ตอนที่ 208 ช่วงลองรัก (4)
เชียซิงเฉินยืนพิงกำแพง มือก่ายหน้าผาก เงียบสักพักจึงเอ่ย ปาก “ตอนนี้ฉันอยู่โรงพยาบาล…
“โรงพยาบาล?” น้ำเสียงของไปเฉิงที่อยู่อีกฝั่งเข้มขึ้น
เล็กน้อย เกิดอะไรขึ้น?
“คือฉัน…”
เสียง ติดๆ ดังขึ้น โทรศัพท์มือถือแบตหมดทันทีพร้อม ปิดเครื่อง คำพูดของเซี่ยซิงเฉินจึงถูกขัดลงเพียงเท่านี้ น่า หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เพราะเร่งรีบออกมาจึงไม่ได้พกสายชาร์ ตมาด้วย
ไว้รอออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้ค่อยโทรหาเขาแล้วกัน เมื่อคิดเช่นนี้จึงเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋า มองมารดาที่ยัง คงนอนหลับอยู่แวบหนึ่ง ก่อนเธอจะเอ่ยกับพยาบาลไปถึงได้ ลงไปซื้ออาหารมื้อค่ำชั้นล่าง เมื่อตอนกลางวันยังไม่ได้ทาน อะไร จนถึงตอนกลางคืนก็ยังไม่อยากอาหารเลยสักนิด
เชี่ยชิงเฉินกังวลอาการของมารดา เธอขยาดเมืองหลวง ขนาดนั้นจะยอมกลับไปพร้อมเธอหรือเปล่า? เธอไม่แน่ใจเลย เธอถอนหายใจ แล้วซื้อโจ๊กกลับไปยังห้องพักผู้ป่วย ตอนนี้เงินหมิ่นฟื้นแล้ว สีหน้าขาวซีด ยังดูอ่อนแออยู่มากในจมูกมีสายให้ออกซิเจนเสียบอยู่ ท่าทางเจ็บปวดเหลือเกิน
เซียซิงเฉินสอดหมอนไว้ใต้ศีรษะเธอเพื่อให้เธอลุกขึ้นนั่ง ได้เล็กน้อย รอเธอปรับท่านั่งให้สบายแล้วถึงใช้ช้อนตักโจ๊ก ป้อนเธอ เงินหมุนทานไปสองคำ เพราะอาการปวดที่หัวใจจึง ใช้มือจับอกไว้ เชียซิงเฉินมองดูท่าทางของเธอเช่นนี้แล้วรู้สึก เจ็บปวดที่หัวใจเป็นอย่างมาก ครั้งนี้โรคของมารดากำเริบขณะ ที่ตนอยู่ หากเธอไม่อยู่ มารดานอนพักอยู่บนเตียงผู้ป่วย เพียงลำพัง จะน่าสงสารมากแค่ไหน? และถ้าช่วงเวลาที่โรค กำเริบไม่มีคนสังเกตเห็น คงอันตรายยิ่งกว่านี้
เธอรู้สึกว่าตนอกตัญญูมากที่ไม่ทำหน้าที่ลูกมาหลายปี
“ลูกอย่ากังวลไป โรคเดิมของแม่ ซินแล้วล่ะ” เงินหมิ่น ว่าเธอไม่สบายใจ เอ่ยปลอบเธอเสียงแผ่วเบา “ให้หมอจ่ายยา หน่อยก็พอ ทุกครั้งกินแล้วก็ไม่มีปัญหา
เซียซิงเฉินเงียบไปชั่วครู่ วางโจ๊กไว้ข้างๆ พูดกับเงินหมิ่น ด้วยท่าที่จริงจัง “แม่ แม่กลับไปพร้อมเราเถอะ วันนี้คุณหมอบ อกลูกแล้วว่าตอนนี้แม่ต้องผ่าตัดเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ เมื่อ ลูกหาโรงพยาบาล ในเมืองหลวงแล้ว มีหลายที่ที่มีชื่อเสียงใน ด้านการผ่าตัดแบบนี้
เงินหมิ่นไม่ตอบ เซี่ยซิงเฉินดวงตาแดงก่ำ จ้องมองเธอ อย่างดื้อรั้น “ถ้าแม่ไม่ไป ลูกก็จะอยู่ที่นี่กับแม่
“พูดอะไร ลูกมีชีวิตของตัวเอง ในเมืองหลวง จะอยู่ที่นี่กับ แม่ได้ยังไง” เสินหมิ่นไม่ยอมรับ
“ลูกตัดสินใจแล้ว” เซียซิงเฉินถือโจ๊กป้อนเธออีกครั้ง “ถ้า แม่ไม่ไป ลูกก็จะอยู่ดูแลแม่ที่นี่ อย่างมากก็ให้เซียต้าไปกลับไป กับพ่อเขา
เงินหมิ่นรู้ว่าเธอกำลังกระตุ้นตัวเอง เชียซิงเฉินถอน หายใจ กล่าวอีกว่า “แม่ ถ้าแม่ไม่ชอบเมืองหลวง รอให้แม่ ผ่าตัดเสร็จ แข็งแรงแล้วลูกจะพาแม่กลับมาทันที แบบนี้คงไม่มี ปัญหาแล้วใช่ไหม?
กลางคืนเงินหมื่นนอนอยู่บนเตียงใหญ่ เซี่ยซิงเฉินนอน อยู่เตียงผู้ป่วยเตียงเล็กข้างๆ แสงจันทร์สาดส่องเข้าในห้องพัก คับแคบผ่านหน้าต่าง เธอมองมารดาแวบหนึ่งแล้วค่อยนอนลง อีกครั้ง
ไม่รู้ว่าตอนนี้เซี่ยต้าไปที่อยู่บ้านคุณน้าหลี่จะนอนหรือยัง หวังว่าเขาจะไม่ซื้อไม่ชน
จากนั้นเธอพลันนึกถึงไปเฉิง เขายุ่งขนาดนี้กลัวว่าตอนนี้ คงยังไม่ได้นอน สายเมื่อครู่จู่ๆ ก็ตัดไป ไม่รู้ว่าเขาจะคิดมาก หรือเปล่า
เธอคิด พลางล้วง โทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าขึ้นมา ลอง กดเปิดเครื่อง แต่ว่าไม่เหลือแบตแม้แต่นิดเดียว เธอจึงยอมแพ้ ไม่พยายามอีก หลับตาแล้วนอนหลับไป
ไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไร เธอรู้สึกว่าตนฝันไป ในฝันนั้นจู่ๆ ไปเปถึงก็ปรากฏตัว เธอกำลังพูดคุยกับเขาเสียงเบาไม่ หยุด
ความฝันนี้ดีไม่หยอก แต่ว่าฝันก็คือฝัน เขาจะอยู่ตรงนี้ได้ อย่างไร? เชี่ยชิงเฉินพลิกตัวกำลังจะนอนอีกครั้ง ในตอนนั้นเอง
พลันเกิดเสียงตรงบานประตู ประตูห้องพักผู้ป่วยค่อยๆ ถูกเปิด
จากด้านนอกช้าๆ เสียงเบามากแต่เซี่ยซิงเฉินก็ตื่นอยู่ดี
เธอคิดว่าพยาบาลมาตรวจห้องพัก จึงฝืนลุกนั่งบนเตียง เล็ก หรี่ตามองไปทางประตู แสงข้างนอกประตูเล็ดลอดเข้ามา เพราะบานประตูถูกเปิดออก ค่อยๆ ทำให้เห็นเรือนร่างสูงใหญ่ ที่เดินเข้ามาในห้องพักชัดขึ้น สามารถเห็นใบหน้าแสนสมบูรณ์ แบบของชายหนุ่มที่เผยขึ้น ใต้แสงสว่างอันเลือนราง
เซียซิงเฉินชะงักงัน นั่งนิ่งอยู่บนเตียงไม่ขยับ รู้สึกว่าตน ฝันไป
ชายหนุ่มเท้าเข้ามามองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินไป
ยืนดูอาการของเงินหมิ่นข้างเตียง
เซี่ยซิงเฉินพลันได้สติกลับมา นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่…เขา อยู่ตรงนี้จริงๆ ได้อย่างไรกัน?
เธอรีบสวมรองเท้าลุกจากเตียง เดินไปหาเขา เขาอาศัย แสงสลัวดูใบรายงานอาการของเงินหมิ่นที่แขวนอยู่บนหัวเตียง ไม่ได้หันกลับมา แต่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านหลัง จึงยื่นมือไปหาเธอ
ใจอุ่นขึ้นทันใด เธอซุกมือเข้าที่ฝ่ามือใหญ่ของเขาแทบจะ ทันที ฝ่ามือชายหนุ่มทั้งอุ่นทั้งหนา มือของเธอเพิ่งจะสัมผัส เขา ก็จับมือเธอไว้แน่น กอบกุมไว้จนมิด เป็นความรู้สึกที่พึ่งพาได้ จริงๆ!
“คุณมาได้ยังไง?” เซี่ยซิงเฉินเอ่ยถามเสียงเบา ความรู้สึก ในใจพรั่งพรูเป็นเกลียวคลื่นจนไม่อาจสงบลงได้
ไปเฉิงย่อมไม่บอกว่าสายของเธอที่ตัดไปถูกเวลาพอดี บอกเพียงว่าเธออยู่โรงพยาบาล เขาก็ไปถึงบ้านของเงินหมิ่น ปลุกเรียกเพื่อนบ้านมาถามถึงได้มาหาถึงโรงพยาบาลนี้ได้
เขาหันกลับมาถามเธอ “เกิดอะไรขึ้น?
“โรคเดิมของคุณแม่ฉันน่ะค่ะ…” เซียซิงเฉินถอนหายใจ “คุณหมอบอกว่าให้ย้ายไปผ่าตัดเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจที่โรง พยาบาล ในเมืองหลวง โรงพยาบาลในเมืองเหลียงนี่ทำไม่ได้
ไปเย่นิ่งพยักหน้าว่ารับรู้ “ผมจะให้เงินจัดการเอง
เซี่ยซิงเฉินมองเขาแล้วส่ายหัว “ฉันไม่อยากรบกวนคุณ เรื่องคุณพ่อของฉันคราวก่อนก็รบกวนคุณแล้ว เรื่องครั้งนี้ถือว่า ยังไม่แย่มาก ฉันหาโรงพยาบาลไว้หลายที่แล้ว ส่งคุณแม่ไป คงไม่มีปัญหาอะไร
เธอรู้ว่าเขายุ่งมาก เธอไม่ยอมให้เขากังวลใจเพราะเธอ อีก เรื่องของเขาเธอไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ฉะนั้นแล้ว สิ่งเดียวที่เธอทำได้มีเพียงจัดการเรื่องตัวเองให้ดี อย่าไป เพิ่มปัญหาให้เขา
แต่คำพูดนั้นทำให้ไปเย่นิ่งไม่พอใจ “ต้องแบ่งแยกชัดเจน กับผมขนาดนั้นเชียว
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ “ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผมจัดการ คุณแค่รับผิดชอบโน้มน้าวให้
คุณน้าเงินกลับเมืองหลวงก็พอ
ไปเย่นิ่งเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด เขาต้องเป็นคนตัดสินใจ ทุกอย่าง ไม่มีช่องว่างให้ปฏิเสธ ถึงจะเอาแต่ใจ แต่กลับเพียง พอที่จะทำให้หญิงสาวคนหนึ่งรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจ เหมือน ว่าแค่มีเขาอยู่ ทุกเรื่องก็จะจบลงด้วยดี มีเขาอยู่ ต่อให้ฟ้าพัง ทลายลงมา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ย่ำแย่เท่าไร
เซี่ยซิงเฉินไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา นั่นไม่มีเหตุผล จึงยอมให้เขาจัดการอย่างว่าง่าย
ทั้งสองเกรงว่าเสียงคุยจะทำให้มารดาตื่น เชียซิงเฉินถึง เขาออกไปข้างนอก ก่อนจะออกจากห้องพักผู้ป่วย เธอก็เจอผ้า ปิดปาก ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวตัวยาวของเขา เธอเขย่งปลาย เท้าขึ้นเพื่อสวมให้เขา แสงสว่างจากด้านนอกลอดผ่านช่อง หน้าต่างเล็กๆ เข้ามา เธอเห็นความเหนื่อยล้าขนาดหนักบน ใบหน้าของเขา ดวงตาปรากฏเส้นเลือดฝอยขึ้นอยู่เต็ม
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ