ตอนที่ 196 บุคคลสำคัญปรากฏตัวใน บ้าน (2)
ตอนนี้เหล่าเพื่อนบ้านล้วนกำลังยืนมองดู เห็นเขาคงลงจากรถ ไม่ได้ หากใครเห็นเข้าว่าตอนนี้คนที่กำลังนั่งอยู่ข้างในรถคือ ท่านประธานาธิบดีที่เมื่อวานพวกเขาได้ดูฉากเด็ดในโทรทัศน์ ล่ะก็ สถานการณ์ต้องวุ่นวายจนเกินบรรยายแน่ๆ
“พวกคุณมาได้ยังไง?” เซียซิงเฉินถอนสายตาออ กามเห
ลิ่งเฟย
“มาสักพักแล้ว เปิดประตูให้รถของท่าน…ของคุณท่าน เข้าไปก่อนได้ไหม?” เหลิงเฟยเปลี่ยนระหว่างนั้น มองเงิน หมิ่นข้างๆ แวบหนึ่งอย่างรอบคอบ เงินหมิ่นไม่ได้มีสีหน้าใดๆ เพียงแค่สังเกตพวกเขาอยู่เงียบๆ เธอเป็นคนมีประสบการณ์ และพบเจอมาเยอะ เห็นชุดการแต่งกายของเหลิงเฟยและการ ปรากฏตัวอย่างโอ่อ่านี้ มากน้อยก็พอเดาได้ว่าคนที่มาไม่ใช่ บุคคลธรรมดา
แต่ก็ถือว่าไม่ได้มีความประทับใจเท่าไรนัก อย่างไรเสียก็ เป็นคนแต่งงานแล้ว ยังมาตามตอแยถึงที่นี่ เพื่ออะไรกัน?
เซี่ยซิงเฉินพยักศีรษะน้อยๆ ให้เหลิงเฟย ส่งลูกให้มารดา
หยิบกุญแจเปิดประตู
เงินหมิ่นอุ้มเซียต้าไปเข้าไปก่อน เหมือนป้องกันถูกแย่งเด็กน้อยไป เธอระแวงใจจนตั้งใจล็อกประตูห้องนอนจากด้าน
นอก
เซี่ยซิงเฉินเปิดประตูใหญ่ออก รถคันที่เขานั่งขับเข้าไป ข้างในลานบ้านทันที
จากนั้นรถหลายคันที่เหลืออยู่ล้วนกลับรถจากไปตามค่า สั่งของเหลิงเฟย แสงสว่างจ้าส่องทั้งตรอกซอยให้สว่างโร่ ไม่ นานแสงไฟก็หายไป ขบวนรถหายไปภายใต้แววตาสงสัยของ เหล่าเพื่อนบ้าน
เซียซิงเฉินมองอย่างฉงน
ทุกคนล้วนไปแล้ว เหลือเพียงเขาและเหลิงเฟยอยู่ นี่มัน อะไรกัน? ถ้าเขามาเพราะลูก ตามนิสัยเอาแต่ใจของเขาแล้ว ควรพาเซียต้าไปไปทันทีเลยไม่ใช่เหรอ?
ในหัวเซียซิงเฉินเต็มไปด้วยคำถาม ขณะที่คิดไม่ตก เห ลิ่งเฟยก็เปิดประตูรถ แล้วเงาร่างสูงใหญ่ของเขาก็เดินลงมา พร้อมแสงไฟหม่นเหลืองจากดวงไฟในลานบ้านที่ส่องพาดไหล่ เขาที่ปรากฏตัวตรงหน้าเธอ
เมื่อมองใบหน้านั่นชัดเจนแล้ว เงินหมิ่นชะงักงันคล้ายไม่ อยากจะเชื่อ พลันเข้าใจทันทีว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ดีที่เขาหัน หลังให้ประตู เหล่าเพื่อนบ้านกำลังยื่นหัวสอดส่อง แต่ก็เห็นแค่ แผ่นหลัง
เธอรีบเดินไปปิดประตูเหล็กที่หน้าประตู เหล่าเพื่อนบ้าน ยังคงมุงดูอยู่ “พี่เสิน เขามาหาซิงเฉินเหรอ?”
“อืม”
“เป็นพ่อของเด็กใช่ไหม? หน้าตาเป็นยังไงเหรอ? เจ้าหนู ต้าไม้ฉลาดจะตาย พันธุกรรมมันดี พ่อของเขาก็ต้องหล่อมาก แน่ๆ สินะ?”
“อืม ก็ดีนะ” เสินหมิ่นเอ่ยลวกๆ กล่าว “นี่ก็เริ่มมืดแล้ว พวกเธอรอดูละครกันไม่ใช่เหรอ? รีบกลับไปเถอะ
“ก็ได้ บ้านพวกเธอมีแขกมา พวกเราก็ไม่รบกวนแล้ว พรุ่ง นี้ค่อยมาหาใหม่” เหล่าเพื่อนบ้านก็รู้ถึงความไม่สะดวกจึงรีบ เดินจากไป
เงินหมิ่นปิดประตูเหล็ก ปิดการเห็นของทุกคนไป จากนั้น ก็หันมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางลานบ้านแวบหนึ่ง แม้จะเป็น เพียงแผ่นหลังแต่ก็แผ่รัศมีน่าเกรงขามเต็มที่ บุคลิกเช่นนั้นกับ สถานที่แบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เข้ากันเลย
เธอถอนหายใจ ในใจอดรู้สึกกังวลไม่ได้ ซึ่งเฉินมีลูกกับ ประธานาธิบดีได้อย่างไร? หากต้าไปเป็นลูกของประธานาธิบดี จริงๆ เธอจะใช้อะไรไปแย่งกับเขา
เซี่ยซิงเฉินกับไป๋เย่นิ่งทั้งสองยืนประจันหน้าอยู่ตรงนั้น เงา ซ้อนทับกันอยู่ใต้แสงไฟจนมันขยายยาว เขาไม่ได้เอ่ยปาก เธอ ก็เงียบ มือทั้งคู่ที่วางข้างลำตัวกำแน่น ความจริงเพียงแค่รู้สึก ว่าไม่มีอะไรจะพูดเฉยๆ เท่านั้น
เขาเป็นของผู้หญิงอื่นแล้ว….
พอได้พบเขา ความเจ็บปวดในหัวใจกลับเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้จางหายไปแม้แต่นิด
ข้างนอกหนาว พวกเธอไปคุยที่ห้องโถงเถอะ ฉันจะไปชง
ชาให้” เงินหมิ่นเอ่ยแทรก ยืนอยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่ทางที่ดี ไปเย่นิ่งมองเซียซิงเฉินนิ่งๆ แวบหนึ่ง ไม่ได้ขยับ เพียงแค่ เอ่ยสั่งเหลิงเฟย “ยกของบนรถลงมาให้คุณหญิง
“ครับ”
เหลิ่งเฟยตอบรับเสียงหนึ่ง คนขับรถกำลังยกของแล้ว เงินหมิ่นมองปุ๊บก็เห็นถุงเล็กๆ ใหญ่ๆ นับสิบถุง มารยาทของ เขาถือว่าดีมาก
“นี่คุณทำอะไรคะ?” เซี่ยซิงเฉินไม่เข้าใจความหมายของ
เขา
“เป็นของฝากสําหรับคุณยายของลูกที่เจอกันครั้งแรก” ระหว่างที่เอ่ยก็เบนสายตามองเงินหมิ่น ก้มศีรษะเล็กน้อยอย่าง สง่าและมีมารยาท ถือเป็นการทักทาย ท่าทีนั่นเมื่อเทียบกับต่อ หน้าเซียซิงเฉินกลับดูสนิทสนมมากกว่า
ความทรงจําของเงินหมิ่นที่มีต่อประธานาธิบดีอายุยัง น้อยคนนี้ ล้วนถูกจำกัดอยู่ในโทรทัศน์มาโดยตลอด เมื่อก่อน รู้สึกว่าห่างไกลเหลือเกิน ในเมื่อเป็นถึงผู้นำของประเทศ ไม่ใช่ ใครอยากจะพบก็พบได้ ตอนนี้ยืนอยู่หน้าตนถึงรู้สึกเป็นจริงขึ้น มา ดูซื่อสัตย์เที่ยงธรรม ไม่ใช่คนที่น่ารังเกียจแบบนั้น
เสียดาย ผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ซึ่งเป็นของเธอถอยห่างได้ มากเท่าไรก็ต้องมากเท่านั้น
“ของพวกนี้คุณเอากลับไปเถอะ แม่ของฉันไม่ได้ใช้ เซี่ย ซิงเฉินรู้สึกว่าเป้าหมายของไปเปถึงมีเพียงลูก อารมณ์เธอค่อน ข้างอ่อนไหว ไม่ได้มองของพวกนั้นสักนิดก็กล่าวต่อ “แล้วก็ปั่น ปักผมหยกที่คุณให้แม่ของฉัน แม่ของฉันก็ไม่ได้ใช้ คุณมาพอดี ฉันจะไปเอามาให้ วันนี้คุณก็เอากลับไปเถอะค่ะ”
ท่าทีของเธอเย็นชาได้มากเท่าไรก็เย็นชาได้มากเท่านั้น กระทั่งมีท่าทีไล่แขกอย่างชัดเจน สีหน้าไปเยถึงมึนตึง
เหลิงเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ เหงื่อซึม
ท่านประธานาธิบดีขับรถขึ้นทางด่วนแต่เช้า ใช้เวลาไปตั้ง 7 ชั่วโมง มาถึงที่นี่ตอนบ่ายสองแล้วก็ปิดม่านรออยู่บนรถจน พวกเขากลับมา เวลานานขนาดนั้นจนคนนั่งเมื่อยไปหมดแล้ว อย่าว่าแต่น้ำสักอีก แม้แต่อากาศยังไม่ได้ออกสูดเลย ตอนนี้ เขายังไม่ทันยืนมั่นคงกลับถูกเอ่ยปากไล่กลับเสียนี่ ประสบการณ์เช่นนี้เคยมีเมื่อใดกัน?
แน่นอนว่าคนที่กล้าไล่ท่านประธานาธิบดี คงมีเพียงคุณ เซียคนเดียวล่ะมั้ง! ผู้หญิงคนอื่นเมื่อเห็นท่านประธานาธิบดี ไม่ใช่ว่ามีแต่จะกระโจนเข้าหาเหรอ?
เซี่ยซิงเฉินไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ กล่าวจบก็หมุนตัวเดิน เข้าห้องนอน ไปเย่นิ่งคร้านจะขวางเธอ ทำเพียงหันไปมองเงิน หมิ่นนิ่งๆ เอ่ยถามอย่างมีมารยาท “คุณหญิง ขอไปคุยกับท่านที่ห้องโถงหน่อยได้ไหม?
เงินหมิ่นคาดไม่ถึงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขามีอะไรที่ต้องคุยกับ ตน แต่ถึงอย่างนั้นก็พยักหน้า “ได้แน่นอนค่ะ
ในห้องโถงเสินหมิ่นนั่งลงก่อนจะกล่าว “ท่าน ประธานาธิบดี เชิญนั่งตามสบายเถอะ” ใบหน้าไร้สีหน้าใดๆ ไม่ได้เป็นมิตร กลับเย็นชาอยู่บ้างอย่างเห็นได้ชัด
ไปเย่นิ่งรู้สึกได้ ทำแค่นั่งลงตามคำกล่าว เอ่ยเสียงเรียบ
“ท่านเรียกผมว่าเฉิงก็พอ”
เงินหมิ่นกวาดมองเขาไปที เอ่ยปากอย่างไม่รีบร้อน ไม่ ทราบว่าคุณมาครั้งนี้เพราะซิงเฉินหรือลูกคะ”
“ทั้งสองครับ” ไปเย่นิ่งไม่ปิดบัง “ครั้งนี้ผมมาเพื่อพาพวก
เขากลับเมืองหลวงจริงๆ”
“เรื่องของลูกเป็นเรื่องระหว่างพวกคุณสองคน ให้พวกคุณ ตกลงกันเอง ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยว แต่สำหรับซิงเฉิน” เป็นหมื่น เอ่ยถึงตรงนี้ก็ชะงักงัน ใบหน้าที่เรียบนิ่งอยู่เสมอฉายแวว จริงจังขึ้นเล็กน้อย “ฝังชิงเฉิน คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ฉันเตือนเธอไปหลายรอบแล้ว ต้องรักษาระยะห่างอย่าง รอบคอบกับผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ในเมื่อคุณมีภรรยาแล้ว และ เป็นท่านประธานาธิบดีที่พวกเราประชาชนเลือกมา ก็ยิ่งต้องรู้ ขอบเขตรู้หน้าที่รู้จักประมาณตน ไม่ใช่ออกมาเจอผู้หญิงคนอื่น ในวันที่สองหลังจากแต่งงาน ไม่ให้เกียรติภรรยาที่เพิ่งแต่งงานไปของคุณ แถมยังทำให้ประชาชนที่เชื่อมั่นในตัวคุณผิดหวังด้วยนะคะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ