจากโซน พักผ่อน โซนทำงาน ยังมีโซนห้องประชุม บาร์ และตรงบาร์ มีแต่เหล้ายี่ห้อดังๆ

อุปกรณ์เครื่องคิดคำนวณที่ทันสมัยรวมๆ กันมีถึงแปด เครื่อง และตอนนี้กำลังเปิดใช้งานอยู่ เธอเงยหน้ามองผ่านไป แวบหนึ่ง สังเกตเห็นกำแพงรวมไปถึงมุมห้องล้วนเต็มไปด้วย กล้องวงจรปิดและเรดาร์สีแดง สถานที่เข้มงวดเช่นนี้ คุณซึ่ง คุณหนูสองคนนั้นสามารถติดตั้งเครื่องดักฟังได้ก็ถือว่ามีฝีมือ พอสมควร

ท้ายสุดเธอถูกดึงดูดสายตาด้วยตู้ที่เก็บเหรียญทหารผู้ กล้ารวมไปถึงถ้วยรางวัลอีกจำนวนหนึ่ง เซี่ยซิงเฉินค่อยๆ เดิน เข้าไปใกล้ๆ มองดูอย่างสนใจในตู้ที่มีเพียงกระจกกั้น ความจริงแล้ว…

เขามีเหรียญเยอะขนาดนี้เลยเหรอ

นักแม่นปืน

รางวัลชนะเลิศฟันดาบ

เจ้าแห่งการจู่โจม
รางวัลชนะเลิศนาวิกโยธิน

รูปถ่ายมากมาย รูปทุกใบล้วนเป็นเขาที่สวมชุดทหาร ท่าทางหล่อเหลาอย่างหาที่สุดไม่ได้ เซี่ยซิงเฉินมองจนเคลิ้ม จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสำหรับผู้ชายคนนี้แล้ว อย่าว่าแต่โลกของเขาเลย แม้แต่ตัวเขาเองที่จริงเธอก็ไม่เข้าใจทั้งหมด

แม้แต่เขาที่สวมชุดทหาร เธอก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้อย่างเสียอย่าง เข้าใจ มากขึ้น คล้ายว่าไม่ใช่จะเข้าใกล้เขามากกว่าเดิมแต่กลับรู้สึก ว่าตนเองห่างไกลจากเขามากกว่าเดิม…

“ดูอะไร?” เสียงของไปเย่นิ่งดังขึ้น

เซียซิงเฉินหันกลับมา เขานั่งอยู่บนโซฟา เพิ่งจะเงยหน้า ขึ้นมาทั้งสองจึงสบตากัน

“ดูเหรียญพวกนี้ของคุณ” เธอหัวเราะ เก็บอารมณ์ความ รู้สึกเมื่อครู่ “ฉันเพิ่งรู้ว่าที่แท้คุณเก่งขนาดนี้

ไปเย่นิ่งมองเธอ ตอนนี้เธอถอดเสื้อสำหรับกุ๊กเมื่อครู่ออก แล้ว สวมเพียงเสื้อเชิ้ตขาวตัวหนึ่งและกระโปรงยาวคลุมเข่าสี ดำ เท้าเล็กอยู่ในรองเท้าส้นสูงสีดำ เผยให้เรียวขาดูยาวและ สวยงามขึ้นกว่าเดิม การแต่งตัวที่ดูแสนจะธรรมดา แต่…ตอนนี้ ในสายตาเขากลับรู้สึกว่ามันยั่วยวนอย่างบอกไม่ถูก

“เป็นอะไรไปคะ?” เซี่ยซิงเฉินสังเกตว่าสายตาของเขาจดจ่ออยู่บนกายตน ถูกเขามองจนทำตัวไม่ถูก จึงก้มมองตัว เองยกใหญ่ “ตัวฉันมีอะไรผิดปกติเหรอคะ?

ใช่ ผิดปกติ ผิดปกติมาก! ผิดปกติไปทั้งตัว! เพราะฉะนั้น มันเลยทำให้เขาก็รู้สึกแปลกๆ ไปทั้งตัวด้วย

เขากล่าวเสียงทุ้ม “มานั่งนี่

เซียซิงเฉินเดินเข้าไป ข้างกายเขากองเต็มไปด้วยเอกสาร ซึ่งไร้ที่ให้นั่งจริงๆ เธอเตรียมไปนั่งบนโซฟาตรงข้ามโต๊ะเตี้ย แต่เขาโยนเอกสารทิ้ง เอกสารบนหน้าขาก็ถูกเขาละไว้ข้างกาย ยื่นมือดึงตัวเธอนั่งลงบนหน้าตัก

“อ๊ะ” เธอสะดุ้งตกใจ

“จะไปไหน?” เขากดเสียงต่ำลง นิ้วเรียวยาวจับคางเธอไว้ ดึงใบหน้าเล็กของเธอให้ก้มต่ำลง จนสายตาของเธอจ้องมอง ตัวเอง

สองสายตาประสานกัน อีกทั้งยังใกล้ชิดมากขนาดนี้ เธอ เห็นเงาตัวเองจากนัยน์ตาของเขาได้อย่างชัดเจน สายตานั้นลึก ซึ้งจนเธอใจเต้นรัวแปลกๆ “แค่จะไปนั่งตรงข้าม

นิ้วเขายังอยู่ใต้คางเธอ ทำให้เธอรู้สึกร้อนรุ่ม ร้อนจน

คอแห้งผาก

ยกมือขึ้นหวังจะปัดมือเขาออก กลับถูกเขาดึงแขนไว้แล้ว

อ้อมไปด้านหลัง นิ้วมือสอดประสานจนเธอรู้สึกร้อนนิ้วมือไปหมด
“คืนนี้คุณทำอะไร?” น้ำเสียงชายหนุ่มในยามค่ำคืนช่างมี

เสน่ห์

“ลงครัวต้มบะหมี่ คุณอยากกินไม่ใช่เหรอ?” เซียซึ่งเป็น กว่าคําถามของเขาช่างแปลกประหลาด “แต่ฉันเห็นว่าคุณ เหมือนจะกินไม่เยอะ บะหมีวันนี้ไม่อร่อยเหรอคะ?”

“คุณคิดว่าผมให้คุณมาที่นี่เพื่อต้มบะหมี่ให้ผมจริงๆ เหรอ?” ไปเยจึงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ